@^0^@ เรื่องรักวันรับน้อง ตอนที่ 8 เล่นตัว ใจแข็งเข้าไว้ บอกช้าไปหรือเปล่า@^0^@
มือหนักๆที่ฟาดลงบนไหล่ทำให้ร่างสูงที่ยืนชะเง้อมองผ่านช่องกระจกแคบๆที่ประตูห้องเรียนรวมของคณะฯ หันขวับ ท่าทางเอาเรื่อง ทว่าเจ้าของฝ่ามือหนักๆไม่สนใจท่าทีแยกเขี้ยวของเพื่อน
"ไง เอ็งเป็นหนุ่มน้อยเพิ่งริรักตั้งแต่เมื่อไหร่" เสียงล้อเลียนของเพื่อนทำให้ใบหน้าคม มีสีแดงระเรื่อ นั่นดิ! เขาเป็นอย่างเพื่อนว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
" เฮ้ย! ถามแค่นี้ หน้าแดงเลยเหรอวะ เอ็งมาด้อมๆมองอะไรแถวนี้ หรือว่าไม่เห็นหน้าสาวเจ้าขอแค่เห็นหน้าห้องเรียนก็พอ "
" เออ! " วินทร์จนปัญญาที่จะแก้ตัว ตอบรับเพื่อนเสียงกระแทก
" ยิ้มอะไรวะ" วินทร์ถามเมื่อเห็นรอยยิ้มแฝงเลศนัยของพล รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ
" ข้าจะทวงบุญคุณ" พลแบมือยื่นมาข้างหน้า รอยยิ้มยังเปื้อนอยู่ในหน้า หากอีกฝ่ายมองเพื่อนด้วยอาการงุนงง คิ้วเข้มยกสูง
"บุญคุณอะไร เอ็งทำบุญคุณให้ข้าตั้งแต่เมื่อไหร่"
" ข้านี่แหละเว้ย ส่งยัยแป้งไปสังเวยเอ็ง" อาการงุนงงของเพื่อนยังไม่จางหาย ทำให้พลจ้องขยายความ
"ข้านี่แหละวะ บอกยัยแป้งเอาข้าวขึ้นไปให้แก แล้วเป็นไงฝีมือข้า "
" เออ! ข้าวราดแกงจาน"
" เฮ้ย! ไม่ลงทุนเลยเหรอวะ เอาเป็นว่า เอ็งแค่ดึงยัยแป้งไปไหนมาไหนกะเอ็งสองต่อสองก็พอ "
คำตอบที่ได้ทำให้วินทร์หันมองหน้าเพื่อนยังไม่ทันได้ซักถามอะไร เสียงประตูห้องก็เปิดทำให้สองหนุ่มรีบหันไปยืนดูบอร์ดที่ข้างผนังด้วยความ
สนอกสนใจอย่างไม่ได้นัดหมาย เมื่อนักศึกษาเดินออกจากห้องจนหมด
วินทร์จึงกวาดสายตาไปตามกลุ่มนักศึกษาเหล่านั้นแล้วสายตาก็ปะทะเข้ากะร่างบางที่เซไปติดผนังเนื่องจากโดนเพื่อนสาวแกล้งกระแทก
"แป้ง"
"อ้อ"
เสียงเรียกชื่อที่ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงทำให้วินทร์หันไปมองเพื่อนที่ยืนข้างๆ อาการยิ้มๆอย่างรู้เท่าทันของวินทร์ทำให้พลหันมาตวาดเพื่อนแก้เก้อ
" มองไรวะ"
อาการเดินจากไปอย่างรีบร้อนของพลทำให้วินทร์ต้องอมยิ้ม ข้อสงสัยในใจที่ยังไม่ได้แม้แต่เอ่ยถาม ดูจะได้คำตอบเสียแล้ว หนอย!ไอ้พลเอ้ย! หนุ่มน้อยริรักเหมือนกันแหละวะ
"พี่วินทร์มาทำอะไรแถวนี้คะ " แป้งหันไปถามไม่กล้าสบตาร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ใช่คนที่ยืนข้างๆนี่หรอกหรือที่เป็นต้นเหตุให้หัวใจของหล่อนเต้นรัวเร็ว ดังเสียจนกลัวใครๆก็ตามที่ยืนอยู่ข้างๆจะได้ยิน
โดยเฉพาะคนที่ยืนใกล้ๆเวลานี้
"คือ....พี่ยืนอ่านอะไรบนบอร์ดเพลินน่ะ เลยยืนนานไปหน่อย แป้งเรียนห้องนี้เหรอ"
ดวงตาคนถามที่แลตรงมามีร่องรอยความหวานปรากฏ อีกครั้งที่ทำให้แป้งต้องหลุบสายตาลง ไม่กล้าเงยสบ ว้า! เป็นไงนะหมู่นี้ จะทำอะไรก็ทำไม่ค่อยถูก มือไม้แขนขาดูเก้งก้าง เกะกะไปเสียหมด จะพูดอะไรก็พูดไม่ออก สมองก็ดูจะทำงานช้าลง สิ่งหนึ่งที่แป้งไม่ได้ฉุกคิดหรืออาจแกล้งละเลยไม่เก็บมาสนใจ คือเจ้าอาการที่ว่ามาทั้งหมด มันเกิดขึ้นเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้า
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาคมคาย เจ้าของคิ้วเข้มและดวงตาระยับพราว
"พี่วิ๊น พี่ยืนอ่านบอร์ดเนี่ยนะเพลิน เลยอ่านนาน " อ้อเรียกวินทร์เสียงสูง
มีรอยยิ้มสนเท่ห์ปรากฏ นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังบอร์ดที่สองหนุ่มเพิ่งผละจากมา
วินทร์ แป้ง และพล หันไปมองตาม ข้อความที่ปรากฏบนบอร์ดมีผลให้พลต้องอ้าปากหัวเราะเสียงดัง แป้งต้องก้มหน้าอมยิ้มกลั้นเสียงหัวเราะ
แต่ความรู้สึกของใครคงจะไม่เท่าวินทร์ที่หันกลับมาหาอ้อด้วยสีหน้า ท่าทางยากจะบรรยาย เพราะข้อความบนบอร์ดนั้นมีเพียง 5 บรรทัด ประกอบไปด้วย หัวข้อสัมมนา ของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 เวลาและสถานที่เท่านั้น วินทร์หันกลับไปมองบอร์ดอีกครั้ง กวาดตามองอย่างจะหาข้อแก้ตัว หวังเจอเพียงกระดาษอะไรก็ได้สัก 2- 3 แผ่น แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะไม่ว่ายังไงบนบอร์ดก็ยังมีเพียง 5 บรรทัดเท่านั้น เสียงหัวเราะดังๆของคนข้างๆ ทำให้อ้อหันไปมอง แล้วริมฝีปากบางได้รูปก็ขยับ
อ้อ! รู้ล่ะค่ะ พี่วินทร์ติดเชื้อโกหกมานี่เอง พลเบรกเสียงหัวเราะลงทันควัน หันไปมองเจ้าของเสียงเมื่อครู่
อ้าว! อาหมวย เสียงเรียก 'อาหมวย` มีผลให้ดวงตากลมโตที่ดูยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอาหมวยไปได้ ตวัดมองค้อน แล้วบอกย้ำ ช้า ชัด
ฉัน ไม่ มี เชื้อ จีน ย่ะ
ก็ไม่รู้ เห็นเจอทีไร เรียก เฮีย ทุกที น่าหยวนๆอย่างอนเลย ดีเท่าไหร่ไม่เรียกซิ้ม
ท้ายประโยคเบาเสียจนไม่น่าจะได้ยิน หากอ้อก็หูดีนัก หันมาถลึงตามองอย่างเอาเรื่อง คิดจะเอ่ยปากแต่ก็ยั้งไว้ คนปากอย่างนายนี่ พูดไปก็เท่านั้น กวนก็ที่หนึ่ง หลีก็ไม่เป็นรองใคร เหลือบสายตามองเพื่อน เอาวะ! เล่นบทแม่สื่อที่แสนดีหน่อย
แป้ง บ่ายๆเจอกันที่ชมรมนะ ไปล่ะ ไปนะคะพี่วินทร์
อ้อหันมายักคิ้วให้วินทร์เหมือนจะบอก เปิดโอกาสให้แล้วนะ ที่เหลืออยู่ที่ฝีมือพี่ล่ะ
เดี๋ยวไปด้วยพลบอกอย่างร้อนรน
เลยไปกันหมดเลย แป้งพึมพำ ตามองท่าทางพลที่วิ่งตามอ้อ เสียงยั่วเย้ายังดังแว่วๆ
เดินเร็วจัง โกรธไรเหรอ อย่างอนเลย
ไม่ได้งอน อ้อตอบแต่ยังรักษาความเร็วของการก้าวเร็วเท่าเดิม
ก็ดีเพราะขี้เกียจง้อ
ไม่ได้สั่งให้ง้อนี่
อ้อไม่ได้สั่ง แต่ใจพี่มันสั่งนี่นา
โอ้ย! เจ็บ ทุบทำไม เฮ้อ! พูดจริงก็เจ็บ พูดโกหกก็เจ็บ
คร้าบ คร้าบ ไม่พูดแล้วครับ
เสียงหัวเราะคิกคักๆ ทำให้วินทร์ก้มลงมอง เจ้าของใบหน้าสวยรูปไข่ จมูกสวยรับกับใบหน้า ริมฝีปากบางได้รูป ซึ่งบัดนี้ถูกเม้มแน่นเพื่อกลั้นเสียงหัวเราะ หัวใจวินทร์ซาบซึ้งกับภาพตรงหน้า ดวงตาที่แลทอดลงมาจึงมีแววหวานละมุน
พี่วินทร์ มีอะไรจะคุยกะแป้งไหมคะ หรือจะอยู่อ่านบอร์ดนี่ต่อ เสียงใสมีแววล้อเลียน ไม่เพียงแต่เท่านั้น เจ้าของเสียงยังเอียงคอยั่วยิ้ม
วันนี้พี่ซ้อมรักบี้ จะชวนแป้งไปดู เสียงห้าวชักชวน แล้วทำหน้าเคร่งขรึมกลบเกลื่อนอาการเขิน
ก็ไหนว่าให้ไปดูวันแข่ง เสียงใสแย้ง
วันแข่งไปดูก็ดีใจ ยิ่งวันซ้อมไปดูด้วยยิ่งดีใจมากๆ มีกำลังใจเยอะๆไง
ทีเมื่อก่อนยังซ้อมได้
นั่นมันเมื่อก่อน ก็ตอนนี้กะเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกัน แป้งอยากจะแย้งนักไม่เหมือนกันตรงไหน เสียงจากร่างสูงก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่าหากให้เวลาคิดมากกว่านี้ อีกฝ่ายจะหาข้อปฏิเสธได้ทัน
นะครับ เย็นนี้พี่มารับ เอ้า! มารอหน้าห้องเลย นะๆ เสียงออดอ้อนที่ออกจากปากวินทร์ ซึ่งแป้งไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน รอยยิ้มหวานนั่นอีก แป้งอดคิดถึง
ชายร่างสูงชุดดำ พูดเสียงดังตะคอก หน้าตาปราศจากรอยยิ้ม เคร่งขรึมตลอดเวลา
เหมือนเมื่อกี้น่ะเหรอคะ มายืนอ่านบอร์ดรอ เสียงเล็กๆ นั้นยังมีแววล้อเลียนอยู่เป็นนิจ จนวินทร์รู้สึกเขม่นเขี้ยวอยู่ในใจ
โธ่แป้ง! หิวข้าวแล้วไปกินข้าวดีกว่า ตาบ้า ชวนสักคำก็ไม่มี แป้งมองร่างสูงที่เดินลิ่วๆจากไป ฮึ!จำไว้เลย คนใจร้าย คนใจดำ คน...
อ้าว! ไม่หิวเหรอแป้ง
ชวนแป้งด้วยเหรอ นึกว่าลืม คนตัวเล็กพ้อ แต่ยังเดินไปหาด้วยอาการหน้าง้ำ
ก็อุตส่าห์มารอ
ร่างสูงพึมพำ พร้อมแย่งหนังสือในมือคนข้างๆไปถือเสียเอง พี่วินทร์ปากแข็งชะมัด มารอก็บอกมารอดิ ชวนกินข้าวก็ชวนดิ โห! ไม่ได้เรื่องเล้ย ต้องให้บอกหรือไง พี่วินทร์ขา... ชวนแป้งไปกินข้าวหน่อยนะคะ คนตัวเล็กบ่นบ้าง ต่างกันเพียงบ่นในใจเท่านั้น ดังกว่านั้นเห็นจะไม่กล้า
แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 47 18:35:21
แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 47 18:29:52
จากคุณ :
อุณากรรณ
- [
15 มี.ค. 47 18:21:21
]