จากคนนิสัยไม่ดี
( Fan-Fiction จาก Harry Potter )
หากเป็นเมื่อก่อน เสียง "ป็อป!" และ "เปรี้ยง!" อันเกิดจากการหายตัวของพ่อมดและคงไม่ได้ผ่านเข้ามาสร้างความรำคาญแก่ใจของพ่อมดหนุ่มแม้เพียงเศษเสี้ยว แต่วันนี้เสียงเหล่านั้นกลับรบกวนจิตใจของเขาอย่างหนัก เพราะทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อพ่อมดหนุ่มเดินผ่านน้ำพุภราดรภาพผู้วิเศษซึ่งเพิ่งได้รับการซ่อมแซมใหม่หลังจากที่คนที่เขาก็รู้ว่าใครได้บุกเข้ามาถึงกระทรวงเวทมนตร์ เขาก็ล้วงเอาถุงถุงหนึ่งออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วคว่ำถุงลงเทเงินเหรียญทั้งหมดในถุงใบนั้นลงในน้ำพุ ด้วยท่าทีช้าผิดกับบุคลิกปกติของเขา ทั้งยังมองดูเหรียญเกลเลียน ซิกเกิ้ล และคนุตส์แต่ละเหรียญจากถุงของเขา ค่อยๆ จมลงไปสู่ก้นสระจนครบ จึงเดินจากไป
ไม่มีเหตุผลใดที่บอกได้ว่าทำไมพ่อมดหนุ่มจึงเลือกใช้ทางเข้าออกของผู้ติดต่อแทนที่จะใช้ผงฟลูหรือหายตัวตามปกติ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาเองก็ได้ตัดสินใจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะว่าการเลือกใส่ชุดแบบแบบมักเกิ้ล นั้นดูเหมือนว่าจะได้รับการเตรียมพร้อมจากผู้สวมใส่ว่าจะต้องขึ้นไปบนโลกของมักเกิ้ล
พ่อมดหนุ่มขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินของมักเกิ้ลในมหานครลอนดอนอันกว้างใหญ่อย่างคล่องแคล่วไม่ติดขัดเหมือนที่พ่อมดส่วนใหญ่เป็น ซึ่งนี่คือผลพลอยได้จากการทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของบาร์ทีเมียส เคร้าช์เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากเขาการจบการศึกษาที่โรงเรียนฮอกวอร์ต ก่อนที่บาร์ทีเมียส เคร้าช์จะถูกสังหารโดยลูกชายของตนเองที่เป็นผู้เสพความตาย สมุนของ
คนที่เราก็รู้ว่าใคร โดยได้รับคำสั่งจากคนที่เราก็รู้ว่าใคร
ไม่ใช่หรอก นั่นเป็นเพียงเรื่องที่เด็กสติไม่ดีคนหนึ่งพูดออกมาเท่านั้น
พ่อมดหนุ่มพยายามปลอบใจตนเองว่าอย่างนี้มาตลอดหนึ่งปี แบบที่คนในกระทรวงส่วนใหญ่คิดกัน คนที่เราก็รู้ว่าใครดับสูญไปเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ไม่มีวันกลับมา
แต่ตอนนี้พ่อมดหนุ่มรู้ดีว่านั่นไม่ใช่ความจริง เพราะเมื่อไม่นานมานี้เองคนที่เราก็รู้ว่าใคร ได้บุกเข้ามาถึงกระทรวงเวทมนตร์เพื่อมาฆ่า "เด็กชายผู้รอดชีวิต"
ท่ามกลางความแออัดของรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งมหานครลอนดอนอันซับซ้อน พ่อมดหนุ่มกลมกลืนไปกับฝูงชนรอบตัวไม่โดดเด่นสลักสำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนอันมหาศาลที่ใช้บริการระบบขนส่งมวลชน
เขาออกจากรถไฟฟ้าใต้ดินที่จอแจของมักเกิ้ล แล้วเข้าไปยังร้านหม้อใหญ่รั่วอันมีบรรยากาศอึมครึม แต่ก็เดินต่อไปที่หลังร้านอย่างรวดเร็วเพื่อเปิดประตูสู่ตรอกไดแอกกอนเพื่อซื้อสิ่งของจำเป็น ด้วยเงินที่เหลืออยู่
พ่อมดหนุ่มผมแดงมิได้เทเงินของตนเองทั้งหมดลงในน้ำพุ แต่เก็บไว้จำนวนหนึ่งเท่ากับรายได้ในปีก่อน เมื่อครั้งยังทำงานอยู่ในแผนกความร่วมมือเวทมนตร์ระหว่างประเทศ หลัง
จากซื้อของในตรอกไดแอกกอนเสร็จแล้ว เขาก็พาตนเองมายังห้องพักได้ในที่สุด
เมื่อจุดไฟในเตาผิงเสร็จแล้ว เขาก็ไปที่โต๊ะทำงาน ที่เต็มไปด้วยกองเอกสารต่างๆ เขาพยายามคัดแยกเอกสารต่างๆ ที่จะส่งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทมนตร์ เสยผมหยักศกสีแดงเพลิงไปอย่างเบื่อหน่าย หลังจากทำงานไปได้เพียงครู่เดียวก็หยุด ขยับไปนั่งหน้าเตาผิงแทน เงาสั่นไหวทอดยาวลงบนฝาผนังห้องึ่งเงียบสนิท ไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดๆ
พ่อมดหนุ่มนึกสงสัยว่าก่อนหน้านี้ ทำไมเขาไม่รู้สึกเลยว่า ที่นี่เงียบเพียงไร แต่ว่าเมื่อไม่มีเสียงของน้องชายฝาแฝด ก็ควรจะเป็นเรื่องดีมิใช่หรือ แต่ว่าไม่ใช่ ยามนี้พ่อมดหนุ่มก็เพิ่งรู้สึกหลังจากเวลาผ่านไป ๑ ปี ว่าการมาอยู่ที่นี่ ทำให้ชีวิตของเขาขาดหลายสิ่งหลายอย่าง
พ่อมดหนุ่มมองเปลวไฟอย่างเลื่อนลอย ทว่าภาพของเปลวไฟกลับมิได้ปรากฏแก่สายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย เวลานี้เขานึกถึงภาพบ้านโพรงกระต่ายอันอบอุ่น มีเสียงอึกทึกจากการเล่นแผลงๆ ของน้องชายฝาแฝด น้องชายอีกหนึ่งคนกับน้องสาวคนเล็ก พ่อที่ชอบศึกษาเรื่องมักเกิ้ล และ
แม่ของเขา
ไม่ได้
พ่อมดหนุ่มพยายามห้ามตนเองไว้ไม่ให้คิดไปไกล
ต้องรีบทำงานต่อให้เสร็จ
แล้วเขาก็ลุกขึ้นกลับไปทำงานยังโต๊ะของเขาทันที
--------------------------------
"ท่านคะ วันนี้คุณเพอร์ซี่ อิกเนเชียส วีสลีย์ ไม่มาทำงานนะคะ" แม่มดคนหนึ่งบอกแก่รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์
"อย่างนั้นหรือ" คอร์ลีเนียส ฟัดจ์ พูดขึ้น "แล้วงานที่เขานำไปทำที่บ้านล่ะ"
"เขาส่งมาด้วยไปรษณีย์นกฮูกพร้อมกับใบลาแล้วค่ะ" แม่มดคนนั้นบอก "พร้อมกับใบลา"
"ดีเหมือนกันนะ ดูเหมือนว่าตั้งแต่มาทำงานในสำนักงานนี้ เขาจะยังไม่ได้พักเลย" ฟัดจ์บอก
แม่มดคนนั้นยิ้มรับก่อนที่ฟัดจ์จะเดินจากไป
--------------------------------
ในเวลาช่วงเช้าของวันนั้น เพอร์ซี่ อิกเนเชียส วีสลีย์ ไม่ได้ปล่อยตัวให้ว่างเลยแม้แต่วินาทีเดียว ด้วยเกรงว่าจะทำให้คิดฟุ้งซ่านไปอีก เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้เรียบร้อย หลังจากส่งไปรษณีย์นกฮูกหลายตัวไปยังกระทรวงเวทมนตร์ในตอนเช้าตรู่แล้ว เขาก็เก็บกวาดห้องให้สะอาดเอี่ยม เช็ดโต๊ะทำงานที่ตอนนี้ไม่มีแฟ้มเอกสารอยู่แล้ว รวมถึงปัด กวาด เช็ด ถูตามพื้น ฝาผนัง และฝ้าเพดาน
แม้ว่าเขาจะพยายามทำตัวให้วุ่นวายเพียงไร ก็ไม่อาจทำให้เขาได้คลายความเบื่อหน่ายไปเลยแม้แต่น้อย พอเวลาผ่านไปเกินเที่ยงวัน เขาก็ไม่สามารถหางานใดมาทำต่อได้อีกแล้ว แต่จะให้นั่งอยู่ในห้องเฉยๆ หรือ ประเดี๋ยวก็จะคิดถึงบ้านอีก เขาจึงไปหาอะไรกินดื่มในตรอกไดแอกกอน
--------------------------------
ที่ร้านไอศกรีมในตรอกไดแอกกอน มีพ่อมดหนุ่มผมสีแดงเพลิงคนหนึ่งนั่งกินไอศกรีมรสกาแฟอยู่เงียบๆ ท่ามกลางความจอแจแอแออัดในตรอกเล็กๆ พ่อมดคนนี้มีได้มีความสลักสำคัญใดๆ ต่อผู้คนอื่นในตรอกนี้ไปมากกว่าโต๊ะ เก้าอี้ ที่เขานั่งอยู่สักเท่าไร ซึ่งในความวุ่นวายนี้ พ่อมดหนุ่มคนนั้นก็ได้ตระหนักถึงความไม่แตกต่างระหว่างพ่อมดแม่มดและคนธรรมดาเป็นครั้งแรก
เขามองข้ามไปยังอีกฟากหนึ่งของตรอก ซึ่งมีพ่อมดแม่มดเด็กๆ หลายคนเดินมาซื้ออุปกรณ์การเรียนพร้อมกับพ่อแม่ด้วยในหน้ายิ้มแย้ม
พวกเขาจะรู้ไหมนะ ว่าเจ้าแห่งศาสตร์มืดกลับมาแล้ว
พ่อมดหนุ่มคิด
แล้วถ้ารู้ เขาจะเชื่อว่ามันเป็นความจริงไหม
พ่อมดหนุ่มเดินไปตามตรอกได้แอกกอนด้วยอาการเหม่อเล็กน้อย สายตาเลื่อนลอยมองผ่านไปตามป้ายร้านค้าที่แน่นขนัดท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก
โครม!
พ่อมดหนุ่มผมแดงเดินไปชนแม่มดคนหนึ่งเข้า
"ขอโทษครับ" เขากล่าวแล้วก้มลงไปเก็บของที่หล่นทันที
--------------------------------
ที่ตรอกไดแอกกอน เพอร์ซี่ วีสลีย์เดินไปชนแม่มดคนหนึ่งเข้า หลังจากที่ได้เห็นหน้ากันแล้ว เพอร์ซี่ วีสลีย์ก็ทรุดตัวลงร้องไห้
แม่มดคนนั้นคือ มอลลี่ วีสลีย์ แม่ของเพอร์ซี่ วีสลีย์
--------------------------------
มอลลี่ วีสลีย์ คิดว่าพ่อมดที่เดินชนเธอนั้นดูคุ้นตา แม้ว่าในที่แรกฌธอจะมองเห็นเพียงศีรษะของเขาเท่านั้น เนื่องด้วยพ่อมดคนนั้นรีบก้มลงไปเก็บของ จนกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อส่งของให้เธอ
--------------------------------
เพอร์ซี่ วีสลีย์เงยหน้าขึ้นมาหมายจะส่งของที่เก็บขึ้นมาให้กับแม่มดคนนั้น แต่เมื่อเขาเห็นหน้าแม่มดคนนั้น มือที่ถือของอยู่ก็สั่นด้วยความตกใจจนของร่วงหล่นไปอีกรอบ เขาลุกขึ้นคิดว่าจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีหายไปท่ามกลางฝูงชนด้วยความกลัว
ตามประสบการณ์ตลอดมาของเขา ผู้ที่ทำผิดกฎจะต้องถูกลงโทษตามที่กฎบัญญัติไว้ แต่วันนี้ยามที่เขาทำผิดกฎเสียเอง เขาก็กลัวที่จะต้องรับโทษ นอกจากนี้ ในเมื่อเขายืนยันตลอดปีว่าเพื่อนรักของน้องชายเป็นคนบ้า ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมภาคีพร้อมกับครอบครัว ตอนนี้เขาจะสู้หน้าคนในครอบครัวของตนเองได้อย่างไร
แต่ยังไม่ทันได้หัน ขาทั้งสองก็พลันหมดเรี่ยวแรง พ่อมดหนุ่มทรุดตัวลงไปอยู่ในท่านั่งกับพื้นตรอก น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อยู่ไหลพรากออกมา มอลลี่ วีสลีย์ย่อตัวลงนั่งและกอดเขาไว้
"ม
แม่ ครับ ผ
ผม ขอโทษ" เพอร์ซี่พูดเสียงสั่นพร้อมสะอื้น เขาพยายามลืมตาขึ้นมองตรงหน้า แต่ด้วยตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา เขามองเห็นเพียงเงารางๆ ของอาเธอร์ วีสลีย์ยืนอยู่เท่านั้น
"พ่อ ผ
ผม ขอ ท
โทษ" เพอร์ซี่เริ่มสะอื้นมากขึ้น
เพอร์ซี่พยายามเพ่งมองผู้คนที่ยืนอยู่รอบตัวให้ชัดที่สุดเท่าที่ตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาจะทำได้
รอน น้องชายของเขายืนอยู่ตรงนั้นด้วย
ทุกคนทำถูกต้องหมด
เพอร์ซี่คิด
มีแต่เรา เราคนเดียว ทำผิดอยู่คนเดียว เราคือคนผิด คนที่ทำลายชื่อเสียงของครอบครัว
ด้านข้างรอน มีเด็กชายอีกคนยืนอยู่ นั่นคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ที่เขาเคยบอกผู้อื่นมาตลอดว่าเป็นคนบ้า คนที่เขาเตือนรอนให้อยู่ห่างๆ ในจดหมาย เขาพยายามทำให้คนแตกแยกกัน ไม่ต่างจากลอร์ดโวลเดอร์มอร์
ไม่ใช่แล้ว
เขาคิด
คนบ้าที่จริงอยู่ทางนี้ต่างหาก
เพอร์ซี่ฟุบลงหมดสติไป
จากคุณ :
เจรามี
- [
17 มี.ค. 47 11:59:07
]