เรื่องที่ 3 สวนผีสิง
ผมทำงานหนักอยู่ในเมืองมาตลอดชีวิต เมื่ออายุได้ 60 ผมจึงตัดสินใจหยุดชีวิตแบบนั้นลง
ผมอยากใช้ชีวิตในชนบท ที่ที่มีสวนกว้างๆ พอที่จะให้ผมปลูกดอกไม้ และผักสวนครัวได้
ภรรยาของผมก็เห็นด้วย เธอเกิดในชนบท และอยากจะมีชีวิตที่สงบสุข
ดังนั้นเราจึงเริ่มมองหาบ้านของเรา
เราท่องเที่ยวไปทั่วเพื่อดูบ้าน เราหยุดดูเมื่อเห็นป้าย สำหรับขาย แต่ก็ไม่มีสักหลังที่เราพอใจ
เราหามาหลายเดือน และจนเริ่มเหนื่อย
จนในที่สุด เราก็พบบ้านในฝันของเรา แซมเวย์ส ในหมู่บ้านเล็กๆ ห่างจากตัวเมืองออกไปราวๆ 80 กิโลเมตร
ไม่มีใครอยู่ที่นั่น มันเหมือนถูกสร้างมาเพื่อเรา มันสร้างด้วยหิน ดูอบอุ่น เจิดจ้า และสบาย
ระหว่างหน้าบ้าน และถนนเงียบๆ ของหมู่บ้าน เป็นสวนเล็กๆ ส่วนด้านหลังเป็นสวนที่ใหญ่กว่า
เต็มไปด้วยไม้ผล และดอกไม้
เราย้ายเข้าไปใน แซมเวย์ส ช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ มันเป็นบ้านที่เก่าแก่ และต้องการการปรับปรุงมากมาย
เราซื้อโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และเตียง อีกทั้งม่านด้วย เราทำทุกอย่างอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ทุกอย่างดูดี
ที่นี่จะเป็นบ้านสำหรับปั้นปลายชีวิตของเรา
ตอนที่เรามาถึง สวนนั่นรกจนดูเหมือนป่า แต่เราก็ทำงานอย่างหนัก
จนสิ้นสุดเดือนสิงหาคม สวนของเราก็แทบจะสวยเหมือนดั่งบ้านของเรา
บ่ายวันหนึ่งในเดือนกันยายน ผมทำสวนคนเดียว ส่วนภรรยาของผมเตรียมน้ำชาอยู่ในบ้าน
ผมได้ยินเสียงเธอ เรียกผม ผ่านทางหน้าต่างที่เปิดไว้ในห้องรับแขก
เฮนรี่ เธอร้องบอก ชาเรียบร้อยแล้วนะ และพวกเรามีแขกด้วย หลวงพ่อ บาร์นส มาหาพวกเราน่ะ
หลวงพ่อ บาร์นส เป็นบาทหลวงของหมู่บ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาเยี่ยมบ้านของเรา
ผมยินดีมากที่คุณมา ผมพูด
มันเป็นบ้านเก่าที่สวยมาก บาทหลวงตอบ ทุกๆ คนในหมู่บ้าน ยินดีที่คุณมาอยู่ที่นี่
คุณทำให้บ้าน และสวนแตกต่างไปจากเดิมอย่างอัศจรรย์
ขอบคุณ ผมพูด หลังจากพวกเราดื่มชาเสร็จแล้ว คุณต้องไปชมสวนใหญ่ที่ด้านหลังล่ะ
ผมอยากจะชมอยู่แล้วเขาตอบ ผมสนใจเรื่องสวนมาก แต่ก็ไม่มีเวลามากพอจะทำมัน
คุณต้องยุ่งมากอยู่แล้ว โจนพูด คุณเยี่ยมทุกคนในหมู่บ้านเลยเหรอ
ผมคิดว่าบาทหลวงของหมู่บ้านควรจะรู้จักทุกคน เขาพูด ผมรู้ว่าคุณ และมิสเตอร์ แชพแมนยุ่งมาก
ดังนั้นผมเลยไม่ได้มาหาคุณก่อนหน้านี้ แต่ผมก็สังเกตเห็นคุณทั้งคู่ที่โบสถ์
ตอนที่เราดื่มชากันอยู่ เราก็คุยกันเกี่ยวกับหมู่บ้าน หลวงพ่อ บารน์ส เล่าประวัติของมันให้เราฟังมากมาย
โจน และผมชอบเขามาก เขาดูเป็นคนดี ใจดี และเป็นบาทหลวงที่ดี
เราไปที่สวน หลังจากพวกเราดื่มชาเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อ บาร์นส รู้เรื่องสวนมากเช่นกัน และนั้นทำให้เราดีใจ
คนทำสวนเพลิดเพลินกับการพูดเรื่องสวนของพวกเขา หลังจากนั้น เราก็เดินกลับไปที่บ้าน
คุณรู้ไหมว่าบ้านของคุณได้ชื่อแปลกๆได้อย่างไร? เขาพูด
ไม่รู้หรอก โจนพูด คุณรู้เหรอ?
มันถูกสร้างโดยผู้ชายที่ชื่อว่า แซมเวย์ส หลวงพ่อบาร์นสพูด บ้านในชนบทมักจะใช้ชื่อของคนสร้างมาตั้ง
อิไลจา แซมเวย์ส สร้างบ้านของคุณมากว่า 200 ปีแล้ว เขาเป็นคนร่ำรวย และสร้างมันขึ้นเพื่ออยู่เอง
เขามีครอบครัวใช่ไหม? ผมถาม
เปล่า หลวงพ่อบาร์สพูด เขาอยู่ที่นี่คนเดียว ไม่มีภรรยา หรือลูก เขามีแค่คนใช้เป็นชายแก่ๆ คนหนึ่ง
เกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาตาย? โจนถาม
บ้านของเขาก็ถูกขาย หลวงพ่อบาร์นสพูด ไม่มีใครชื่อเหมือนเขาอยู่ที่นี่จนถึงบัดนี้
แต่ตอนนี้คุณก็ซื้อบ้านของเขา และชื่อของมันก็ยังคงเป็นแซมเวย์ส นั่นก็ฟังดูดี ไม่ใช่เหรอ?
เราเห็นด้วยที่เป็นอย่างนั้น จู่ๆ ผมก็นึกบางอย่างได้
เรามีงานใหญ่ชิ้นหนึ่งในสวน ผมพูด ดูที่ต้นไม้นั่นสิ ผมชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆ กับกำแพงบ้าน
กิ่งของมันเกือบจะถึงหน้าต่างของห้องนอนเรา
เราจะตัดมันลง ผมพูด มันใกล้กับบ้านมาก มันจะเป็นอันตรายเมื่อลมหนาวมาเยือน
ก่อนที่หลวงพ่อ บาร์นส จะพูดอะไรขึ้น โจนพูดก็ว่า โอ้ ไม่นะ เฮนรี่ เธอพูด
เราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะ เธอหันกลับไปยังบาทหลวง บอกเขาทีว่าเขาคิดผิด หลวงพ่อ
มันเป็นต้นไม้ที่สวย และสมบูรณ์ เขาคิดผิดที่จะตัดมันลง
บาทหลวงมองไปที่ต้นไม้เป็นเวลานาน ผมต้องบอกว่า ผมเห็นด้วยกับ มิสซิส แซพแมน
ผมไม่คิดว่ามันเป็นอันตราย คุณอาจจะตัดกิ่งด้านบนนั่นออก ถ้าคุณคิดว่ามันยาวเกินไป
แต่ผมไม่คิดว่าคุณควรจะตัดต้นไม้นั่นลง มันเติบโตที่นี่ก่อนที่ อิไลจา แซมเวย์ส จะสร้างบ้านนี้ซะอีก
เราไม่ควรทำอะไรอย่างฉุกละหุก ผมพูด เราจะรอจนหน้าหนาวมาถึง แล้วเราค่อยตัดสินใจกันอีกที
*
ในปีนั้น หน้าหนาวมาช้ากว่าปกติ ช่วงเวลาที่ยาวนานของความร้อนของฤดูร้อน ตามด้วยความแห้ง
ของฤดูใบไม้ร่วง และเราก็ไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องต้นไม้ใหญ่นั่นอีก จนกระทั่ง ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ลมเริ่มแรง และมีฝนตก เรานั่งอยู่ในห้องรับแขกที่แสนสบายตลอดวัน เราอ่านหนังสือ และฟังเพลง
พอตกดึก เราก็ทานอาหารเย็น และเข้านอนแต่หัวค่ำ ในตอนกลางวัน บางครั้ง ผมใส่เสื้อกันฝนแล้วออกไปที่สวน
ผมไม่สามารถทำสวนได้ แต่ผมมองไปยังต้นไม่ใหญ่นั่น กิ่งที่ดูเหมือนแขนโบกไปมาเหนือศีรษะของผม
ในสายลมที่พัดแรง มันเหมือนจะส่งข้อความบางอย่างให้ผม แต่ผมไม่สามารถอ่านสัญญาณของมันออก
วันหนึ่งผมยืนที่นั่นนานกว่าปกติ จนโจนเรียกผมจากในบ้าน เฮนรี่! คุณออกไปทำอะไรอยู่กลางสายฝน
ผมจะเข้าไปแล้ว ที่รัก ผมตอบ
แต่ก่อนที่ผมจะกลับไปที่บ้าน ผมปีนขึ้นไปบนต้นไม้นั่น และตัดกิ่ง 2 ก้านที่ใกล้กับหน้าต่างห้องนอนของเราออก
หลวงพ่อ บาร์นส พูดถูก ผมคิด ต้นไม้นั่นแข็งแรง และสมบูรณ์ ไม่ควรจะตัดมันออก แต่ผมรู้สึกปลอดภัยกว่า
เมื่อกิ่งมันสั้นลง
ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ลมพายุก็ยิ่งแย่ลง เรานอนบนเตียง และฟังเสียงมันในตอนกลางคืน
เราหลับลงในที่สุด พร้อมกับเสียงลมในหูของพวกเรา และเมื่อเราหลับ มันก็อยู่ในฝันของพวกเรา
ในวันที่ 30 พฤศจิกายน - ผมไม่สามารถลืมวันนั้นได้เลย - ผมตื่นขึ้นมากลางดึก โจนนั่งอยู่บนเตียง
มีอะไรหรือเปล่า? ผมพูด นอนไม่หลับเหรอ?
ชู่ว! . . . ชู่ว! . . . ฟังสิ! เธอพูด
ผมฟัง แต่ผมได้ยินเพียงแค่เสียงลม
อะไรเหรอ? ผมถามเธออีกครั้ง คุณกลัวอะไร?
เสียงนั่น เธอพูด ตอนนี้ฉันไม่ได้ยินแล้ว แต่มันปลุกฉันขึ้นมา มีบางคนเคาะที่กระจกนั่น
โจน ที่รัก อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่ะ! ผมพูด คุณฝันไป นอนลง และหลับซะ
ฉันไม่ได้โง่นะ เฮนรี่! เธอพูด บางคน หรือบางอย่าง เคาะที่กระจกนั่น
ผมลุกออกจากเตียง ผมจะลงไปในครัว และทำเครื่องดื่มร้อนๆ ให้คุณ ผมพูด
คุณประสาทเกินกว่าจะหลับลงได้
เธอเรียกผม ก่อนที่ผมจะเปิดประตูห้องนอน ฉันไปด้วยนะ เฮนรี่ อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่ ฟังสิ!
และในเวลานี้ ผมก็ได้ยินมัน
ก๊อก . . . ก๊อก . . . ก๊อก
นั่น ที่หน้าต่างห้องนอน เสียงเคาะหนักๆ อย่างช้าๆ ดังพอจะได้ยินกว่าเสียงลม
ก๊อก . . . ก๊อก . . . ก๊อก
ผมเดินไปที่หน้าต่าง แล้วก็หยุด ผมกลัวที่จะดึงม่านออก ผมกลัวที่จะเห็นอะไรผ่านหน้าต่างนั่น
โจนพูดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อผมยืนอยู่ที่นั่น ใช่แล้ว เฮนรี่ เธอพูด
ฉันรู้แล้วมันคืออะไร กิ่งยาวๆ พวกนั้นโดนลมพัดมาโดนกระจก
แต่ตอนนี้กิ่งพวกนั้นสั้นเกินกว่าจะโดนกระจกได้ ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไป
เธอดึงม่านออก จากนั้นก็กรีดร้อง และหัวใจของผมก็ดูเหมือนหยุดเต้น
หน้าของชายแก่มองผ่านหน้าต่าง ผมยาวสีขาวของเขาพัดปลิวไปในสายสม และเขาก็ยกมือของเขา
เขาเริ่มเคาะไปที่กระจก . . . ก๊อก . . . ก๊อก . . .
โอ้ พระเจ้า! ผมร้อง ปิดเขาไว้!
ผมดึงม่านมาปิดหน้าต่าง และกอดโจน
ไปกับผม ผมพูด เราจะลงไปในครัว
เธอวางมือลงบนมือของผม และผมก็พาเธอไปที่ประตู
ดวงตาของเขา เฮนรี่! คุณสังเกตที่ตาของเขาหรือเปล่า? มันดูเศร้า . . . เป็นตาที่เศร้ามาก เฮนรี่
แสงแดดส่องมาในที่สุด ตอนนี้ลมเบาลง มันเป็นเช้าที่หนาว และสว่าง พอเก้าโมง ผมก็โทรศัพท์ไปหา
หลวงพ่อ บาร์นส เขามา และฟังเรื่องของเรา
คุณบอกว่าหน้าของชายแก่ใช่ไหม? เขาพูด มีผมยาวสีขาว?
ใช่ ผมพูด
เขาดูโกรธใช่ไหม หลวงพ่อ บาร์นส ถาม เขาต้องการหลอกให้คุณตกใจใช่ไหม
โอ้ ไม่ใช่หรอก! โจนตอบคำถามก่อนที่ผมจะพูด ไม่ใช่หรอก หลวงพ่อ เขาดูเหมือนมาขอความช่วยเหลือ
ฉันเสียใจที่ไม่ได้ช่วยเขา เราตกใจมาก
บาทหลวงพูดอย่างอ่อนโยน คุณต้องกลัวแน่นอน แต่ผมคิดว่า บางทีคุณอาจจะสามารถช่วยเขาได้
อย่างไร? ผมถาม คุณดูเหมือนจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับชายคนนี้ ดังนั้นกรุณาบอกพวกเราที
ถ้าเรื่องสยองขวัญนี่เกิดขึ้นอีก พวกเราคงจะไม่สามารถอยู่ในบ้านหลังนี้ได้อีก
ผมคิดว่าผมสามารถไขเรื่องลึกลับนี้ได้ เขาพูด อิไลจา แซมเวย์ส อยู่ที่นี่กับคนใช้แก่ๆ คนหนึ่ง
ผมเคยเล่าให้คุณฟังแล้ว แต่ผมไม่ได้เล่าส่วนที่เหลือของเรื่อง คืนหนึ่ง พวกโจรฆ่า อิไลจา แซมเวย์ส
และขโมยเงินของเขาไปหมด โจรเหล่านั้นไม่เคยถูกจับได้ คนรับใช้แก่ๆ โรเบิร์ต ฟอเรสเตอร์ ถูกกล่าวหาว่า
พาพวกโจรเข้ามาในบ้าน ผมบริสุทธิ์! เขาพูด ผมนอนหลับทั้งคืน แต่ไม่มีใครเชื่อเขา
เขาเป็นชายแก่ที่น่าสงสาร ไม่มีครอบครัว และเพื่อนๆ และ . . . และเขาถูกแขวนคอในสวนนี้
ที่กิ่งของต้นไม้ใหญ่นั่น พวกเขาแขวนคอชายบริสุทธิ์
คุณเชื่อเหรอว่าเขาบริสุทธิ์? ผมถาม
ตอนนี้ ผมเชื่อแล้ว ผมเชื่อว่าเขาถูกกล่าวหาผิดๆ บาทหลวงพูด เขามาหาคุณเมื่อคืนเพื่อขอความช่วยเหลือ
ทำไมเขาถึงมาเมื่อคืนนี้ล่ะ? ผมถาม
มันเป็นวันที่ 30 พฤศจิกายน หลวงพ่อ บาร์นส พูด พวกเขาแขวนคอ โรเบิร์ต ฟอเรสเตอร์
ในวันนั้น เมื่อ 200 ปีก่อน
เราจะช่วยเขาได้อย่างไร? โจนถาม
เราต้องแสดงให้เขาเห็นว่าเราเชื่อว่าเขาบริสุทธิ์
แต่เราจะบอกเขาได้อย่างไรล่ะ? โจนถาม
ตามผมมา หลวงพ่อ บาร์นส พูด และพาเราไปที่ต้นไม้ใหญ่ในสวน พวกเขาฝัง โรเบิร์ต ฟอเรสเตอร์ไว้ที่นี่
ที่นี่? ผมถาม แต่ที่นี่ไม่ใช่พื้นดินศักดิ์สิทธิ์นี่
ไม่ใช่ บาทหลวงพูด แต่เราจะทำให้นี่เป็นพื้นดินศักดิ์สิทธิ์ เราจะอธิฐานให้โรเบิร์ต ฟอเรสเตอร์
บาทหลวงคุกเข่าลง โจน และผมก็ทำตาม เขาอธิฐานให้ โรเบิร์ต ฟอเรสเตอร์ และพวกเราก็อธิฐานไปกับเขา
เขาอธิฐานให้กับชายบริสุทธิ์ เขาขอพระเจ้าให้ยกโทษให้ศัตรูของฟอเรสเตอร์ จากนั้นเขาถอดไม้กางเขน
ที่เขาสวมไว้รอบคอ เขาวางมันลงบนพื้น ตอนนี้พื้นดินกลายเป็นพื้นดินศักดิ์สิทธิ์แล้ว
เขาไปสู่สุขคติแล้ว บาทหลวงพูด
และพวกเราก็เดินกลับเข้าไปในบ้านที่สงบสุข
จบ เรื่องที่ 3 สวนผีสิง
จากคุณ :
yingu
- [
18 มี.ค. 47 23:52:41
A:168.120.12.54 X:
]