...หนุ่มน้ำพริกเผา VS สาวมายองเนส...(ภาคสอง) ==> ตอนที่ ๕ (จบแล้วค่า)

    …๕…


    หนึ่งวันในสิงคโปร์ผ่านไปอย่างเชื่องช้าในความรู้สึกของชิสา หล่อนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับรูปปั้นเมอร์ไลอ้อนสัตว์ประหลาดครึ่งสิงโตครึ่งปลาสัญลักษณ์ของประเทศนี้แม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่น ๆ ต่างผลัดกันถ่ายรูปอย่างสนุกสนานเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และกิจกรรมส่วนใหญ่ของคณะทัวร์ก็คือการเดินเที่ยวชมสถานที่สำคัญ ๆ บริเวณนั้น หญิงสาวรู้สึกอยากจะกลับบ้านใจจะขาด …รู้อย่างงี้ไม่มาซะดีกว่า… หล่อนได้แต่นึกบ่นอยู่ในใจ

    เย็นวันนั้นอัตติพัทธ์มารับคณะทัวร์ที่โรงแรมเพื่อพาไป Night Safari ตามสัญญา หากคราวนี้เขาไม่มีแคทเธอรีนติดสอยห้อยตามมาด้วยเหมือนเมื่อวานและนั่นก็ทำให้ชิสารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย

    "วันนี้ไปเที่ยวไหนมาบ้างครับ" ชายหนุ่มชวนคุยระหว่างที่นั่งรถรางชมสัตว์ภายใน Night Safari ซึ่งเป็นสวนสัตว์ที่เปิดให้ชมชีวิตสัตว์ในเวลากลางคืนโดยจำลองแสงไฟที่ใช้ในสวนสัตว์ให้เหมือนกับแสงจันทร์ในธรรมชาติ

    "ก็หลายที่" ชิสาตอบห้วน ๆ แม้ว่าวันนี้หล่อนจะเที่ยวอย่างสบายใจขึ้นบ้างเมื่อเห็นว่าข้างกายเขาไม่มีสาวหมวยไฮโซมาคอยเกาะแขนให้รำคาญลูกนัยน์ตาและคอยส่งเสียงแหลม ๆ รบกวนโสตประสาท หากหล่อนก็ยังคงไม่หายโกรธเขาเรื่องเมื่อวานง่าย ๆ

    ชายหนุ่มรู้จังหวะดีว่าเวลาไหนควรรุกและเวลาไหนควรอยู่เฉย ๆ ดูสถานการณ์ เขาจึงไม่เซ้าซี้ต่อ เพียงแต่นั่งนิ่ง ๆ และคอยชี้ชวนหล่อนดูสัตว์ที่โผล่ออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉม และพูดคุยเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้หล่อนฟังเป็นระยะ ๆ จนทำให้หล่อนอารมณ์ดีขึ้น

    "ตั้งแต่คุณมาผมยังไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณเลยนะ" อัตติพัทธ์ถือโอกาสตอนที่เห็นว่าหล่อนอารมณ์ดีขึ้นแล้ว

    ชิสาหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบเขา

    "ฉันรู้ค่ะว่าคุณต้องเอาเวลาไปดูแลแฟนคุณ"

    "วุ่น วันนี้คุณจะไม่รวนผมซักวันได้มั้ย" ชายหนุ่มถอนใจ

    "แล้วอีกอย่างนะ เคที่ไม่ใช่แฟนผม ผมไม่มีทางชอบเคที่ได้หรอก เพราะผม…" อัตติพัทธ์ต้องหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อรถรางแล่นมาจอดที่สถานีและหญิงสาวก็ลุกจากที่นั่งเดินลงจากรถไปโดยไม่รอให้เขาพูดจบ ชายหนุ่มได้แต่ทอดถอนใจแล้วเดินตามหล่อนไปสมทบกับคนอื่น ๆ


    เช้าวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของคณะทัวร์ในสิงคโปร์ อัตติพัทธ์มาทำหน้าที่ไกด์จำเป็นตามที่เขาได้บอกกับทุกคนไว้เมื่อวานนี้โดยโปรแกรมในวันนี้คือ ดูโชว์นกแสนรู้ที่สวนนกจูร่ง และชมชีวิตสัตว์ใต้ทะเลที่อันเดอร์วอเตอร์เวิร์ล ทุก ๆ คนรวมตัวกันพร้อมอยูที่ล็อบบี้แล้วเมื่ออัตติพัทธ์มาถึง ทั้งหมดจึงเตรียมตัวออกเดินทาง แต่แล้วก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินเข้ามา ทำเอาไกด์หนุ่มถึงกับกุมขมับ

    "วันนี้จะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างคะเนี่ยแอนดี้ เคที่ขอไปด้วยคนนะคะ" แคทเธอรีนว่าพลางเกาะหมับเข้าที่แขนชายหนุ่มตามวิสัย

    อัตติพัทธ์ชำเลืองมองชิสาที่กำลังส่งค้อนมาให้วงเบ้อเร่อ แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าเดินนำออกไปขึ้นรถโดยมีแคทเธอรีนเกาะแขนตามไปติด ๆ


    การแสดงโชว์ของนกแสนรู้น่าจะทำให้ผู้ที่ได้ชมมีความสุขสนุกสนานไปกับความน่ารักและความแสนรู้ของนกหลากหลายชินด หากไม่ใช่ชิสา เพราะหล่อนต้องคอยพยายามบังคับตัวเองไม่ให้มองไปยังคู่หนุ่มสาวที่กอดแขนกันดูโชว์อย่างมีความสุข

    "ไม่สนุกเหรอไอ้วุ่น หน้าหงิกเชียว" น้าเข้มหันมาถามเมื่อเห็นสถาปนิกสาวคนสนิททำหน้างอเหมือนจะงอยปากนกแก้วบนเวทีไม่มีผิด

    "ไม่เห็นสนุกเลยน้าเข้ม น่าเบื่อจะตาย" หล่อนว่าพลางปรายตาไปมองภาพบาดตาอีก…ก็บอกแล้วว่าอย่ามอง อย่ามอง…เสียงในหัวหล่อนพร่ำบอก แต่สายตาเจ้ากรรมนี่สิ…ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ

    น้าเข้มมองตามสายตาหล่อนไปแล้วก็หัวเราะในลำคอ

    "หึงเค้าหรือไง"

    ชิสาสะดุ้งกับคำถามของน้าเข้ม ไม่ต้องส่องกระจกหล่อนก็พอจะรู้ว่าหน้าตัวเองคงแดงเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อเห็นน้าเข้มหัวเราะเสียงดังขึ้น

    "เปล่านะน้าเข้ม เอาอะไรมาพูด"

    "ยังจะมาทำปากแข็งอีกไอ้วุ่นเอ๊ย" ไม่พูดเปล่าน้าเข้มยังเอื้อมมือป้อม ๆ มาเขกหัวหล่อนอีกด้วย

    "โธ่น้าเข้ม วุ่นจะไปหึงเค้าได้ไงล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย" ชิสาต่อด้วยเสียงอุบอิบ จนน้าเข้มได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา


    หลังอาหารกลางวัน อัตติพัทธ์พาคณะทัวร์ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าข้ามไปที่เกาะเซนโตซา เกาะเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อันเดอร์วอเตอร์เวิร์ลนั่นเอง

    ทั้งหมดซื้อตั๋วเข้าชมโลกใต้ทะเลซึ่งเป็นอุโมงค์ใสให้นักท่องเที่ยวได้ชมชีวิตสัตว์ใต้ทะเลอย่างใกล้ชิดราวกับได้ลงไปใต้ทะเลจริง ๆ เพียงแค่แผ่นกระจกกั้น ชิสาพาน้าเข้มเดินนำหน้ากลุ่มเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นภาพบาดตาที่คอยมากวนอารมณ์กรุ่น ๆ ที่นอนก้นของหล่อนให้ขุ่นขึ้นมาอีก หญิงสาวพยายามให้ความสนใจกับฝูงปลาการ์ตูนหลากสี เจ้าปลากระเบนตัวโตที่เหมือนกำลังเหาะอยู่บนท้องฟ้ายามที่หล่อนมองขึ้นไปด้านบน และการแสดงให้อาหารฉลามที่น่าตื่นเต้น นับว่าความพยายามของหล่อนได้ผลเพราะชิสาสามารถเที่ยวได้อย่างมีความสุขมากขึ้น แม้จะเพียงนิดเดียวก็เถอะ

    คณะทัวร์ออกมาจากอันเดอร์วอเตอร์เวิร์ลตอนเกือบค่ำ อัตติพัทธ์แนะนำให้ทุกคนไปรับประทานอาหารและหาซื้อของที่ระลึกเป็นสินค้าพื้นเมืองและงานหัตถกรรมที่ไชน่าทาวน์โดยมีแคทเธอรีนเดินเคียงข้างไม่ยอมห่าง


    ท่ามกลางความจอแจของผู้คนที่พากันมาเดินช็อปปิ้งที่ไชน่าทาวน์ ชิสาเดินตามคณะทัวร์มาเงียบ ๆ อันที่จริงหล่อนก็เงียบอย่างนี้มาตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว ซึ่งอัตติพัทธ์เองก็ลอบสังเกตอากัปกิริยาของหญิงสาวและนั่นทำให้เขามั่นใจว่าเขาได้คำตอบที่น่าพอใจสำหรับตัวเองแล้ว

    “เอาเป็นว่าเชิญทุกคนตามสบายนะครับ อีกหนึ่งชั่วโมงมาเจอกันที่นี่ก็แล้วกัน” ไกด์หนุ่มจำเป็นบอกกับคณะทัวร์ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเป็นสามกลุ่ม คือ กลุ่มของเบิ้มและครอบครัว กลุ่มของเก่ง จอน และต้น และกลุ่มสุดท้ายคือ น้าเข้ม ธนัท และ ชิสา เมื่ออัตติพัทธ์ทำท่าจะมาเดินร่วมกับกลุ่มของน้าเข้ม ชิสาจึงขอไปเดินกับกลุ่มของสามหนุ่มแทน หากธนัทคว้าตัวไว้ก่อน

    “เฮ้ย! ไม่ได้นะ แกต้องไปช่วยพี่เลือกของให้คุณวุ้น สัญญากันแล้วห้ามเบี้ยวนะโว้ย”

    หญิงสาวแกล้งถอนใจเสียงดังให้ชายหนุ่มอีกคนได้ยิน หากก็ต้องยอมทำตามนั้น


    ชิสาเดินดูของด้วยความเซ็งสุด ๆ นอกจากจะต้องเบียดเสียดกับผู้คนมากมายที่เหมือนกับตลาดนัดจตุจักรบ้านเราไม่มีผิดแล้ว ยังต้องเห็นภาพบาดตาบาดใจอีก ทั้งน้าเข้มและธนัทเองก็ไม่ได้มีความสุขกับการเดินดูของเท่าไรนักเนื่องจากบรรยากาศที่อึดอัดสุดแสนจะบรรยายนั่นเอง และดูเหมือนจะมีเพียงแคทเธอรีนเท่านั้นที่มีความสุขสนุกสนานไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าตัวเองเป็นสาเหตุของบรรยากาศอึมครึมที่เป็นอยู่

    “ว้าย! ตายแล้ว อะไรกันเนี่ย” เสียงกรีดร้องของแคทเธอรีนแผดขึ้น เมื่อน้ำอัดลมในมือของธนัทหกรดแขนของหล่อนเข้าอย่างจัง

    “ขอโทษครับคุณเคที่ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมโดนเบียดมาน่ะครับ”

    “โอ๊ย! ดูสิเลอะเทอะหมดแล้ว แอนดี้ขาช่วยเช็ดให้เคที่หน่อยสิคะ” ว่าพลางหล่อนก็เอาผ้าเช็ดหน้าใส่มืออัตติพัทธ์ ชายหนุ่มก็เช็ดให้ลวก ๆ อย่างไม่เต็มใจนัก สายตาก็ไม่ละไปจากหญิงสาวอีกคนที่ยืนหน้าตูมอยู่ไม่ห่าง

    “ผมพาคุณไปล้างที่ห้องน้ำดีกว่าครับ” ธนัทอาสาอย่างกระตือรือร้น

    “ไม่ต้อง! แอนดี้ขาพาเคที่ไปหน่อยสิคะ” แคทเธอรีนแผดเสียงแหลม ๆ ขัดขึ้นทันควัน โดยไม่ได้สนใจว่าชายหนุ่มข้าง ๆ จะมีสีหน้ากระอักกระอ่วนขนาดไหน

    “อ้าว ไอ้วุ่น จะไปไหนวะนั่น” น้าเข้มตะโกนขึ้น เมื่อเห็นชิสาหันหลังเดินลิ่วไปโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

    “วุ่น!” อัตติพัทธ์มองตามไปแล้วก็ตะโกนเรียก เขาขยับจะตามไปหากมีมือบางมาฉุดรั้งเอาไว้

    “แอนดี้ พาเคที่ไปห้องน้ำสิคะ”

    “ผมเป็นคนทำให้คุณเลอะ ผมต้องรับผิดชอบ ไป ผมพาคุณไปเอง” ว่าแล้วธนัทก็ลากแคทเธอรีนให้ตามเขาไปท่ามกลางเสียงแหลม ๆ ที่เจ้าหล่อนแผดเสียงไปตลอดทาง

    อัตติพัทธ์รู้สึกโล่งใจที่ธนัทพาแคทเธอรีนไปเสียได้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกกระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนน้าเข้มต้องเตือน

    “เอ้า มัวรออะไรอยู่ล่ะ”

    ชายหนุ่มออกสตาร์ทราวกับนักวิ่งร้อยเมตร …ถึงเวลาแล้วสินะที่เขาควรจะบอกหล่อนเสียที…


    “คุณจะไปไหน” อัตติพัทธ์วิ่งมายืนขวางหน้าชิสาไว้พร้อมกับเอ่ยเสียงเข้ม

    หญิงสาวตวัดสายตาคมกริบมองผู้ชายร่างสูงตรงหน้า

    “หลีกไป ฉันจะกลับโรงแรม” พูดจบหล่อนก็ผลักเขาแล้วเดินต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

    “แล้วกลับถูกเหรอ”

    คำถามของชายหนุ่มทำให้หล่อนชะงักฝีเท้านิดหนึ่ง หากก็ยังคงเดินหน้าต่อไป …คนอย่างหล่อน ไม่มีเสียล่ะที่จะยอมถอยง่าย ๆ แม้ว่าจะเดินต่อไปโดยไม่รู้ทาง…ก็เถอะ…

    ร่างสูงโปร่งเดินตามร่างบางเจ้าของผมเปียใหญ่ ๆ จนมาถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เมื่อเขาเห็นหล่อนหยุดยืนเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ เขาก็เดินเข้าไปคว้าข้อมือบางแล้วพาไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดิน

    “ไป ผมจะพาไปส่ง”

    “ปล่อยฉันนะ นี่คุณจะตามฉันมาทำไมเนี่ย” หล่อนว่าเสียงสะบัด พร้อม ๆ กับสะบัดแขน หากก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการเกาะกุมของมือใหญ่นั้นได้

    “ก็เป็นห่วง…” ชายหนุ่มเว้นวรรคนิดหนึ่งแล้วหันมามองหน้าหญิงสาวข้าง ๆ หล่อนกำลังจะเขินอยู่แล้วหากเขาไม่พูดต่อ

    “กลัวหลงอีก”

    ชิสาเม้มริมฝีปากและตวัดสายตามองเขาจนตาแทบกลับ

    “ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอก คนที่คุณควรจะห่วงน่ะ อยู่โน่น” หล่อนบุ้ยใบ้ไปทางที่เพิ่งเดินมา ความจริงแล้วหล่อนก็ไม่รู้หรอกว่ามันทางไหนกันแน่ ชายหนุ่มได้แต่กลั้นหัวเราะ

    “เอ…พูดอย่างนี้ หึงผมรึเปล่าเนี่ย”

    “บ้าน่ะสิ อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยคุณ” ชิสาได้แต่ทำเสียงดังกลบเกลื่อน หล่อนรู้สึกถึงไอร้อนที่พวยพุ่งออกมาจากผิวแก้ม ไม่แน่ใจว่าเขินหรือโกรธมากกว่ากัน


    จากคุณ : มดตะนอย - [ 19 มี.ค. 47 15:45:02 A:203.155.153.226 X:192.168.1.17 ]