@?@?@ถุงความลับ@?@?@

    เขียนโดย...Watanabe  Junko

    ตอนเช้าของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
    ยุมิโกะนอนอยู่กับพ่อและแม่ที่บ้านของตัวเองในโกเบ
    รู้สึกว่ามีอะไรตกลงมาทับยุมิโกะ....
    แค่นั้นแหละที่ยุมิโกะจำได้
    แต่มันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาของเมื่อสี่วันที่แล้ว
    เพราะศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนจากของนั้น
    ทำให้ยุมิโกะนอนสลบสไลมาจนถึงวันนี้

    พยาบาลยิ้มเจื่อนๆ แล้วพูดกับยุมิโกะ
    "โชคดีนะคะที่ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ไหนอีก
    คุณพ่อคุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์คงจะหมดห่วง
    งานศพเพิ่งเสร็จไปเมื่อวานนี้ค่ะ"

    "สวรรค์?....งานศพ?...อะไรกันเนี่ยะ?"
    ความรู้สึกในสมองเจ็บแปลบ หัวใจเต้นแรงโครมคราม
    ฉันรู้สึกคลื่นเหียนอยากอาเจียรเสียเหลือเกิน

    ยุมิโกะ ร้องไห้ไม่หยุดติดต่อกันสามวัน
    ภาพใบหน้าของพ่อแม่ที่แสนใจดีลอยผุดขึ้นมา

    นึกถึงวันตอนที่ครอบครัวได้เดินทางไปเที่ยวตอนปีใหม่ด้วยกัน
    เวลากินข้าว พ่อยังมาคีบเอาซาชิมิของฉันไปกินด้วย
    แม่ที่ลงไปแช่อ็อนเซ็นในบ่อใหญ่กว้างโอ่โถง

    ทำไม...ทำไม...พ่อแม่ถึงตายล่ะ...
    แล้วทำไมถึงทิ้งให้ฉันเหลืออยู่คนเดียว
    แล้วฉันจะทำยังไงดีกับชีวิตที่เหลือต่อจากนี้

    ตายซะดีกว่า...ยุมิโกะคิดพร้อมกับน้ำตาที่แห้งเหือด
    อยู่ไปคนเดียวอย่างโดดเดี่ยวก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไร
    ฉันจะตามไปในที่ๆพ่อและแม่อยู่

    ฉันรู้ว่าพยาบาลจะเอายามาวางไว้ให้ทุกวันวันละหลายๆชนิด
    ยานั้นแหละ...ฉันจะไม่กินมันตามเวลาหรอก
    ฉันจะค่อยๆเก็บเอาไว้กินทีเดียวซะเลย

    ตั้งแต่วันนั้นยุมิโกะเริ่มแอบซ่อนเก็บยาเอาไว้ในถุงเล็กๆ
    ถ้าเก็บจำนวนเม็ดยาสำหรับหนึ่งอาทิตย์ไว้
    มันคงเพียงพอที่จะทำให้ยุมิโกะตายได้

    ชีวิตที่เหลือของฉัน อีกหนึ่งอาทิตย์เท่านั้นเหรอเนี่ยะ
    ยุมิโกะคิดแล้วหัวเราะหึ...หึ...อย่างไม่รู้สึกแปลกประหลาดอะไร

    "เอ่อ...ขอโทษนะจ๊ะ"
    เป็นเสียงเรียกมาจากคุณยายซึ่งอยู่เตียงข้างๆ
    เออ...ใช่...ห้องนี้มันห้องสองเตียงนี่นา
    ยุมิโกะเพิ่งรู้สึกเป็นครั้งแรกว่ามีคุณยายอยู่ในห้องนี้อีกคน

    "ค่ะ...อะไรเหรอคะ"
    "ยายนะ...นอนอยู่ในโรงพยาบาลนี้ตั้งกะยังไม่เกิดแผ่นดินไหวโน่นแน่ะ
    ญาติพี่น้องก็ไม่มีใคร โรคที่ป่วยก็ไม่มีทางรักษาแล้ว
    อีกไม่นาน ยายก็คงถึงเวลาที่จะตายแล้วล่ะ
    แต่ก่อนตาย ยายอยากจะคุยอะไรกับใครสักคนน่ะ"

    เสียงนั้นแหบพร่าแผ่วเบา เหมือนวิญญาณที่ขาดที่พึ่ง
    ฟังดูแล้วรู้สึกทันทีว่า คงจะต้องตายในไม่ช้า

    "อะไรกันคะ...ตายเตยอะไรกันคุณยาย"
    ยุมิโกะสะดุดใจ ก็กำลังคิดถึงเรื่องตายของตัวเองอยู่แท้ๆ
    แต่พอได้ยินคนอื่นพูดถึงเรื่องจะตายบ้าง ก็อดที่จะห้ามไม่ได้

    "อย่าพูดถึงเรื่องตายเลยค่ะคุณยายขา...
    ถ้าคุณยายไม่มีใครเลยล่ะก็ หนูนี่แหละค่ะจะเป็นเพื่อนให้คุณยายเอง"
    ยุมิโกะเข้าใจหาคำพูดอย่างฉลาดหลักแหลม

    แต่คุณยายค่อยๆส่ายหน้าอย่างช้าๆ
    "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ...ยายอายุแก่ปูนนี้แล้ว อยู่ไปก็ไม่มีอะไรสนุกในชีวิตแล้วล่ะ"

    ยุมิโกะคิดว่า ถึงอย่างไรก็ต้องหาทางช่วยอะไรคุณยายคนนี้สักอย่าง
    เรื่องความตายของตัวเอง ยังไงก็ยังไม่สายเกินไป ยังพอมีเวลาอยู่

    ตั้งแต่วันนั้น ยุมิโกะจึงพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่คุณยาย
    คุณยายพูดว่า ไม่มีอะไรสนุกในชีวิต งั้นต้องคิดเรื่องที่ทำให้สนุกให้ได้

    ยุมิโกะทำทุกอย่างแทนคุณยายที่เดินไม่ได้
    ตั้งแต่ไปหาหนังสืออ่านเล่นที่ห้องนั่งเล่นพักผ่อนสำหรับคนไข้ ขนมาอ่านให้คุณยายฟัง
    หาดอกไม้ที่ขึ้นตามพงหญ้าข้างนอกสวยๆแปลกๆ มาปักแจกันให้คุณยาย

    "โอ้...ขอบใจจ้ะ...ขอบใจจริงๆหลานเอ๊ย"
    คุณยายดีใจที่ยุมิโกะทำอะไรต่ออะไรให้

    คุณยายดีวันดีคืน หน้าตาสดใสขึ้น และทานอาหารได้มากขึ้น
    ยุมิโกะดีใจ คิดถึงแต่เรื่องที่จะทำให้คุณยายมีอารมณ์สดใสยินดีทุกวันๆ

    แล้วก็ถึงวันหนึ่งหลังจากที่พยาบาลเรียกตรวจปัสสาวะเสร็จสิ้น
    "อาการดีขึ้นขนาดนี้แล้ว พรุ่งนี้ก็คงจะออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะนะคะ
    ทางโรงพยาบาลเอง ก็สามารถติดต่อคุณลุงของคุณที่อยู่ที่ชิบะได้แล้วด้วย
    พรุ่งนี้ท่านจะมารับคุณที่โรงพยาบาลค่ะ"

    ออกจากโรงพยาบาล...ก็ต้องจากคุณยายไปด้วยนะสิ
    ไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่แผลอะไรก็หายหมดแล้ว
    จะอยู่โรงพยาบาลตลอดไปอย่างนี้ ก็คงไม่มีใครให้อยู่แน่ๆ

    แล้วจะพูดกับคุณยายอย่างไรดี มีหวังคุณยายคงจะเสียใจแหงๆ
    บางทีคุณยายอาจจะพูดเกี่ยวกับเรื่องตายขึ้นมาอีกก็ได้
    ทำเป็นเฉยๆเงียบไว้ถึงวันพรุ่งนี้ ทำเป็นเรื่องบังเอิญว่าคุณลุงมารับดีกว่า
    ยุมิโกะคิดแล้ว ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นเดินกลับเข้าไปในห้องคนไข้
    แต่คุณยายก็รู้เรื่องทั้งหมดอยู่แล้ว

    "ยินดีด้วยจ้ะยุมิจัง หนูจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม
    ดีแล้วล่ะลูก..." คุณยายพูดด้วยความยินดี
    คุณยายคงจะซ่อนความรู้สึกเสียใจเอาไว้แน่ๆเลย
    ยุมิโกะไม่รู้ว่าจะพูดกับคุณยายยังไง

    คุณยายเอามือของยุมิโกะไปกุมเอาไว้ แล้วถูหลังมือไปมาเบาๆ....
    มือของคุณยายช่างเป็นมือที่แสนอบอุ่นเหลือเกิน

    "ยุมิจัง...ขอบใจนะลูก...หนูเป็นคนที่ทำให้จิตใจยายเข้มแข็งขึ้น
    ไปอยู่ที่โน่นแล้วเขียนจดหมายมาหายายบ้างนะ
    เขียนเรื่องเพื่อนใหม่ โรงเรียนใหม่ทางโน้นมาให้ยายนะลูกนะ
    เวลาที่ยายได้รับจดหมายจากหนู ยายก็จะได้มีความพยายามอยู่ทางนี้เช่นกัน"
    "คุณยาย...."

    แล้วคุณยายก็พูดด้วยแววตาที่มีแต่ความเมตตาอ่อนโยน
    "ช่วยฟังเรื่องที่จะทำให้ยายดีใจสักเรื่องหนึ่งหน่อยได้ไหมลูก"
    "ได้สิคะคุณยาย...อะไรก็ได้ทั้งนั้นค่ะที่คุณยายอยากพูด"

    "ถุงความลับที่อยู่ในลิ้นชักเตียงหนูน่ะ....ยายอยากให้ทิ้งไปซะเถอะนะลูก"
    ยุมิโกะสะดุ้ง....

    จริงๆแล้วคุณยายรู้เรื่องมาทั้งหมดตั้งแต่ต้น...
    คุณยายรู้ว่าฉันตั้งใจจะฆ่าตัวตายมาตั้งแต่ตอนนั้น

    ฉันไม่ได้เป็นคนที่ช่วยให้คุณยายมีชีวิตที่จะรอดอยู่
    แต่ฉันเป็นคนที่ถูกคุณยายช่วยให้มีชีวิตรอดตะหากล่ะ

    ยุมิโกะร้องไห้โฮ...อยู่ในวงแขนของคุณยาย
    คุณยายที่แสนใจดีตลอดไปของยุมิโกะ
    ลูบหัวยุมิโกะด้วยความรักใคร่และมีเมตตา....

     
     

    จากคุณ : ปาน-Sapporo - [ 21 มี.ค. 47 00:37:19 ]