บันทึกเรื่องราวเมื่อวานลงในไดอารี่สีชมพู
รู้ตัวอีกที...มาถึงหน้าสุดท้ายอีกแล้วเหรอเนี่ย
พลิกดูหน้าแรกยังเป็น พ.ศ. 2545 อยู่เลย
หน้าสุดท้ายเป็น 2547 ซะละ... เร็วจริง!
ทั้งที่สมุดก็บางแค่นี้ แต่เก็บชีวิตฉันไว้ตั้งสามปีเชียวเหรอ
แสดงให้เห็นว่าเป็นช่วงชีวิตที่ขี้เกียจมาก
ทั้งๆ ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นตั้งมากมาย
แต่ไม่ยักจะเขียน
ในห้องนอนห้องที่ 6 ของชีวิต
หอบเอากล่องสมบัติออกมาจากที่ซ่อนลับ...
เอ้อเหอ กล่องมันใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
จำได้ว่าตอนย้ายออกจากบ้านแรกสุด
มันยังเป็นกล่องรองเท้าหุ้มข้อของน้องชายอยู่เลย
แต่ตอนนี้ โตขึ้นเยอะเชียว... เลี้ยงดีซีเนี่ย
ในนั้นมีความทรงจำมากมาย
ไดอารี่หลายสิบเล่ม
จดหมายจากคนที่ห่างกันไกล
จดหมายน้อยจากเพื่อนรัก-เพื่อนใจ
การ์ดวันเกิดหลายสิบปี
ส.ค.ส.นับตั้งแต่สมัยประถม...
อาจจะเป็นขยะสำหรับคนอื่น แต่มีค่ามากสำหรับคนรับ
ทะยอยๆ ลำเลียงข้าวของออกมาปัดฝุ่น
ปัดทั้งฝุ่นที่เกาะบนสมุด ทั้งฝุ่นที่เกาะในหัวใจ
คิดไปก็กลุ้ม ถ้าวันนี้ออกไปแล้วเกิดรถชนตายขึ้นมา
จากนั้น มีคนมาเจอเจ้ากล่องนี้เข้าจะทำยังไง...
หรือว่าจะเลิกซะที ไอ้นิสัยชอบเขียนไดอารี่เนี่ย
ปล่อยให้เล่มสีชมพูเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้าย... ดีมั้ย?
ยิ่งโต... ชีวิตมันยิ่งซับซ้อนนี่เนอะ
พอก็ดี
แล้วค่อยหาวิธีกำจัดพวกมันไปทีละเล่มก็ได้... ก่อนตาย
ระหว่างพลิกดูอันนู้นอันนี้ ให้หัวใจพอชุ่มชื้น
ให้กระแสความทรงจำได้ทำงาน
กระดาษฟูลสแก็ปสีซีดจางก็พลัดออกมาจากไดอารี่เล่มหนึ่ง
ทีแรกจำไม่ได้หรอก
แต่ดูอีกทีถึงรู้ว่าเป็นบทเพลง...
บทเพลงที่ไร้ท่วงทำนอง
จำได้ลางๆ ว่าเคยมีเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งมาขอให้เขียนเนื้อเพลงให้เขาหน่อย
นักแต่งเพลงเขาแต่งกันยังไง...ฉันไม่รู้หรอก
รู้แต่ว่าพอกลับถึงบ้านก็รีบลงมือเขียน
บทหัวกระดาษมีชื่อเพลงว่า "ไม่ได้ดีเท่าเธอคิด"
ฉันนั่งอ่านแล้วหัวเราะจนน้ำตาเล็ด
เล่าสไตล์ 'คดีเด็ด' ก็ต้องบอกว่า
เขียนไปได้!
เรื่องราวเป็นยังไงจำได้ไม่แม่นนัก
แต่เชื่อว่านักแต่งเพลงจริงๆ เขาต้องรอนักดนตรีทำทำนองออกมาก่อนถึงจะเขียน
แต่นักหัดแต่งคนนี้ เขียนออกมาได้ทั้งๆ ที่ยังไม่มีทำนอง
สุดท้ายคนขอก็หาทำนองมาลงให้จบไม่ได้
มีรอยดินสอจางๆ ของเขาขีดฆ่าบางคำ
เพื่อให้ร้องได้สะดวกปาก...
คงเป็นเพราะมีลายมือของเขามั่งที่ทำให้ฉันต้องเก็บมันไว้
แต่ก็จำไม่ได้แล้วว่าเจ้ากระดาษแผ่นนี้วนกลับมาที่ฉันได้ยังไง
แต่จำแม่นว่า คนขอให้เขียนแต่งทำนองไม่จบ... จบไม่ลง
ไม่รู้จะโทษใครดี
ระหว่างนักเขียนสาวไม่เข้าท่า กับนักดนตรีหนุ่มไม่เอาอ่าว
ความทรงจำค่อยรินไหล อาบอิ่มด้วยความสุขที่หอมหวาน
บรรจงสอดมันกลับเข้าที่เก่า
ปิดกล่องสมบัติแล้วยัดไว้ในที่ซ่อนลับอีกครั้ง
โกรธตัวเองนิดๆ ที่หลงลืมมันไป
เล่าสไตล์ 'คดีเด็ด' อีกที
ลืมไปได้!
เป็นคนนิสัยเสีย ความจำสั้น แรมมันน้อย
เวลาอ่านหนังสือก็ไม่ชอบจำตอนจบ
กับชีวิตที่เป็นเหมือนหนังสือเล่มใหญ่
ต้องมีตอนที่สนุกๆ หล่นหายไปแน่ ถ้าไม่หาอะไรคั่นเอาไว้
ว่าแล้วก็ออกไปหาซื้อไดอารี่เล่มใหม่ดีกว่า...
เรื่องกำจัดสมบัติพวกนี้ ค่อยเขียนไว้ในพินัยกรรมก็ได้
:)
จากคุณ :
นารูมิ
- [
22 มี.ค. 47 13:34:52
]