จ้าวสมุทร ตอนที่ 32 -การเดินทาง-
หลังเลิกเรียนในวันศุกร์ที่ สิบแปดกรกฎาคม อูวดลกับมาลาตีแยกตัวออกจากนาฏฐากับต่อศักดิ์เร็วกว่าทุก ๆ วัน แล้วก็รีบขึ้นรถเมล์มายังหาดชะอำทันที
นายบอกน้ารมณีย์แล้วใช่มั๊ย.. มาลาตีถาม
อืม..ฉันบอกแม่ฉันตอนเช้าแล้ว..ว่าจะไปกับเธอตอนเลิกเรียนเลย..อูวดลตอบอย่างเนือย ๆ
งั้นก็ไปกันเถอะ ฉันจอดเรือไว้ด้านโน้น.. มาลาตีชี้มือไปที่เรือ แล้วเดินนำอูวดลไปอย่างรวดเร็ว ไซมาความเร็วสูง.. จะออกจากสถานีอ่าวไทยตอนห้าโมงครึ่ง..ตอนนี้สามโมงครึ่งแล้ว
อูวดลเองก็เดินตามมาลาตีไปอย่างรวดเร็วเช่นกันและเขาทั้งสองก็คงจะเดินทางถึงเรือได้ภายในห้านาที ถ้าอูวดลไม่ได้พบกับสิ่งหนึ่งที่หันเหความสนใจของตัวเอง..
ชายแก่เสียสติกำลังเดินงก ๆ เงิ่น ๆ อยู่ตรงหน้าเขา.. ความสงสัยทั้งหมดในหัวของอูวดลเริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง.. และครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้ความสงสัยเล่นงานเขาฝ่ายเดียวอีกแล้ว
เดี๋ยวครับ.. อูวดลคว้าแขนชายแก่เสียสติไว้ ชายแก่หันมามองหน้าอูวดล.. ด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว
มาลาตีหันมามองอูวดล.. แล้วเดินกลับมาหาเขาด้วยความแปลกใจ อู.. ทำอะไรอยู่น่ะ.. เราต้องรีบไปนะ..
ขอเวลาฉันสักแป๊บแล้วกัน.. อูวดลพูดกับมาลาตี แล้วหันมาพูดกับชายแก่เสียสติ เอ่อ.. ลุงเคยเห็นจ้าวสมุทรเหรอครับ..
คำถามที่ตรงไปตรงมาของอูวดลสร้างความตกใจให้กับชายแก่เสียสติเป็นอย่างมาก.. มาลาตีเองก็ทำท่าสงสัยขึ้นมาเหมือนกันว่า อูวดลถามแบบนั้นไปทำไมและเพราะอะไร
ชายแก่ไม่ตอบ..ตาของเขาลุกวาวขึ้นอย่างหวาดกลัว ตัวสั่นเทิ้ม อย่า.. ฉันกลัว.. อย่า.. ชายเสียสติส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เซล้มลงไปกับพื้น แล้วคลานออกห่างจากอูวดลและมาลาตีที่มีสีหน้าตกใจกับภาพที่ได้เห็น ชายแก่ชันตัวให้ลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งหนีไปทันที
ดะ.. เดี๋ยวสิครับ อูวดลร้องเรียกไว้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว.. ชายแก่วิ่งออกไปได้ไกลเกินกว่าจะรั้วตัวไว้ได้
นี่.. มันเรื่องอะไรกัน.. อู.. มาลาตีถามออกมาด้วยความสงสัย
เอ่อ.. ไปขึ้นเรือก่อนเถอะ.. เดี๋ยวฉันจะเล่าให้เธอฟังทีหลัง.. อูวดลพูด แล้วเดินหนีไปที่เรือเร็วของมาลาตีที่จอดไว้ชายฝั่ง ทิ้งให้มาลาตีเดินตามอย่างงุนงง
อูวดลและมาลาตีกระโดดขึ้นไปบนเรือ.. มาลาตีติดเครื่องแล้วขับออกไปทันที
ทีนี้บอกฉันได้หรือยังว่ามีเรื่องอะไร.. มาลาตีมองหน้าอูวดลอย่างคาดคั้น นายเกี่ยวข้องอะไรกับ.. คนบ้าคนนั้น..
อูวดลถอนใจ ฉัน.. เคยเจอเขา..
ใช่.. ฉันก็เคยเจอ.. มาลาตีพูดด้วยน้ำเสียงที่เห็นว่าสิ่งที่อูวดลพูดนั้นเป็นเรื่องที่แสนจะปกติธรรมดา ก็เขาเดินเพ่นพ่านอยู่ตามชายหาด.. ใคร ๆ ก็เห็นเขา..
เขาเข้ามาบอกกับฉัน.. ว่าเขาเคยเจอจ้าวสมุทร.. อูวดลพูด
อะไรนะ.. มาลาตีขมวดคิ้ว เป็นไปไม่ได้..
แล้วเธอรู้มั๊ยว่าทำไมเขาถึงบ้า.. อูวดลถาม
ไม่รู้..
เขาออกเรือตอนที่พายุเข้า.. แล้วกลับมาเขาก็บ้า พร้อมกับพึมพำแต่คำว่า จ้าวสมุทร.. อูวดลพูด เขาเองก็ยังนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่จำข้อมูลเรื่องนี้ได้อย่างแม่นยำ
มาลาตียังยืนเงียบ เขาจึงพูดต่อ แล้วรู้มั๊ย.. ว่าเขาบรรยายเกี่ยวกับจ้าวสมุทรให้ฉันฟังว่ายังไง..
ว่ายังไงล่ะ..
เขาบอกว่า จ้าวสมุทรน่ากลัว.. ถือง้าวด้ามยาว.. แล้วก็ฆ่าคน..
ไม่จริง.. มาลาตีปฏิเสธเสียงแข็ง จ้าวสมุทรวาสุกรีไม่เคยฆ่าใคร..
นั่นแหละ.. คือสิ่งที่ฉันสงสัย.. แล้วทำไมชายเสียสติคนนั้นถึงบอกว่า จ้าวสมุทรโหดร้ายล่ะ.. อูวดลพูด
อู.. นายจะไปถือสาอะไรกับคนบ้า.. นายคิดว่าสิ่งที่คนแก่เสียสติคนหนึ่งพูดมันจะเชื่อถือได้สักแค่ไหนกัน
ใช่.. เขาบ้า แต่เขาบอกเขาบ้าเพราะจ้าวสมุทร.. อูวดลพูดเน้นเสียง
มาลาตีส่ายหน้าอย่างเอือมระอา อู.. นายก็รู้ดี ว่าจ้าวสมุทรวาสุกรีเป็นคนยังไง.. เขาไม่ฆ่าใครอยู่แล้ว ต่อให้คน ๆ นั้น ทำลายทะเลสักแค่ไหน.. เขามีวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีกว่านั้น..
อูวดลรู้ดีว่าจ้าวสมุทรวาสุกรีเป็นคนยังไง.. และถ้าหากมองด้วยมุมมองด้านเดียว.. เขาก็เชื่อมาลาตีว่าคนอย่างจ้าวสมุทรวาสุกรี.. ไม่น่าที่จะฆ่าใครได้.. แต่จะให้เขาเชื่ออย่างนั้นได้อย่างไร.. ในเมื่อ สิ่งที่เขาได้ยินจากคนที่เรียกได้ว่าเป็นคนบ้า ก็คือ.. ความโหดร้ายต่าง ๆ นา ๆ ที่ได้จากบุคคลที่ได้ชื่อว่าจ้าวสมุทร.. และอีกสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ จ้าวสมุทรวาสุกรีมีพลังเวท.. พลังที่สามารถทำลายชีวิตผู้คนที่อยู่กลางทะเลได้อย่างง่ายดาย
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ได้เถียงมาลาตี.. เขาคิดว่าปล่อยให้ความสงสัยอยู่ในตัวของเขาตามลำพัง คงจะดีกว่า
เรือเร็วของมาลาตีกำลังจะกลายสภาพเป็นรถยนต์ที่ปราศจากล้อและจมตัวลงสู่ใต้ทะเลแหวกฝูงปลาการ์ตูนที่กำลังว่ายหาอาหารต้องแตกออกเป็นสองกลุ่ม.. ยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกขับเคลื่อนขนานกับพื้นทรายออกไปอย่างรวดเร็ว..
อูวดลปล่อยใจให้เหม่อออกไปด้านนอกหน้าต่างกระจก.. ดอกไม้ทะเลหลากสีสันและแนวปะการัง.. ค่อย ๆ ลดลง ลดลง.. จนในที่สุดก็เหลือเพียงความมืดมิดแห่งท้องทะเลลึก.. มาลาตีเริ่มลดความเร็วยานพาหนะไม่มีชื่อเรียงลงและเปิดไฟส่องทาง ใต้ทะเลบริเวณนี้.. ไม่เหลืออะไรที่น่าดูน่าชมอีกแล้ว.. ภาพที่อูวดลเห็นด้านหลังหน้าต่างกระจกมีเพียงความมืด.. นาน ๆ ทีจึงจะมีปลาตัวใหญ่ ๆ ว่ายเข้ามาใกล้ให้ได้เห็นสักครั้ง
ยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกขับเคลื่อนฝ่าความมืดไปเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านไปได้สักชั่วโมงกว่า ๆ ก็จอดลงที่โพรงหินหน้าทางเข้าศูนย์การปกครองอ่าวไทย
ถึงแล้ว.. มาลาตีพูดพลางเปิดประตูที่อยู่ด้านบนแล้วปีนออกไปทันที.. อูวดลออกจากยานพาหนะไม่มีชื่อเรียก แล้วว่ายน้ำตามมาลาตีผ่านยานพาหนะไม่มีชื่อเรียกอีกสองคันที่จอดไว้ เข้าสู่โพรงหินที่มืดมิด ผ่านเยื่อกั้นน้ำเข้าสู่ห้องโถงทางเข้า-ออกของศูนย์การปกครองอ่าวไทย
จากคุณ :
Waasuthep
- [
23 มี.ค. 47 18:34:11
A:203.113.81.9 X:
]