...หัวใจหัวคืน...
บ้านสีตองเด่นสง่าอยู่กลางซอยที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นกล้วยเขียวขจี หน้าประตูรั้วสีไม้ไผ่ยังมีต้นชบาเบ่งบานอวดดอกสวยให้คนผ่านไปมาได้ชื่นชม ว่านขยับเป้ไปมาอย่างลังเล ตัดสินใจไม่ถูกว่าควรจะเข้าไปดีหรือเปล่า เสียงเฮฮาของคนในบ้านดังออกมาถึงหน้าบ้าน บ่งบอกถึงความสนุกสนานได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าหญิงสาวจะรู้จักกับรุธเจ้าของบ้านมาหลายปี แต่เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาทีไรใจก็ยังไม่เลิกสั่นไหว ก่อนหน้านั้นเธอรู้จักเขาในฐานะวิทยากรพิเศษที่มหาวิทยาลัยเชิญไปบรรยาย สี่ปีที่แล้วเขาเล่าความฝันของตัวเองในการฝ่าฟันอุปสรรคของการทำนิตยสารขึ้นมาเล่มหนึ่ง แม้ว่าจะทุกข์มากกว่าสุขในหนทางที่เขาเลือกเดิน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสุขใจที่ได้ฝัน ได้ลงมือทำ หญิงสาวชื่นชมและศรัทธาเขาอย่างมาก ก่อนเรียนจบเธอทำเรื่องขอฝึกงานกับนิตยสารของเขาและมีโอกาสใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ความตั้งใจ ความรับผิดชอบ เอื้ออาทรต่อลูกน้องเป็นภาพของเจ้านายในอุดมคติที่ไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของเธอ
หญิงสาวยอมรับกับใจตัวเองว่าเริ่มรู้สึกดีๆต่อเขามากขึ้น เขาเองก็ตอบสนองไมตรีของเธอดีเกินคาดเอาใจใส่ เป็นห่วงเป็นใยสารพัด เรียนจบก็ชวนเธอทำงานด้วยกัน แต่หญิงสาวไม่อยากได้รับสิทธิ์พิเศษใดๆ จึงเลือกที่จะไม่ทำงานกับเขาแต่เรียนต่อเพิ่มเติมทางภาษาเพราะเธออยากจะเอาดีทางด้านงานแปลหนังสือ รุธรู้ว่าว่านรักงานเขียนมากเขาเปิดคอลัมน์หนึ่งให้เธอเขียนเป็นประจำทุกเดือนเป็นคอลัมน์สัมภาษณ์หนุ่มสาวรุ่นใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน โดยมีความฝันเป็นแรงผลักดัน คอลัมน์ได้รับความนิยมมากทีเดียว ว่านยึดเอารุธเป็นต้นแบบในการทำงาน
เธอยืนคิดเรื่องของเขาเพลินจนลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา แต่ท่าทางเขาน่าจะได้สนุกกับเพื่อนๆอย่างเต็มที่ ถ้าเธอเข้าไปเขาต้องมาเสียเวลาคอยดูแลเธออีก ว่านไม่ต้องการแบบนั้น ในที่สุดหญิงสาวก็ได้ข้อสรุปกับตัวเองด้วยการหันหลังให้รั้วบ้านแล้วเดินจากไป แต่ประตูบ้านกลับถูกผลักออกมา
น้องว่านนั่นเองจะไปไหนล่ะ เจ้าของวันเกิดกำลังอารมณ์บูดอยู่เลย นึกว่าคนพิเศษจะเบี้ยวเสียแล้ว
สาวผมฟู แต่งตัวเหมือนพวกฮิปปี้ทักทายว่านด้วยรอยยิ้ม เธอแอบถอนหายใจรู้สึกเข้าตาจนก็คราวนี้ หญิงสาวเดินตามแรงฉุดไปอย่างว่าง่าย ในนั้นมีหนุ่มสาวหลายคนกำลังร้องรำ ทำเพลงอยู่อย่างเมามัน ว่านเห็นอาการของแต่ละคนก็รู้ดีว่าคง ได้ที่ แล้ว เธอยิ้มทักทาย พยายามกวาดตามองหาเจ้าของบ้านที่เธอยังไม่อยากเจอตอนนี้ สาวผมฟูคนเดิมส่งน้ำให้เธอ หญิงสาวเอ่ยขอบคุณดีเหมือนกันจะได้ตั้งหลักได้บ้าง น้ำเย็นช่วยให้จิตใจที่เริ่มร้อนเย็นลงได้บ้างแม้จะไม่มากก็ตาม เธอหันรีหันขวางเลือกไม่ถูกว่าจะนั่งตรงไหน ผู้ชายคนหนึ่งที่เธอไม่คุ้นหน้าลุกจากม้ายาวริมหน้าต่างไปพอดีเพราะอีกคนเรียกให้ไปนั่งร่วมวง ว่านจึงไปนั่งแทนที่เขา แต่ยังไม่ทันนั่งเธอก็โดนฉุดแขนลากออกไปจากบ้านเสียก่อน
ตามสบายนะทุกคน
รุธนั่นเอง เขากึ่งลากกึ่งจูงเธอไปที่สวนหย่อมข้างบ้าน เสียงน้ำตกไหลผ่านหินช่างไพเราะเหลือเกิน ชายหนุ่มลงทุนออกแบบและทำด้วยตัวเอง ปลาตัวน้อยใหญ่ว่ายวนเวียนไปมา กังหนหมุนเมื่อต้องลม กระดิ่งลมรอบบ้านส่งเสียงกุ๋งกิ๋งน่าสบายเหลือเกิน ถ้าเป็นเวลาปกติว่านคงรีบไปนั่งใกล้น้ำตกแต่เวลานี้พื้นที่ของเธอกำลังถูกจำกัด ด้วยผู้ชายหน้าเหี้ยมๆ คนหนึ่ง หนวดเคราของเขายิ่งเสริมให้เขาดุดันมากยิ่งขึ้น หน้าเขาแดงก่ำด้วยฤทธิ์ของน้ำเมา ดวงตานั้นคุกคามอย่างร้ายกาจ ว่านไม่พยายามมองหน้าเขา เธอส่งยิ้มทักทายก่อนเป็นการอุ่นเครื่องเผื่อสถานการณ์ต่างๆจะดีขึ้น แต่เธอคิดผิดเพราะดูจากรูปการณ์แล้วเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกเป็นผู้ต้องหาที่ก่อคดีร้ายแรงโดยมีเจ้าหน้าที่สอบสวนอย่างหนัก แต่ต่างกันตรงที่เจ้าหน้าที่ผู้นี้ไม่ได้ใช้คำพูดซักถามจำเลยหากแต่ใช้สายตาที่เครียดขึ้งจับจ้องเพียงอย่างเดียว อึดอัดน่าดู จะพูดก็ไม่ยอมพูด ว่านไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องใช้สงครามเย็นเล่นงานเธอด้วย แต่เธอต้องไม่หวาดผวาให้เขาได้ใจ
ว่านก้มลงมองเป้ในมือเหมือนเป็นเพื่อนรักที่สุดในยามนี้ อย่างน้อยก็ช่วยดึงความสนใจจากเขาไปได้ เธอลูบซิบลงก่อนจะหยิบกล่องของขวัญสีเขียวส่งให้เขา
สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณรุธ
พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมส่งสายตาขอโทษเป็นระยะ
ไม่เอา ไม่เต็มใจที่จะมาแล้วโผล่มาหาสวรรค์วิมานอะไร
ว่านสะดุ้งสุดตัว เธอหน้าเสีย ปากเริ่มสั่น เพราะเสียงตะคอกของเขา ถ้าเขาพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาหญิงสาวคงไม่ตกใจเท่านี้ แล้วดูสิของขวัญที่เธอตั้งใจห่อถูกปัดกระเด็นไปที่สนามหญ้า
ไม่ใช่ไม่เต็มใจมา แต่ว่านอยากให้คุณรุธสนุกกับเพื่อนๆมากกว่า
กว่าจะหลุดประโยคนั้นออกมาได้เธอคิดแล้วคิดอีกว่าดีที่สุดแล้วในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ แต่เธอคิดผิดอีกจนได้ เพราะเขาหันขวับมาหาเธอ
โกหก ถ้าเต็มใจมาจริงยืนรออะไรอยู่หน้าบ้าน ทำไมไม่รีบเข้ามา นี่ถ้าเพื่อนผมไม่ออกไปเจอคุณคงกลับไปแล้วใช่ไหม
ว่านนิ่วหน้าเพราะเจ็บ เขาเขย่าแขนเธอราวกับต้องการระบายอารมณ์ ผู้ชายคนนี้อารมณ์แรง อย่าทำให้เขาโกรธเป็นดีที่สุด หญิงสาวเจ็บร้าวไปทั้งต้นแขน
ตอบสิ ผมถามว่าใช่ไหม
คุณรุธ ว่านเจ็บค่ะ
เธอพูดเหมือนกระซิบ แผ่วเบายิ่งนัก ดูเหมือนเขาจะรู้สึกตัว ปล่อยมือจากต้นแขนในทันทีแล้วหันหลังกลับไปมองเพื่อนๆในบ้าน ว่านค่อยๆลุกขึ้นเธอเอื้อมมือไปแตะหลังเขา เขายังนิ่งอยู่
ใช่สิ! ผมมันน่าจะรู้ตัวว่าเป็นที่รังเกียจของครอบครัวไฮโซของคุณนี่ ชีวิตของพวกผมมันไร้แก่นสาร ขาดความมั่นคงไม่มีความเริ่ดหรู ร่ำรวยอย่างที่พ่อแม่คุณต้องการ
ว่านพยายามบอกกับตัวเองว่าเขากำลังพาล ผู้ชายตัวโตกำลังทำตัวเหมือนเด็กเกเรเพราะไม่ได้ดั่งใจ เธอใช้น้ำเย็นเข้าช่วย ขืนร้อนกับร้อนมาเจอกันได้ลุกไหม้ใหญ่โต
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ว่านจะมาหาคุณรุธทำไมล่ะค่ะ เพียงแต่ว่านอยากให้คุณรุธสนุกกับเพื่อนมากกว่าที่จะอยู่กับว่าน
ไม่ต้องหาข้ออ้างให้ตัวเองพ้นผิดเลย คุณอยากปั่นหัวผมเล่นไง แค่นี้คงไม่สะใจคุณ ต้องให้ผมคลั่งลงไปกับพื้นคุณถึงพอใจใช่ไหม
ถ้าคำพูดของเขาเป็นแส้ เธอคงเจ็บปวดมากมาย แม้ร่างกายจะไม่ถูกทำร้ายแต่ใจกลับบอบช้ำ ทำไมเขาถึงช่างประชด ถากถางเธอนักนะ มาง้อถึงขนาดนี้เขายังไม่หายโกรธก็จนปัญญาแล้ว หญิงสาวตัดสินใจจะกลับ แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ทันรีบเข้ามาขวางและจับมือเธอไว้ ว่านนิ่งเงียบมองเขาด้วยความไม่แน่ใจ รุธคลี่ยิ้มออกมา ใบหน้าดุดันนั้นสว่างสดใส น่ามองอย่างประหลาด
ผมขอโทษ หงุดหงิดที่ไม่เห็นว่านมาสักที อย่าโกรธผมเลยนะครับคนดี
บทจะออดอ้อนขึ้นมาก็ทำเอาเธอตามไม่ทัน เขาจูงเธอไปนั่งที่เก้าอี้ ส่วนตัวเองก็เดินไปหยิบกล่องของขวัญมาถือไว้แล้วมองอย่างภูมิใจ
ขอบคุณนะครับว่าน
ไม่เป็นไรค่ะ ว่านเต็มใจให้คุณรุธ เพียงแต่คุณรุธเข้าใจว่านก็พอ
คำพูดของหญิงสาวสร้างความละอายใจแก่ชายหนุ่มไม่น้อย หากเป็นผู้หญิงอื่นคงร้องไห้โวยวายใส่เขาไปแล้วที่ทำกริยาหยาบคายใส่เธอ แต่สำหรับว่าน เธอได้แต่นิ่งเงียบ รอคอยให้เขาอารมณ์เย็นลง
..........................................................
สำนักพิมพ์ค่อนข้างวุ่นวาย เพราะวันนี้มีถ่ายปกนางแบบสุดฮอตในสตูดิโอ รุธในฐานะบรรณาธิการนิตยสารวัยรุ่นชื่อดังต้องไปยืนคุมงานด้วยตัวเอง ทั้งกล้อง เสื้อผ้า ฉากพร้อมหมดแล้ว คงเหลือแต่นางแบบเท่านั้นที่ยังไม่มา
นัดไว้กี่โมง
สิบโมงครับพี่
จากคุณ :
นางสาวสยาม
- [
25 มี.ค. 47 10:53:20
A:203.107.161.143 X:
]