๑.ไม่เคยคิดเลยว่าชะตาชีวิตจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วในเพียงเวลาชั่วข้ามคืน การตัดสินใจชั่ววูบเพียงครั้งเดียว มันทำให้ลมหายใจครั้งต่อไปมีแต่ความหวาดกลัว หวั่นผวา ถ้าตอนนั้นผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงจุดนั้น ถ้าตอนนั้นผมถอยหนีออกมาก่อน ถ้าตอนนั้นรถเมล์สายที่ผมรอมาตรงเวลาตามปกติ ถ้าตอนนั้นผมไม่ได้นำสิ่งนั้นติดตัวไปด้วย และถ้าตอนนั้นสถานการณ์ไม่บีบบังคับผมให้เหมือนหมาจนตรอก ถ้าเรื่องเหล่านั้นไม่เกิดขึ้น ผมเชื่อว่าการระบายลมหายใจครั้งต่อไป คงให้ความรู้สึกแตกต่างกับสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้อย่างแน่นอน
ผมกำลัง วิ่งหนีสุดชีวิต วิ่งไปข้างหน้าโดยไม่รู้จุดหมาย ในหัวคิดถึงแต่สัญชาติญาณการเอาตัวรอด ผมวิ่งผ่าฝูงชนคนแล้วคนเล่า กำแพงมนุษย์ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด ผมคิดแต่เพียงว่าต้องผ่าออกไปให้ได้ ต้องหนีไปให้ไกลที่สุด
ผมไม่รู้ว่าข้างหลังมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหลังจากผมวิ่งหนีมา ความโกลาหล โหวกเหวกร้องตะโกน ค่อยๆแว่วเสียงจางหายไปทุกขณะ
ไม่รู้ว่ามีใครไล่ตามมาหรือเปล่า ผมไม่กล้าหันหลังกลับไปดู คิดได้แต่เพียงว่าผมต้องหนี ต้องหนีไปจากที่นี่ให้ไกลที่สุด ในคืนนั้น ในตอนนั้น ผมคิดได้เพียงแค่นี้
สมองยังหาทางออกที่ดีที่สุดไม่ได้นอกจากสาวเท้าวิ่ง ภาพสองข้างทางวิ่งผ่านร่างไปอย่างรวดเร็ว ผมรู้สึกเหมือนสายลมกำลังหอบอุ้มไปยังที่แสนไกล สองขาสับรัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ลมหายใจเริ่มหอบถี่ราวกับขอร้องให้ผิวหนังแบ่งเบาภาระการดูดกลืนออกซิเจนบ้าง ปอดสองข้างต้องทำงานหนักกว่าที่เคย
เหงื่อรสเปรี้ยวไหลกระเซ็นหายไปกับสายลม แผ่นหลังชุ่มไปด้วยรอยน้ำ เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวเปียกชุ่มไปทุกเส้นใย ผมยกมือกุมไว้บนอกข้างซ้าย ถึงแม้จะเหนื่อยเพียงใด ร่างกายจะสิ้นแรง หมดแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถหยุดได้ ผมไม่มีความกล้าพอที่จะหยุดและหันไปมองข้างหลัง
เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเร็วซะจนผมตั้งตัวไม่ติด ตั้งสติไม่ทัน ผมไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมต้องเกิดขึ้นและทำไมคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต้องเป็นผม
ผมยังคงเร่งฝีเท้าหนีห่างจากจุดๆนั้น หวังว่าด้วยกำลังที่มีทั้งหมดจะพาผมหนีได้ไกลพอที่อดีตจะไล่ตามมาไม่ทัน
เมื่อถึงจุดที่หัวใจจะเต้นทะลักออกจากทรวงอก ลมหายใจติดขัด สายตาฝ้าฟางคล้ายจะเป็นลม ผมหยุดวิ่งสองมือปล่อยวางก้มตัวดันหัวเข่า ตาพร่ามัวมองที่พื้น ช่องปากและโพรงจมูกอัดลมหายใจหอบกระหาย เลือดลมสูบฉีดแรงเร้า เหงื่อเม็ดน้อยรวมตัวกันเป็นหยาดสายไหลลงสู่ที่ต่ำ
ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมดหันกลับมองข้างหลัง ผมไม่รู้ว่าถ้าหันกลับไปแล้วมีบุคคลใดหรือสิ่งใดตามมาผมจะทำยังไงต่อ ผมไม่รู้ว่าจะมีกำลังมากพอที่จะก้าวขาได้อีกครั้งหรือเปล่า และถ้าต้องทำเช่นนั้นผมจะไปได้ไกลแค่ไหน
เมื่อหันกลับไป ผมกวาดตามองรอบๆ ทั้งระยะใกล้ ไกล ตาเพ่งหรี่ คิ้วย่นขมวดชนกัน ผมโล่งหายใจเฮือกใหญ่ ในที่สุดก็หนีสำเร็จ ไม่มีวี่แววของผู้ไล่ล่าคนใดเลยในระยะสายตา กวาดตามองรอบตัวอีกครั้ง ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนกัน ทำไมไม่รู้สึกคุ้นตาเลย หรือว่าผมหนีหลงมาไกลเกินไป
ขณะกำลังรวบรวมสติหาทางออกอีกครั้งในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินผ่านมา ผมชำเลืองสายตามอง เธอสบตาผมหนึ่งแวบแล้วชักสีหน้าตกใจ รีบเดินจ้ำอ้าวสาวเท้าหนีไป ความวิตกกังวลวิ่งวนเข้ามาในใจอีกครั้ง หรือว่าเธอจะรู้ว่าผมไปทำอะไรมา หรือว่าผมยังหนีมาไกลไม่พอ
ปาดเหงื่อบนใบหน้าสะบัดทิ้ง เห็นทีจะอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องหาทางหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วแค่ไหนล่ะ ถึงจะไกลพอ ผมตั้งคำถามยากๆกับตัวเอง
รวมรวบสติที่กระจัดกระจายอีกครั้ง มองหาแท็กซี่มิเตอร์บนถนนหวังจะโบกเรียก แล้วกลับไปตั้งหลักหาทางแก้ไขที่บ้าน แต่ว่ากวักโบกเรียกกี่คันต่อกี่คันก็ไม่ยอกจอดรับ สองมือกำแน่นสะบัดศีรษะด้วยความโมโห ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
สายน้ำบางอย่างกระเซ็นสู่พื้นด้วยแรงสะบัด ปลายตาแวบมองด้วยความสงสัย มันไม่ใช่เหงื่อนี่ ผมสังเกตที่พื้นถนน ลิ่มเลือดสี่แดงฉานเกาะอยู่ตรงพื้นและปลายเท้า มันคืออะไร เลือดมาจากไหน เลือดของใคร
เอามือลูกครำศีรษะ ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นเข้ามาฉับพลัน ลดมือลงมองในระดับสายตาของเหลวสีแดงข้นติดปลายนิ้วออกมา
ผมพึ่งรู้สึกว่าตัวว่าหัวแตก หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ความหวาดกลัวผสามกับความสับสนทำให้ผมไม่สามารถตรวจสอบความเรียบร้อยปลอดภัยของตัวเองได้เลย กว่าจะรู้ตัวว่าได้รับบาดเจ็บ เลือดข้นจากบาดแผลบนศีรษะก็เกาะตัวกลายเป็นลิ่มเสียแล้ว
สถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงกว่าเดิมเมื่อผมรู้สึกตัวว่าได้รับบาดเจ็บ บาดแผลและรอยเลือดมันทำให้สมองฟุ้งจินตนาการไปต่างๆนานา ความหวาดกลัวปะทุขึ้นอีกระลอก ผมต้องหาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด มือทั้งสองล้วงกระชับในกระเป๋ากางเกง ยมทูตแห่งความตายยังนอนสงบนิ่งอยู่ที่เดิม
เริ่มรู้สึกปลอดภัยเป็นครั้งแรกเมื่อมาถึงบ้าน คิดเข้าข้างตัวเองว่าคงไม่มีใครจำหน้าผมได้ คงไม่มีใครสะกดรอยตามมา เรื่องทั้งหมดได้จบลงแล้ว ชีวิตพรุ่งนี้คงกลับเป็นปกติ ความผิดที่ทำไว้มันคงวิ่งตามมาไม่ทัน
ผมล้วงยมทูตแห่งความตายออกจากกระเป๋ากางเกง สายตาสอดส่องหาซอกหลืบในบ้านที่จะซุกซ่อนมันไว้ เพราะถ้ามีใครมาเจอเข้าผมคงต้องแก้ตัวพัลวันแน่นๆ หรือบางทีผมอาจจะได้ได้นอนที่บ้านหลังนี้เป็นเวลาอีกหลายปีทีเดียว
บาดแผลที่ศีรษะเริ่มสมานตัวกันแล้ว ผมปรายมือสัมผัสรอยแผลมันไม่สาหัสเท่าไรไม่ถึงกับต้องเย็บแผล ถอดเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระล้างร่างกายอันเหนื่อยล้า สายน้ำจากฝักบัวชำระล้างคราบสกปรกออกไปจนหมดแต่ไม่อาจชำระล้างความวิตกกังวลออกไปได้เลยแม้แต่น้อย
เดินโรยแรงออกจากห้องน้ำ หยิบยาล้างแผลกับทินเจอไอโอดีนในตู้ยา ปั้นสำลีชุบน้ำยาล้างแผลจนชุ่ม กัดพัดปาดโปะสำลีกับรอยแยกตรงศีรษะ ความเจ็บแสบวิ่งแล่นขึ้นอีกครั้ง ปั้นสำลีก้อนที่สองชุบทินเจอไอโอดีนสีเหลืองข้นวางนาบลงบนแผลอีกครั้ง ความแสบทุเลาลงแต่ความเจ็บยังเหมือนเดิม ปล่อยสำสีก้อนที่สองลงมาดู น้ำสีแดงกับสีเหลืองผสมผสานกันอย่างน่ากลัว
รอยสีผสมในสำลีทำให้ผมหวนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ผมคิดว่าหลบพ้นแล้ว แต่มันก็ไม่พ้น แรงส่งก้อนขึ้นจากมือชายกลุ่มหนึ่งแหวกอากาศมาจนกระทบศีรษะผมโดยไม่รู้ตัว
ผมพยายามนึกไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่เลิกเรียน ก้าวพ้นออกจากรั้วเทคนิค เดินตามทางที่เคยเดินประจำทุกวัน รอรถตรงป้ายรถเมล์กลับบ้าน การรอคอยครั้งนี้นานกว่าทุกวัน รถเมล์มาช้ากว่าปกติ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงก็ยังไม่มา แต่มีบางอย่างมาแทน
รถเมล์คันหนึ่งจอดเทียบป้ายตามปกติ แต่มีบางอย่างผิดปกติ ปลายตาแวบมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งบนรถแผ่รังสีอำหิตเข้าใส่ ผมพยายามเลี่ยงสายตาไม่มอง แต่ก็ไม่พ้น ชั่วอึดใจหนึ่งในคนกลุ่มนั้นชี้มือมาทางผม ปากร้องตะโกน คนข้างๆชักมีดปลายแหลมออกจากขอบกางเกง และทั้งหมดก็วิ่งกรูมาทางผม
ผมซักสีหน้าตกใจด้วยความกลัว ขาทั้งสองข้างชาแข็ง มือสั่นทำอะไรไม่ถูก คนถือมีดวิ่งเข้ามาใกล้ทุกทีๆ ภาพต่างๆเริ่มรางเลือน เมื่อสองมือล้วงเข้าหยิบบ้างสิ่งบางอย่างในกระเป๋ากางเกง
หลังจากเสียงก้องกัมปนาทลั่นดัง ผมวิ่งหนีสุดชีวิต ผมไม่รู้ว่าการป้องกันตัวของผมทำให้ใครได้รับบาดเจ็บบ้าง ผมวิ่งหนีสุดชีวิต และแว่วๆดังโป๊กคงเป็นเสียงก้อนหินกระทบศีรษะกระมัง
แล้วเสียงหวีดร้องที่ไล่หลังมาในตอนนั้นล่ะ เสียงใคร แล้วคนกลุ่มนั้นมันคือใคร ทำไมจ้องอาฆาตพยาบาทผมด้วย
ผมคิดโน้นคิดนี่ไปเรื่อยจนหลับ ไม่รู้ว่าลูกตะกั่วจากปืนปากกานอนสงบนิ่งอยู่ที่ใด
จากคุณ :
เรือ่ยเปื่อยไปวันๆ
- [
25 มี.ค. 47 14:03:13
A:203.155.224.197 X:
]