เพียงเพราะรักเจ้า

    ขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้พี่ๆ เพื่อนๆ ในถนนแห่งนี้ช่วยวิจารณ์ด้วยนะคะ
    พอดีได้ไอเดียเขียนเรื่องนี้ตอนที่กำลังเศร้า เหงา เนื่องจาต้องอยู่หอคนเดียว ฮือๆ ปิดsummer ทั้งทียังต้องมีเรียนหนังสืออีก  เศร้าใจจัง
    ฝากไว้ด้วยนะคะ
    ********************************

    “ไม่ว่าจะต้องทนทุกข์สักเท่าไร
    ไม่ว่าจะต้องรออีกนานเพียงไร
    หนึ่งชีวิตหนึ่งดวงใจดวงน้อยนี้
    แม่ขอปกป้องดูแลเจ้าตราบชีพวาย…”


    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกรรมแต่ชาติปางใดที่ทำให้เจ้าต้องเกิดมาในสภาพเช่นนี้  แม่ไม่รู้ว่าโลกใบนี้จะมีพระเจ้าอยู่จริงหรือไม่  หากมีจริง…แม่ก็ขอให้ความดีและบุญทั้งหมดที่เคยสั่งสมมา  ดลบันดาลให้ลูกของแม่อยู่รอดปลอดภัย…

    ใครเล่าจะรู้ว่าชีวิตนี้จะต้องพานพบกับเรื่องราวเลวร้ายเกินทานทน  ยามเมื่อคลอดเจ้าออกมา  แม่มีแต่ความปิติ  ชื่นชมยินดี  เลือดในอกแท้ๆ ของแม่ได้ลืมตาดูโลกนี้  มันเป็นความสุขที่สุขเหนือคำบรรยายใดๆ จะพรรณนาถึง  ทว่าสุขนั้นกลับอยู่ได้เพียงไม่นาน

    หลายเดือนที่เฝ้าประคบประหงมเจ้าราวกับไข่ในหิน  ทุกอย่างในชีวิต  ทั้งเงินทอง  ความรัก  ความเอาใจใส่  แม่ทุ่มเททั้งชีวิตและแรงกายเพื่อให้เจ้าเติบใหญ่  หวังเพียงให้เจ้าเติบโตขึ้นมาเป็นหนุ่มน้อยรูปงามที่มีแต่สุขและสมบูรณ์ในแต่ละวันของชีวิต

    ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก  แม่ไม่เคยรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรค  พ่อของเจ้าก็เช่นกัน  เราสองคนไม่เคยล่วงรู้ถึงโรคประหลาด…ฆาตรกรร้ายที่กำลังจะพรากเจ้าไปจากอกแม่
    วันหนึ่งท่ามกลางแสงสีทองอ่อนๆ ในยามเช้า  ความสุขทั้งหมดในชีวิตก็กลับมลายหายสิ้นไปในพริบตา  เมื่อแม่เริ่มสังเกตเห็นความผิดปรกติที่เกิดขึ้นกับลูกน้อย

    ด้วยวัยของเด็กทารกที่เริ่มจะหัดคว่ำตัว  การเจริญเติบโตของเจ้าดูพัฒนาไปได้ช้ากว่าเด็กคนอื่นๆ  ตัวของเจ้าเล็กและแลดูแคระแกรนไม่ต่างจากยามเมื่อแรกเกิด  ผิวพรรณที่ควรจะเปล่งปลั่งด้วยวัยแรกแย้มกลับดูซีดเผือด  จมูกน้อยๆ ดูแบนเรียบ  โหนกแก้มสูงอีกทั้งหน้าผากโหนก  หากความผิดปรกติที่เด่นชัดที่สุดก็คือบริเวณนัยน์ตาขาวที่เริ่มมีสีเหลือง  ยิ่งนับวันผ่านไปอาการเหล่านี้ก็ยิ่งปรากฏชัดขึ้น  บริเวณท้องป่องขึ้นมาจนน่ากลัว  แขนขาลีบ  และตัวเล็กผิดปรกติ

    ความหวาดกลัวต่อความเป็นจริงแล่นเข้าสู่หัวใจยามเมื่อพาเจ้าไปหาหมอ  คำพูดของหมอในวันนั้นไม่ต่างจากมีดนับร้อยนับพันเล่มพุ่งเข้าทิ่มแทงหัวใจของแม่
    “ลูกของคุณป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียครับ” ราวกับนี่คำพิพากษา  ตัดสินชะตาชีวิตของแม่และเจ้านับแต่วันนั้นมา
    ในค่ำคืนนั้นน้ำตาของแม่ไหลออกมาจนแทบจะเป็นสายเลือด  ยามมองดูเจ้าหลับสนิทอยู่บนเตียง  ภาพๆ นั้นไม่ต่างไปจากเทวดาองค์น้อยผู้เสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์  เจ้าเป็นทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของแม่  หากวันใดแม่จำต้องสูญเสียเจ้าไป  ชีวิตนี้แม่จะสามารถอยู่ได้อย่างไร


    แม่ไม่ยอมหรอก…

    ไม่ว่ายมทูตหรือโรคร้ายใดก็ไม่อาจพรากเจ้าไปจากอกได้  แม่จะใช้สองมือและเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่รั้งเจ้าไว้ให้ถึงที่สุด

    จากวันนั้นเป็นต้นมา  แม่ลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่  กลับมาเป็นแม่บ้านและทำหน้าที่ของ ”แม่” ให้ดีที่สุด  แม้เวลาของเราสองคนจะเหลือน้อย  แต่แม่ก็จะทำทุกอย่างเพื่อยืดวันและเวลาทั้งหมดให้ยาวนานต่อไป  เพื่อให้เจ้าได้มีชีวิตและเรียนรู้โลกใบนี้

    ธาลัสซีเมียเป็นโรคทางพันธุกรรมที่มีสาเหตุมาจากตัวพ่อและแม่เอง  ทั้งๆ ที่เจ้าไม่ได้มีความผิดใดเลย  มันเป็นกรรมที่พ่อกับแม่สร้างขึ้น  หากเจ้ากลับเป็นผู้รับกรรมนั้นไปแต่เพียงลำพัง
    โลกนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับเราเสียเลย…

    ธาลัสซีเมียเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคที่มีอาการเลือดจาง (หลายคนเรียกโรคนี้ว่าโรคโลหิตจาง)  โรคนี้สามารถแบ่งออกเป็นสองชนิดคือ อัลฟ่า-ธาลัสซีเมีย  และ เบต้า-ธาลัสซีเมีย  โดยโรคนี้จะเกิดมาจากพ่อและแม่ซึ่งเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียในชนิดเดียวกัน  เพราะถ้าพ่อหรือแม่เป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียต่างชนิดกัน  ลูกที่เกิดออกมาจะไม่มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้

    ทว่าพ่อกับแม่กลับไม่รู้ถึงผลร้ายแรง…ฆาตรกรที่แฝงกายอยู่ในร่างของเราทั้งสอง  พวกเราไม่ได้ไปตรวจหาโรคร้ายนี้ก่อนแต่งงาน  ทำให้ไม่เคยรู้เลยว่าเราสองคนคือพาหะนำโรคธาลัสซีเมีย
    โดยปรกติแล้วผู้ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียมักมีอายุอยู่ได้ไม่นาน  แต่ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย  เพราะบางคนก็อาจมีชีวิตอยู่ได้นานถึงสิบปี

    ฟังดูอาจเป็นระยะเวลาที่น้อยนิด  แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็ดีกว่าที่จะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้
    กำลังใจของแม่เริ่มทอแสงส่องลงมาท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมไปด้วยหมอกหนา  แม่จะยื้อเจ้าไว้ให้ถึงที่สุดเพื่อสักวันหนึ่งไม่ไกลจากนี้  ในอนาคตโรคธาลัสซีเมียอาจมีวิทยาการทางการแพทย์ที่สามารถเยียวยารักษาให้หายขาดได้

    นั่นเป็นกำลังใจและสิ่งเดียวที่แม่ยึดไว้ตลอดระยะเวลาหลายปี  แม่แทบไม่เคยละสายตาจากเจ้าแม้เพียงวินาทีเดียว  ยามเจ้าหลับแม่มักนั่งมองดูเจ้า  มองดูหน้าอกน้อยๆ กระเพื่อมขึ้น ลง ตามจังหวะของการหายใจ  นับเป็นภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิตที่เคยเห็นมา

    แม่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เจ้าสามารถใช้ชีวิตเหมือนเด็กปรกติ  แต่มันเป็นการยากเหลือเกินเนื่องจากร่างกายของเจ้าอ่อนแอกว่าเด็กทั่วไปมาก  แม่ต้องพาเจ้าไปรับเลือดที่โรงพยาบาลทุกเดือน  ทุกครั้งยามเจ้าร้องไห้  น้ำหูน้ำตาไหลเนื่องจากกลัวความเจ็บปวดที่จะได้รับจากการรับเลือด  เจ้าไม่รู้หรอกว่าแม่นั้นทุกข์เพียงใด  แม้ไม่มีน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม  แต่หัวใจดวงนี้กลับชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตายามเห็นแขนน้อยๆ ต้องพรุนไปด้วยรอยเข็ม

    ไม่มีวิธีการอื่นใดเลยหรือ… ให้แม่เจ็บแทนที่จะต้องเห็นเจ้าเจ็บยังจะดีเสียกว่า…

    อาการของเจ้าดูแย่ลงเป็นลำดับ  หน้าตาเปลี่ยนไปเป็นแบบเฉพาะของผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย  ยิ่งโตก็สามารถมองเห็นได้ชัดยิ่งขึ้น  ท้องที่เคยป่องอยู่แล้วก็ป่องยิ่งขึ้นเนื่องจากตับและม้ามโตผิดปรกติ  แขนขาลีบเล็ก  หัวใจโต  และกระดูกเปราะบางหักง่าย  จนหลายครั้งที่แม่ไม่ทันระวัง  ปล่อยให้เจ้าเล่นซน  กระดูกหักจนต้องถูกดามแขนดามขาไปหลายสัปดาห์

    การดูแลสุขภาพของเจ้าจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด  เนื่องจากเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้  นอกจากจะมีสุขภาพอ่อนแอแล้ว  ภาวะแทรกซ้อนจากโรคต่างๆ ก็มากขึ้นตามลำดับ  หนึ่งในนั้นก็คือภาวะธาตุเหล็กคั่งในร่างกาย  เนื่องจากทุกครั้งที่ได้รับเลือด  เจ้าจะได้รับธาตุเหล็กเข้าไปด้วย  

    แม่จึงกลายมาเป็นผู้จัดการเรื่องอาหารการกินของเจ้าในทุกมื้อ  จากตัวเองไม่เคยเข้าครัวทำอาหารเลย  แม่ต้องค่อยๆ เรียนรู้  ฝึกทำอาหารที่ละอย่างสองอย่าง  เพื่อให้เจ้าได้ทานอาหารที่สะอาดและมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน  ทั้งผักสด  ไข่  นม  และนมถั่วเหลือง  อาหารจำเป็นซึ่งหมอแนะนำมาว่าต้องทานมาเป็นพิเศษ  รวมไปถึงการดื่มน้ำชาหลังอาหารเพื่อไปลดการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย  

    นั่นคือเวลาทั้งหมดที่แม่ใช้ไปในแต่ละวัน  แม่เหนื่อย และท้อเหลือเกิน  ความหวาดกลัว  ทุกข์  เศร้า  แล่นเข้าจับขั้วหัวใจแทบทุกวินาทีในทุกวันที่มีชีวิตอยู่  ปัญหามากมายต่างรุมเร้าเข้ามา  ทั้งปัญหาทางการเงินของครอบครัว  แม้เราจะอาศัยอยู่กันแค่เพียงลำพังสามคนพ่อแม่ลูก  แต่เพียงแค่เงินเดือนของพ่อเพียงคนเดียวไม่อาจพอเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือนได้  ทั้งค่ากินค่าอยู่  ค่ารักษาพยาบาลเจ้า  ในทุกครั้งที่พาเจ้าไปหาหมอ  ล้วนต้องเสียเงินไปมากต่อมาก  ที่ดินผืนใหญ่ที่เคยซื้อไว้เพื่อเก็บเป็นมรดกให้แก่เจ้าก็จำต้องขายไป  เพื่อแลกกับเงินก้อนหนึ่ง  นำมาใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล  เช่นเดียวกับบ้านเก่าของเรา  น้ำพักน้ำแรงทั้งหมดตลอดระยะเวลากว่าห้าปีพ่อกับแม่ต่างช่วยกันเก็บหอมรอมริบปลูกมา  เราก็จำต้องขายไป  ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเช่าเล็กๆ ใกล้โรงพยาบาลแทน

    ทั้งหมดนี้คือความทุกข์และความลำบากที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน  แต่ก็ใช่ว่าแม่จะไม่มีความสุขเลย  
    แม่มีความสุขในทุกวันยามเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่…

    สุขเล็กๆ ยามเมื่อเฝ้าคอยรอเจ้าลืมตาตื่น…

    สุขยิ่งใหญ่ยามเมื่อเห็นเจ้ายิ้ม  เจ้าเดิน  เจ้าเล่น  อย่างเด็กทั่วไป

    และสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดยามเมื่อเราสามคนได้อยู่รวมกัน  พ่อแม่ลูกคือครอบครัว  คือความรัก  คือความสุขทั้งหมดที่แม่ปรารถนาจะพานพบในแต่ละวัน


    ไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร…
    ไม่ว่าแม่จะต้องทนทุกข์  ทนความยากลำบากอีกนานเพียงใด…
    พรุ่งนี้จะมีแสงสว่างเฉกเช่นวันนี้หรือไม่…
    แม่ก็จะพยายามต่อไป… พยายามก้าวเดินไปข้างหน้า  บนถนนที่โรยด้วยถ่านหินร้อนๆ เหล่านี้  ต่อให้ผุพอง  ขาเท้าบวมเพียงไร  แม่จะก้าวต่อไป

    ขอเพียงมีเจ้าอยู่ข้างกาย  ความสุขทั้งหมดบนโลกใบนี้  ได้ระบายอยู่บนดวงหน้าดวงน้อยแล้ว
    เพราะเจ้าเท่านั้น  ผู้เป็นยิ่งกว่าดวงใจ  เป็นดวงดาราทอประกายแสงสว่างให้ชีวิตของแม่

    จากคุณ : sea - [ 25 มี.ค. 47 19:02:47 A:168.120.27.27 X: ]