ศึกเทพอสูรมหาสงคราม
ตอนที่ ๑ ปฐมบทเริ่มต้น
ณ. แถบชายฝั่งทะเลตะวันออก จากทะเลที่แสนจะสงบไม่ส่อว่าจะเกิดคลื่นลมใดๆ ฉับพลันท้องทะเลกลับปันป่วน คลื่นม้วนเป็นเกลียว ทั้งๆที่ไม่มีพายุใดก่อตัวขึ้นแม้ตัวน้อย ในเกลียวคลื่นนั้นกลับปรากฏ สิ่งหนึ่งขึ้นมา พร้อมเสียงดังกึกก้อง
กร๊าซๆ ๆๆ
เป็นร่างสัตว์ใหญ่ขนาดยักษ์ ไม่มีขาลำตัวมีเกล็ดคล้ายเกล็ดงู แต่สีเขียวสดใส ใบหน้ายื่นยาวออกมามีฟันที่แหลมคม ดวงตามีสีแดงคล้ายทับทิม ที่คางมีเครายื่นออกมาเล็กน้อย ลักษณะนี้บ่งบอกถึงหนึ่งในสัตว์ที่ทรงอานุภาพ
นาคราช
นาคตัวใหญ่โผล่พ้นจากน้ำทะเลมายังชายฝั่ง ยังไม่ทันถึงพื้นทราย ต้นไม้บริเวณรอบข้างกลับโอนเอียงอย่างรุนแรง คล้ายมีลมพายุขนาดใหญ่พัดผ่านมาอย่างรวดเร็ว เกินแรงที่ต้นไม้จะต้านทานได้ ต้นไม้ใหญ่หลายต้นโค่นล้มลง มีเพียงไม่กี่ต้นที่ยังยืนต้นอยู่ได้ พริบตาเดียวลมพายุกลับสงบคล้ายไม่เคยมีลมพัดมา หากแต่ต้นไม้ที่โค่นล้มเป็นสิ่งที่ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้น มองไปยังบนท้องฟ้ากลับปรากฏสัตว์ใหญ่ขนาดยักษ์อีกตัวหนึ่ง กระพือปีกถลาลมอยู่ ลักษณะคล้ายมนุษย์ มีปีกทั้งสองข้าง นิ้วมือทั้งห้ามีเล็บที่แข็งแกร่ง เท้าทั้งสองกลับมีลักษณะอย่างนก มีนิ้วเท้าเพียงเท้าละ 4 นิ้ว บนหัวสวมมุงกฎ ที่ปากมีจะงอยปากของนกยื่นออกมา ฟันคมกริบ มองดูงูยักษ์อย่างใจเย็น หากแต่แววตาของนาคใหญ่กลับไม่พอใจ และระแวงคล้ายเจอศัตรูคู่ปรับ
ข้ายินดียิ่งนัก ที่ได้พบท่านอีก อินทรนาคราช
นกยักษ์ตัวใหญ่พูดออกมาแววตาที่ปรากฏคล้ายกับเจอของเล่นที่ถูกใจ
ข้ากลับไม่ยินดีนักที่ได้เจอท่าน สุบรรณ พญาครุฑ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องฟ้า หลังจากข้าบำเพ็ญเพียร
ตั้งสองพันปี กลับออกมาสู่โลกภายนอกอีกครั้ง กลับเจอท่าน รู้สึกว่าคงไม่ใช่พรหมลิขิตหรอกนะ
สุบรรณ พญาครุฑหัวเราะชอบใจคล้ายถูกใจความฉลาดของ อินทรนาคราช
ถูกต้องแล้ว อินทรนาคราช ข้ามารอพบท่าน เพราะรู้ว่าท่านจะออกจากการบำเพ็ญตบะในวันนี้และมีเรื่องบางอย่างจะต้องพูดคุยกับท่าน
ตามหลักแต่โบราณตั้งแต่พญาครุฑต่อสู้กับพระนารายณ์ แล้วเสมอนั้น แต่ยอมให้ตัวเองเป็นพาหนะของพระนารายณ์ เป็นความชอบที่ยิ่งใหญ่ พระนารายณ์จึงให้พร ให้พญาครุฑ สามารถจับนาคกินเป็นอาหารได้ นับแต่นั้นนาคและเหล่าครุฑไม่เคยจะเป็นมิตรต่อกันเลย การปรากฏตัวของ สุบรรณนั้นทำให้ อินทรนาคราช ไม่ไว้วางใจ จึงสำแดงเดช เนรมิตร่างกายให้สูงใหญ่และประจันหน้ากับสุบรรณเตรียมพร้อมจะรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ท่านมีเรื่องอะไรจะพูดกับข้า ก็ขอให้รีบพูดมาไวๆ ข้าไม่มีเวลาให้กับท่านมากนัก แต่คงไม่ใช่มาบอกข้าว่า เรื่องของท่านที่จะพูดกับข้าก็คือ ท่านไม่ได้กินนาคมาหลายวัน เลยอยากจะได้ข้าเป็นอาหารมื้อแรกของท่านในวันนี้หรอกนะ
สุบรรณรู้สึกจะไม่พอใจคำพูดของ อินทรนาคราชสักเท่าไร แต่ยังคงไม่ลงมือใดๆ กับอินทรนาคราช จ้องมองอินทรนาคอยู่สักครู่ก่อนจะพูดออกมาว่า
ข้าไม่ได้มาพบท่านเพื่อจะเอาท่านเป็นอาหาร อย่างที่ท่านคิดหรอก อินทรนาคราช หากแต่ว่าท่านหลบไปบำเพ็ญเพียรตั้งหลายปี คงยังไม่รู้เรื่องหรอกนะว่า ตอนนี้เกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้าง ?
คำพูดของสุบรรณทำให้ อินทรนาคราช รู้สึกฉงนสงสัย พร้อมกับเอ่ยปากถามด้วยความอยากรู้
ท่านหมายถึงอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เรื่องที่ท่านจะบอกข้าคงเกี่ยวกับตัวท่านหรือไม่ก็ตัวข้าใช่หรือไม่ ?
ถูกเพียงครึ่งเดียว ถ้าจะพูดให้ถูกก็หมายถึงความอยู่รอดของทุกเผ่าพันธุ์ในโลกมนุษย์ รวมทั้งสวรรค์ และเผ่าพันธุ์ของเราทั้งสองด้วย
อินทรนาคราช ตกใจยิ่ง หากพญาครุฑที่ยิ่งใหญ่ยังวิตกถึงเรื่องนี้ก็แสดงว่า เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น กันแน่ ท่านได้โปรดบอกข้าเถอะ
สุบรรณพยักหน้าตอบกลับก่อนที่จะกล่าวอย่างยืดยาว
นับตั้งแต่ท่านเข้าบำเพ็ญเพียรสมาธิ ตบะขั้นสูง ในช่วงสองพันปีที่ผ่านมานี้ มีอสูรตนหนึ่งจากอสูรชั้นสวะ กลับพัฒนาฝีมือขึ้น จนมีความสามารถใกล้เคียงที่จะเป็นจ้าวอสูรขึ้นมา
อินทรนาคราช ตะโกนก้องอย่างตกใจก่อนที่จะแผดเสียงขึ้นมา
เป็นไปได้อย่างไร เพียงชั่วเวลาแค่ไม่ถึงสองพันปี กลับมีอสูรที่เก่งกล้าขนาดนี้ได้ การที่จะมีอสูรที่มีความสามารถใกล้เคียงกลับจ้าวอสูรได้นั้น อย่างน้อยต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นปีไม่ใช่หรือ ? แล้วทำไมอยู่ๆ ในช่วงเวลาแค่นี้กลับมีอสูรที่มีความสามารถถึงเพียงนี้ได้
สุบรรณตอบกลับอินทรนาคด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด
ตอนแรกข้าก็คิดอย่างท่าน ข้ารู้สึกถึงความไม่ถูกต้องตั้งแต่ทราบข่าว ข้าก็พยายามสืบเสาะทั้งทางแจ้งและลับ จนรู้ว่า อสูรตนนี้มีนามว่า กัลย์ปาอสูร แต่สิ่งที่ข้าได้รู้กลับผิดคาดกว่าที่ข้าคาดการณ์ไว้นัก
สุบรรณคล้ายอึดอัดในสิ่งที่จะพูดต่อ หยุดบอกเล่าเรื่องราวเป็นเวลานาน
หมายความว่าอย่างไร เรื่องที่ท่านว่าผิดคาดกว่าที่ท่านคาดการณ์ไว้ ?
อินทรนาคราช รู้สึกไม่ยินดีกลับกริยาท่าทางของสุบรรณ ทางสุบรรณก็สูดลมหายใจก่อนตอบกลับไป
สิ่งที่ข้าคาดไว้ก็คือ ถ้ามันเป็นแค่อสูรธรรมดาถึงจะใกล้ความเป็นจ้าวอสูร ข้าก็กำจัดมันได้ไม่ยากเพราะอย่างไรซะพลังของมันก็ห่างจากข้ามากอยู่แล้ว แต่ข้ากับพบว่าความจริงว่าที่จริงแล้วอสูรตนนี้ มันก็คือ จ้าวอสูรตนก่อน
อินทรนาคราชตกใจอย่างยิ่งเพราะสิ่งที่ได้ฟังจากสุบรรณ พญาครุฑ มันแทบเป็นไม่ได้เลย เพราะเมื่อเวลาหลายหมื่นปีก่อน ด้วยการระดมกำลังของเหล่าเทพ รวมทั้งเผ่าพันธุ์วิหคและเผ่าพันธุ์นาคา ได้กำจัดจ้าวอสูรที่ร้ายกาจไปแล้ว เรื่องนี้ย่อมไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ อินทรนาคราช เป็นผู้ได้เห็นกับตาตนเองว่า เจ้าอสูรตนก่อนได้ตายไปต่อหน้าต่อตาของตนเอง
มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ? ก็ข้าเห็นกับตาตัวเองว่าจ้าวอสูรตนก่อนได้ตายไปแล้ว ต่อหน้าต่อตาของข้า แล้วทำไม ? จู่ๆ ถึง
ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นว่าจ้าวอสูรตนก่อนยังไม่ตายใช่หรือไม่ ?
สุบรรณ ชิงตัดหน้าพูดเสียก่อน
ใช่แล้ว ท่านสุบรรณ
อินทรนาคราช รับคำ และตั้งใจฟังต่อไปด้วยหัวใจที่สับสน
อย่างที่ท่านบอกนั้นแหละ จ้าวอสูรตนก่อนได้ตายไปแล้ว หากแต่ในตอนนั้นก่อนที่มันจะได้พ่ายแพ้แก่พวกเรานั้น มันได้แยกร่างแฝงส่วนหนึ่งของมันออกมา ถึงแม้ร่างหลักของมันจะมลายไปสิ้นแล้วแต่ร่างแฝงของมันตนนี้ สามารถที่จะเติบใหญ่จนเป็นจ้าวอสูร ต่อไปได้
แล้วทำไมในตอนนั้น พวกเราถึงไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของร่างแฝงนั้นเลยล่ะ
อินทรนาคราชตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
ก็เพราะว่าจ้าวอสูรจงใจผนึก พลังอสูรเอาไว้ทำให้เราเข้าใจกันว่า บริเวณที่ต่อสู้นั้นนอกจากจ้าวอสูรและแม่ทัพมารแล้ว พวกอสูรที่เหลือต่างเป็นอสูรชั้นสวะเท่านั้น หลังจากจ้าวอสูรตายก็เลยไม่คิดมีใครที่จะกำจัดอสูรเหล่านั้นเลย
อินทรนาคราช พยักหน้าอย่างเข้าใจ พลางคิดว่า จ้าวอสูรร้ายกาจนัก ไม่คิดว่าจะมีแผนการนี้คงเหลืออยู่ในตอนนั้นได้
แล้วตอนนี้ กัลย์ปาอสูร มีความสามารถถึงขั้นไหน
อีกไม่กี่วันก็คงจะมีความสามารถเป็นจ้าวอสูร เต็มตัวเหมือนเมื่อหลายหมื่นปีก่อน แต่ยังคงไม่ออกมารุกรานสามโลก
อินทรนาคราช แปลกใจและสงสัยว่าทำไมเมื่อมีความสามารถเพียงนั้นแล้วกลับ ยังไม่ออกมาอาละวาดเหมือนเมื่อคราวก่อน
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ในเมื่อ กัลย์ปาอสูร เป็นจ้าวอสูรแล้ว ยังไม่ออกมาแก้แค้นอีก
สุบรรณตอบ อินทรนาคราช ให้หายข้องใจว่า
เพราะ กัลย์ปาอสูร กำลังทำพิธี ชุบ หกอาวุธ ฝ่ายมาร อยู่นะสิ ถ้าอาวุธทั้งหก ยังชุบไม่สำเร็จ ตัวมันเองคงไม่ออก ไปสู้รบกับใคร แต่ข้าคาดว่า มันคงจะส่งลูกสมุนของมันออกมารบกวน ในไม่ช้านี้แน่นอน
อินทรนาคราช เริ่มเห็นถึงความเดือนร้อนที่จะเกิดขึ้นกับสามโลก และเริ่มเข้าใจการมาของสุบรรณ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรมากขึ้น
แล้วท่าน และข้า จะต้องทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ?
สุบรรณ ยิ้มขึ้นพลางมองดู อินทรนาคราช และนึกว่าถึงแม้ตัวเขาและอินทรนาคราช จะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกัน หากแต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่มีผลกระทบตัวส่วนรวมแล้ว ทั้งเขาและอินทรนาคราช กลับมาเป็นมิตรต่อกันอย่างไม่น่าเชื่อ
ข้าได้นำเรื่องนี้ ปรึกษากับเหล่าเทพทั้งหลายแล้ว และมหาเทพทั้งสามก็ได้มีความเห็นว่า จะส่งเทพ ไปยังโลกมนุษย์ เพื่อจัดการกับกัลย์ปาอสูร โดยเทพทั้งหมดที่มหาเทพจะส่งไป มีดังนี้ เทพแห่งวิหค เทพแห่งนาคา เทพแห่งพยัคฆ์ เทพแห่งวายุ เทพแห่งนารี และเทพแห่งยักษา โดยให้แต่ละเผ่าพันธุ์คัดเลือกทายาทตัวแทนที่จะไปทำหน้าที่ดังกล่าว ข้าจึงมาแจ้งให้ท่านทราบถึงการนี้
อินทรนาคราช พยักหน้าอย่างเข้าใจต้นสายและปลายเหตุ สีหน้าฉายแววที่ส่อถึงว่าสงครามระหว่างเทพและอสูรครั้งนี้ คงอีกนานกว่าสันติสุขจะกลับคืนมายังทั้งสามโลกอีกครั้ง
แล้วเทพผู้ที่จะทำหน้าที่ดังกล่าว จะต้องมีกี่คน และจะต้องนำตัวเทพเหล่านั้นไปยังที่ใด ?
จากคุณ :
อำนาจ
- [
26 มี.ค. 47 14:52:58
A:203.107.130.11 X:203.155.212.42
]