เฝ้ารอ

    ไม่ได้คิดจะหันมาเอาดีทางด้านเรื่องสั้นหรอกค่ะ  แต่ช่วงนี้ไม่รู้จะหาที่ระบายกับอะไรดี  เลยต้องมาลงเป็นเรื่องสั้นแบบนี้
    ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
    **************

    ฉันนั่งมองสายฝนที่ตกลงมาอยู่เป็นเวลานาน…
    มันนานเท่าไหร่แล้วฉันไม่อาจจำได้…
    สิ่งเดียวในความทรงจำที่รับรู้คือ  การรอคอยแสนยาวนาน...ไม่มีสิ้นสุด…
    เฝ้ารอ  รอคอยด้วยความหวัง…

    แม้เพียงริบหรี่  ฉันก็ยังคงนั่งเฝ้ารอเขาอยู่เสมอ…รัน  หวังเพียงสักวันหนึ่งรันจะให้โอกาสแก่ฉันอีกสักครั้ง  ให้โอกาสเพื่อที่จะกลับมารักกันเหมือนดังเดิม

    ไม่ว่าเมื่อวานนี้  วันนี้  พรุ่งนี้  หรือวันไหนๆ  ฉันยังคงนั่งรอต่อไป  ขอแค่เพียงได้เจอหน้ารันอีกสักครั้ง  ฉันยินดีเอ่ยคำขอโทษ  ยินดีรับผิดในทุกข้อหา  ไม่ว่าความผิดใดที่เคยกระทำ  ฉันยินดีชดใช้ให้ทุกสิ่ง
    ขอเพียงแค่ได้เจอหน้ารันอีกสักครั้ง

    ทว่า!  นี่มันนานเพียงใดกันแล้วหนอที่ฉันไม่ได้เจอหน้ารัน  ภาพความทรงจำวันเก่ายังคงแจ่มชัดอยู่ในห้วงสำนึก  ภาพของชายร่างสูงโปร่ง  รูปร่างผอมบางแต่ได้ส่วนดั่งชายชาตรี  ดวงหน้ารูปไข่ประกอบไปด้วยคิ้วเข้มดกดำ  เป็นเอกลักษณ์ประจำกายไม่มีใครเหมือน  ยิ่งเมื่ออยู่คู่กับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มดวงโตแสนหวานซึ้ง  ทำให้ดวงหน้าของรันมีเสน่ห์จับใจคนมองยิ่งนัก

    ยิ่งยามรันหันหน้ามาส่งยิ้มนัยน์ตาหวานเยิ้มให้  มันทำให้หัวใจของฉันแทบละลาย  หัวใจดวงนี้มอบให้รันจนหมดสิ้น  ไม่เคยขอทวงคืน  ไม่เคยขออะไรมากมาย  ขอเพียงให้รันหันหลังกลับมามอง…เพียงเท่านั้น
    รันจ๋า  ฉันรู้ว่าฉันทำผิดที่ไม่เชื่อรัน  รันจะไม่ให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเลยเชียวหรือ  ไม่ให้โอกาสผู้หญิงคนหนึ่ง…คนเดียวที่รันเคยเอ่ยปากว่ารักเธอสุดหัวใจ  เพียงความผิดในครั้งนั้น  รันจะไม่ยอมยกโทษให้ฉันเลยงั้นหรือ

    นับแต่วันนั้นฉันไม่ได้พบหน้ารันอีกเลย  ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปตามหารันได้ที่ไหน  สถานที่แห่งเดียวที่สามารถเฝ้ารอได้ก็คือร้านกาแฟเล็กๆ ใกล้รั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้  สถานที่แห่งแรกที่เราพบกัน  และทำให้ฉันได้เรียนรู้กับคำว่า “รัก”

    ยามเมื่อแรกพบรันดูต่างไปจากทุกวันนี้ยิ่งนัก  รันยังเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่สาม  ส่วนฉันก็เป็นแค่เพียงน้องใหม่  เพิ่งผละจากม.ปลายก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยได้ไม่นาน  รันคือรุ่นพี่  คือเพื่อน  ผู้มอบให้ทั้งคำแนะนำและความหวังดีในทุกครั้งที่พบหน้ากัน  

    กับภาพของหนุ่มน้อยในวันนั้น  รันในชุดนักศึกษาแขนยาวสีขาวมอซอ  แว่นตากลมหน้าเตอะซึ่งไม่อาจบดบังนัยน์ตาหวานซึ้งคู่นั้นได้  รันเป็นขวัญใจของน้องๆ ปีหนึ่งทุกคน  ด้วยความที่รันเป็นคนสุภาพ  อ่อนโยน  และเอาใจใส่น้องๆ  ทำให้หลายคนหลงรักกับภาพของพี่ชายผู้แสนดี
    รวมทั้งฉันด้วย…

    ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่นัยน์ตาหวานคู่นั้นจะหันมามองฉัน…เด็กสาวกะโปโลคนหนึ่ง  ผู้ไม่เคยมีอะไรดีอยู่ในตัวสักอย่าง  ทว่ารันกลับไม่ใส่ใจ  มองเลยความด้อยค่าในตัวฉันเสียสิ้น
    รันรู้ไหม  รันคือความหวังเดียวที่ทำให้ฉันกล้าลุกขึ้นมา  ค้นหาความดีที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง

    จากวินาทีนั้น  เมื่อรันเป็นฝ่ายเดินเข้ามานั่งด้วยที่โต๊ะกาแฟตัวนี้  โลกของฉันก็ได้เปลี่ยนไป  มันสดใสและงดงามกว่าร้อยกว่าพันเท่า  ฉันเริ่มมีชีวิตอยู่บนโลกใบใหม่  มีชีวิตอยู่เพื่อเรียนรู้สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
    แน่นอน…ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อจะเป็นที่รักของรันผู้เดียว

    ฉันหวังเสมอให้เวลาแห่งความสุขของเรายาวนาน  จากวันเป็นเดือน  จากเดือนเป็นปี  วันเวลาช่างผ่านไปไวยิ่งนัก  รันเรียนจบปริญญาตรี  ส่วนฉันก็ได้ขึ้นเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สอง  รันยังเป็นทั้งรุ่นพี่และเพื่อนที่แสนดีของฉันเสมอ

    ในวันหนึ่งท่ามกลางแสงสีทองอ่อนๆ ของพระอาทิตย์ยามตกดิน  มันเป็นวันที่ฉันไม่มีทางลืมได้เลย  วันแรกที่รันเอ่ยปากบอกรักฉัน
    ไม่มีคำพูดใดจะบรรยายถึงความสุขใจ ณ เวลานั้นได้  ราวกับความสุขทั้งมวลได้อัดแน่นรวมกันอยู่ในหัวใจฉัน  
    ประโยครักแสนหวานยังคงเด่นชัดอยู่เหมือนรันเพิ่งกระซิบบอกฉันเมื่อไม่กี่นาทีนี้….

    “สุดที่รักของรัน…รักรันบ้างไหมครับ”

    ฉันแทบอยากจะร้องไห้ยามเมื่อนึกถึงคำพูดประโยคนี้
    รักสิคะ  ฉันรักรันเสมอ  ไม่ว่า ณ เวลานั้น  หรือวินาทีนี้  ความรักของฉันไม่เคยลดน้อยลงเลย  มีแต่จะเพิ่มขึ้นในทุกวินาทีเมื่อไม่ได้เจอหน้ารัน

    หัวใจของฉันไม่ได้ต่างจากหัวใจของรันเลยแม้แต่น้อย
    รักของเราเปรียบเสมือนน้ำซึ่งหล่อเลี้ยงหัวใจสองดวงให้ชุ่มช่ำไปด้วยสายธารแห่งความหวาน  แม้ว่าเราจะต้องห่างไกลกันด้วยระยะทาง  แต่หัวใจรักกลับยิ่งแนบชิด  ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันไม่ได้ยินเสียงรัน  ไม่ว่ารันจะอยู่ห่างไกลเพียงไหน  ทุกคืนก่อนเข้านอน  รันมักโทรศัพท์มาหาฉันเสมอ  เพื่อบอกว่า
    “หลับฝันดีนะครับ…สุดที่รักของรัน” เสียงกระซิบหวานๆ ดังผ่านสายโทรศัพท์กลับมาทุกค่ำคืน
    แค่นั้นมันก็ทำให้ฉันนอนหลับฝันดีไปได้ตลอดคืนแล้ว

    หลายคนบอกว่าวันเวลาแห่งความสุขของมนุษย์มักอยู่ได้ไม่นาน  เมื่อมีสุขก็ย่อมมีทุกข์ เศร้า  คละเคล้าปะปนกัน  ฉันไม่อยากให้รักของเราต้องเป็นเช่นนั้นเลยรันจ๋า
    แต่ในที่สุดเรื่องราวเลวร้ายทั้งหลายก็เกิดขึ้น  มันไม่ใช่ความผิดของรันเลย  อาจเป็นเพราะฉันเองไม่หนักแน่นมากพอที่จะเชื่อในรักของเรา

    ระยะทางอันแสนห่างไกลเริ่มมีอิทธิพลเข้ามา  ไม่ต่างจากม่านหมอกควันสีเทา  แม้ดูเบาบางแต่กลับไม่อาจปัดกลุ่มหมอกควันเหล่านั้นให้จางหายไปได้หมด
    แทบจำไม่ได้ว่าเรื่องราวเลวร้ายเหล่านั้นเริ่มต้นที่จุด  อาจเป็นในวันหนึ่งยามเมื่อฝนตกหนักเฉกเช่นวันนี้  ณ โต๊ะกาแฟตัวเดินในร้านแห่งนี้  รันเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด  หลังจากที่เราไม่ได้พบหน้ากับมาเกือบสองอาทิตย์  

    มีเพียงแค่โต๊ะตัวเดียวกั้นกลางระหว่างเราสองคน  แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนรันนั้นอยู่ห่างออกไปไกลแสนไกล  รันตรงหน้าคนนี้กลับไม่ใช่รันคนเดิมที่ฉันรู้จัก

    ฉันอาจหูเบาเกินไปที่หลงเชื่อคำยุยงของใครหลายคน....
    ฉันอาจโง่เกินไปที่ไม่ยอมฟังเหตุผลของรัน...
    ฉันอาจไม่เด็ดเดี่ยวพอที่จะยอมรับความเป็นจริง....

    ฉันไม่ได้ฟังเหตุผลของรันในวันนั้น  มีเพียงแค่อารมณ์โกรธ  ไม่เข้าใจ  เศร้า  และเสียใจ  รุมล้อมฉันอยู่ไม่ต่างจากอสูรกายร้ายผู้คอยรุมทึ้งฉันให้จมดิ่งลงสู่ห้วงนรก  
    คำอธิบายของรันเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย  ฉันดูด้อยค่าลงไปถนัดตาเมื่อเทียบกับหล่อน

    หล่อนสวย  หล่อนรวย  และที่สำคัญ...หล่อนอยู่ใกล้ชิดรันมากกว่าฉัน
    อารมณ์หึงหวงผู้ไม่ต่างจากมารร้ายทำให้ฉันตัดสินใจผละจากรันมา  ไม่ว่ารันจะพยายามขอโทษ  ตะโกนร้องเรียกฉันเพื่ออธิบายเหตุผลประการใด  ฉันก็ไม่อาจนั่งนิ่งทนฟังสิ่งเหล่านั้นได้อีก

    โลกรอบตัวดับวูบลงฉับพลัน  ไม่มีทั้งความหวัง  ความสุขใดหลงเหลืออีก
    เมื่อไม่มีรัน  ฉันก็ไม่เหลืออะไรในชีวิตอีกแล้ว...
    เมื่อไม่มีรัน  ชีวิตฉันก็แทบสิ้นความหมาย...
    ณ วินาทีนั้น  ฉันตระหนักได้ทันทีว่าหัวใจดวงนี้มันหลุดลอยไป  ไม่หลงเหลือแม้เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของห้องใจให้รักใครได้อีก

    ฉันย้อนกลับไป  ยินดีรับผิดในทุกข้อหา  ฉันไม่ปรารถนาจะหันหลังจากรันมาด้วยความไม่เข้า  ไม่ว่าหัวใจของรันจะมีฉันอยู่อีกหรือไม่ก็ตาม  ฉันยินดีที่จะเป็นทาสหัวใจของรันตลอดไป
    ขอเพียงรันให้โอกาสฉันอีกสักครั้ง

    แต่ทำไมรันถึงไม่กลับมา??
    เหตุใดรันถึงทิ้งฉันไว้เพียงลำพัง??
    ไม่มีใครเหลียวแล  ไม่มีใครหันมามองฉัน??
    รันกำลังจะจากฉันไปจริงๆ หรือ??....

    ฉันดีใจเพียงไหนรันคงไม่รู้หรอก  วันหนึ่งท่ามกลางการรอคอยอันแสนเนิ่นนาน  รันเดินกลับมาหาฉันอีกครั้ง  เสียงกระดิ่งหน้าประตูก้องกังวานอยู่ในหัวใจฉันเมื่อเหลือบไปเห็นผู้ที่เปิดประตูร้านเข้ามา
    รันจ๋า  รันกลับมาหาฉันแล้วใช่ไหม...

    ทำไม??  เพราะเหตุใดกัน??
    หล่อน!!  หญิงสาวนัยน์ตาโตผู้เดินตามหลังรันมาเป็นใคร??
    ทำไมรันถึงไม่เดินมาหาฉัน  ทั้งๆ ที่ฉันนั่งอยู่ตรงนี้  ตรงหน้ารันแท้ๆ  แต่รันกลับเลือกที่จะเดินไปนั่งกับหญิงสาวผู้นั้น
    ฉันทำผิดอะไรหรือ  รันถึงได้ทำเย็นชากับฉันเช่นนี้
    รันจ๋า  รันหมดรักฉันแล้วงั้นหรือ??

    โลกดูมืดยิ่งกว่ามืด  ไม่มีแสงสว่างใดส่องลงมาหาฉันอีก  ความรักที่เคยชุ่มฉ่ำด้วยสายธารแห่งความหวานกลับเหือดแห้งไป  ไม่เหลือแม้เพียงหยดหนึ่งให้ประทังหัวใจ

    ยิ่งกว่าแก้วที่แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ  หัวใจฉันแทบไม่เหลือให้ใครได้ย่ำยีอีกต่อไป
    ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองนั่งอยู่ในร้านนั้นอีกนานเพียงไร  ไม่รู้ว่าตนเองกำลังเฝ้ารอใครกันแน่  ในเมื่อคนที่ฉันเฝ้ารอกลับหลงลืมฉันไปเสียสิ้นแล้ว

    ไม่มีนัยน์ตาคู่หวานมองกลับมา  ไม่มีเสียงนุ่มๆ คอยปลอบประโลม  ไม่มีมือหนาให้ซุกหาไออุ่น
    ไม่มีรันของฉันอีกต่อไปแล้ว...

    แล้ววันหนึ่งรันก็เดินกลับมา  รันกลับเข้ามาในร้านแห่งนี้อีกครั้ง  นัยน์ตาคู่สวยของรันดูเศร้าสร้อยยิ่งนักจนฉันอยากเดินตรงไปหาแล้วโอบดวงหน้านั้นไว้แนบอก
    หากฉันกลับทำไม่ได้...
    สิ่งเดียวที่ทำได้คือนั่งรอ  เฝ้ารอให้รันมองกลับมาหาฉัน

    “อ้าว คุณรัน  นึกยังไงวันนี้ถึงมาที่นี่ได้ล่ะครับ” ฉันได้ยินเสียงเจ้าของร้านร้องทักรัน
    “อยากระลึกถึงความหลังครับ  ก็เลยกลับมา” รันตอบด้วยท่าทางเศร้าๆ จนฉันแทบน้ำตาไหล
    “แล้วแฟนคุณรันคนนั้นล่ะครับ  ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ?”
    “แก้วน่ะเหรอครับ  ผมเลิกกับเธอไปแล้ว  เราไปด้วยกันไม่ได้หรอก” รันกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
    “ทำไมล่ะครับ  ท่าทางเธอออกน่ารัก”

    “ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดีหรอก  เพียงแต่ผมยังไม่อาจตัดใจลืมเกดได้  เกือบสามปีแล้วที่ผมเสียเธอไป  แม้ว่ามันจะนาน  แต่กลับรู้สึกเหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันผ่านมา  วันแรกที่ผมเจอเกดในร้านกาแฟแห่งนี้  วันแรกที่ผมบอกรักเธอ  และ...วันสุดท้ายที่เธอจากไป  ทั้งคราบเลือดทั้งรถยนต์วิ่งชนเธอในวันนั้น  ยังติดแน่นอยู่ในความทรงจำทุกครั้งเมื่อหลับตา  ถ้าเราไม่ทะเลาะกันในวันนั้น  เกดคงไม่จากผมไปเช่นนี้” เสียงของรันเครือลงพร้อมกับหยาดน้ำตาที่รินไหลอาบสองข้างแก้ม

    “ไม่ใช่ความผิดของคุณรันเลยนะครับ  ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุทั้งนั้น” เจ้าของร้านพยายามปลอบใจ
    “ผมทราบครับ  ทุกคนมักปลอบผมเช่นนี้เสมอ  แต่ผมก็ยังไม่อาจยกโทษให้ตัวเองได้  เช่นเดียวกับที่ไม่อาจหยุดรักเกดได้  ไม่ว่าตอนนี้เธอจะอยู่ที่ใดก็ตาม  หัวใจของผมก็ยังคงอยู่ที่เธอ  เธอยังเป็นสุดที่รักของผมเสมอ” รันบอก

    รันจ๋า...ฉันรอรันอยู่ตรงนี้ไงจ๊ะ  รันไม่รู้เลยหรือว่าฉันนั่งรอรันมานานเพียงใดแล้ว  เฝ้ารอ  รอคอยด้วยแสงแห่งความหวัง  แม้เพียงริบหรี่  ฉันก็ยังคงรอคอยต่อไป

    วันนี้ฉันรู้  ฉันตระหนักแล้ว  ว่ารันยังคงไม่เปลี่ยนไป
    ฉันดีใจเหลือเกินที่รันยังคงรักฉันอยู่  ดีใจเหลือเกินที่รักของเราไม่ได้ห่างไกลกันเช่นระยะทางอีกต่อไป

    สักวันหนึ่ง  ไม่นานต่อจากนี้  หัวใจสองดวงจะได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง
    ฉันจะเฝ้ารอวันนั้น...วันที่รันกลับมาหาฉันดังเดิม
    รักรันเสมอนะ...สุดที่รักของฉัน

    จากคุณ : sea - [ 27 มี.ค. 47 21:32:44 A:202.57.172.137 X: ]