SERENDIPITY >> รัก..บังเอิญ<<

    เคยเอามาลงไว้ตอนวาเลนไทน์ค่ะ อันนี้ก็เอาไปแก้ไข+แต่เพิ่มมาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น  ยังไงช่วยอ่านแล้ววิจารณ์ด้วยนะคะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
    .....................

    SERENDIPITY  >>  รัก..บังเอิญ<.<.  

    [1]ผม...และเธอ        
               
    ใครสักคนที่เกิดมาเพื่อผูกพัน    ใครที่เกิดมาคู่กับฉัน              
    ใครคือคนนั้นช่วยมา    บอกฉันที    ให้ใจ    ที่หวั่นไหวได้พึงพิงซักที่    
    ให้รู้ว่าซักวันฉันจะเจอะ      คนคนนี้และใครที่รอคนนี้มีจริงใช่มั๊ย

    คุณเชื่อหรือปล่าวว่าบางที    คำว่า  “  รัก  “    อาจจะมาจู่โจมคุณอย่างรวดเร็ว    จนคุณ…ไม่ทันตั้งตัว      คำว่า  “  รักแรกพบ  “  อาจจะเป็นคำที่ไม่ได้มีแค่ในนิยาย    แต่ในความเป็นจริงมันอาจจะเกิดขึ้นกับคุณในไม่ช้านี้ก็ได้    เหมือนกับ…ผม      

    ตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน      ผมก็รู้ตัวว่าผม…นั่งมองเธอตลอดมา    ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย    ไม่รู้…แม้กระทั่งชื่อ    ผมรู้อยู่อย่างเดียวว่าผม…รักเธอ      

    วันนั้นผมจำได้ว่า…เบื่อมาก      ผมไม่อยากกลับบ้าน      ผมปฏิเสธเพื่อนเมื่อมันชวนไปเที่ยวหลังเลิกงาน      ผมไม่หิว…ไม่กระหาย    แต่แค่อยากนั่งพักในที่ไหนก็ได้ที่เงียบๆมีคนน้อยๆเพื่อนั่งคิดอะไรนิดๆหน่อยๆ    ผมเริ่มเดินไปเรื่อยๆพร้อมๆกับเม็ดฝนเย็นเฉียบเม็ดแล้ว…เม็ดเล่า      ที่ตกลงมากระทบเสื้อ      

    แล้วเหมือนฟ้าดลใจ      ผมเหลือบไปเห็น    ร้านกาแฟเล็กๆร้านนึง      “  COZY    CAF?’  “  ตอนนั้นผมตกลงใจเดินเข้าไปในร้าน    เพราะเหตุผลเพียงแค่ว่า    “  คนน้อยดี  “    ต่อมาผมถึงรู้ว่าหัวใจของผมมัน..อบอุ่น..ทุกครั้ง    ที่มาร้านนี้…และเจอเธอ

    ผมเลือกนั่งที่มุมนึงของร้าน    ก่อนที่จะสั่งคาปูชิโนร้อนที่ผมชอบ    แล้วนั่งมองออกไปนอกกระจก….ฝน…เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ      ไม่นานนักกาแฟสีเข้มหอมกรุ่นก็มาวางหน้า    ด้วยมือพนักงานสาวหน้าจิ้มลิ้ม    หล่อนยิ้มให้ผมนิดนึง    ก่อนที่จะเดินจากไป        ผมค่อยๆยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม    แต่ไม่ยังทันที่จะได้ลิ้มรสกาแฟ      เสียงหวานใสเสียงนึงก็ดังขึ้น    

    “  เปียก    เปียกหมดเลยฉัน  “  มันอาจจะไม่ดังนัก      แต่เมื่ออยู่ในที่เงียบๆมันก็ดังพอที่จะทำให้ผมหันไปมองเจ้าของเสียง    เธอสวยครับ      อาจจะไม่ถึงกับบาดตาบาดใจแต่ก็ดูดีมากทีเดียว      ดวงตาสีอำพัน    ผมสีน้ำตาลอ่อนหยิกเป็นลอนน้อยๆที่ตอนนี้เปียกฝนลู่แนบแก้มใส      ยังไม่รวมถึงเสื้อคอเต่าสีครีม    กางเกงสีน้ำตาลไหม้นั่นก็มีสภาพไม่ต่างกันนัก      มันเปียกได้ที่ทีเดียว      เธอหันไปยิ้มให้กับพนักงานเสริฟสาวที่มาเสริฟกาแฟให้ผมเมื่อครู่    

    “  เหมือนเดิมมั๊ยคะ  “  สาวเสริฟคนนั้นถามยิ้มๆ    แล้วเธอก็ยิ้มตอบ    

    “  ไม่ไหวจ๊ะ    กินเย็นๆเดี๋ยวแข็งตายกันพอดี    เอาเป็นโกโก้ร้อนแทนแล้วกัน  “  เธอพูดก่อนที่จะเปิดกระเป๋าใบเล็กสีน้ำตาลเข้ากับชุด    แล้วหยิบผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตา

    ผมเดาว่าเธอคงเป็นลูกค้าประจำร้านนี้แหละ    จะว่าไป    ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงสนใจสิ่งที่เกี่ยวกับเธอนักหนา    ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันเลยซักนิด

    ผมจำได้ว่าวันนั้น    ผมนั่งมองเธอจนเธอลับตาออกจากร้าน      ถึงจะกลับบ้าน    แล้วผมก็ได้รู้อีกอย่างว่า    สิ่งที่ผมเกลียดบางทีมันก็เอาอะไรดีๆมาให้ผม      ผมเกลียดฤดูฝน    เพราะเข้าฤดูนี้ทีไร    ผมมักจะเจอแต่เรื่องแย่ๆเสมอ      แต่ตอนนี้ผมชอบมันแล้วล่ะ    เพราะมันทำให้ผม…เจอกับเธอ        แล้วผมรู้ว่าฤดูฝนหน้าผม…จะไม่ต้องอยู่คนเดียว

    หลังจากนั้นผมก็มาร้านนี้ทุกวันๆ    แต่ไม่มีวี่แววของเธอเลยแม้แต่น้อย    จนผมเองเริ่มถอดใจ      กะว่าถ้าวันนี้ถ้าไม่เจอเธออีกผมคงตัดใจเสียที      แต่เหมือนฟ้าเมตตา…เธอเปิดประตู้ร้านเข้ามา    ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเดิม…ผมอมยิ้มกับตัวเอง    ก่อนจะนั่งแอบมองเธอต่อไป

    ผมใช้เวลาเดือนนึงสำหรับการเฝ้าดูว่าเธอจะมาร้านนี้ในวันไหน      แล้วก็ใช้เวลาอีกเกือบเดือนสำหรับการเช็คให้แน่ใจว่วที่ผมเข้าใจนั้นมัน….ไม่ผิด      เธอจะมาที่นี่ตอนเย็นวันศุกร์      ประมาณเกือบๆทุ่ม    แล้วก็กลับตอนทุ่มสี่สิบห้า      ทุกครั้งที่เธอเข้ามา    สิ่งแรกที่จะได้เห็นจากใบหน้าของเธอก็คือรอยยิ้มสดใส      

    ผมว่าเธอยิ้มสวยครับ      เธอยิ้มให้พนักงานสาว      จนหลายครั้งที่ผมแอบคิดว่า    อยากให้รอยยิ้มนั้น…เป็นของผมบ้าง      แต่ผมก็รู้ว่าผม…ไม่มีสิทธิ์      ผมนั่งมองรอยยิ้มของเธออยู่เสมอ    จนผมคิดว่าเธอคงรู้แหละว่ามีคนแอบมองอยู่        เพราะ….

    เมื่อหลายศุกร์ที่แล้ว      ผมนั่งคอยการมาของเธอ      ไม่นานนักผมก็ต้องยิ้ม    เมื่อเสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งที่ประตูดังขึ้น    พร้อมกับร่างโปร่งของเธอในชุดกางเกงยีนส์รัดรูปกับเสื้อเชิตพอดีตัวสีขาว      เธอยิ้มให้พนักงานสาวทั้งสองคนของร้าน      แล้วเธอก็…หันมายิ้มให้ผม    พร้อมกับก้มหัวลงน้อยๆเป็นการทักทาย

    ผมยิ้มกลับไป    พร้อมกับคิดขอบคุณพระเจ้าที่ให้ผมเกิดมา    ผมแอบมองเธอบ่อยๆ      แล้วผมก็รู้สึกว่าบางที…เธอก็มองผมอยู่เหมือนกัน

    ทุกๆวันผมภาวนาให้มันผ่านไปเร็วๆ      ผมอยากให้มันถึงวันศุกร์เสียที      และแล้ววันนี้ก็มาถึง      ผมมานั่งที่โต๊ะตัวเก่า      ก่อนที่จะสั่งเมนูเหมือนเดิม    แล้วก็นั่งรอการมาของเธอ        ผมบอกกับตัวเองว่า    

    “วันนี้แหละวะ    จะลองเข้าไปทำความรู้จักกับเธอซะที  “  แต่จนแล้ว…จนรอดผมก็ยังไม่เห็นเธอ…แม้แต่เงา    ผมดูนาฬิกาบนข้อมือเข็มสั้นเดินไปถึงเลขแปดส่วนเข็มยาวกำลังทักทายกับเลขสิบสอง…สองทุ่มแล้ว    แต่ผมยังไม่ตัดใจง่ายๆ      เอาเป็นว่าถ้าอีกสิบห้านาทีเธอไม่มาผม…จะกลับ

    แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้นาฬิกาผมมันเดินเร็วนัก    เพราะไม่ทันไร      เวลามันก็ครบ…สิบห้านาที      ผมเช็คบิล    ก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ    แต่ไม่ทันที่จะก้าวออกนอกร้าน

    “  เดี๋ยวก่อนค่ะคุณ  “  นั่นไม่ใช่เสียงของเธอ      แต่ผมมั่นใจว่าเสียงนั้นเรียกผมแน่นอน      ผมหันไปทางต้นเสียง    ก็ได้เห็นพนักงานสาวคนนั้น…ที่สนิทกับเธอเดินมาอยู่ตรงหน้าของผม    พร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นเล็กๆให้      

    “  พี่อัจฝากมาให้ค่ะ  “  พูดพูดยิ้มๆก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าร้านไป      ไม่รู้อะไร    ทำให้ผมเดาว่า  “  พี่อัจ  “  คงจะเป็นเธอแน่ๆ      ผมอ่านข้อความข้างในอยู่ไม่นาน      ผมก็ยิ้มออก

    “  พรุ่งนี้ถ้าคุณว่าง    ช่วยมาพบฉันที่…..    ตอน  6  โมง  เย็นนะคะ  “  เธอเขียนชื่อสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางเมืองแห่งหนึ่งลงไป      และแน่นอนผมต้องว่างแน่ๆ….สำหรับเธอ

    [2]  ฉัน...และเขา

    ก็ไม่รู้ว่าอะไร    ทำให้เราได้พบกัน    ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้
    เธอก็มีโลกของเธอต่างกับฉันมากมาย    เหมือนไม่มีอะไรเลยที่คล้ายกัน

    ฉันไม่เคยเชื่อว่า…”  รักแรกพบ”    จะมีอยู่จริง    ฉันเจอมันบ่อย…ในนิยายที่ฉันชอบอ่าน    แต่..ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดกับฉัน    จนวันที่ฉัน…ได้เจอเขา

    มันเป็นความบังเอิญที่เกิดจากโชคชะตาทั้งนั้น…ฉันว่างั้นนะ    เพราะถ้าวันนั้นบังเอิญฉันไม่เปียกฝนแล้วบ่นพึมพำออกไป      เขาก็คง…ไม่เงยหน้ามามองฉัน      แล้วถ้าเขาไม่บังเอิญไปนั่งโต๊ะตัวนั้น    ฉันก็คง…ไม่สนใจเขาเหมือนกันแหละ      แล้วคุณรู้มั้ยตอนนี้      ฉันอยากให้บังเอิญหัวใจของเรา…ตรงกันจัง

    วันนั้นเป็นวันยอดแย่ของฉันทีเดียว….ฝนตก      แถม….รถเจ้ากรรมของฉันก็ดันมากลัวฝนซะอีก    มันสั่นพั่บๆๆๆก่อนจะแน่นิ่งไป      ยังดีอยู่ซักนิดที่มันมาเสียตอนอยู่ใกล้ร้านกาแฟเจ้าประจำของฉันแล้ว      ฉันโทรหาช่างมาลากมันเข้าอู่    ก่อนที่จะวิ่งฝ่าฝนไปยังร้าน    “COZY    CAF?’  “  ร้านกาแฟที่แสนอบอุ่นของฉัน

    ฉันเดินอย่างมาดมั่นตรงไปยังโต๊ะประจำอย่างเคย      จะแปลกอยู่นิดหน่อยก็ตรงที่ว่า….โต๊ะข้างๆที่ปกติจะว่างอยู่เสมอ      วันนี้มัน…มีคนนั่งอยู่      เขาเป็นชายหนุ่มแต่งตัวดีนะ    และดูจากคร่าวๆหน้าตาก็คง…ดี

    ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆเกี่ยวกับเสื้อผ้าที่ตอนนี้มันแทบจะดูไม่ได้      แต่ดูเหมือนว่าเสียงของฉันมันจะไม่เบาอย่างใจคิด…เขาเงยหน้ามามอง      แล้วก้มหน้าก้มตาดื่มกาแฟของเขาต่อ    แต่สัญชาตญาณของฉันมันบอกว่า…เขายิ้ม

    คุณรู้อะไรมั้ย…วันนั้นฉันแทบจะไม่รู้รสกาแฟเลยล่ะ    เพราะอะไรน่ะหรอ…ก็ฉันแอบมองเขาตลอดเลยหนิ      ฉันไม่เคยเป็นพวกถ้ำมองอย่างนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ…ผู้หญิงถ้ำมอง…ฟังแล้วดูดีตายล่ะ      แต่ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกันที่ทำให้ฉัน…ละสายตาจากเขาไม่ได้

    วันนั้นฉันนั่งดื่มกาแฟก่อนที่จะเดินออกจากร้านตามเวลาปกติ    ก็ราวๆทุ่มสี่สิบ    สี่สิบห้าประมาณนี้    แต่เขายังนั่งอยู่ในร้านอยู่เลย      แล้วสปายสาวเสริฟของฉัน…ยัยจ๋า…ยังมาบอกอีกว่าวันนั้นน่ะนะ    หลังจากฉันออกไปไม่นานเขา…ถึงจะกลับ

      แล้วเจ้าหล่อนยังบอกเรื่องราวที่ทำให้ฉันหัวใจพองโตอีกว่า…..หลังจากวันนั้นเขาก็มาที่นี่ทุกวัน      แรกๆยัยจ๋าเธอก็ไม่คิดอะไรหรอก      มาจับไต๋เขาได้จริงๆก็ตอนที่เขาชอบมองไปโต๊ะประจำของฉันเรื่อย      แถมถ้าไม่เจอฉันเขาจะดูหงอยเหงาลงทันตา      นี่แหละน้าที่เค้าว่า…ฟ้าหลังฝน…จะสดใส

    หลังจากที่พบกับเขาหลายครั้ง…..ฉันก็รู้จักเขา…ผ่านการ  (แอบ)มอง…แล้วคุณว่าฉันจะเป็นผู้หญิงที่หลงตัวเองไปมั้ย    ถ้าฉันจะคิดว่า    เขา…ก็แอบมองฉันอยู่เหมือนกัน      

    ไม่รู้อะไรทำให้วันนึงฉันตัดสินใจ…ทักทายเขา      ฉัน…ยิ้มให้        แล้วเขา…ยิ้มตอบ      มันอาจจะเป็นก้าวแรกที่ทำให้เรา…รู้จักกันมากขึ้นก็ได้

    ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร    หลังๆมานี่ฉันแทบจะนับวัน…นับเวลา…ให้ถึงเย็นวันศุกร์เร็วๆทุกที      แล้วฉันจะมีความสุข…เมื่อเห็นเขานั่งอยู่ประจำ…..ที่โต๊ะตัวนั้น      มีความสุข…ที่ได้ยิ้มให้เขา…เวลาเราเจอกันทุกครั้ง    มีความสุข…โดยไม่จำเป็นต้องพูดกัน…

    วันนี้ก็วันศุกร์แล้ว      ฉันรีบเก็บของเพื่อที่จะรีบไปร้านกาแฟ…ไปเจอเขา      แต่เชื่อมั๊ยอยู่ดีๆฉันก็นึกอะไรประหลาดๆขึ้นมาได้      ฉันเขียนโน๊ตสั้นๆนัดเขาที่สวนสาธารณะ    แล้วฝากไว้กับยัยจ๋า    กำชับเจ้าหล่อนว่าให้ให้เขาตอนที่กำลังจะออกจากร้านเท่านั้น    ซึ่งยัยจ๋าก็รับปากฉันอย่างดีพร้อมกับส่งยิ้มแบบว่ารู้ทันมาให้      

    คุณว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แปลกมากมั๊ย…ที่กล้านัดผู้ชายที่ไม่เคยแม้แต่จะพูดคุยมาเจอก่อน      ไม่รู้สิ    ฉันอาจจะหัวสมัยใหม่เกินไป      เพราะฉันคิดว่าชีวิตคนเราเป็นเรื่องบังเอิญ    ใช่…ฉันกลัวว่าถ้าศุกร์หน้า    ถ้าบังเอิญเขาไม่มาอีก…ฉันจะทำยังไง      ฉันอาจจะต้องเสียโอกาสที่จะได้รู้จักเขา    คนที่ฉันสนใจ…คนที่ฉันอยากได้เป็นเพื่อนคุย…คนที่ฉันอยากได้เป็นเพื่อนใจ      

    แต่ที่นัดไปน่ะ    ฉันไม่มั่นใจหรอกว่าเขาจะมา      ฉันอาจจะคิดไปเองคนเดียวก็ได้…เกี่ยวกับเรื่องระหว่างเขา…กับฉัน    แต่ยังไงฉันก็อยากรู้ไปเลยว่าเขาอยากรู้จักฉัน    เหมือนที่ฉันอยากรู้จักเขาหรือปล่าว    ถ้า…ไม่      ฉันจะได้บอกตัวเอง…ให้ตัดใจ    เพราะแต่ละวันที่ผ่านไปทุกชั่วโมง…ทุกนาที      ความรู้สึกของฉันมันยิ่งทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ…จนตอนนี้มันเกือบจะเต็ม

    ส่วนเรื่องพรุ่งนี้    ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน      ฉันกับเขาเราจะรู้จักกันหรือไม่      หรือจะคบกันหรือปล่าว        ฉันไม่อยากคาดหวังอะไรมากมายเกี่ยวกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น      ฉันยอมรับ      ว่าฉันกลัวการผิดหวัง      แต่ไม่รู้สิ…บางทีเราอาจจะใจตรงกันก็ได้ว่ามั๊ย      เพราะยังไงความรักก็คือเรื่อง…”บังเอิญ”…..    

                                  [ThE  EnD]



    จากคุณ : นลิน - [ 28 มี.ค. 47 16:29:47 A:202.57.179.1 X: ]