ปัจจุบัน
เฟธยืนอยู่หน้าชั้นเรียนไฮสกูล ผมดำเป็นเงาตั้ดสั้นเก๋ไก๋ ร่างบางแต่งตัวได้เฉียบและอินเทรนด์ไม่แพ้นักเรียนของเธอ ระหว่างเลคเชอร์ เธอเขียนบนกระดานดำเป็นคำว่า
DESTINO
จากคำว่า destinare ในภาษาละติน ซึ่งหมายถึงจุดมุ่งหมาย การเดินทาง เป็นวิถีแห่งชีวิตที่เหตุการณ์ต่างๆ ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว ลองนึกดูสิ! หันไปพูดกับนักเรียนอย่างตื่นเต้น สิ่งที่มองไม่เห็นและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เป็นชะตาฟ้าลิขิต เป็น
แต่พอเห็นบรรดานักเรียนวัยสิบสี่ทำหน้างง เธอก็หยุดเลคเชอร์แล้วยิ้ม นักเรียนเพียงคนเดียวที่เหมือนจะเข้าใจเรื่องที่เธอพูดคืออลิเซีย เด็กหญิงท่าทางเคร่งเครียดจริงจังผู้ไว้ผมยาวถึงเอว ดูเธอจะเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่เฟธพูดเอามากๆ ขณะที่โรเบิร์ต เด็กชายซึ่งนั่งอยู่ติดกันก็ดูจะเคลิบเคลิ้มแต่กับตัวอลิเซีย
ดูนี่นะ เฟธยกมือสองข้างขึ้นสาธิต ทำเป็นว่าทุกคนเข้าใจหมด มือหนึ่งข้าง มืออีกหนึ่งข้าง สองมือแยกกัน ถูกมั้ย แต่พอประกบมัน มันจะกลายเป็นอะไร เธอประกบมือเข้าหากันแล้วประสานนิ้ว
หนึ่งเดียว อลิเซียตอบ
เฟธยิ้มกว้างให้อลิเซีย ใช่ พลาโตบอกว่าทุกอย่างเริ่มขึ้นในแบบของวัฏจักร ถ้าเราพยายามจะทำตัวให้เหมือนพระเจ้า เราจะถูกลงโทษด้วยการโดนฟ้าผ่า ฉีกร่างเราเป็นสองส่วนจากหัวจดเท้า
แล้วเธอก็หยุดดูปฏิกิริยาของเด็กนักเรียน หลายคนทำหน้าแหยง แต่ก็มีหลายคนที่ทำหน้าเหมือนชอบใจในไอเดีย เฟธพูดต่อ เราต่างก็ดิ้นรนไปจนสุดขอบโลกเพื่อตามหาคู่ของเรา แต่พลาโตกลับบอกว่า ถ้าเราลองหยุด
และใช้ชีวิตไปตามที่ชะตาขีดไว้ มันจะนำพาให้เราได้พบกันเอง
พอออดดัง เหล่านักเรียนก็ปิดหนังสือกันยกใหญ่ เลื่อนโต๊ะครืดคราด ต่างลุกพรวดพราดจากเก้าอี้ เฟธพูดเสียงดังขึ้น กลับไปอ่านต่อนะ อ่านจากหนังสือสีเขียว
เธอชี้บนกระดานที่เธอเขียนไว้ว่า WORDSWORTH, KEATS, AND SHELLY
บาย มิสคอร์เบ็ตต์
ขอบคุณค่ะ มิสคอร์เบ็ตต์
เธอลบรายชื่อบทกวีช้าๆ แล้วจึงลบคำว่า destino ทีละตัวอักษร พอลบตัว O เสร็จ ห้องก็ว่างเปล่า
เธอกลับไปนั่งที่โต๊ะ แต่แทนที่จะเริ่มตรวจงานที่กองอยู่เป็นปึก กลับนั่งพิจารณาลิ้นชักบนสุดของโต๊ะ มองอยู่พักใหญ่จึงค่อยๆ ดึงลิ้นชักแล้วหยิบกล่องสีดำใบเล็กออกมาเปิดฝา
ใจกลางกล่องที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่สีดำมีแหวนวางอยู่ เป็นแหวนเพชรที่ สวย มาก
เธอสวมแหวนเขาที่นิ้วแล้วยกมือขึ้นดู เป็นแหวนที่สวยมากถ้าว่ากันตามจริง ไม่ใหญ่เกิน ไม่เล็กเกิน ขนาดกำลังพอเหมาะ แต่พอมาอยู่บนนิ้วเธอกลับดูแปลกๆ ไม่เข้ากัน แต่เธอคิดว่าคงเป็นธรรมดา ในเมื่อเธอไม่เคยสวมแหวนหมั้นมาก่อน เดี๋ยวก็คงชินไปเอง มีผู้หญิงที่ไหนบ้างที่ไม่ชินกับแหวนเพชร
เธอประสานมือเข้าด้วยกันเหมือนที่ทำในชั้นเมื่อครู่ มือสองมือรวมกันเป็นหนึ่ง
สมัยเป็นเด็ก เธอเคยหลงคิดอยู่นานว่า โลกนี้มีใครคนหนึ่งที่เป็นคนพิเศษ คนที่พรหมลิขิตกำหนดให้เป็นคู่แท้ของเธอ ตอนนั้นเธอมองมันเป็นเรื่องอัศจรรย์ เป็นไปได้สิ ไม่ยากหรอก
แต่ตอนนี้ที่เธออายุสามสิบ อะไรๆ กลับไม่ง่ายเหมือนที่เคยคิด เธอเรียนรู้แล้วว่าชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อน การจะได้พบใครสักคนที่เธอจะอยู่ด้วยได้ไปตลอดชีวิต เป็นเรื่องที่ยากยิ่งว่าการดูกระดานผีถ้วยแก้วบอกชื่อใครคนเสียอีก
ทว่าก็ยังมีหลายคู่ทั่วโลกแต่งงานกันในวันสุดสัปดาห์ แต่แน่นอนว่าการหย่าร้างก็เกิดขึ้นทุกวันในหนึ่งอาทิตย์ แต่ตัวเธอจะไม่มีวันหย่า ไม่มีวัน เธอรอที่จะได้แต่งงานมาหลายปีแล้ว ดังนั้นเธอจึงแน่ใจ และตอนนี้ เธอก็ใกล้จะได้ร่วมชีวิตกับคนอีกคนแล้ว ทว่าเธอกลับรู้สึกกลัวที่มันใกล้จะมาถึง
เฟธมองมือต่อไปอีกพักก่อนจะคลายมือจากกันแล้วเอาแหวนเก็บเข้ากล่องตามเดิม มองมือตัวเองที่ปราศจากแหวนจากนั้นก็หันไปมองหน้าต่าง
หนูเข้าใจที่คุณพูดนะคะ มิสคอร์เบ็ตต์
เสียงเด็กหญิงทำให้เฟธสะดุ้ง พอหันไปก็เห็นอลิเซียยืนอยู่ข้างโต๊ะ จริงเหรอ
อลิเซียพยักหน้า ค่ะ
เฟธยิ้ม อ่าน Loves Labors Lost สิ พูดอย่างอ่อนโยน พูดถึงเรื่องนี้เยอะทีเดียว
ขอบคุณค่ะมิสคอร์เบ็ตต์ แล้วหนูจะอ่านนะคะ
จากคุณ :
Vit
- [
29 มี.ค. 47 09:46:08
A:203.145.23.140 X:
]