http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2729327/W2729327.html
ตอนที่แล้ว
============
สิ้นเสียงปลายทางเขากดวางหูโทรศัพท์มือถือทันที แล้วสปีดฝีเท้าอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ราวกับว่าถ้าเหาะได้ บินได้ หายตัวได้ จะทำทันที เขาอยากจะไปถึงที่นัดหมายให้เร็วที่สุดอย่างใจนึกเดี๋ยวนี้เลย ข่าวร้ายจากสายโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ทำให้เขาใจคอไม่ดีเลย เป็นห่วงเพื่อนรักอย่างมาก ไม่รู้อาการจะหนักมากรึเปล่า จะอันตรายถึงชีวิตไหม จะเป็นอย่างไรบ้าง จิตใจเป็นห่วงกังวลตลอดเวลา คนที่เขาเป็นห่วงรองลงมาก็คือน้องสาวของเพื่อน เธอจะรู้สึกอย่างไร จะทำใจได้รึเปล่า หากเหตุการณ์นั้นร้ายแรง เพราะเขารู้ดีว่า ปริมรักพี่ชายมากที่สุด ทุกครั้งที่ปรามไม่สบาย ปริมแทบจะไม่กินไม่นอน จะคอยดูแลพี่ชายอย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อยเลย
ปฏิการก้าวลงบันไดทีละสามสี่ขั้นอย่างรวดเร็ว สี่ขั้นสุดท้ายเขากระโดดลงบนพื้นชั้นล่างอย่างคล่องแคล่วว่องไว เลี้ยวมุมตึกข้างหน้านี้คือที่นัดหมายปลายทาง ทันทีที่เท้าเลี้ยวมุมตึกไปนั้น เขาต้องชะลอฝีเท้าลงอย่างกระทันหัน! เท้าที่จะก้าวไปข้างหน้ากลับลังเลไม่แน่ใจ ถอยกลับมาข้างหลังอย่างช้า ๆ ทีละก้าว ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เขารู้สึกกลัวและไม่กล้า
ปริมยืนคุยอยู่กับหนุ่มหล่อรถป้ายแดงคันหรูคนนั้น !!
เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอยังต้องการจะไปกับเขาอยู่รึเปล่า? หรือเธออาจจะเปลี่ยนใจไปกับหมอนั่นแล้ว แม้ว่าเธอจะรับปากกับเขาไว้แล้วก็ตาม เธอเพียงรอเขาไปพบเพื่อที่จะบอกว่า เธอจะไปกับคนอื่นเท่านั้นเอง เขาควรจะเข้าไปไหม หรือทิ้งเธอเอาไว้กับคนนั้นเลย จะได้ไม่ต้องได้ยินถ้อยคำบาดใจในอนาคตอันใกล้นี้ จิตใจรู้สึกสับสน นึกเปรียบเทียบตัวเองกับหนุ่มหล่อคนนั้น เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรที่จะสู้กับคน ๆ นั้นได้เลย ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ฐานะ การเรียน เขามันไม่เอาไหน ไม่มีดีอะไรจะเทียบเทียมนายปกป้องได้เลย เขาไม่อยากจะไปยื้อแย่งอะไรกับใคร มันทำให้ต่างฝ่ายต่างเจ็บปวดมากกว่า ให้เธออยู่กับคนที่หัวใจเธอต้องการ คงเป็นสิ่งที่เขาควรทำที่สุด
เขาพยายามหายใจเข้าออกลึก ๆ ยาว ๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์เครียดและสับสน พยายามมีสติ และบอกตัวเองในที่สุดว่า สิ่งที่เขาคิดสับสนอยู่นี้นั้น เป็นแค่การคิดไปเองของเขาแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาไม่ควรยัดเยียดความคิดของตัวเองให้เธอ ว่าเธอจะคิดอย่างนั้นอย่างนี้อย่างโน้น เขาควรกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงตรงหน้าขณะนี้ ขอเพียงให้เขาได้ทำทุกอย่างอย่างเต็มที่ อย่างดีที่สุดก่อน ได้ให้โอกาสตัวเอง และให้โอกาสเธอเป็นคนเลือกและตัดสินใจด้วยตัวเอง หากแม้ว่าเธอจะไม่เลือกเขา เขาก็พร้อมที่จะออกไปจากชีวิตเธอ เมื่อเธอต้องการ!!
ปฏิการตัดสินใจเดินเร็ว ๆ เข้าไปหาปริมทันที
ปริม!!
เด็กสาวหันหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นห่วงกังวลมาทางหนุ่มผมยาว
ให้พี่ไปส่งนะปริม ปกป้องขอเป็นสารถีช่วยขับรถพาไปส่งโรงพยาบาล
ไปด้วยกันสิ ปฏิการ แล้วหันไปชวนอย่างมีน้ำใจ
ปริมมองเวลาที่ข้อมือ แล้วหันไปมองถนนหน้ามหาวิทยาลัยที่รถเริ่มติดเป็นแถวยาวตามเคย สำหรับเวลาเย็น ๆ อย่างนี้
รถเริ่มติดอีกแล้วพี่ป้อง ปริมไม่รบกวนพี่ดีกว่า ขอบคุณมากนะคะ
ปกป้องจำนนต่อเหตุผลที่เธอไม่รับความช่วยเหลือจากเขา
พี่เอาใจช่วยนะปริม ขอให้พี่ปรามปลอดภัยนะ
ขอบคุณมากค่ะ ไปก่อนนะคะ
ปฏิการรู้สึกโล่งอก ที่เธอไม่เป็นอย่างที่เขาคิดกลัวเอาไว้ก่อนหน้านี้ และดีใจที่ตัดสินใจกล้าเผชิญหน้ากับความจริง ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดเสมอไป โดยเฉพาะความคิดในแง่ร้าย ๆ
===============
กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อล่องลอยอยู่ทั่วทุกอณูอากาศ เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยสำหรับโรงพยาบาล คนไข้ที่มารอตรวจรักษาดูบางตา และทยอยกลับกันไปเกือบหมดแล้ว พยาบาลในชุดสีขาวสะอาดเดินผ่านไปมา ลิปที่อยู่ไม่ไกลเข็นเตียงคนป่วยสายระโยงระยางเข้าไปบ้าง ออกมาบ้าง
ปรามถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไปนานแล้ว หลังจากได้รับอุบัติเหตุ เนื่องจากถูกรถเก๋งของเด็กวัยรุ่นที่เมาแล้วขับชนเข้าอย่างแรง พลิกคว่ำลงข้างทาง ขณะที่ขับรถกลับจากต่างจังหวัดเมื่อเสร็จงานในกลางดึก เด็กวัยรุ่นสองคนในรถคันนั้นเสียชีวิตทันที
ไฟหน้าห้องฉุกเฉินเปิดสว่างจ้าบอกให้รู้ว่ากำลังปฏิบัติการอยู่ ปริมเฝ้ามองหน้าห้องฉุกเฉิน เธอรอคอยประตูสองบานนั้นจะเปิดออกพร้อมกัน รอคอยหมอที่จะออกมาบอกว่าพี่ชายของเธอปลอดภัย เธอได้แต่ภาวนาขอให้เป็นอย่างนั้น และไม่อยากให้เป็นอย่างอื่นเลย
เวลาผ่านไปอย่างเชื่อช้า เวลาชักช้าเสมอสำหรับการรอคอย มันมักแกล้งให้คนรอคอยทรมานใจ เพื่อน ๆ ทยอยกันกลับไปหมดแล้ว มีเพียงปฏิการที่นั่งคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอเท่านั้น
และแล้วไฟหน้าห้องฉุกเฉินดับลง ประตูห้องฉุกเฉินสองบานนั้นเปิดออก หมอหนุ่มใหญ่ในชุดสีเขียวเข้ม มีผ้าปิดจมูกปิดปากเดินออกมา
ปริมรีบวิ่งเข้าไปหาหมออย่างรวดเร็ว โดยมีปฏิการเดินตามไปติด ๆ
หมอคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ พลางจับมือหมอเขย่าอย่างร้อนรน
มือของหมออีกข้างหนึ่งเอื้อมมากุมมือของเด็กสาวเอาไว้ แล้วบีบไว้แน่น พลางตบมือของเธอเบา ๆ
ปริม.. เสียงหมอเรียกชื่อของเธอดังผ่านผ้าปิดปากปิดจมูกฟังอู้อี้ไม่ชัดเจนนัก
หมอหนุ่มใหญ่ถอดผ้าปิดปากปิดจมูกออก
ปริม
ปรามปลอดภัยแล้ว
ปริมมองคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะลึงงันด้วยความตกใจ สมองประมวลผลหน้าตาของบุรุษที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้ทันที
พ่อ
!!
น้ำตารื้นขึ้นมาคลออยู่ในดวงตาคู่นั้น ภาพแม่ร้องไห้ทุกวันทุกคืนอย่างเศร้าโศกเสียใจที่พ่อไปมีผู้หญิงคนอื่นปรากฏอยู่ในห้วงนึกจนจำติดตา ไม่มีวันลืม ปริมดึงมือของตัวเองออกจากการกุมไว้ของบิดา
ปริม
เขาสัมผัสได้ว่าปฏิกิริยาตอบโต้ของเธอไม่ยอมรับ และไม่ให้อภัยเขา มือที่เอื้อมไปหวังจะได้โอบกอดลูกสาวที่จากกันมานานซักครั้งถูกดึงกลับมาทิ้งลงข้างตัวอย่างหมดหวัง
พ่อขอโทษ สำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา แม้จะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดประโยคนี้ แต่เขาก็อยากจะบอกกับลูกอีกครั้ง
พ่อขอดูแลปรามนะปริม อาการของปรามพ้นขีดอันตรายแล้วก็จริง แต่ยังไม่รู้ว่าสมองจะได้รับการกระทบกระเทือนขนาดไหน ต้องรอให้รู้สึกตัวก่อน ให้พ่อได้มีโอกาสดูแลปรามนะลูก ให้พ่อได้ทำหน้าที่ของพ่อที่ควรจะดูแลลูก ๆ บ้าง สายตานั้นเต็มไปด้วยคำขอร้อง และเป็นห่วงเป็นใยสุดประมาณ
ปริมนิ่งเงียบไม่ตอบ ราวกับเป็นการตอบปฏิเสธอยู่ในตัว เธอเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน สายตาแสนห่วงใย มองทะลุกระจกสี่เหลี่ยมช่องแคบ ๆ เข้าไปเฝ้ามองพี่ชาย คนที่เธอรักที่สุด
หมอหนุ่มใหญ่ถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนมองไปทางปฏิการ
ผมชื่อปฏิการครับ เป็นเพื่อนของปรามและปริม เขาแนะนำตัวเอง
ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลเธออย่างดีที่สุด
หมอหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ไม่มีถ้อยคำหลุดออกจากปากหมออีกเลย ด้วยความรู้สึกข้างในมันย่ำแย่จนไม่อาจจะพูดคำใดได้อีก
เขาเดินไปตามปริมที่ยืนเฝ้ามองอยู่ประตูห้องฉุกเฉิน
ปริมเรากลับกันเถอะนะ
เธอนิ่งเงียบราวกับไม่ได้ยิน
ปฏิการเอื้อมมือดึงมือเธอให้เดินตามมา
ปริมหันมามอง
ปฏิการจึงพยักหน้าอีกครั้ง พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมใหม่นะ ตอนนี้ให้ปรามเขาพักผ่อนก่อน
เธอเดินตามเขาไปแต่โดยดี แต่สายตายังมองเหลียงหลังอยู่ที่ประตูห้องฉุกเฉิน เขากระชับมือของเธอเอาไว้ อยากบอกให้เธอรับรู้ว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอก็ตาม
==============
แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 47 22:39:03
จากคุณ :
ริเศรษฐ์
- [
30 มี.ค. 47 22:01:57
]