. . . พ่อเฒ่ากับเจ้าหนู . . .๓

    คำว่า มาไล หมายถึง คนสวน เขารู้จักตาเฒ่าในนามนั้นชื่อเดียวเท่านั้น  เจ้าหนูไม่
    เคย เรียกขานตาแกด้วยชื่อเรียงเสียงอื่นเลย อย่างไรเสียเขาก็เรียกแต่ชื่อนั้น  หา
    นึกไปไม่ว่ามันแปลว่าคนสวน  สำหรับเขาแล้ว มาไล คือ ชายผู้นั้น

    ตาเฒ่าสวมหมวกปัจจรีไว้บนศีรษะกล้อนเตียน นัยน์ตาไวดุจดวงตาวิหค
    เว้นเสียแต่หยิบหยีเยี่ยงของชาวจีน มีหนวดยาวสีเทากระจุกเล็ก ๆ เหนือริมฝีปาก
    บน ซึ่งตาแกภูมิอกภูมิใจนัก ใบหน้าสีน้ำตาลอมเหลืองนั้นได้สัดส่วน  เส้นหน้าผาก
    ลึกและรอยลักยิ้มบุํมที่แก้มทั้งสองข้าง ผิวหนังหว่างกลางมีรอยเหี่ยวย่นเป็นตาถี่ ๆ  
    คราใดที่ตาแกยิ้ม เส้นต่างๆบนหน้าจะกระเด้งกระดอนไปมาแลดูลึกขึ้น เจ้าหนูชอบ
    จ้องมองมัน และลางทียามที่เขาสงสัยใครรู้ว่าหน้าแกได้เคยเป็นดังนั้นหรือไม่  เขา
    ไม่รู้ดอกว่าเส้นเหล่านั้นเกิดได้อย่างไร แต่เขาก็มักคิดว่าเป็นเพราะลมเหมันต์พัด
    ผ่านลงมาแต่ภูเขาหิมาลัย จากที่ราบเบื้องล่างเขาสามารถเห็นขุนเขานั้นหนาวสั่น
    สะท้านจนหน้าเขียวในวันฟ้าแจ่มใส คุณไม่เห็นยอดเขา Kanchenjunga Nanga
    Parbat K2  . . . เอเวอเรสต์ ดอก เว้นเสียแต่จะมองจากหุบเขาพยัคฆ์ ซึ่งไกลออก
    ไปยี่สิบไมล์ทางกรุงดาร์จีลิง เขารู้ว่าสักวันหนึ่งมารดาของเขาจะรักษาสัญยาที่ให้
    ไว้และพาไปที่นั่น

    "นั่งลงสิ" ตาเฒ่าบอก "แล้วข้าจะเล่าให้ท่านฟังว่าทำไมจึงหลงลืมคันศรนั่น"

    เค้าโครงเรื่องเหลือเชื่อเริ่มก่อตัวขึ้นในหัว ตาแกรู้ดีว่าเจ้าหนูไม่ได้เชื่อเรื่องราวทั้ง
    หมด  แกก็ชอบเสกสรรค์ปั้นแต่งเรื่องราวด้วยเช่นกันและเจ้าหนูก็สนุกกับการฟัง
    นั่นแหละคือที่สำคัญ

    "ฉันไม่นั่งหรอก มาไล" เจ้าหนูตอบ

    "ไหงเป็นงั้นเล่า?"

    เจ้าหนูชักเท้าไปมา   ตาก็เบือนหนีนัยน์ตาชราคู่นั้น เขาไพล่ไปดูมือแทน มือคู่นั้น
    ก็แก่และเหี่ยวย่นเช่นเดียวกับใบหน้า และมันไม่เคยอยู่นิ่งแม้เมื่อชายชรากำลังพูด
    ไม่หยุด เขาประทับใจมือขวา ข้างที่นิ้วกลางกุดหายไป   ข้างที่ทำงานหลังจาก
    เสียมด้ามเล็กฟันลงดิน นิ้วสีน้ำตาลแหวกลงไปในหญ้า  ขยี้จนแหลกแล้วเกลี่ยให้
    เรียบอีกครั้ง  ด้วยเวทย์มนตร์อะไรสักอย่างที่เขาไม่ทันมอง  วัชพืชต่าง ๆ และ
    หญ้าทั้งหลายก็มาอยู่บนฝ่ามือที่แบบออกนั้น เขารู้เรื่องเกี่ยวกับนิ้วนั้นด้วย และรู้ว่า
    มาไลตัดมันทิ้งอย่างไรหลังจากโดนงูกัดแก

    "เพราะครูใหญ่เฆี่ยนฉันเช้านี้สิจ๊ะ" เจ้าหนูเฉลย "แล้วมันยังแสบอยู่มาก"

    เขาอับอายขายหน้าอีกแล้ว แต่ตอนนี้มันต่างไป เขารู้ว่าจะพูดจากับมาไลได้ ตา
    เฒ่าก็คล้ายดังบิดาเขา เขาฉงนในทันใดว่า บิดาของเขาจะดูคล้ายตาแกไหม หาก
    ท่านแก่ชราก่อนจะล่วงลับไป

    "ท่านเฆี่ยนฉันตั้งสิบสามทีแน่ะ"เจ้าหนูว่าต่อไป "แค่เพราะเราไปที่ทุ่งภุตะ ท่านหา
    ว่ามันเป็นการลักขโมย แต่เราไม่ได้ขโมยอะไรซักหน่อยนะมาไล ก็มันงอกอยู่เองนี่"

    เขาเห็นนิ้วอันว่องไวชะงักไปชั่วครู่ นัยน์ตาสีน้ำตาลเหม่อไปข้างหน้าวินาทีหนึ่ง  
    แล้วดวงตาทั้งคู่ที่เคยหลบตาก็กลับมาจ้องมองเขาด้วยสายตาตำหนิและกรุ่นโกรธเล็กน้อย

    "ก็จริงที่มันงอกอยู่เอง" ตาเฒ่า เอ่ย "แต่หาใช่ด้วยความบังเอิญ  เวลาและอุตสาหะ
    ของเหล่าสตรีผู้ปลูกคือสิ่งที่ท่านฉกฉวยมา นั่นแหละคือ การลักขโมย อยู่ ๆ ท่าน
    จะหยิบฉวยสิ่งที่ไม่ใช่ของท่านไปหน้าตาเฉย นั้นไม่ได้"

    แต่ครั้นแล้วตาแกก็หวนนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งวัยเยาว์  และรำลึกถึงแอ๊ปเปิ้ลสิกขิม
    สีแดงที่เคยตุงหนักในห่อผ้า       แกรู้ว่านั่นไม่ใช่การลักขโมย  เพราะจนกว่าเจ้า
    หนูนั่นจะเติบใหญ่เป็นหนุ่ม แล้วขวนขวายให้ได้สิ่งควรได้ ก็ ยังหามีสำนึกแท้จริง
    ของคุณค่าแห่งความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของไม่

    สายตาของตาแกเหไปจากท่าทางไม่สบายใจของเจ้าหนู นิ้วยังคงง่วนอยู่กับการคัด
    แยกอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

    "ถ้าตาคิดงั้นละก็ มาไล" เจ้าหนูพูดอย่างลังเล

    เขายังไม่คล้อยตามนัก แต่ถ้าตาเฒ่าว่ามันเป็นการลักขโมย มันก็ต้องเป็นอย่างงั้น
    ในอนาคตเขาตัดสินใจว่าจะต้องพยายามให้มาก ๆ ที่จะทนต่อแรงเย้ายวนให้ไปที่
    ทุ่งภุตะ

    "แล้วท่านร้องไห้หรือเปล่า?"ตาเฒ่าซัก "หรือท่านกลั้นน้ำตาไว้เยี่ยงชายชาตรี?"

    "ฉันไม่ได้ร้องไห้! "เจ้าหนูผลุงกายขึ้นยืนสูง แต่แล้วก็ทรุดลงเล็กน้อย"ไม่มี
    จากดวงตาฉันแน่ ฉันร้องทางปากนิดหน่อย แต่ไม่เหมือนกัยเจอร์รี " เขาเสริมอย่างดุดัน

    "ดีแลัวล่ะน่ะ" ตาเฒ่ากล่าวชม "แล้วตอนนี้ท่านอยากฟังเรื่องฉันลืมศรได้ไงหรือยัง?"

    " ไม่ - ฉันอยากให้ตาเล่าเรื่องหมีให้ฟังอีก"




    =====================(ต่อกระทู้หน้า)=====================


    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 47 00:45:32

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 47 00:26:19

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 47 00:24:07

    แก้ไขเมื่อ 31 มี.ค. 47 00:22:41

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [ 31 มี.ค. 47 00:18:17 ]