=[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่41 กองกำลังลับภายใน

    ตอนนี้เราจะโพสต์ทั้งหมดประมาณ 20 หน้านะครับ และอาทิตย์หน้าโพสต์ปกติ แต่ขอไปหยุดช่วงสงกรานต์แทน ขอบคุณครับ

    “ทรยศ เช่นไรเรียกว่าทรยศ!!!” เกี่ยมฮุ้นตวาดเสียงดัง

    “สมคบคนนอก เอาใจออกห่าง เพียงเท่านี้ก็นับว่ามีโทษสมควรตายแล้ว!” เซียนแพทย์เทวะตอบกลับด้วยเสียงดุดันไม่แพ้กัน

    “อ้อ” เกี่ยมฮุ้นรับคำ กล่าวต่อว่า

    “ตลอดมา ประมุขทำกับพวกเราเช่นไร เจ้าน่าจะทราบดี สมัยก่อนตัวข้าและหลี่เทียนเล้ง ล้วนแต่วิ่งเต้นเพื่อคนผู้นี้ นึกไม่ถึงเพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว หลี่เฉินเชียงกลับลงมือต่อพี่น้องร่วมสาบาน!”

    “เจ้า…เจ้า” เซียนแพทย์เทวะนึกมิถึง อีกฝ่ายกล้าเรียกชื่อประมุขตรงๆ

    จากนั้นถอนหายใจยืดยาว กล่าวว่า “ท่านประมุขอย่างไรก็เป็นเพียงปุถุชน ย่อมมีรัก หลง เป็นธรรมดา ผู้คุ้มกฎซ้ายน่าจะเข้าใจ” ตอนท้ายคำพูดเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนยิ่งนัก มันยังคิดว่าสามารถเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายสำเร็จ

    “อ้อ เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง กลับทรยศหักหลังกระทั่งพี่น้องร่วมสาบาน ตัวข้าที่เป็นเพียงบ่าวไพร่ มิแน่วันหนึ่งจะลงเอยเช่นไร ย่อมต้องหาลู่ทางให้กับตนเอง!”

    คำพูดนี้ทำให้เซียนแพทย์เทวะอึ้งไป เกี้ยมฮุ้นเห็นเป็นทีก็ร้องต่อ

    “ยังมี หลังจากหลี่เทียนเล้งหายสาบสูญ หึ หายสาบสูญ เป็นฝีมือผู้ใดท่านก็น่าจะรู้ …คงเหลือเพียงข้า ผู้ใดกันที่คอยควบคุมดูแลพรรค ในขณะที่หลี่เฉินเชียงวางท่าเป็นหัวหน้าพรรค ผู้ใดดูแลกิจการของพรรค หากมิใช่เราเกี่ยมฮุ้น!!!” มันตวาด

    “พรรคนี้สมควรที่จะเป็นของเรา มิใช่ของคนแซ่หลี่!!!”

    “เจ้า…เจ้า” เวลานี้มันรู้แล้วว่าคงมิสามารถเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายได้ เห็นทีคงต้องจับกุมคนผู้นี้กลับไปรับโทษ ทว่ามันมีขีดความสามารถเพียงพอหรือ?

    “มีอันใดไม่ถูกต้อง มีสิ่งใดที่คนแซ่หลี่สามารถกระทำ แล้วข้าพเจ้ากระทำไม่ได้!!! พรรคเราล้วนมิจำเป็นต้องมีคนผู้นี้ เพียงแค่เราก็สามารถที่จะดูแลให้พรรคยิ่งใหญ่เกรียงไกร”

    เซียนแพทย์เทวะตวาดลั่น “เกี่ยมฮุ้น!!! นึกมิถึงว่าเจ้าจักมักใหญ่ใฝ่สูงเช่นนี้ ตลอดเวลาท่านประมุขมิได้อยู่ดูแลพรรค ออกไปวิ่งเต้นอยู่ที่ด้านนอก ล้วนแต่ทำเพื่อพรรค เจ้ายังมิรู้สึก? เหตุใดพรรคเราทำมาค้าขึ้น กิจการสามารถแตกกิ่งก้านสาขา เจ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้ได้มาเพราะโชคช่วย? หรือคิดว่าเป็นฝีมือของเจ้า? นั่นออกจะคิดเข้าข้างตนเองเกินไปหน่อยแล้ว!!!”

    “เราจักคิดเช่นใดก็เป็นเรื่องของเรา เพียงแต่พรรคฉิกจับอิดนี้ เราจะมิยอมยกให้เป็นของคนแซ่หลี่ เราเกี่ยมฮุ้นผู้นี้จะแย่งชิงมาให้จงได้!!!” เกี่ยมฮุ้นกล่าวพลางชักกระบี่ยาวที่หว่างเอวออกมา

    เซียนแพทย์เทวะเห็นกระบี่ที่เอวนั้นมิใช่สยบเวหาอันเลื่องลือ จึงหัวเราะร้องว่า “ฮา ฮา ‘สยบเวหา’ ของเจ้าไปที่ใด จึงมาใช้กระบี่โกโรโกโสเช่นนี้” กล่าวพลางมันล้วงเข็มยาวประมาณเจ็ดนิ้ว ออกมาห้าเล่ม ขึ้นมาถือเอาไว้ในมือ

    เกี่ยมฮุ้นมองเห็นอดอุทานออกมามิได้

    “เข็มสะกดวิญญาณ!!!”

    “ฮา ฮา ยากนักที่เจ้ายังจดจำมันได้”

    คนผู้นี้เดิมทีมีความสามารถในการปลอมแปลงตัวอย่างเยี่ยมยอด หนึ่งในนั้นก็สืบเนื่องมาจากเข็มเหล่านี้ ซึ่งเมื่อฝังลงไปบนกล้ามเนื้อด้วยวิธีการพิเศษเฉพาะ จะสามารถทำให้คนอ้วนราวลูกหนังกลายเป็นคนผอม คนที่ผอมแห้งกลายเป็นอ้วนท้วนสมบูรณ์ คนสูงกลายเป็นเตี้ยสั้น คนที่ต่ำเตี้ยกลายเป็นสูงยิ่ง นับว่าร้ายกาจจนยากหาผู้ใดเทียบเทียม

    เกี่ยมฮุ้นแม้จะตระหนกจนหน้าเปลี่ยนสี ทว่ากระบี่ในมือยังคงจู่โจมออก กลายเป็นรุ้งขาวสายหนึ่ง ทิ่มแทงเข้าใส่อย่างรวดเร็วหาใดเปรียบ

    ท่าจู่โจมของมันแม้รวดเร็ว ทว่าอีกฝ่ายก็ไม่เชื่องช้า เข็มห้าเล่มในมือถูกซัดออกโดยพร้อมเพรียง พุ่งตรงแยกย้ายเข้าสู่ตำแหน่งดวงตา หัวใจ และแขนซ้ายขวา พลังในการซัดขว้างรุนแรงจนเข็มที่แหวกฝ่าอากาศดัง หวีดหวิว ฟังแล้วชวนให้อกสั่นขวัญผวา วิญญาณหลุดลอย สมแล้วที่เรียกว่า “เข็มสะกดวิญญาณ”

    เกี่ยมฮุ้นตวาดคำหนึ่ง กระบี่ในมือวกกลับ ปัดป่ายเข็มทั้งห้าเล่มออกห่าง รู้สึกสั่นสะเทือนที่ข้อมืออย่างรุนแรง ตัวเข็มแม้จะเบนออกสู่ภายนอก แต่พลังที่แฝงมากับเข็มทั้งห้ายังมิสิ้นสุด ในที่สุดผลักดันจนเกี่ยมฮุ้นต้องถอยกายไปอีกสามก้าว จึงสามารถหยุดยืนได้อย่างมั่นคง

    เข็มห้าเล่มเมื่อถูกซัดออกไปแล้ว เซียนแพทย์เทวะกลับชักเข็มยาวดังกล่าวออกมาอีก คราวนี้มิได้มีเพียงห้าเล่มเท่านั้น กลับมีถึงสิบเล่มด้วยกันทีเดียว เกี่ยมฮุ้นเห็นดังนั้นมิรอช้า เนื่องจากดาบกระบี่ต้องใช้ในระยะประชิดจึงจะสามารถสำแดงประสิทธิภาพได้ถึงขีดสุด ส่วนเข็มดังกล่าวสามารถซัดขว้างจู่โจม มีระยะทางในการจู่โจมที่กว้างไกลกว่า ดังนั้นเกรงอีกฝ่ายจะใช้ความได้เปรียบอันนี้ ตัดสินใจชิงจู่โจมอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันซัดขว้าง ทว่าการณ์กลับมิเป็นดังที่ตั้งใจ เซียนแพทย์เทวะ อาศัยเข็มห้าเล่มข้างละมือ กางออกดุจกรงเล็บ ระดมทิ่มแทงสะกัดเข้าใส่ มิเพียงสามารถรับมือกับกระบี่ของอีกฝ่าย ยังชิงจู่โจมจนเกี่ยมฮุ้นต้องถอยร่นออกไป

    “เจ้าสำเร็จวิชากรงเล็บหมาป่าแล้ว!” เกี่ยมฮุ้นร้อง แต่ไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดมากความ เบื้องหน้ามันเซียนแพทย์เทวะร่ายรำกรงเล็บหนาแน่นขึ้นทุกที

    “เข็มชุดที่สองนี้มิใช่เข็มสะกดวิญญาณธรรมดา หากแต่เป็นเข็มที่เคลือบด้วยยาพิษร้าย หากทิ่มถูกเหยื่อต้องมีผลถึงชีวิต!” เซียนแพทย์เทวะร้องหมายข่มขวัญ แต่นั่นกลับทำให้เกี่ยมฮุ้นตัดสินใจได้ถูกต้องขึ้นคือทำการเบี่ยงเบนเป้าหมายจากจุดสำคัญบนตัวของเซียนแพทย์เทวะมาเป็นที่เข็มเหล่านี้แทน

    มันร่ายรำเพลงกระบี่เมฆา คล้ายเชื่องช้าคล้ายรวดเร็ว ตัวกระบี่ยืดหดคล้ายจริงคล้ายเท็จ แม้กระบี่จะไม่ใช่กระบี่วิเศษ แต่เมื่ออยู่ในมือคนผู้นี้นับได้ว่าร้ายกาจสุดหยั่งคาด!

    เซียนแพทย์เทวะรู้สึกพิศวงงงงวยเมื่อต้องเจอกับกระบวนท่าที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

    เกี่ยมฮุ้นอาศัยกระบี่ในมือควงสะบัดเป็นวงจรวงหนึ่งประคับประคองเข็มเหล่านั้นมิให้ร่วงหล่น จากนั้นสะบัดฟาดทั้งกระบี่ทั้งเข็มแยกย้ายกันพุ่งจู่โจมเข้าใส่ ในที่สุดสามารถช่วงชิงอาวุธอีกฝ่ายมาเป็นของตน!!!

    “เซียนแพทย์เทวะเอย เจ้าว่าเข็มพิษนี้ร้ายกาจนักหนา เจ้าก็ลองลิ้มรสดูหน่อยเป็นไร! ดูว่าสามารถต้านทานได้หรือไม่!” กล่าวจบ สิบเข็ม หนึ่งกระบี่ จู่โจมถึงฝ่ายตรงข้ามโดยพร้อมเพรียง เกิดเป็นค่ายกลอันลึกซึ้งซับซ้อน แม้แต่ยอดฝีมือของฉิกจับอิดอย่างเซียนแพทย์เทวะเจอเช่นนี้ก็ต้องถอยหนีไม่เป็นกระบวน

    เกี่ยมฮุ้นเห็นเป็นทีจึงตวาดอย่างคลุ้มคลั่งว่า “มีอะไรก็จงใช้ออกมาให้หมด ข้าอยากเห็นเจ้าดิ้นรนก่อนตาย ข้าอยากเห็น ข้าอยากเห็น ฮา ฮา!!!”

    มันเร่งพลังอัดใส่เซียนแพทย์เทวะถี่ยิบ จนอีกฝ่ายถูกเข็มบาดเป็นแผลยี่สิบกว่าแห่ง พอรู้สึกตัวอีกทีพิษก็ดูเหมือนจะแล่นสู่ทั่วร่าง ต้องดิ้นทุรนทุรายเพราะพิษร้าย

    จอมกระบี่หัวเราะดังๆ ที่เห็นวันนี้ผู้ได้ชื่อว่าจอมพิษต้องโดนกรรมสนอง มันสืบเท้าเข้าใกล้เซียนแพทย์เทวะเพื่อจะดูจุดจบนั้นให้ชัดเจนขึ้น

    “ร้องเข้าไปสิ ร้องดังๆ ข้าอยากฟัง!!!”

    “อ๊ากกกก อ๊าาาาาาก” เซียนแพทย์เทวะร้องโหยหวนเหมือนคนใกล้ตาย หากขณะที่เห็นเกี่ยมฮุ้นกำลังชะล่าใจเต็มที่มันกลับอมลมจนเต็มกระพุ้งแก้มแล้วพ่นน้ำลายใส่ฝ่ายตรงข้าม

    เกี่ยมฮุ้นยกแขนขวารับน้ำลายนั้น “จะตายแล้วยังจะเรื่องมาก เห็นทีต้องซ้ำ…” มันบ่นพึมพำไม่ทันไร เมื่อมองดูแขนขวาอีกทีกลับสังเกตเห็นเข็มเล่มเล็กๆ หลายเล่มปักอยู่ ต้องลอบร้องในใจว่า “เสียท่าแล้ว!!”

    เซียนแพทย์เทวะพลิกกายขึ้นยืนกระหยิ่มยิ้ม “กระบี่เมฆาเอย เจ้าออกจะดูถูกข้าไปแล้ว ธรรมดาผู้ใช้พิษนั้นย่อมมิอาจปล่อยให้พิษนั้นทำร้ายตนเองได้ ที่ข้าแกล้งบาดเจ็บเป็นเพราะต้องการให้เจ้าหลงกลชะล่าใจต่างหาก”

    เกี่ยมฮุ้นกัดฟันด้วยความแค้นเคืองนัก บัดนี้แขนเขาเริ่มโป่งพองจนผิดรูปร่าง และกลายเป็นสีม่วงคล้ำน่ากลัวยิ่ง ที่กล้ามเนื้อบริเวณโคนแขนถึงกับมีโลหิตสีม่วงพุ่งกระฉูดออกมา

    “เหอะ เหอะ ข้าว่าทางที่ดีเจ้ารีบตัดแขนขวาตนเองเสียก่อนที่พิษจะแล่นถึงหัวใจดีกว่า” เซียนแพทย์เทวะหัวเราะ

    “ฮา ฮา เมื่อนั้นเจ้ากลายเป็นคนพิการ หรือไม่ก็เดชไอ้ด้วน!!! อาจบางทีข้าจะเมตตาปล่อยเจ้าไป!!!”

    กระบี่เมฆายิ่งฟังยิ่งแค้น มันร้องดังๆ คำหนึ่งแล้วรวบรวมรวมลมปราณไปยังบาดแผล ทำให้โลหิตสีม่วงที่พุ่งออกมาก็มีมากขึ้นทุกที

    ถึงตรงนี้เซียนแพทย์เทวะกลับเป็นฝ่ายหน้าถอดสี เมื่อเห็นว่าโลหิตสีม่วงยิ่งมายิ่งมาก แขนนั้นก็คล้ายจะค่อยๆกลับคืนสู่สภาพปกติ เกี่ยมฮุ้นถึงกับสามารถรีดเร้นพิษด้วยตนเองได้แล้ว!!!

    จุดนี้เป็นจุดที่ทำให้เซียนแพทย์เทวะสำนึกได้ว่าตนไม่มีวันเป็นคู่ต่อสู้ของชายผู้นี้ตลอดกาล

    เมื่อสู้ไม่ได้ก็หนี! เซียนแพทย์เทวะใช้วิชาพรางกายขั้นสุดยอดเลือนกายหายไปราวอากาศธาตุ
    คนทั่วไปเห็นวิชานี้ต้องคิดว่ามันมีฤทธิ์ล่องหนหายตัว หากแท้จริงแล้วเป็นวิชาตัวเบาชั้นสูงที่ใช้การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลบเข้าที่ซ่อนที่ใกล้ที่สุด ซึ่งคนที่ใช้วิชานี้ได้ก็น่ากลัวมีเพียงเซียนแพทย์เทวะคนเดียวอีกนั่นเอง

    หากเกี่ยมฮุ้นย่อมไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามหนีได้ มันหันซ้ายหันขวา ปิดตาลงแล้วทำจมูกสูดดมบางอย่าง

    ฉับพลันมันก็ลืมตาโพลงขึ้นแล้วร้องว่า “ตรงนั้น!!!”

    จอมกระบี่พุ่งกระบี่ของตนไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งอย่างแรงจนใบไม้ร่วงกราว

    ยางไม้ที่พุ่งออกมานั้นมิใช่สีขาว แต่เป็นสีแดง! กระบี่ได้แทงเข้าถูกหน้าอกเซียนแพทย์เทวะซึ่งแฝงกายในต้นไม้แล้ว!!!

    “จะ… เจ้ารู้ที่อยู่ข้าได้อย่างไร …วิชาพรางกายของข้าน่าจะเป็นสุดยอดแล้ว…” เซียนแพทย์เทวะจับหน้าอกร้องคร่ำครวญ ปากก็กระอักเลือดออกมา

    เกี่ยมฮุ้นยิ้มอย่างผู้มีชัย “หึหึ บอกเจ้าก็มิเป็นไร ถือเป็นของขวัญลงนรก!!! ความจริงเจ้าน่าจะเอะใจตั้งแต่ทีแรก ผู้ที่มีวิชาพรางตัวสูงส่งเช่นเจ้า เหตุใดเรายังสามารถล่วงรู้ว่าถูกสะกดรอย! ฮา ฮา เรายอมรับเมื่อก่อนเจ้าเก่งกาจด้านปลอมแปลง แต่ภายหลังหมกมุ่นกับวิชาทางการแพทย์มากเกินไป กลิ่นกายก็โดนยาที่ปรุงทุกวันทำให้ผิดแผกไปโดยไม่รู้ตัว ถึงบัดนี้แม้ว่าเจ้าจะพรางกายเช่นใด ขอเพียงข้าสูดดมก็ล้วนได้กลิ่นยาฉุนเฉียว!!!” ที่แท้เกี่ยมฮุ้นมิได้พบเห็นความผิดปกติในการพรางตัวของอีกฝ่าย เพียงแต่สูดดมได้กลิ่นยา จึงล่วงรู้ว่าเซียนแพทย์เทวะอยู่ที่ใด นี่เรียกว่า ความเคยชินทำให้พลาดพลั้งโดยแท้ เซียนแพทย์เทวะวุ่นวายอยู่กับหยูกยา ในที่สุดบนตัวมีกลิ่นอายของตัวยา ตัวมันกลับมิรู้สึก ผู้อื่นเพียงสูดดมกลับทราบความแตกต่าง นับเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวง ที่มันมองข้ามไป!

    เซียนแพทย์เทวะฟังดังนั้นก็แค่นยิ้มเศร้าๆ “หึหึ จริงสิ ข้ากลับลืมเลือน… แต่คนเช่นข้า… คนเช่นข้าจะพบจุดจบอย่างนี้รึ…?”

    มันเหลือบเห็นบริเวณข้างๆ นั้นมีลำธารใหญ่ จึงตัดสินใจกระโดดลงไปทันที ซึ่งกิริยานี้จะดูเป็นกระโดดน้ำเพื่อหลบหนีก็ได้ หรือจะดูเป็นการกระโดดน้ำตายก็ได้

    แต่คนอย่างเกี่ยมฮุ้นย่อมไม่มีทางวางใจ มันรีบกระโดดลงน้ำติดตามฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็วหมายซ้ำให้ตายสนิท

    อย่างไรก็ตามในน้ำอันเชี่ยวกรากนั้น การสัมผัสรับกลิ่นย่อมด้อยลง เกี่ยมฮุ้นไม่อาจติดตามเซียนแพทย์เทวะได้อีกต่อไป ไม่นานมันก็ต้องว่ายกลับมาขึ้นฝั่งด้วยความเหนื่อยอ่อน

    จอมกระบี่เมฆาเหลือบตาดูกระแสน้ำด้วยความเสียดาย บางทีเซียนแพทย์เทวะอาจตายแล้ว …หรืออาจไม่ตายก็ได้ หากเป็นอย่างหลังนี่อาจเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของมันที่ปล่อยให้คนกุมความลับของตนรอดพ้นไป

    เกี่ยมฮุ้นกำมือแน่น จะอย่างไรโอกาสก็หลุดลอยไปแล้ว ตอนนี้ต้องคิดหาลู่ทางเผื่อรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดต่างหาก มันเริ่มคิด …แผนการที่วางไว้ เห็นทีต้องเร่งดำเนินการให้เร็วขึ้นเสียแล้ว…

    ... ... ...(มีต่อกำลังทยอยๆ ลง)

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 1 เม.ย. 47 21:40:19 ]