ไอยรา..

             ณ แผ่นดินอันอุดมด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร..เขียวสะอ้านไปทั่ว
    ทิศถ้วนแดน..เนินเขาเตี้ยปกคลุมด้วยหญ้านุ่มราวกำมะหยี่นั้นประดับ
    ประดาด้วยดอกไม้นานาชนิด บ้างเขียวบ้างแดงบ้างม่วงบ้างขาว บ้างเล็ก
    บ้างใหญ่ชูช่อประชันเรียกร้องหมู่ภมรมาดอมดม..ริมลำธารยามนั้นน้ำยัง
    คงไหลรินเสียงริกริก ผ่านกอพืชน้ำหลากชนิดทั้งบัวตูมและบัวบาน ผัก
    ตบชูช่อดอกสีม่วงสง่างามแข่งขันกับแดงชมพูของปทุมมาศ ฝูงมัจฉาดาร
    ดาดส่ายหางรี่ครีบสวนสายน้ำผะงาบปากเพื่อดักเหยื่อ ส่วนตัวที่จำต้อง
    เปลี่ยนอากาศก็โผฮุบโผล่น้ำดังโผงผาง..ถัดไปริมลำน้ำยังเป็นต้นอโศก..
    ยื่นชะโงกส่วนหนึ่งลงมาเหนือน้ำ..ร่มเงาของเจ้าทอดระริกอยู่กับผิวธารที่
    ใสราวน้ำทิพย์..กิ่งก้านดอกไม้ดกครึ้มร่มรื่น หมู่นกกาจับเกาะกิ่งก้านจิ๊บ
    จั๊บ..บ้างกระโดดจากกิ่งนั้นมากิ่งนี้..บ้างจับคู่จี๋จ๋า..บ้างไซ้ขนชอนไชไปใต้
    ปีก..บ้างระบำเกี้ยวคู่..บ้างร้องลำนำบทเพลงแห่งปักษาจนก้องไพร

             พระสุริยาเหนือทวีปยังคงส่องแสงฉาบต้องโลก..หากความร้อน
    แรงนั้นลดละมุนลงอย่างเรียบเรื่อย..นำพาสายลมโชยอ่อนเย็นสัมผัส..
    หอบกลิ่นสุคนธ์มนต์ดอกไม้มาด้วย...ใต้โคนต้นอโศกนั้น..ทรวงอกสะท้าน
    ขึ้นเมื่อสูดกลิ่นเกสรนั้นเข้าไปอย่างเต็มปอด..สายตาทอดนิ่งเหม่อมองไป
    เบื้องบน เมฆาสีหม่นและสีขาวฟูฟ่องเปลี่ยนร่างเปลี่ยนรูปไปตาม
    อารมณ์..สองกรน้อยวางทอดอยู่เหนืออุระ..ลำนิ้วขาวผ่องหากเล็กเรียว
    มนปลายเล็บอมชมพูนั้นแสดงให้เห็นถึงความกำดัดแห่งวัยดรุณ ลำคอ
    ระหงรับคางที่โค้งมน ริมฝีปากอิ่มเต็มชมพูเข้มราวดอกพฤกษชาติปทุม
    ไพร..ดวงตาวาวประกายวับหวานแจ่มภายใต้กรอบขอบขนงตาที่โค้งเว้า..
    เนินลาดของหน้าผากถูกปอยผมปะแปะปะติดไว้..เผยให้เห็นความไฉไล
    แห่งรูปโฉม..ไม่รวมรูปร่างที่สะคราญทรง ณ แรกสาว..อาภรณ์ขาวบาง
    นุ่มปลิวไล้ขึ้นลงไปตามภาวะลม..ภวังค์อันสุขสมเข้าครอบงำยากถอนใจ

             ถัดไปเป็นสุนัขน้อย สีดำสนิทขนปุยปกปิดทุกส่วนร่าง..หมอบหัว
    แนบขนานกับลำขาของคู่หน้า..เหยียดแข้งขาหลังอย่างสบาย..มันมอง
    เจ้านายน้อยของมันไม่วางตา..หูกระดิกไปมาเพื่อรับเสียงที่ผิดปกติ..หาง
    ยาวขนพู่นั้นวาดไปมาบ้างเป็นบางโอกาส..บางเวลาก็ชูหัวขึ้นแล้วชันหู..
    มองซ้ายขวาหาที่มาของเสียง..บางเวลาก็พองคอเห่าเสียงแหลมเล็กขึ้น
    สักครั้งสองครั้ง..แล้วก็หมอบนอนดูเจ้าของของเจ้าต่อไป

             สรรพสิ่งรอบข้างที่บรรยายมาทั้งหมดนี้..จะคงอยู่สงบเย็นต่อไปอีก
    หลายเพลา..หากมันได้แปรเปลี่ยนเป็นป่วนปั่นขึ้น ก็ด้วยลำยาวของตัว
    สัตว์ชนิดหนึ่ง..อวบอ้วนหนาเทียบท่อนขา..ทิ้งตัวลงจากกิ่งอโศกนั้นลง
    มายังเบื้องล่างเพื่อจู่โจมเหยื่อ มันเป็นหลามตัวใหญ่ที่เฝ้ารอดักสัตว์ชนิดใดซึ่งเข้ามาใต้ต้นไม้ในยามนี้..มันคงได้เล็งเห็นเหยื่อตัวน้อยหากสวยงาม
    นอนอยู่บนพื้นหญ้านุ่มนั้นนานแล้ว..ค่อยขยับกายคืบคลานลัดเลาะบด
    บังตามกิ่งก้านและบังใบมาจนได้จังหวะ..แล้วทิ้งตัวลงมาเพื่อจู่รัดก่อน
    กลืนกิน

             เสียงหวีดร้องจากดรุณนั้นดังก้องขึ้น ลำตัวอันหนักหนาของมันทำ
    ให้นางจุกและสิ้นแรง ขนดหางค่อยข:-)เกลียวช้อนใต้ขารัดเข้าหากัน
    ขมวดลำซ้ำแล้วขนดเล่าอย่างรวดเร็ว..เจ้าสุนัขน้อยกระโจนจู่ช่วยเจ้านาย
    สาว เจ้าตัวเล็กก็จริงแต่น้ำใจหาเล็กไม่ ขย้ำได้ที่ส่วนใดก็กัดสบัดสิ้น..แต่
    หาได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่อสูรเลือดเย็นนั้นไม่..เจ้าทั้งเห่าทั้งกัดฟัด
    ไปมา..และฉลาดพอที่จะเลือกกัดส่วนหัวที่จ้องเขม็งระรัวลิ้นอยู่ตรงหน้า..
    มันผงะฟาดขยายเขี้ยวเพื่อฉกเจ้า..ขณะร่างกายเขม็งขนดนั้นเพื่อรัด
    เหยื่อ..เจ้าคงเห็นว่าไร้หนทางแล้ว..ทิ้งการเอาเทิดเจ้าล่อไว้เพื่อช่วยเจ้า
    นาย..กระโจนสวนเข้าไปกับการฉกเต็มแรงของเจ้างูนั้น..

             แต่ความรวดเร็วของเจ้าหาได้เพียงพอกับความรวดเร็วของกล้าม
    เนื้อที่กอร์ปขึ้นเป็นลำยาวนั้นไม่ เจ้ากัดได้เพียงลำคอของมันอย่างเต็มคำ
    ในขณะที่มันก็แว้งกัดเจ้าเข้าที่กลางหลังอย่างเต็มแรง..ความเจ็บปวด
    แล่นสู่หัวใจเจ้า..แต่เจ้าก็ยังไม่ยอมปล่อยปากที่งับอยู่ ยิ่งกดเขี้ยวลงไป
    ด้วยอาการของการสู้ตาย..ทั้งเจ้านายและบ่าวสุนัขกำลังตกอยู่ภายใต้
    เวลาแห่งมรณะที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว

             แต่แล้วมือหนึ่งก็ยื่นเข้ามา..พร้าคมกริบตวัดวับตัดขาดจนแหว่ง
    วิ่น..เลือดสีแดงฉานกระจายอาบไปทั่วพื้นหญ้าเขียวนั้น..ร่างหนึ่งซึ่ง
    กำยำล่ำสัน แข็งแกร่งกำลังเนิบช้าใจเย็นอยู่กับการสับเฉือนร่างงูนั้นโดย
    ไม่ร้อนใจ ไม่สนใจว่าสาวน้อยจะหมดแรงดิ้นทุรน ไม่สนใจว่าเจ้าสุนัข
    น้อยจะแน่นิ่งไม่ทุราย..เจ้าทำเหมือนเจ้ากำลังดายหญ้าหรือเกี่ยวข้าว..
    สายตาคมกริบภายใต้กรอบเข้มแห่งวงหน้านั้นไม่แสดงอาการความรู้สึก
    ใดออกมา..เมื่อร่างงูยับขาดชิ้นแดดิ้นสิ้นแล้ว..เจ้าจึงเอื้อมมือไปฉุดร่าง
    สาวน้อยนั้นขึ้นมาจากพื้นหญ้า..เหม่อมองเจ้าสุนัขดำเลือดอาบภายใต้
    คมเขี้ยวงูอย่างเฉยชา..

             

    จากคุณ : แทน - [ 2 เม.ย. 47 00:48:10 A:202.57.185.59 X: ]