"รัฐกุ"
บทนำ
ผมเกิดในกาล "กุ" สมัย
ช่วงยุคทองแห่งความหลากหลายและความเปลี่ยนแปลงที่ไม่น่าจดจำ สมัยแห่งความเป็นไปได้ในทุกสิ่ง อะไรก็เกิดขึ้นได้ในทุกเสี้ยววินาทีแห่งกุสมัย ใครก็ตามที่เติบโตมาในรัฐสมัยกุ ต้องเผชิญกับความอลหม่านอลเวงเกินกว่าจะคาดคิด
เหมือนกฎทฤษฎีการคัดเลือกโดยธรรมชาติของดาร์วิน "On the origin of species by mean of Natural Selection by Charles Darwin นักวิทยาศาสตร์โบราณหลายพันปีก่อนว่าไว้ แม้ยุคกุ มนุษย์เราจะอยู่เหนือธรรมชาติใดๆทั้งปวง ไม่ว่าอากาศ น้ำ สัตว์อื่น แม้แต่ไวรัส รา และแบคทีเรีย ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ทุกสิ่ง ทุกตัว ทุกอัน มีเพียงสิ่งที่สร้างความพลิกผันและสับสนให้กับมนุษยชาติตลอดเวลาคือ ตัวตนของมนุษย์เอง
"คนที่ไหลไปตามกระแสได้เร็วและง่ายที่สุดจึงสามารถอยู่ยั้งยืนยงได้ในรัฐแห่งกุ"
ผู้ใดที่ตั้งป้อมต้านกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงที่ไหลบ่าถ่าโถมอย่างรุนแรงนี้นั้น ล้วนสิ้นสภาพและถดถอยไปตามกัน ยากนักที่จะประคองชีวิตให้ทนทานอยู่ได้
ผมเองก็เป็นมนุษย์ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคกุ สมัยกุ และภายใต้การนำของรัฐบาลกุ ชีวิตประจำวันของผมจะดำเนินตามกิจกรรมต่างๆในรัฐกุ โดยที่ทุกๆวัน
ผมต้องตื่นเช้ามาเพื่อบริโภคข่าวสาร
ฝ่าการจราจรทางอากาศที่ติดขัดไปยังสถานที่ทำการ
จัดการกับหน้าที่การงาน
ประชุมพบปะกับผู้คนต่างๆมากมาย
เตรียมแผนการรองรับสถานการณ์สำหรับวันรุ่งขึ้น
แวะซื้อเทคโนโลยีและแฟชั่นใหม่ๆ
บริโภคอาหารพร้อมกับสังสรรค์กับมิตรสหาย เพื่อเตรียมปรับตัวไปตามกระแสในวันพรุ่งนี้ ถึงบ้านก็ราวเกือบเช้าของอีกวันหนึ่ง
เป็นอย่างนี้เรื่อยมาตลอดตั้งแต่วัยเยาว์จนเติบใหญ่ และเป็นความยุ่งยากที่จะต้องเผชิญทุกวัน ตั้งแต่ตื่นจนหลับ
การจะดำรงชีวิตอยู่ได้ในรัฐสมัยแห่งกุนั้น ต้อง "Understand Dynamic of Change"
"รัฐกุ" เป็นรัฐแห่งเสรีภาพ?!!
รัฐกุเป็นรัฐเสรีแห่งกายภาพโดยแท้...
ใคร่ไปไหน อย่างไร กับใคร เมื่อไร ที่ไหน ก็ได้โดยไม่มีการปิดกั้น กีดกัน เพียงแค่ดำริอยากจะไป ก็หาความลำบากในการเดินทางไปไม่ ไม่มีครอบครัว ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ ไม่มีแฟน ไม่มีลูก ให้ผูกพัน แม้แต่สัตว์เลี้ยงก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะรัฐได้จัดการดูแลให้หมดทุกอย่าง ชีวิตช่างหลุดพ้นจากพันธนาการจากอดีตและผลลัพธ์จากการกระทำทั้งปวงโดยแท้
หากเพียง...รัฐจะเข้าจัดการเราทุกย่างก้าว
เราเกิดมา รัฐจัดหาสถานเลี้ยงดู ตามโครงการ "30 กุ เลี้ยงดูทุกคน"
โตขึ้นมาก็หาสถานศึกษาให้ ตามโครงการ "โรงเรียนในเขต"
ไม่สบาย รัฐจัดโครงการต่อเนื่องเป็น "30 กุ รักษาทุกโรค"
รายได้ไม่พอรายจ่าย รัฐกุ จัดให้ขึ้นทะเบียนรอรับการช่วยเหลือ
ไม่มีหนทางทำกิน รัฐกุก็จะจัดการหาที่ดินทำกิน จัดหาอาชีพ สนับสนุนนักธุรกิจรายย่อย ส่งเสริมการลงทุน แม้ธุรกิจจะล่มรัฐก็จะเข้าไปประคับประคอง
ขอเพียงแค่...
เราอย่าคิดมาก (เราจะไม่มีสิทธิคิด) ที่รัฐเป็นผู้คิดให้
เราอย่าถามมาก (เราจะไม่มีสิทธิถาม) เพราะรัฐไม่ชอบตอบคำถาม
เราอย่าไปฝืนอำนาจรัฐ (เราจะไม่มีสิทธิล้มล้างรัฐ) เพราะรัฐมีอำนาจเหนือเราในทุกทาง
รัฐเปิดโอกาสให้เราเลือก "ผู้นำ" อย่างเสรี ตามระบอบตัวเลือกอธิปไตย ซึ่งเป็นที่นิยมและใช้กันในนานาอารยประเทศ กล่าวคือ รัฐจะส่งผู้สมัครเป็นตัวเลือกมาให้เราเลือกลงคะแนนเสียง โดยรัฐจะชี้นำให้เห็นผู้สมัครที่โดดเด่นที่สุด โดยชูนโยบาย
ผู้นำที่ดี จะสนับสนุนการ
เปิดเสรีทางการค้า
เปิดเสรีทางการลงทุน
เปิดเสรีทางสังคม
เปิดเสรีทางการศึกษา
เปิดเสรีทางความเชื่อและศาสนา
เปิดเสรีทางการท่องเที่ยว
เปิดเสรีทางเพศ
แต่ไม่เปิดเสรีทางความคิด
เราจะเห็นตัวเลือกนี้ได้อย่างเด่นชัด และเลือกได้ถูกคนที่รัฐกุต้องการเสมอ
ผู้นำ ก็คือ ผู้ริเริ่มกระแสนิยมต่างๆจะไหลมาตามนโยบายแห่งรัฐ ...
รัฐสนับสนุนให้คนซื้อพันธบัตร ประชาชนก็จะแห่กันไปซื้อพันธบัตร
รัฐสนับสนุนให้ประชาชนท่องเที่ยว ทุกคนก็แห่กันไปท่องเที่ยว
รัฐสนับสนุนให้คนกินเป็ด ประชาชนก็จะบริโภคเป็ดย่าง เป็นตุ๋น เป็ดทอด คอเป็ด ตับเป็ดพะโล้ กันทุกครัวเรือน
รัฐสนับสนุนให้ประชาชนออกกำลังกาย พร้อมทั้งขุดค้นเอาศาสตร์โบราณ เช่น การออกกำลังแบบแอโรบิค และ ศาสตร์ตะวันออกยุคโบราณ เช่น ไทเก็ก กังฟู มาเป็นเครื่องมือ
รัฐสนับสนุนให้มีการแข่งขันกีฬานานาชาติ และ ส่งเสริมให้คนนิยมนักกีฬา ทำให้สินค้ากีฬาและเสื้อผ้า อุปกรณ์ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หลังจากตลาดสินค้าประเภทนี้ซบเซามากว่าร้อยปี โดยใช้งบประมาณจากการจำหน่ายยาสูบ ภาษีสรรพสามิตสุรา และ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐกุ สนับสนุนการจัดการแข่งขัน
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือกีฬาพวกนี้มาสะสมไว้ให้ทันกระแส และเป็นผู้บริโภคยาสูบ สุรา และซื้อหวยเป็นประจำ
นั้นคือปฐมบทแก่งรัฐกุ
จากคุณ :
กระเฉดน้อย
- [
5 เม.ย. 47 10:07:46
]