เข้ามุมทักทายนึดนึงนะค๊า...ทรายเป็นพวกที่ถ้าอ่านเรื่องที่มีตัวละครเยอะๆเเล้วจะเริ่มมึน ยิ่งถ้าชื่อยากๆยิ่งจำไม่ได้เข้าไปใหญ่ ดังนั้นทรายถึงพยายามเขียนให้ตัวละครในเรื่องนี้มีชื่อที่จำง่ายหน่อย...เเต่อย่างว่าเเหละค่ะ คนเขียนมักจะจำตัวละครได้ เเต่คนอ่านจะจำได้รึเปล่าเนี่ย?
-----------------------------------------------------------
นานมาแล้ว มีแคว้นหนึ่งซึ่งเป็นพันธมิตรต่อแคว้นเพื่อนบ้าน แคว้นๆนั้นคือ แคว้น สโตรจน์ ในแคว้นสโตรจน์นี้มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในแคว้น...เมืองเวลล์ โดยเมืองแห่งนี้ มีเจ้าเมืองซึ่งสืบเชื้อสายจากเชื้อพระวงศ์โดยตรง หากแต่ยังไม่ได้รับเข้าการอภิเษกแต่งตั้งเป็นเจ้าชาย นั่นก็คือ ลอร์ด เดลาคล็อกซ์ เดอ เมเยอร์ ...
แต่ในคืนที่พระจันทร์เว้าแหว่งนี้ ณ.พระราชวังสโตรจน์นั้นมีเสียงโวยวาย ซึ่งเป็นเสียงที่ทหารข้าราชบริวารไม่กล้ายื่นมือเข้าไปยุ่ง...การทะเลาะกันระหว่าง ราชินีสโตรจน์ และโอรสของพระองค์...เจ้าชาย วาเลนไทน์...
อย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย ราชินีแผดสุรเสียงดังลั่น จะไม่ยอมมีคู่หมั้นงั้นเหรอ จะหาเองงั้นเหรอ งั้นบอกแม่ทีซิ ว่า 3 เดือนที่ผ่านมาน่ะ ได้ควงใครซักคนรึยัง อย่าลืมนะว่าอีก 9 เดือน ถ้าหาคู่หมั้นไม่ได้ แม่จะหาให้เอง
เรื่องอย่างนี้มันบังคับกันไม่ได้นะขอครับท่านแม่ วาเลนไทน์เสยเกศาตนเองขึ้นด้วยพระอารมณ์หงุดหงิด
แม่ถูกใจเจ้าหญิงแคว้นข้างเคียงเรา ตอนที่แม่ไปงานสังคม เขาลือกันให้แซดว่า เจ้าหญิงแห่งแคว้นโฟรเซนต์น่ะ งดงาม และเชี่ยวชาญด้านดอกไม้ ต้องเป็นกุลสตรีที่สง่าแน่ๆ แม่ถูกใจตั้งแต่แรกฟังแล้ว
ก็คนที่จะแต่งงานกับเขาก็คือผม ไม่ใช่ท่านแม่ วาเลนไทน์พยายามควบคุมสุรเสียงตนเอง ถ้าหากผมแต่งงานกับเขา ท่านแม่ก็อย่าหวังว่าจะได้มีทายาทเลย! วาเลนไทน์เดินไปที่ประตู หมายจะออกจากห้อง
กล้าเดินหันหลังใส่แม่เหรอ พระเนตรของราชินีลุกวาว แม่รู้นะที่ไปหาเดลบ่อยๆน่ะ ติดใจผู้หญิงที่ทำงานกับเดลใช่ไหมล่ะ ...เลดี้จีเซส เดอ นอร์ทเทิร์นสินะ แม่เห็นตั้งแต่งานเลี้ยงคืนนั้นแล้ว เป็นงานเปิดตัวของหล่อนที่วิเศษจริงๆ ได้เต้นรำกับเจ้าชายวาเลนไทน์ลูกแม่
ผมแค่ยังไม่ได้รับคำตอบจากหล่อน
เลดี้จีเซสเขาไม่ตอบตกลงกับลูกหรอก ราชินีทรงกางพัด ลูกไม่มีทางชนะเดลเขาได้หรอก
ท่านแม่บังคับจิตใจผมเช่นนี้ไม่ได้นะขอรับ โทสะของวาเลนไทน์ประทุอีกครั้ง เนื่องจากมารดาจี้พระทัยมากเกินไป
ลูกไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรอง และบทลงโทษที่หันหลังใส่หน้าแม่เมื่อครู่นี้ คือแม่จะลดเวลาลงให้เหลือแค่ 1 สัปดาห์ ถ้าเลดี้จีเซสไม่ตอบตกลงลูก ลูก...ต้องเป็นคู่หมั้นกับเจ้าหญิงแห่งโฟรเซนต์
พระเนตรของเจ้าชายเบิกกว้างหลังจากได้ยินที่มารดาของตนรับสั่ง เจ้าชายกลับห้องส่วนพระองค์ด้วยพระอารมณ์โกรธแค้น...เราจะหนีออกจากบ้าน! เจ้าชายคิดแล้วเริ่มจัดข้าวของ...
-----------------------------------------------------------------
แสงแดดอันแรงกล้าในยามเที่ยง ทำลายความสามารถในการเดินขึ้นเขาของชายผู้สวมเสื้อคลุมสีดำมีฮูดคลุมหัวอย่างอยู่มาก เขานั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อหลบแสงแดดอันร้อนแรง พลางหยิบแผ่นที่จากย่ามสำภาระออกมา
ภูเขารกทึบทางตอนใต้ของสโตรจน์...วาเลนไทน์พึมพำ เขาแอบออกมาในคืนนั้นทันทีหลังจากที่เก็บสัมภาระเสร็จ ยังไม่ได้ทางอะไรเลยตั้งแต่ตอนเย็นของเมื่อวานรวมวันนี้ก็อดอาหารไป 9 มื้อแล้ว มีแต่น้ำที่เตรียมมาประทังปากประทังท้องเท่านั้น
เข้าไปอยู่มันกลางภูเขาเลย อยู่ไปจนตายมันที่นั่นแหละ น่าเบื่อจริงๆ ใครว่าการเป็นเจ้าชายมันน่าหลงใหลเนี่ย?
นั่งพึมพำซักพักก็ลุกเดินทางขึ้นเขาต่อ ความจริงแล้ววาเลนไทน์ชอบความสงบ เขาต้องการจะสร้างบ้านหลังเล็กๆ กลางภูขา ห่างไกลตัวเมือง หากแต่ว่าเขารักประชาชนของเขามากกว่า เขารักรอยยิ้มของประชาชนเมื่อเวลาเจอเขา...แต่ว่า บางทีก็คงต้องทำเพื่อตัวเองบ้างเหมือนกัน
วาเลนไทน์เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ น่าแปลกที่มีทางเล็กๆนำขึ้นเขาที่สูง และรกทึบเช่นนี้ แต่เขาเหนื่อยเกินกว่าที่จะสงสัย หิวเกินกว่าที่จะคิดอะไร ดวงตาที่เลือนรางเห็นว่านี้คือยอดเขาแล้ว ทำให้ริมฝีปากที่แห้งผากยิ้มออก แล้ววาเลนไทน์...ก็ล้มลงไป...
----------------------------------------------------------------
ณ.คฤหาสน์เมเยอร์ในยามเย็น จีเซสเก็บข้าวของเตรียมกลับบ้านของตน ในขณะที่เดลาคล็อกซ์กำลังมีปัญหาอยู่กับผมที่พันกันเป็นก้อนใหญ่ เนื่องจากว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบหวีผมนั่นเอง
ตั้งแต่เช้าแล้วนะ ยังไม่ออกอีกเหรอ ฉันกลับก่อนนะ จีเซสบอกลา
นี่ก็หายพันกันไปตั้งเยอะแล้ว เดลาคล็อกซ์ทำหน้ามุ่ย นี่มันอะไรกันนักหนา
ก็แล้วทำไมไม่รู้จักหวีผมล่ะ?
ก็มันลืมนี่ เดลาคล็อกซ์ถอนหายใจอย่างหมดแรง ถ้าตัดทิ้งหน้าก็เด่อ
มานี่มา เดี๋ยวจะช่วย จีเซสแย่งหวีออกจากมือของเดลาคล็อกซ์ แล้วค่อยๆหวีผมให้เขา
เจ็บ...เจ็บ...โอ๊ย! เดลาคล็อกซ์คว้าหวีคืนมาจากจีเซส พลางมองหล่อนน้ำตาซึม
มันไม่น่าจะเจ็บถึงขนาดต้องร้องไห้ซักหน่อย
ก็ใครใช้ให้เธอมากระชากหัวฉันเล่า? เดลาคล็อกซ์โวย
ทันใดนั้น ประตูห้องรับรองก็เปิดออก เลดี้โรสแมรี่ และบารอนราฟาเอล ผู้เป็นพี่ชาย เดินเข้ามา แว๊บแรกที่โรสแมรี่เห็นจีเซสกับเดลาคล็อกซ์อยู่ด้วยกันก็เลือดขึ้นหน้า
เธอกล้าดียังไง มาทำให้เดลร้องไห้? โรสแมรี่แผดเสียงลั่น
ไม่ได้ร้องไห้นะ แค่น้ำตาซึมเฉยๆ เดลาคล็อกซ์แก้ตัวแทน
อย่าเพิ่งส่งสียงดังเรื่องนี้ได้ไหม ราฟาเอลทำสีหน้าเครียด
อะไรกัน ไม่ได้มาหาตั้งนาน ทำหน้าเครียดจังเดลาคล็อกซ์เลิกคิ้ว
นี่นายรู้รึเปล่าว่า พี่ชายนายหนีออกจากบ้าน...ไม่สิ...หนีออกจากวัง สิ้นคำพูดของราฟาเอล จีเซสและเดลาคล็อกซ์ก็ตาโตค้าง ทั้งสองเข้าใจดีว่าเรื่องอะไร คงหนีไม่พ้นเรื่องพระคู่หมั้นแน่ๆ
เรา 4 คนก็เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก โรสแมรี่พึมพำ ถึงอดีต...หล่อน เจ้าชาย พี่ชายของหล่อน และคนที่หล่อนรัก เมื่อก่อน มักจะเล่นด้วยกันเสมอ โรสเป็นห่วงค่ะเดล โรสแมรี่พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราน่าจะตามหาเขานะ ราฟาเอลบอก ไม่ต้องตามกลับก็ได้ แต่ว่าขอแค่ไปดูว่าปกติสุขดีก็พอใจแล้ว
นั่นสิ...พูดตรงๆ ฉันก็เป็นห่วงพี่เหมือนกัน เดลาคล็อกซ์พูดเสียงขรึม
พอจะนึกออกไหมว่าวาเลนไทน์จะไปไหน? จีเซสถามเดลาคล็อกซ์
นี่เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้นะ โรสแมรี่โวยใส่จีเซส แล้วกล้าดียังไงไปเรียกชื่อเจ้าชายว่า วาเลนไทน์ เฉยๆน่ะ
วาเลนไทน์เองก็เป็นเพื่อนของฉันเหมือนกันนะจีเซสโวยกลับ ฉันก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน แต่ไม่ทันที่โรสแมรี่จะโต้กลับ เดลาคล็อกซ์ก็พูดแทรก
โรสแมรี่ เขาเกาหัวอย่างหงุดหงิด เลิกทำเสียงน่าหนวกหูซักทีได้ไหม
เดล...ทำไมพูดอย่างนี้ เสียงของโรสแมรี่เบาลงเรื่อยๆ จนคล้ายกับเหมือนบ่นตัวเอง
เดลาคล็อกซ์ จีเซสนั่งลงพลางจับมือเขาไว้ เป็นที่น่าอิจฉาของเลดี้โรสแมรี่ยิ่งนัก เขามองหล่อน
ค่อยๆคิดนะ จีเซสพูดเสียงนุ่ม ฉันจะลองขอพ่อดู แล้วจะไปหาวาเลนไทน์ด้วย ว่าแล้วจีเซสก็แกล้งเอามือลูบหัวเดลาคล็อกซ์เล่น แล้ววิ่งออกจากคฤหาสน์ขึ้นรถม้ากลับบ้านไป
-----------------------------------------------------
ความรักไร้ซึ่งพันธนาการ แม้นเวลาก็มิอาจขวางกั้นได้
ลึกที่สุด จรด จำ ตราตรึงใจ จารึกไว้ไร้สิ่งใดมาลบเลือน
เสียงเพลงใสๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งปลุกให้วาเลนไทน์ตื่นขึ้น เขานอนอยู่บนที่นอนอันอบอุ่น รอบตัวเขามีแต่สิ่งที่ทำด้วยไม้ ตัวบ้านที่อาจเรียกว่า กระท่อม เครื่องเรือน ล้วนทำจากไม้ทั้งสิ้น เขามองออกไปข้างนอกทางหน้าต่างไม้ แล้วก็ตาเบิกกว้างทันที
ยอดเขาที่เขาปีนขึ้นมา โดยคาดว่าเป็นป่ารกทึบ แต่นั่นไม่ใช่เลย มันเป็นเหมือนทุ่งดอกไม้ ไม่สิ...เป็นป่าโล่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ วาเลนไทน์ค่อยๆลุกขึ้นแล้วออกไปนอกกระท่อมไม้
หากได้จารึกใครในหัวใจที่ยากเกินหยั่งถึงแล้ว ก็ต้องพร้อมที่จะเสียใจ พร้อมที่จะเจ็บ พร้อมที่จะร้องไห้ ต่อผู้ที่ทำให้หัวใจเป็นร่องรอย...ตลอดกาล...
เสียงของผู้หญิงผิวขาวนวลร้องเพลงไปเรื่อยๆ โดยที่มิได้สังเกตว่าวาเลนไทน์นั้นมองอยู่ ผมของหล่อนนั้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนปนแดง จนเมื่อต้องกับแสงอาทิตย์แล้วจะกลายเป็นสีแดงพระเพลิง หากแต่เป็นสีแดงเพลิงที่ชวนอบอุ่น คล้ายกับความร้อนในฤดูหนาว หล่อนกำลังรดน้ำดอกไม้อยู่ จนเหมือนกับว่าหล่อนกำลังรดน้ำดอกไม้ทั้งยอดเขา
อ๊า ตื่นแล้วเหรอคะ? สาวน้อยผู้มีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนถาม หลังจากที่หล่อนหันหน้าไปอีกฝั่งเพื่อที่จะรดน้ำดอกไม้ต้นอื่น แล้วเห็นวาเลนไทน์มองหล่อนอยู่ก่อน วาเลนไทน์พยักหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง
ท่าทางคุณเหมือนอดอาหารมาเลย หล่อนเดินเข้าไปใกล้ๆวาเลนไทน์เพื่อที่จะไม่ต้องตะเบงเสียง ทานอะไรก่อนไหม...อุ๊ย! ไม่ทันขาดคำ หล่อนก็รีบเอามือรับตัวของวาเลนไทน์ที่โถมใส่หล่อน เขาหมดสติอีกรอบ แต่ท้องของเขาร้องจ๊อกๆ ทำให้ผู้หญิงคนนั้นขำออกมา
คุณคะ เป็นลมหิวเหรอคะ? หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงตอบอะไร หล่อนก็ลากวาเลนไทน์กลับเข้ากระท่อมเป็นครั้งที่ 2 หลังจากครั้งแรกที่หล่อนเห็นเขาเป็นลมอยู่หน้าบ้านหล่อน
ถึงจะไม่มีแรกแบกเข้ามาก็เถอะ สาวคนนั้นบ่นพึมพำ พลางประคองไหล่วาเลนไทน์นอนลงบนเตียงอีกครั้ง
แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงตัวเบาอย่างนี้นะ? หรือว่าไม่ได้กินเข้ามานาน?ว่าแล้วหล่อนก็เข้าไปในครัวพลางทำอาหารให้วาเลนไทน์ เผื่อว่าเขาจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง...
จากคุณ :
ใบไม้สีเงิน
- [
5 เม.ย. 47 23:10:42
A:169.210.5.89 X:
]