สมชายยอดนักสืบ ตอน ดินสอกดของแสงเดือน

    ดินสอกดของแสงเดือน

    “เธอเป็นคนขโมยดินสอกดของแสงเดือนไปใช่ไหมเด็กชายระพี” เสียงแหลมสูงตวาดลั่นห้องเรียนตอนชั่วโมงเรียนบ่าย “เพราะเธอเป็นคนเดียวที่อยู่ในห้องเรียนตอนพักกลางวัน” คุณครูสมรต้องการเค้นคำตอบจากเด็กชายวัยสี่ขวบ

    ทั้งห้องเรียนเงียบกริบ  ไม่มีแม้เสียงแมลงวันบินผ่าน  เด็กทั้งชั้นเรียนกำลังฟังการสอบสวนของคุณครูสมรอย่างใจจรดใจจ่อ

    “ว่ายังไงระพี   เธอเป็นคนหยิบดินสอกดของแสงเดือนไปจากใต้โต๊ะตอนพักกลางวันใช่ไหม”  

    เด็กน้อยหัวเกรี๊ยนนาม ระพี นั่งนิ่งเงียบไม่กล้าสบตาคุณครูสมร

    “ไม่ยอมรับสารภาพใช่ไหม  ครูจะแจ้งผู้ปกครองเธอ  ได้ยังไงเป็นเด็กเป็นเล็กริเป็นขโมย”  คุณครูก้มหน้ามองเด็กชายระพีใกล้ๆ  “ว่ายังไงระพี  บอกครูมาซะดีๆว่าเอาดินสอกดแสงเดือนไปซ่อนไว้ที่ไหน”

    เด็กชายระพีตาแดงกล่ำ ออกลูกซะอื้น “เปล่า  ผมไม่ได้เอาไป”

    “ระพีเอานั้นแหละเอาไป  ถ้าระพีไม่เอาไปแล้วมันจะหายไปได้ยังไง”  เด็กหญิงแสงเดือนกล่าวสมทบ  แววตาของเธอดูเหมือนกำลังจะกินเลือดกินเนื้อเด็กชายตัวเล็กๆด้านหน้า

    “ระพีไม่ได้เอาไปจริงๆนะ  ไม่เชื่อลองค้นกระเป๋าระพีก็ได้”  

    “เธอไม่ต้องมาแก้ตัวระพี  คงไม่มีขโมยคนไหนโง่พอที่จะเอาของขโมยเก็บไว้กับตัวหรอก”  ครูสมรลดน้ำเสียงให้นุ่มนวลลง “บอกครูมาดี ๆ  เถอะระพี  ครูสัญญาว่าจะไม่ตีเธอ”

    เด็กชายระพีส่ายหัว  

    คุณครูสมรถอนหายใจด้วยความโมโห  “ทำไมเธอทำผิดแล้วไม่ยอมรับ”

    “ก็ผมไม่ได้เอาไปนี่”  เด็กชายระพีสวนทันควัน

    “ไม่ได้เอาไปได้ยังไง  ระพีอยู่ในห้องตอนกลางวันคนเดียว  แล้วดินสอกดของแสงเดือนก็หายไป ถ้าไม่ใช่ระพีแล้วใครจะเอาไป”    เด็กหญิงแสงเดือนโต้เสียงแข็ง  เธอดูเหมือนกำลังจะร้องไห้

    “ก็ระพีไม่ได้เอาไปจริงๆนี่”

    “แล้วตอนพักกลางวันทำไมเธอไม่ลงไปพักกับเพื่อน  อยู่ในห้องคนเดียวทำไม”  คุณครูสมรคาดคั้นความจริง

    “เอ่อ  ก็   คือว่าผม...”เด็กชายระพีตอบคำถามนี้ไม่ได้

    “นั้นไง   แสงเดือนว่าแล้ว  ระพีต้องเป็นขโมยแน่นอน”  เด็กหญิงแสงเดือนตอกย้ำจุดอ่อนของเด็กชายระพี

    “ผมไม่ได้เป็นขโมยจริง ๆ นะ” น้ำตาเม็ดใสร่วงหล่นตามน้ำเสียงที่หลุดออกมา

    “ถ้าไม่ได้ขโมยแล้วตอนกลางวันทำไมไม่ลงไปพัก” คุณครูสมรถามย้ำอีกครั้ง

    “ก็คือว่า...”  

    “คือว่าระพีกำลังทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษอยู่ครับ”  เสียงเด็กน้อยคนหนึ่งแว่วดังมาจากหลังห้อง  ทุกคนในห้องจ้องมองไปยังต้นเสียงเป็นสายตาเดียวกัน

    “สมชาย  ไม่ใช่เรื่องของเธอนั่งเงียบๆ” คุณครูสมรดุเด็กชายสมชายหลังห้อง

    “มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมนะครับ”  เด็กชายสมชายเข็ดขี้มูกสีเขียวกับแขนเสื้อ “แต่ผมไม่ยุ่งก็ไม่ได้ เพราะผมไม่อยากเห็นผู้บริสุทธิ์ต้องมารับผิด”

    “เธอรู้ได้ไงว่าระพีไม่ได้ขโมย”  คุณครูสมรเปลี่ยนเป้าสนใจไปหาเด็กชายสมชาย “หรือว่าเธอเป็นคนเอาไป”  

    เด็กชายสมชายลุกขึ้นจากเก้าอี้  เดินช้าๆมายังโต๊ะระพี “ผมไม่ได้เอาไปหรอก  แต่ผมรู้ว่าใครเป็นคนเอาไป  และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ ระพี เพื่อนผม”  เขาสบตามองระพี  ยิ้มฟันเหลืองให้

    “ไม่ต้องมาแก้ตัวแทนกันเลย  ระพีเป็นคนเอาไป  ตอนกลางวันมีระพีอยู่ในห้องคนเดียว ถ้าไม่ใช่ระพีแล้วใครจะเอาไป”  เด็กหญิงแสงเดือนมันใจเต็มเปี่ยมว่ายังไงโจรขโมยคิดสอกดยังไงก็ต้องเป็นเด็กชายระพี

    “น้องแสงเดือนฟัง พี่สมชายก่อนนะครับ  อย่าพึ่งตีโพยตีพายไป”  เด็กชายสมชายเดินเข้าไปใกล้โต๊ะเด็กหญิงแสงเดือน  โปรยยิ้มเหลืองๆให้เช่นเคย

    “เพราะขโมยตัวจริงยังลอยนวลอยู่ในห้องนี้  ซึ่งไม่ใช่ระพี”  ยิ้มสีเหลืองถูกส่งให้คุณครูสมร “และก็ไม่ใช่ผม”

    “ถ้าไม่ใช่ระพี แล้วใครเป็นคนเอาดินสอกดของแสงเดือนไป” คุณครูสมรถามบนความสงสัย

    เด็กชายสมชายหัวเราะในลำคอ “ใจเย็นๆครับคุณครู  ผมจะเรียงลำดับเหตุการณ์ให้ฟัง  ก่อนที่จะพักกลางวันเราเรียนวิชาอะไรกันนะ ระพี”

    “ภาษาอังกฤษ”

    “ใช่แล้วภาษาอังกฤษ   แล้วพอเสียงกริ่งดังพวกเราทั้งห้องก็รีบวิ่งไปพักกลางวันกันเลยใช่ไหม”  เด็กชายสมชายหันหน้ามองทางเด็กหญิงแสงเดือน

    “ใช่” เด็กหญิงแสงเดือนตอบ

    “แล้วระพีได้ไปพักกลางวันกับเพื่อนๆไหม”  เด็กชายสมชายเริ่มเดินวนเวียนรอบๆโต๊ะ ระพี

    “ปะ เปล่า  ไม่ได้ลงไป”
    “ทำไม”

    เด็กชายระพีนั่งสั่น  “ก็....    ก็...  ระพีไม่ได้เอาไปจริงๆนะ  ระพีไม่ได้เป็นขโมยนะ  ยิ่งเป็นของ...แสงเดือนด้วย”  ระพีแอบแวบมองทางเด็กหญิงแสงเดือน

    “ใจเย็นๆน้องชาย”เด็กชายสมชายเอื้อมแตะบ่าระพีอย่างเข้าใจ  “แต่จากหลักฐานแวดล้อมทั้งหมดมันพุ่งประเด็นไปที่ระพีเพียงคนเดียว   ตอนนี้ระพีเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด”  เด็กชายสมชายหันไปสบตาเด็กหญิงแสงเดือนอีกครั้ง “ใช่ไหมจ๊ะ  น้องแสงเดือน”  

    “แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่มีน้ำหนักพอที่จะตัด ระพี ออกไปจากผู้ต้องสงสัยได้”  เด็กชายหยุดสายตามองคุณครูสมร

    “อะไรล่ะ  สมชาย”

    “ก็เพราะว่าระพี   ก็เพราะว่า...”

    “จะพูดอะไรก็พูดออกมาสมชาย”  

    “ก็เพราะว่า ระพี   แอบชอบแสงเดือนอยู่  จึงไม่น่าที่จะขโมยดินสอกอของแสงเดือนได้”

    “อู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  นักเรียนทั้งห้องร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน  ระพีมุดหน้าก้มมองพื้น  แก้มทั้งสองแดงเป็นลูกตำลึงสุขด้วยความเขินอาย

    “ใช่ไหมระพี”  เด็กชายสมชายจี้คำตอบ

    ไม่มีคำตอบจากปากเด็กชายระพี  แต่คำตอบได้กระจุกอยู่ที่สีหน้าของระพีแล้ว   เด็กหญิงแสงดาวอึ้งผงะหน้าใสๆเริ่มเปลี่ยนสีเช่นกัน

    “สมชาย  เธออย่ามาเพ้อเจ้อไร้สาระ  ไปรู้เรื่องของระพีได้ยังไงว่าเขาแอบชอบแสงดาว  อายุแค่นี้แก่แดดกันจังนะพวกเธอ  และที่สำคัญหลักฐานแค่นี้จะมายืนยันอะไรได้ว่าระพีไม่ได้เป็นขโมย”

    “ใจเย็นๆสิครับ  คุณครูสมร”  เด็กชายสมชายเดินเรียบไปที่โต๊ะเด็กหญิงแสงเดือน “น้องแสงเดือนเก็บดินสอไว้ตรงไหนค่ะ”

    เด็กหญิงแสงเดือนชี้มือเข้าไปใต้โต๊ะเขียนหนังสือ  มีสมุดสามเล่มวางเรียงกันอยู่

    “อืม  นั้นสินะว่างเปล่าไปหมดเลย  มีแต่สมุดสองสามเล่ม  หายจริงๆด้วย  แล้วน้องแสงเดือนตรวจดูในกระเป๋าหรือยังจ๊ะ”

    “ดูแล้ว  ไม่มี”

    “อืม  ถ้าอย่างนั้น ระพีก็คงเป็นขโมยจริงๆ” เด็กชายสมชายเอานิ้วชี้กับนิ้วโป้งถูคาง

    “อ้าวๆๆๆ” นักเรียนทั้งห้องร้องเป็นเสียงเดียวกัน

    มีเพียงเด็กชายระพีคนเดียวเท่านั้นที่ร้องสะอื้นออกมา “ผมไม่ได้เป็นคนเอาดินสอกดแสงเดือนไปจริงๆนะ   ผมไม่ได้เป็นขโมย”  ทุกคนในห้องจ้องมองไปที่ระพีเป็นตาเดียวกัน

    “หนูคิดไว้แล้วว่าระพีต้องเป็นคนเอาไป” เด็กหญิงแสงเดือนกล่าวย้ำอย่างมั่นใจ

    “ระพีเอาไปก็ยอมรับมาเถอะว่าเอาดินสอกดแสงเดือนไปซ่อนไว้ที่ไหน  โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา  ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ  แล้วคราวหลังก็อย่าทำอีก” คุณครูสมรกล่าวคำพิพากษาตัดสิน

    “ผมไม่ได้เป็นขโมยจริงๆนะ”  เด็กชายระพียังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง

    “เอ่อ  น้องแสงเดือนทำการบ้านวิชาภาษาอังกฤษเสร็จหรือยังจ๊ะ”  เด็กชายสมชายแอบกระซิบข้างหูเด็กหญิงแสงเดือน

    “ยังไม่เสร็จ”

    “ทำถึงไหนแล้ว  ขอลอกมั่งสิ  พี่สมชายยังไม่ได้ทำเลย”

    เด็กหญิงแสงเดือนเบือนสีหน้าด้วยความรำคาญ   หยิบสมุดภาษาอังกฤษออกจากใต้โต๊ะ

    “แกร๊ก”  เสียงบางอย่างตกกระทบลงพื้น  ด้วยความเงียบในห้องเรียน  ทำให้เสียงตกของบางสิ่งบางอย่างครั้งนี้ดังพอที่จะได้ยินทั่วทั้งห้อง  แสงเดือนและทุกคนในห้องมองที่พื้นเป็นจุดเดียว

    “อะ อะไรกันนี่   ดินสอกดแสงเดือนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”  เด็กหญิงแสงเดือนอุทานออกมาด้วยความสงสัยและตกใจ “เมื่อกี้ค้นดูจนทั่วแล้วก็ไม่มีนี่”

    “ไหนๆ ขอพี่สมชายดูหน่อยสิ  อ้าว   ดินสอกดแท่งนี้เองเหรอ  แล้วมันมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง”

    จากคุณ : เรือ่ยเปื่อยไปวันๆ - [ 7 เม.ย. 47 13:23:31 A:203.147.26.123 X:203.147.26.88 ]