เขียนเพลง...(ปาฏิหาริย์)...ให้เป็นเรื่อง 2
ในวันแรกที่ได้เข้าเรียนในวิชาภาคที่ต้องเรียนร่วมกับเด็กคณะอื่น ผมคิดว่ามันก็คงเหมือนกับวิชาอื่นๆที่เรียนตามปกติ หากแต่เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้อง ผมก็รู้ว่าวิชานี้มีอะไรมากกว่าที่ผมคิดไว้ ใบหน้ารูปไข่ ผมยาวสลวย หน้าตาสวย สวยมากๆ สวยจนผมแทบจะไม่สนใจอาจารย์สอนเลย ทั้งๆที่ในเวลาเรียนผมก็ตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี ผิดกับพลพรรคเพื่อนๆทั้งหลาย ที่นอนบ้างหลับบ้าง แต่ในวิชานี้ผมกลับไม่สนใจที่อาจารย์สอน แต่กลับสนใจเธอคนนี้ ในตอนท้ายชั่วโมงอาจารย์ได้ให้นิสิตแบ่งกลุ่มกันทำงานและด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบ เธอก็ได้เข้ามาอยู่ร่วมกลุ่มกับผมพร้อมกับเพื่อนเธออีก 2 คน เธอแนะนำตัวเองว่า เธอชื่อ เกต นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมก็เริ่มสนิทกับเธอ ผมพบว่าเราสองคนมีอะไรที่คล้ายกันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นความสนใจ การเรียนหรือแม้แต่การทำกิจกรรมของมหาลัย เพราะเธอก็เป็นStaffของสภานิสิตเหมือนกับผม ผมกับเธอเราเข้ากันได้ดี ผมสามารถจะคุยกับเธอได้ทุกเรื่อง ผมกับเธอออกไปไหนต่อไหนด้วยกันบ่อยๆ อาจจะเป็นเพราะเรื่องงานที่บังคับให้เราต้องใกล้ชิดกัน ผมแอบถามเพื่อนของเธอว่าเธอมีแฟนแล้วหรือยัง เพื่อนของเธอก็บอกว่า เคยมีแล้วแต่ทะเลาะกัน เกตเป็นคนขอเลิก ส่วนผู้ชายไปต่างจังหวัดแล้วไม่ได้ติดต่อมาอีก หัวใจของผมก็พองโตขึ้น แสดงว่าเธอไม่มีแฟนแล้วนะซิ ผมไม่รอช้ารีบทำคะแนนอย่างรวดเร็ว เราสองคนสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพี่ว่าผมได้เจอหัวใจของผมแล้ว พี่ทัดก็ดีใจด้วย แถมยังบอกว่าอยากเห็นหน้าว่าที่น้องสะใภ้คนนี้ ผมได้แต่ยิ้มอย่างอายๆ ก็ผมยังไม่ได้ของเธอเป็นแฟนเลยนะซิ ผมว่าอีกไม่นานหรอก ผมจะขอเธอเป็นแฟนให้ได้ ผมหวังมานานแล้วว่า ผมจะมีรักอย่างเช่นพี่ทัดกับพี่อร และเธอคงจะช่วยให้หวังของผมนั้นเป็นจริงได้ จนกระทั้งวันนี้ ผมไม่มีเรียนและพึ่งกลับมาจากการไปหาสปอนเซอร์ให้กับสภาเพื่อสนับสนุนงานรับน้องของมหาลัย ขณะที่ผมกำลังเดินผ่านโรงอาหารกลางของมหาลัย เสียงเรียกที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างหลัง
ณัฐ ผมหันไปตามเสียง เห็นเกตเดินมากับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผมก็คุ้นๆหน้าว่าเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกับเกต
จะไปไหนหรือ เธอถามขึ้น ผมก็ตอบไปว่า
จะเข้าสภาเสียหน่อย เอารายงานหาสปอนเซอร์ไปให้พี่ชลดู พี่ชลเป็นประธานสภาผู้เคร่งครึม คงแก่เรียนและแก่กิจกรรม คนอะไรไม่รู้เก่งไปหมดทุกอย่าง ผมพูดต่อ
เนี่ย วันนี้พี่ชลบอกว่าหากรายงานสปอนเซอร์ยังไม่ตั้งอยู่บนโต๊ะก่อนเที่ยงละก็
แล้วผมก็ทำเสียงเลียนแบบพี่ชล
เอ็งเตรียมตัวไปอยู่ฝ่ายสถานที่ได้เลย เรื่องอะไรละ ผมจับฉลากได้อยู่ฝ่ายสันทนาการแล้ว งานสบายได้เล่นสนุกมีหรือใครจะไม่ชอบ เรื่องอะไรจะต้องไปตากแดดตากลม ไม่แน่อาจมีตากฝนอีกต่างหาก ก็ขนาดวันนี้ฝนยังตั้งเค้าจะตกอยู่ตั้งแต่เช้าเลย ผมเห็นเกตเงียบไปจึงถามต่อ
แล้วเกตจะไปไหนละ ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเดินเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้น
สวัสดีครับ น้องณัฐใช่ไหม ผมพยักหน้าแบบงง เมื่อฝ่ายตรงข้ามเห็นผมทำหน้างงก็เลยพูดต่อ
พี่ชื่อพี่ต้า เป็นรุ่นพี่คณะเดียวกับเกต และเป็นแฟนเกตด้วย สิ้นประโยค ผมรู้สึกเหมือนถูกค้อนกระหน่ำตีหัวอย่างรุนแรง มันมึนงงสับสนไปหมด พี่ต้าก็พูดต่อ
พี่ได้ยินชื่อน้องมานานแล้ว เกตเขาเล่าให้พี่ฟังว่าเพื่อนเขานั้นดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ ดูแลเขาทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงาน
ผมไม่ได้ยินอะไรที่เขาพูดต่อไป หูผมอื้อไปหมด ผมมองหน้าเกตอย่างคนหมดเรี่ยวแรง อยากให้เธอพูดอะไรบ้าง สายตาตัดพ้อของผม ส่งไปให้เธอและเธอก็ส่งสายตาเสมือนแทนคำขอโทษกลับมา ผมรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เธอเดินไปกับพี่เขาแล้ว ผมรีบเดินตรงไปยังสภา เอางานไปวางไว้บนโต๊ะพี่ชลก่อน เสร็จแล้วผมจึงโทรไปบอกเพื่อนสนิทของผมว่าผมจะกลับบ้านก่อน ระหว่างการเดินทาง ภายในสมองของผมทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตลอดตั้งแต่ผมและเธอได้รู้จักกัน แสดงว่าที่ผ่านมาผมคิดไปเอง ผมคิดไปเองว่าผมกับเธอหัวใจตรงกัน ผมคิดไปเองว่าเรารักกัน เสียงของพี่ต้าที่บอกว่าเป็นแฟนกับเกตยังคงดังก้องในความรู้สึกและมันก็เหมือนจะดังซ้ำไปซ้ำมา เมื่อกลับมาถึงอาพาทเมนต์ ฝนที่ตั้งเค้าตั้งแต่เช้าก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ราวกับว่าหลั่งน้ำตาให้กับผู้พ่ายแพ้ ผมทนไม่ไหวกับความรู้สึกอย่างนี้ตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเกตทันทีที่กลับมาถึงบ้าน เสียงสัญญาณตอบรับของโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งมันตัดไป ผมพยายามอีกเป็นครั้งที่สอง ครั้งที่สาม จนกระทั้งมีเสียงของเธอดังขึ้น
ฮัลโหล น้ำเสียงของเธอบอกได้เลยว่าคงกำลังเศร้าใจอย่างมาก ผมกรอกเสียงลงไป
เกต ทำไมเธอถึงทำอย่างนี้ น้ำเสียงตัดพ้อของผม ทำให้เสียงของเธอกลายเป็นเสียงสะอื้น พร้อมกับตอบกลับ
คือณัฐ เรารู้ว่าณัฐรู้สึกอย่างไงกับเรา แต่
แล้วเธอก็เงียบไป
ทำไมเกต ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าฉันคิดอย่างไง แล้วทำไมเธอยังทำอย่างนี้อีก ใช่ ทำไมต้องทำเป็นชอบ หลอกให้ผมคิดว่าเธอชอบผม คิดว่าเรารักกัน
ทำไมละเกต แล้วที่เธอแสดงมาทั้งหมดนั้นมันคืออะไร ตอบเราได้ไหม ไม่มีเสียงตอบมาจากฝั่งตรงข้าม มีแต่เสียงสะอื้น ในใจของผมยังคงคิดว่าผม สนิท กับเธอมากกว่าเขา เข้าใจ และ เข้าถึง ใจเธอมากกว่าเขา ผมจึงตัดสินใจถามเป็นครั้งสุดท้าย
เกต ถ้าเรารู้จักกันก่อนพี่ต้า ถ้าเกตไม่มีพี่ต้าแล้วเกตจะยอมรับผมหรือเปล่า เสียงปลายสายนิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะตอบกลับมา
เกตไม่รู้ เกตขอโทษ น้ำเสียงเศร้าสร้อยบ่งบอกถึงความสำนึกผิดของเธอ ผมจึงต้องกลืนคำถามที่อยู่ในใจลงไป ไม่กล้าจะถามอะไรอีก เธอเงียบไปพักหนึ่งก่อนพูดต่อ
ณัฐ แล้วเราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ได้ไหม เพื่อน คำๆนี้ช่างบ่งบอกอะไรได้มากมาย ผมได้แต่เก็บความเศร้าไว้อยู่ในใจ ก่อนที่จะกลั้นใจตอบไปว่า
ได้สิ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังเป็นเพื่อนของเราอยู่ คงจะต้องอาศัยความพยายามอย่างมากที่จะให้ผมตัดใจไปจากเธอ เธอย้ำคำพูดของผมอีกครั้ง
เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ ผมต้องกัดฟันฝืนความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในใจตอบกลับไปว่า
เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ ผมไม่อาจทนความรู้สึกเหล่านี้ได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อวางสายลง ก่อนที่น้ำตาของผมจะไหลลงมาอาบแก้ม ผมรีบสะบัดเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำเผื่อว่าสายน้ำจากฝักบัว จะสามารถชำระล้างความเศร้าทั้งมวลออกไปจากจิตใจได้ และมันอาจจะทำให้ผมตัดใจเหลือแต่ความเป็นเพื่อนให้แก่เธอ!!!
*************************************
ปาฏิหาริย์ กบ ทรงสิทธิ์
เมื่อเราเจอกัน เจอกันแค่ครั้งเดียว ก็ผูกพันเหมือน ใกล้ชิดมานาน หรือเราจะเคย ได้เจอกันชาติก่อน ต่างใจตรงกัน มองตาก็เข้าใจ แต่คงเป็นเพียงได้แค่มองตา อยากจะกอดเก็บเธอไว้ แต่พบกันเมื่อสาย ไม่อยากจะแย่งใคร
น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหาริย์ ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป จะไม่ยอมให้เราคลาดกัน ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร พบกันสายไป มันน่าเสียดาย ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง
-----------------------------------------------------------
ผมขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นนะครับ เพลงที่ผมเลือกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเก่า เพลงใหม่ๆที่ฟังแล้วเข้ากับเนื้อเรื่องก็มีนะครับ แต่พอดีผมชอบเพลงเก่ามากกว่าอะ
เขียนเพลง...(นิยามรัก)...ให้เป็นเรื่อง 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2757838/W2757838.html
จากคุณ :
คนลองเขียน
- [
11 เม.ย. 47 23:31:44
A:203.151.206.81 X:203.113.35.13
]