เรื่องเล่าจากร้านเช่าหนังสือ(12)

    ฤดูหนาวบนป่าสอยดาว
    ........
    เป็นอะไรไป ถึงไม่เขียนจดหมาย ตอนนี้คงเปิดร้านที่ชลบุรีแล้วใช่ไหมครับ ขอให้กิจการเป็นไปอย่างใจหวังนะ

    สอยดาวตอนนี้อากาศหนาวเกือบตลอดวัน ป่าเริ่มแล้ง ทิ้งใบลงไปมาก สิ่งที่มากับความหนาวคือนกอพยพ สีสันสวยงาม ยามเช้าเสียงร้องก้องไปทั้งป่า ไร่กุหลาบใกล้เขตฯที่ปริมเคยมานั้นกำลังออกดอกสะพรั่ง แต่เสียดายอยู่ให้คนผ่านไปมาชื่นชมได้ไม่นาน ต้องถูกตัดส่งไปขายในเมือง ในป่าเริ่มมีสีสวยๆของดอกไม้ป่ามาแซมแล้วเหมือนกัน

    เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีนักศึกษามหาวิทยาลัยเข้ามาจัดค่ายที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติทรายขาว แต่ไม่ใช่อย่างกิจกรรมรับน้องใหม่หรือค่ายสร้างอย่างค่ายอาสา พวกเขาเป็นกลุ่มชมรมอนุรักษ์ในสถาบัน ทำค่ายในลักษณะปลูกฝังจิตสำนึก คล้ายกับงานที่ทำอยู่นี้ กิจกรรมจึงเน้นที่การสัมผัสธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างคนกับป่า สมัยที่พวกเราเป็นนักศึกษาผ่านกิจกรรมเหล่านี้มาเหมือนกัน แต่วันนั้นมองในมุมหนึ่ง ฐานะของผู้ร่วมค่ายกับผู้จัดทำค่ายเกิดความเข้าใจที่ต่างกันมาจริงๆ เวลาที่คลุกคลีอยู่กับนักศึกษาทำให้เห็นช่องว่าง ความห่างเหิน และระดับความเข้าใจในคำว่าอนุรักษ์ของคนยุคใหม่มากทีเดียว พูดถึงดอกไม้ป่าอยู่ข้ามมาเรื่องค่าย เพราะมีเหตุ

    ตอนบ่ายวันที่สามของค่าย พี่มีโอกาสเป็นวิทยากรเรื่องคนกับป่า ขณะที่กำลังพูดคุยกันแบบสบายๆใต้ต้นไม้ ใกล้ลานกางเต้นท์ ซึ่งพอมองเห็นลำธารน้ำตกข้างล่าง ไม่กี่นาทีที่ร้องเพลง “ปลูกดอกไม้” กันอยู่ สายตาเกือบทุกคู่รอบวงเห็นชายฉกรรจ์สามคน แต่งตัวด้วยเสื้อแขนยาวโทรมๆ กางเกงสามส่วนคาดผ้าขาวม้าบ้าง โพกหัวบ้าง เดินขึ้นมาจากป่าไผ่ข้างลำธาร คนหนึ่งแบกปืนแก็ปยาวไว้บนบ่า คาบใบยาสูบ คนหนึ่งมีช่อกล้วยไม้ เต็มสองมือ อีกคนหนึ่งถือตาข่ายไว้ในมือ กับกระสอบใบใหญ่ เดินผ่านกลุ่มพวกเราไปเหมือนไม่มีตัวตน ซ้ำยังคุยกันเสียงดัง ตลอดทาง คล้ายกับว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันของเขา

    เราทั้งหมดเลิกกิจกรรมช่วงบ่ายทันที บอกตามตรงไม่สามารถพูดอะไรกับหนุ่มสาวที่มองพี่เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่ไม่ได้ทำอะไรกับภาพที่เห็น ตอบคำถามเขาไม่ได้ว่าคนกับป่าที่กำลังจะพูดหมายถึงอะไร
    แต่ไม่ต้องห่วงนะ หลังจากแยกกลุ่มไปแล้ว สามคนนั้นไม่ได้ออกไปจากเขตฯสอยดาวได้อย่างเฉยเมย เจ้าหน้าที่ปราบปรามออกตามจับได้ทัน ปริมคงคิดไม่ออกว่าในกระสอบนั้นมีอะไร
    “นกเขาเปล้า” ที่เพิ่งพานักศึกษาดูหน้าเขตฯ นกขมิ้นที่ส่งเสียงร้อง “เปี้ยว เปี้ยว”อยู่เมื่อเช้า นกขุนทอง มีทั้งที่ตาย และกำลังจะตาย ปริมรู้ไหมนกขุนทองเป็นหนึ่งในนกหลายสายพันธุ์ที่รักเดียวใจเดียว เหมือนกับนกเงือก นกกระเรียน ลูกจะตายถ้าแม่ตาย และฤดูนี้ก็เป็นช่วงเวลาสร้างครอบครัว

    ไม่บ่อยครั้งนักที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นในเขตฯที่เปิดให้ท่องเที่ยว
    พี่เครียดไปหลายวัน มองเห็นปัญหาชัดเจนขึ้นมาก มาอยู่ที่นี่เป็นปีกลับเพิ่งพบว่าแนวทางที่ทำมานั้นแก้ปัญหาไม่ได้เต็มที่ บางทีอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเหมือน “สามภพ” ในบุษบกใบไม้ของปริม

    เรื่องที่ไม่น่าเชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมพักนี้จึงคิดถึงปริมบ่อยๆ อยากอ่านจดหมายจากห้องหนังสือ ไม่ใช่แค่แก้เหงาไปวันๆแต่เป็นกำลังใจเมื่อยามท้อ ยิ่งเมื่อวานนี้ขึ้นไปเดินสำรวจป่า จนถึงสอยดาวใต้ ป่าเรายังสวยเหลือเกิน มันคุ้มค่าให้ทุ่มเททำงานปกป้องรักษา เวลานั้นอยากให้ปริมมาเห็นอย่างที่พี่ได้เห็น เพื่อยืนยันว่าเราเป็นคนพวกเดียวกัน คือไม่ได้ทำสิ่งใดเพ่อประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียว

    คิดว่าจะเขียนไม่มาก แต่ก็ยาวมาขนาดนี้แล้ว ขอโทษด้วยถ้าอ่านแล้วไม่สนุกนัก พี่เขียนจดหมายไม่เป็นนักหรอก รักษาสุขภาพด้วยนะ รวมทั้งจิตใจ
    ระลึกถึง
    ต้น นนนท

    จากคุณ : ศสินุช - [ 12 เม.ย. 47 13:27:30 A:203.151.206.82 X:203.145.12.201 ]