งั้นแค่นี้ก่อนละกัน อรแต่งตัวไว้ล่ะ เร็วๆด้วยนะ เดี๋ยวเราไปรับ เสียงปลายสายบอกเมื่อตกลงกันได้
อือ .. เราแต่งตัวเสร็จก่อนกฤชมาแน่ๆ พิงอรตอบไปอย่างหยอกเล่น
อือกับใคร พูดไม่เพราะเลย .. เขาคือกฤชคนเดิมจริงๆ .. คนที่ต้องหาเรื่องแหย่เธอเล่น แกล้งว่า แกล้งล้อเลียน นี่ล่ะเขา .. จริงๆ ..
จริงๆเธอแต่งตัวเสร็จแล้ว เพราะรู้ว่ายังไงถ้าชวนเขาต้องไปด้วยแน่ แล้วเธอจึงโทรไปชวนเขาไปสวนจตุจักรกัน
ในขณะที่รอ พิงอรนั่งอ่านบันทึกเมื่อ 6 ปีก่อนของเธอไปพลางๆ .. เรื่องราวแต่ละวันของเธอ ล้วนมีเขามาเกี่ยวข้อง ชื่อของเขา มีอยู่แทบทุกหน้าของไดอารี่
จึงพาให้นึกไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น
วันหนึ่งหลังเลิกเรียน
เดี๋ยวเราจะนั่งกับพื้นสวดมนต์กัน ห้ามทุกคนถูกตัวกันนะ คุณครูสั่ง และทุกคนก็ทำตาม มีแต่กฤช หนึ่งในเพื่อนตัวแสบของห้อง ที่ค่อยๆยื่นมือมาใกล้ๆพิงอร พิงอรก็ถอยออกไปเรื่อยๆ ปากก็บ่น
เอามือออกไป เดี๋ยวครูว่า เสียงพูดและสีหน้าบ่งชัดว่ากลัวถูกดุจัด กฤชก็ยิ่งสนุกยังคงยื่นมือมาใกล้เรื่อยๆ พิงอรหนีจนติดกำแพงไม่มีที่ให้ถอยแล้วก็ยกมือตีกฤช พอดีคุณครูหันมาเห็น
พิงอรทำอะไร บอกว่าอย่าโดนกันไง โดนคุณครูดุเข้าพิงอรก็ได้แต่เจ็บใจ ส่วนกฤชนั้นก็เอาแต่ทำหน้าล้อเลียน
และทุกเย็นเย็นที่เธอและเขาเป็นเวรทำความสะอาดห้อง เธอก็โดนแกล้งอยุ่ประจำ
ทายปัญหากันดีกว่า อร รำไม่ดีแล้วอะไร เก่งเพื่อนสนิทของกฤชถามขึ้นมา
รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองสิ พิงอรตอบอย่างมั่นใจ
ใครบอก รำไม่ดี พิงอรไม่กินต่างหากล่ะ 555 เก่งหัวเราะร่า พาทุกคนหัวเราะตามกันอย่างสนุกสนานไปด้วย แต่คนที่ไม่สนุกด้วยกลับทำหน้างอ
ไร้สาระที่สุดเลย
.. ไปแล้ว พิงอรจึงหันไปคว้ากระป๋องน้ำเป๊ปชี่จะเอาไปทิ้ง
เฮ้ย
.. อรบอกว่า รำไม่ดีกินเป๊บซี่ดีกว่าว่ะ กฤชสมทบ พิงอรหันมาตาเขียวใส่ ทุกคนก็พลอยหัวเราะชอบใจกันไปอีกพักใหญ่
เฮอะ
และทุกวันที่พิงอรเอาเป้ไปโรงเรียน เย็นกลับมาต้องพบว่าในเป้เธอนั้นมีแต่เศษกระดาษเต็มไปหมด ทั้งๆที่เธอรูดซิปปิดทุก ทีแต่ก็ไม่วายโดนแกล้งเปิด แล้วโยนเศษกระดาษเข้ากระเป๋าเธอ .. ไม่ต้องสงสัย ต้องเป็นกฤชอยู่แล้วล่ะที่ทำแบบนี้
ช่วงแรกๆที่โดนกฤชแกล้งบ่อยๆ พิงอรไม่พอใจ พาลไม่ชอบกฤชไปด้วยเลย
คนอะไร กวนจริงๆ ชอบมาแกล้งเรา คนอื่นไม่เห็นไปแกล้งมั่งเลย เราไม่ชอบกฤชเลย พิงอรบ่นให้เพื่อนคนหนึ่งฟัง
สำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องธรรมดาที่มักจะแอบถามกันเสมอว่าชอบคนแบบไหน ประมาณว่าชายในฝันนั้นหน้าตาเป็นยังไง
ตาอรแล้ว อรชอบแบบไหน วีรญารีบโบ้ยมาทางพิงอร เมื่อบอกเสป็คของตัวเองไปเรียบร้อย เพราะกลัวเพื่อนเบี้ยว
ชอบคนมีลักยิ้ม
.มั้ง พิงอรทำหน้าเหมือนหลอกๆเพื่อนอยู่
แล้วต้องมีไฝที่ลักยิ้มด้วยป่ะ วีรญาแกล้งแซว เพราะคนที่มีไฝที่ลักยิ้มคือกฤชนั่นเอง
บ้า เราชอบคนนิสัยดี ไม่ขี้แกล้ง ไม่พูดมากด้วย พิงอรต้องรีบพูดต่อ เพราะไม่อยากให้ตรงกับกฤชนั่นเอง
จริงๆไอ้กฤชก็นิสัยดี ไม่ค่อยพูดด้วย เก่งที่แอบฟังอยู่กับกฤชพูดขึ้นมา
น่าเกลียด
มาแอบฟังเค้าคุยกัน พิงอรเขินจัดที่เห็นว่ามีเพื่อนผู้ชายอยู่ตรงนั้น ที่สำคัญมีกฤช คนที่ถูกพาดพิงเมื่อครู่อยู่ด้วย
ใครเค้าอยากฟัง คุยอะไรกันไร้สาระ กฤชก็พูดขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนใบหน้าแดงของเขา
ในที่สุดความรำคาญที่โดนแกล้งอยู่เสมอก็กลายเป็นความเคยชิน และเมื่อมีโอกาส พิงอรเป็นต้องเอาคืนเสมอ และมีอีกหลายครั้งที่ทั้งสองคนใช้ห้องเรียนเป็นสนามปะทะกัน ซึ่งพิงอรมักทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าใช้ปากที่ลับมาอย่างคมจัดของเธอทั้งต่อว่า ตั้งดุกฤช
และจุดเริ่มของการเปลี่ยนแปลงก็ได้เกิดขึ้น ก่อนปิดภาคเรียน
กฤชเขียนจดหมายให้พิงอรว่า
มีเพื่อนเคยบอกเราว่าเธอเกลียดเราไม่รู้ทำไม เคยทำอะไรให้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ชอบแกล้ง ก็ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ คิดว่าเธอจะไม่ถือ และต่อไปจะล้อเล่นเบา
..ที่สุดเลย แล้วยังเขียนประโยคหนึ่งให้เป็นภาษาญี่ปุ่นว่า อชิเตะ อิรูโยะ ซึ่งพิงอรก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ได้แต่คิดไปว่า
นายกฤชต้องแอบว่าอะไรเราเป็นภาษาญี่ปุ่นแน่ๆ
จนเปิดเทอมใหม่ พิงอรจึงได้รู้ความหมายของภาษาญี่ปุ่นประโยคนั้น
.. ฉันรักเธอ
.. มันแปลว่าฉันรักเธอ เขาเขียนอะไรมาเนี่ย
..
เทอมใหม่นี้พิงอรต้องมาโรงเรียนแต่เช้า กฤชเองก็มาแต่เช้าเช่นกัน ทั้งสองคนจึงมักจะแข่งว่าใครจะถึงห้องก่อนกัน แต่เมื่อได้อยู่กัน 2 คนในห้องนั้นทุกวันๆ ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น สงครามระหว่างคนทั้ง 2 จึงลดลง
เรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออยู่ๆวันหนึ่งเก่งเดินตรงมาหาพิงอร
อรมีคนที่ชอบรึยัง ตอนนี้ชอบใครอยู่ จู่ๆถูกถามตรงๆแบบนี้ ทำเอาคนถูกถามอึ้งไปเหมือนกัน แต่เมื่อไม่รู้ว่านายเก่งจะมาไม้ไหน จะแกล้งอะไรกันอีกรึเปล่า จึงตอบเลี่ยงไปว่า
มีสิ ก็พ่อ แม่ เพื่อนๆ ครู ไง แล้วยังลอยหน้ายิ้มให้อีกด้วย
ไม่ใช่ชอบแบบนั้นสิ ผู้ชายน่ะ มีเปล่า เอาในชั้นเรารึห้องเราก็ได้ เก่งทำหน้าจริงจังขึ้นจนพิงอรต้องคิดอยู่อีกพักนึง แต่ก็ยังไม่วางใจว่าเขาไม่มีมุขแน่รึเปล่า
ชอบปิยะไง ก็เป็นญาติกันก็ต้องชอบกัน เป็นผู้ชายด้วย พอใจยัง พิงอรยังคงแกล้งตอบไม่ตรงคำถาม
โธ่เอ้ย
ไม่เอาที่เป็นญาติดิ น้ำเสียงและสีหน้าคราวนี้บ่งบอกเป็นนัยว่าถ้าไม่ตอบดีๆต้องมีเรื่องแหงๆ
ไม่มี พิงอรตอบสั้นๆแต่คิดว่าใจความแน่น
จริงป่ะ ยังไม่ชอบใครเลยแน่นะ เก่งยิ้มกว้าง
เออ ได้ยินอย่างนี้เก่งก็รีบวิ่งจากไปทันที
ใครจะรู้ว่าแค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มของเรื่องยุ่งๆในวันต่อมา
..........กฤชชอบอร..........
พิงอรหน้าแดงก่ำด้วยทั้งอายทั้งโกรธเมื่อพบข้อความนี้บนเศษกระดาษที่เพื่อนๆเวียนส่งรอบห้องขณะเรียน
ใครเขียนเนี่ย
ไม่รู้ ก็เค้าส่งต่อๆมา วีรญาเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆตอบ
และก็ยังมีแผ่นอื่นๆที่เขียนข้อความต่างๆล้อเลียนเธอกับกฤช
ช่วงพักกลางวันวันหนึ่ง
ไปชวนอรไปโรงอาหารหน่อยสิ เร็วเลยนะ เก่งบอกกับวีรญา
ทำไมเหรอ วีรญาทำหน้าสงสัย
เก่งจึงทำท่ากระซิบกระซาบบอกบางอย่างกับวีรญา แล้วคิ้วผูกกันเป็นโบว์ด้วยความสงสัยเมื่อครู่ก็คลายออก ปรากฏรอยยิ้มยินดีแทน แล้ววีรญาก็วิ่งมาหาพิงอรที่กำลังทำงานอยู่ที่ห้อง
อร อร ไปโรงอาหารกันหน่อยสิ วีรญาระล่ำระลัก
ไปทำไม พิงอรยังคงง่วนอยู่กับงานตรงหน้า
ไปเหอะน่า วีรญารีบดึงเพื่อนซี้
ไม่ไป จะทำงาน
ไปเหอะนะ เร็วเข้า เดี๋ยวไม่ทัน วีรญาดึงแขนเพื่อนอย่างสุดแรง แล้วจูงกึ่งลาก วิ่งตรงไปที่โรงอาหาร
ไม่ทันอะไร พิงอรทำคิ้วผูกโบว์บ้าง
เอาเหอะน่า เดี๋ยวก็รู้
วิ่งไปถึงยังไม่ทันเข้าไปนั่งที่โต๊ะเสียงพี่ที่ทำหน้าที่ดีเจประจำโรงอาหารช่วงพักกลางวันก็ดังขึ้น
เพลงนี้กฤช ม.4/1 ขอมอบให้พิงอร ม.4/1ครับ .. รักเธอ .. ของพี่ฟอร์ดครับ
พิงอรยืนนิ่งฟังเพลงจนจบไม่มีคำพูดใดออกจาปากเธอ แม้จะมีคำถามมากมายในใจ .. กฤชขอเพลงให้เราจริงเหรอ
รึว่าใครแกล้งเรา .. แล้วมาขอให้ทำไม
.
ทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาที่พิงอรและกฤชพูดกันน้อยลง แต่สองคนก็ยังพยายามหาโอกาสพูดคุยกันอยู่ พิงอรคิดอยากจะถามกฤชหลายครั้ง ทั้งเรื่องที่เพื่อนเอามาล้อกัน ทั้งเรื่องเพลง แต่ไม่เคยได้ถาม
จนวันหนึ่งการเปลียนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นจริงๆ
อรชอบกฤชเหรอ เพื่อนๆ มารุมถามเธอกันยกใหญ่
ไม่แปลกหรอก เพราะกฤชเป็นคนที่หน้าตาดีคนนึงของห้อง ยังมีเพื่อนๆอีกหลายคนที่ชอบเขาอยู่ พิงอรก็รู้ดี
เปล่า เราน่ะนะจะชอบกฤช นิสัยก็ไม่ดี ชอบแกล้ง ชอบกวน เราไม่ชอบหรอก เธอได้แต่พูดไปอย่างนั้น เพียงเพื่อจะตัดปัญหา เพื่อนๆได้เลิกล้อเธอซะที เธอกับกฤชจะได้กลับมาคุยกันเหมือนเก่า
. แต่
มันไม่เป็นอย่างที่พิงอรคิดเลย
ตั้งแต่นั้นมากฤชเริ่มห่างไปจากชีวิตประจำวันของพิงอร ไม่แกล้ง ไม่กวน และแทบจะไม่พูดด้วยเลยด้วยซ้ำ เธอทั้งงงและแปลกใจมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ปล่อยเอาไว้อย่างนั้น
แต่ละวันที่เริ่มผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้คนสองคนห่างกันมากขึ้น เริ่มไม่มองหน้ากัน จากที่เคยคุยกันทุกเช้าที่ห้องเรียนก็กลายเป็นหลบหน้ากัน ถ้ากฤชมาถึงก่อนเธอจะไม่เข้าไปในห้อง หรือเข้าแล้วก็จะรีบออกไปที่อื่น กฤชก็เช่นกัน ถ้าพิงอรมาก่อนเขา เขาก็จะไปหาอย่างอื่นทำ
ทั้งๆที่ไม่ได้ทะเลาะกัน (คิดว่า)ไม่ได้โกรธกัน แต่การกระทำยิ่งหนักขึ้นทุกวัน .. เหมือนคนไม่ถูกกัน
จนในที่สุดไม่มีคำพูดใดออกจากปากทั้งสองคนที่เป็นการพูดคุยหรือล้อเล่นกันเลย แต่ใครจะความจริงว่าท่าทีที่พิงอรทำเหมือนไม่สนใจอะไรนั้น มันเพื่อปกปิดความจริง .. ว่าเศร้า ที่อยู่ๆคนที่เคยแกล้งก็หายไป คนที่เคยมากวน คนที่เคยส่งรอยยิ้มที่มีรักยิ้มน่ารัก แม้กระทั่งคนที่คอยห่วงใยได้หายไปแล้ว เหลือแต่คนที่เหมือนไม่เคยรู้จัก คนที่เหมือนเกลียดชังกัน จากการกระทำ
กฤชเองก็กลายเป็นคนเงียบขรึม .. ไม่ค่อยพูดค่อยจาเหมือนเคย จะมีก็แต่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาเท่านั้น
พิงอรคิดอยากถามเก่งในสิ่งที่เคยอยากถามกฤช แม้ว่าถามตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ก็ตัดสินใจถามไป
เก่ง ถามจริงๆนะ ต้องบอกเราจริงๆด้วยว่าเรื่องที่ล้อเรากับกฤชน่ะ เอามาจากไหน
ไอ้กฤชมันบอกดิ
.. มันเคยบอกกับอรแล้วด้วย .. แต่อรเองไม่ใช่เหรอ ที่บอกว่าไม่ชอบมัน แล้วจะมาถามทำไม เก่งพูดตัดพ้อแทนเพื่อนรัก เพราะเขาเองก็รู้ทุกอย่างดี และ รู้มาตลอด
.
พิงอรไม่มีคำพูดใด เดินจากไปทั้งๆที่ความจริงอยากถามอีกว่าเพลงนั้น
.รักเธอ
.
กฤชเป็นคนขอให้เธอจริงๆรึว่าใครแกล้งอำ
.. แต่จะถามไปทำไมล่ะ เธอไม่อยากรู้แล้วใครจะขอมันไม่สำคัญเลย เพราะตอนนี้ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่พูดกับเธอแล้ว และก็คงไม่ได้ชอบเธออีกแล้ว พิงอรเสียใจมาก
ทั้งๆที่รู้สึกตรงกัน ใจตรงกันแท้ๆ
. แล้วเขาก็ยังกล้าบอกความรู้สึกของตัวเอง แต่เธอเองกลับไม่กล้าบอกความจริง โกหกคนอื่น โกหกเขา และโกหกตัวเอง ก็สมควรที่จะเป็นอย่างนี้ พิงอรได้แต่โทษตัวเอง
จากนั้นกฤชก็คบกับตาล เพื่อนอีกห้อง ที่ชอบเขามานานแล้ว พิงอรเองก็มีทั้งเพื่อน รุ่นพี่มาจีบหลายคน แต่ทุกคนก็เป็นเหมือนกันหมด คือ เป็นเพื่อนของเธอเท่านั้น และเธอเองก็ทำเป็นไปกรี๊ดๆ พี่ๆนักกีฬาอย่างที่วัยรุ่นชอบเป็นกัน ( ไปอย่างนั้น )
จึงดูเหมือนต่างคนต่างไม่สนใจกันและกันอีกแล้ว ต่างก็มีเรื่องราวใหม่ๆเข้ามาในชีวิต พิงอรเองก็คิดว่า .. เธอคงตัดใจได้ซะที
(มีต่อค่ะ)
จากคุณ :
สุภาพสตรีที่สุด
- [
วันเนา (14) 21:00:46
A:unknown X:202.44.135.35
]