6 คุณนาย คนใหม่ ของ บ้าน บงกช (1)
รถแท็กซี่จอดนิ่งอยู่หน้าบ้านบงกช ก่อนจะเคลื่อนออกไปพร้อมกับทิ้งร่างของเด็กสองคนเอาไว้ กรเปิดประตูเหล็กดัดสีดำ พาเด็กสาวเดินนำเข้าไปตามถนนคอนกรีตซึ่งรอบข้างเป็นสวนไม้ดัด อินอดไม่ได้ที่จะมองบ้านหลังใหญ่ของเจ้าของบริษัทเครื่องหนัง ข้าราชการกินเงินเดือนอย่างพ่อเธอไม่มีทางทำได้
เธออยู่ห้องรับรองแขก ไม่ต้องห่วง ฉันขอเตี่ยไว้แล้ว เด็กหนุ่มเปิดประตูตึกใหม่ ถอดรองเท้าออกวางไว้บนชั้น อินทุกานต์ทำตาม เมื่อหลายปีที่แล้วเธอเคยมาบ้านกรแล้วเหมือนกัน แต่ก็แค่การมาทำรายงาน ส่วนการมาพักนั้นต่างกัน
อ้อ
อินไปเยี่ยมเนี้ยด้วยนะ ตอนอินไม่อยู่เนี้ยก็พูดๆถึงอินอยู่เหมือนกัน กรหันมาบอก
อืม รู้แล้ว แต่ไม่อยากเจอคุณนายอีก 2 คนเลย
งั้นไปตอนบ่ายๆ คุณนายใหญ่กับคุณนายรองแกไป
เล
ปลายเท้าของเด็กหนุ่มซึ่งเตรียมก้าวขึ้นบันได แต่แล้วสายตามองเห็นร่างหนึ่งนั่งอยู่ เขารีบกลับคำทันควัน แกไปข้างนอกน่ะ ทั้งคู่เลย
จะพูดว่าไปเล่นไพ่ก็พูดมาเถอะ ร่างที่นั่งอยู่บนบันไดร้องขึ้น อินทุกานต์ชะโงกมองจากข้างหลังกรซึ่งหันหน้าเข้าหาราวบันไดราวกับไม่ใคร่จะตอแยด้วย ก็พบเด็กหนุ่มอีกคน ผมค่อนข้างยาว ตัวสูงล่ำสัน หน้าตาดีทีเดียว แต่ท่าทางการพูดวางอำนาจราวกับเป็นเจ้าของบ้าน เมื่อเธอเพ่งมองดีๆ ก็อดพึมพำออกมาไม่ได้
เต้ วรเมศ?
กรพยายามเดินขึ้นบันไดโดยไม่สนใจอีกฝ่ายซึ่งจ้องมองเขาทั้งคู่
อินทุกานต์? เขาลุกขึ้นยืน พร้อมพยักหน้าทักทายกับเด็กสาว
ใช่คะ เธอพยายามออกสำเนียงภาคกลางแต่ไม่วายปนทองแดง วรเมศเขม่นมองเธอชั่วครู่
คุณนี่
.หน้าคุ้นๆนะ
เดิมฉันเป็นคนกรุงเทพ แต่ย้ายตามพ่อไปอยู่ภาคใต้คะ
อ้อ
มิน่าล่ะ เชิญครับ
วรเมศผายมือออก อินพยักหน้ารับ เธอเดินนำกรขึ้นไปตามทาง ลูกชายคนเล็กของบ้านบงกชทำท่าจะตามไป ทว่าถูกวรเมศเรียกเอาไว้
มีอะไรรึ? วรเมศมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
ลื้อรู้จักกับอีมาก่อน?
เปล่าซักหน่อย
อั๊วะเห็นลื้อคุยกับอีตอนเดินเข้ามา
อั๊วะถามอีว่าเป็นโรคประจำตัวอะไรรึเปล่า? กรโกหก วรเมศยอมรับคำตอบอย่างไม่เต็มใจนัก เขาพ่นลมออกจากจมูก กรหันหลังทำท่าจะเดินจากไป
กร!
อะไร? กรแทบคุมน้ำเสียงให้สุภาพไม่ได้ เขาเริ่มหงุดหงิด ทั้งเรื่องถูกซักไซ้และ
กลัวถูกระแวง
ให้อีนอนห้องดีๆหน่อยนะ วรเมศเอ่ยขึ้น กรเข้าใจว่ามันไม่ใช่ประสงค์ดี ก่อนที่ประโยคต่อมาจะแสดงถึงความมุ่งร้ายอย่างชัดเจน อย่าเอาอีมานอนห้องลื้อล่ะ
.คนอื่นไม่รู้ แต่อั๊วะรู้ อากร
ลื้อน่ะ มันเสือร้ายลึก
กรถึงกับขนลุกซู่ การพูดของวรเมศราวกับพูดแทงใจ เด็กหนุ่มพยายามควบคุมน้ำเสียงที่ตอบออกไปอย่างสงบ
อั๊วะไม่เคยคิดแบบนั้นเลย
อาเต้ ทั้งคู่สบตากับชั่วครู่ ก่อนที่คุณชายใหญ่ของบ้านบงกชจะเป็นฝ่ายละสายตาไปก่อน
ไม่แน่หรอก
เขาทรุดนั่งบนบันไดอีกครา
ลื้อมาทำอะไรตรงนี้รึ? กรอดถามไม่ได้ แม้เสี่ยงต่อการมีเรื่อง
วันนี้อาเตี่ยไปข้างนอก
ผู้เป็นพี่ตอบ
ก็ไปทุกวัน
กรพูดอย่างไม่เข้าใจ
แต่วันนี้ไม่เหมือนกัน วรเมศสานมือครอบปากด้วยท่าทีเคร่งขรึมกว่าเดิม คราวนี้จะมีคนมาด้วย
ใคร?
ใครก็ตามที่จะไม่ทำให้แค่เนี้ยอั๊วะ กับคุณนายรอง โวยวาย
วรเมศชายตากลับมามองร่างน้องชายต่างแม่ แต่จะทำให้ อ ดี ต คุณนายเล็กอย่างเนี้ยลื้อต้องเต้นผางด้วย!
กรมองพี่ชายอย่างครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
. ทว่าใจยังสั่นรัว
เรื่องที่ทำให้เนี้ยถึงกับเต้นผางได้ต้องเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เล่น!
.
เด็กหนุ่มเดินขึ้นชั้นสอง ห้องของวรเมศของเขาอยู่ข้างๆ เวลาเขาจะเดินลงไปชั้นล่างต้องผ่านห้องของพี่ชายทุกครั้ง เพราะห้องของกรอยู่เกือบบริเวณมุมพอดี เนื่องจากห้องของทั้งคู่อยู่คนละซีก พวกคนรับใช้จะเรียกห้องรับรองแขกซีกของวรเมศว่า ห้องซีกคุณชายใหญ่ และ เรียกห้องรับรองด้านของเด็กหนุ่มว่า ห้องซีกคุณชายรอง
อินทุกานต์พักอยู่ซีกของตัวเขา เป็นข้อดีเนื่องจากทางด้านนี้ค่อนข้างเป็นมุมอับ มันจึงมีความสงบเงียบ และเป็นที่รโหฐาน ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีคนพบยาก
กรไขกุญแจประตูห้องซึ่งถัดไปจากห้องเขา 1 ห้อง ขณะที่อินทุกานต์ปล่อย ดินโป่ง ออกมาหายใจ
ทำไมนายไม่ให้ฉันอยู่ห้องติดกับนายล่ะ? เธอกระซิบถามเบาๆ ทว่าก็ต้องปิดปากทันควันเมื่อเห็นสายตากร เด็กหนุ่มไม่พูดพล่าม เขามองซ้ายมองขวาแล้วยกกระเป๋าหนังของเด็กสาวเข้าไปในห้อง พร้อมกับแสร้งพูดว่า
ผมช่วยยกนะครับ! ด้วยน้ำเสียงดังลั่นราวกับต้องการให้วรเมศได้ยิน
อินทุกานต์เดินเข้ามาในห้องสีครีม ภายในมีเครื่องอุปโภคพื้นฐานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ จะว่าไปก็เหมือนกับห้องที่รีสอร์ทเล็กๆเลยทีเดียว กรเป็นผู้ปิดประตูตามหลังอย่างแผ่วเบา พลางวางกระเป๋าหนังไว้บนเตียง เด็กสาวอุ้มดินโป่งออกมานอนบนพื้น เจ้างูนอนนิ่งบนพื้นด้วยความมึนงงจากการเดินทางสักครู่ ก่อนที่จะเลื้อยช้าๆเข้าไปใต้เตียง กรนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเขียนหนังสือ
อิน
หือ?
ฝีมือเรื่องพิษเธอเป็นยังไงแล้วบ้าง? อินทุกานต์ก้มหน้านิ่ง เธอสนใจเรื่อง พิษ มาตั้งแต่ประถม เมื่อย้ายไปอยู่ภาคใต้ เธอก็ได้พบกับ พิษ อีกชนิด มันคือ ยาสั่ง หลายคนคิดว่ามันคือไสยศาสตร์ ทว่า
หลังจากอินทุกานต์ทุ่มเทเวลาตลอด 3 ปีศึกษาก็พบว่า แท้จริงแล้ว ยาสั่งคือ พิษ แบบหนึ่ง ซึ่งมีสืบต่อมากันตั้งแต่โบราณ คุณสมบัติวิเศษเสียกว่ายาแผนปัจจุบันเสียอีก ยิ่ง ยาสั่ง ของภาคใต้ ผสมผสานกับวัฒนธรรมของมาเลเซีย ส่งผลร้ายแรงกว่าของภาคอื่นๆ
เราเพิ่งเจอกัน นายคุยเรื่องอื่นไม่ได้รึไง?
งั้นเราคงไม่เรื่องอะไรคุยกัน! กรทำท่าจะลุกขึ้น
เออๆ ตกลงๆ อินทุกานต์ลุกขึ้นฉวยชายเสื้อของเด็กหนุ่มเอาไว้ ฉันมีตำรายาของมาเลเซีย แล้วก็ข้อมูลยาพิษเยอะแยะไปหมด เธอก้มค้นในกระเป๋าหนัง ก่อนจะหยิบตำราหน้าตาเก่าแก่เอาการเล่มหนึ่งออกมา ยื่นให้กับอีกฝ่าย
นี่เป็นตำราพิษ กรรับไปเปิดดู ฝุ่นตลบทันทีเมื่อเขาเปิด เด็กหนุ่มยกมือโบกไล่ฝุ่นไหวๆ ก่อนก้มลงอ่านตำราในมือ
มันเป็นภาษามาเลนี่! อินทุกานต์พยักหน้าหงึกๆ ฉันไปตลาดหนังสือเก่าที่มาเลเซียแล้วได้มา
แล้วอ่านออกรึไง? เด็กสาวยิ้มอย่างทะเล้น
ฉันเรียนภาษามาเลเซียน่ะ เพื่อนฉันเป็นมุสลิมเขาเรียน ก็เลยเรียนตามๆเขาไปด้วย
เอามาเท่านี้เหรอ? กรปิดตำราแล้วส่งคืนให้เจ้าของ
เดี๋ยวพรุ่งนี้มี EMS ส่งมาอีก ขนมาเองไม่ไหว เครื่องผสมยาก็เลยเอามาเท่านี้ อินทุกานต์บอก พลางหยิบเครื่องบดยาแบบโบราณออกมา มันทำจากหินทราย ที่จับขัดเงาอย่างดี เห็นได้ชัดว่าได้รับความเอาใจใส่
เด็กหนุ่มย้ายจากเก้าอี้มานั่งบนเตียง มองแท่นบดยาอย่างทึ่งๆ ก่อนเงยหน้าพูดกับหญิงสาว บดยาให้ฉันดูสักชนิดเถอะ
เออ
ก็ได้ อินทุกานต์รูดซิปกระเป๋าหนังให้กว้างขึ้น จะให้บดยาอะไรล่ะ? กรนิ่งใคร่ครวญไปชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เอายาที่ทำให้ใครกินเข้าไปแล้วพูดความจริงหมดเปลือกเลยน่ะ ทำได้ไหม?
อินทุกานต์ตั้งท่าเตรียมพยักหน้าอยู่นานแล้ว ไม่ว่ากรพูดอะไรมีรึจะไม่ยอมตามใจ แต่พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอต้องชะงักการตอบตกลงไว้ชั่วคราว
นายจะเอาไปทำอะไร? เด็กสาวดักคออย่างไม่ไว้ใจ กรชายตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาเย็นเยือก
ทำไม่ได้?
ทำได้สิว่ะ ทำไมจะทำไม่ได้! ยาพิลึกกว่านี้ยังทำได้เลย! อินทุกานต์ตอบ ไม่ว่าจะเป็นเซียนอะไร ย่อมไม่พอใจถ้าถูกเย้ยหยัน
งั้นก็ทำสิ กรตัดบทเสียดื้อๆ ต้องการอะไรเพิ่มรึเปล่าล่ะ? อินทุกานต์สะบัดหน้าอย่างงอนๆ
ของพื้นๆพรรณนี้ฉันทำเองได้! เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว มองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเรียบเฉย งั้นเดี๋ยวจะกลับมานะ กรว่า ก่อนจะหายออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว จนอินทุกานต์ร้องเรียกไว้ไม่ทัน
เด็กสาวกระชากห่อส่วนผสมจากกระเป๋าหนัง ก่อนจะลากแท่นบดยามาไว้ตรงหน้าตน กระแทกมันหลายหนด้วยความโมโห
ผู้ชายงี่เง่า! ผู้ชายงี่เง่า!
จากคุณ :
สิงหราคาวี
- [
วันเถลิงศก (15) 11:03:15
]