"เขา ผม และ สยามสแควร์

    โดย “ตานายเดิน”


    เขามีพี่น้องอยู่สองคน

    เขาเป็นพี่คนโต มีน้องชายหนึ่งคนกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสอง เขาเช่าอพาทร์เมนท์เล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่มีห้องให้เช่าประมาณสิบกว่าห้อง แต่มีคนเช่าอยู่ประมาณแค่ครึ่งหนี่งของห้องทั้งหมด เขาเป็นหนึ่งในนั้นราคาที่แลกกับแบ๊งค์พันสองใบแบ๊งค์ร้อยสองใบ ส่วนไฟต่างหาก น้ำให้ใช้ฟรี ซึ่งดูเหมือนจะใจดี แต่จริงๆ บวกไปในค่ายูนิคไฟมหาโหดไปแล้ว ตัวพ่อกับแม่ของเขาอยู่ต่างจังหวัด แกบอกว่าไม่ค่อยชอบกรุงเทพฯ มันดูเร่งรีบไปซะทุกอย่าง จึงขอสละสิทธ์เมื่อเขาเอ่ยปากชวนให้มาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ส่วนเจ้าน้องชายเขาตอนนี้มันก็ไม่ได้อยู่กับเขาหรอก ย้ายไปอยู่หอกับเพื่อนได้สองอาทิตย์แล้วเห็นบอกว่ามีงานที่จะต้องทำส่งอาจารย์ ถ้าพักกับเพื่อนจะสะดวกกว่า เขาตามใจมัน

    ตัวเขาเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนคนในสังคมส่วนใหญ่ทั่วไป ในบริษัทไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งหนึ่ง เงินเดือนที่ได้รับตามเกณฑ์ของวุติปริญาตรีพึงจะได้ พอจะเอาตัวรอดไปอย่างหวุดหวิดได้เกือบทุกเดือน

    เช้าวันนี้เขามารอรถโดยสารตามปกติอย่างทุกวัน รถโดยสารได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เป็นสิ่งที่เห็นเจนตาเหมือนภาพที่ถูกกรอกลับมาให้ดูอีกรอบจากเครื่องเล่นวีซีดี เขาพาตัวสอดแทรกเข้าไปในหมู่คนในรถมองเหมือนแหนมคน ที่ถูกอัดอยู่ในกล่องเหล็กติดล้ออย่างไงอย่างนั้น เขามาถึงที่ทำงานอย่างฉิวเฉียด

    เสียงทักทายตามมารยาทดังมา เขาทักตอบตามที่ได้ถูกสังคมเมืองสอนสั่งมา ก่อนแยกไปทำงานตามปกติ กองงานที่ค้างคาตั้งแต่เมื่อวานดูแล้วน่าถอดถอนใจมากกว่าน่าหันหน้าเข้าสู้ ดูจากสายตาโดยไม่ต้องพึ่งพาไม้บรรทัดมาวัด มันมีความสูงเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อวานอย่างแน่นอน ไม่คิดว่ากองเอกสารก็สามารถโตขึ้นได้เอง ดีไม่ดีจริงๆ แล้วมันอาจจะออกลูกเองก็เป็นได้ ไม่งั้นมันไม่ผลิดอกออกผล ได้ขนาดนี้หรอก คิดแล้วก็แค่นั้น ก้มหน้าก้มตาทำงานดีกว่า ยังไม่ทันทีเวลาจะคืบคลานไปซักกี่กระพี้ เสียงคุ้นๆ ก็เอ่ยฝากฝังงาน ก่อนที่เอกสารในแฟ้มจะถูกต่อยอดให้สูงขึ้นไปอีก มา... เข้ามาเลย ไอ้งาน ให้มันตายกันไปข้างนึง เขาคิดในใจ

    หลังจากเดินเอื่อยๆ มองหาร้านอาหาร ที่จะหาอะไรซักอย่างยัดเข้าไปกันตายตอนพักเที่ยง ก็มาบรรจบกับร้านข้าวแกงขาประจำที่ซ่อนตัวอยู่ข้างถนน แนบกับกำแพงปูนข้างบริษัทนั่นเอง ง่ายดี..เป็นสิ่งที่บอกตัวเองตลอดเวลาที่เลือกที่จะมานั่งร้านนี่ คงไม่ไหวหากที่จะเลียนแบบเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ที่พากันขับรถออกไปหาอะไรกินตามร้านอาหารดีๆ ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยหรู หรือฟาส์ตฟู๊ด ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และชั้นต่ำทั่วไป แม้จะได้รับคำชวนจากเพื่อนเป็นประจำก็เถอะ เขาคิดว่าแบบนี้มันเหมาะกับเขามากกว่า

    กลับจากกินข้าว เห็นขอทานสองคนนั่งตากแดดอยู่ปากทางเข้าบริษัท พอเหลือเศษตังค์ติดกระเป๋าบ้าง คิดว่าจะทำบุญทำทานซะหน่อยเลยเลือกที่จะให้คนใดคนหนึ่ง หวยเลยมาออกที่ขาทานแขนด้วนที่นั่งอยู่ ส่วนอีกคนที่แขนขาอยู่ครบเพียงแต่สูงวัยกว่า เขาคิดว่าคงเป็นวันหน้า ยังไม่ทันก้าวเท้าพ้นเกินห้าเมตรเสียงขอทานที่พลาดทานจากเขาก็ดังขึ้นประมาณว่าช่วงนี้แย่ หากินไม่ดี หาได้วันนี้ยังไม่ถึงหกร้อยเลย ทำให้เขาอดหันไปมองขอทานสองคนนั้นอีกครั้งไม่ได้

    ย่างเท้าเข้าที่ทำงานต้องเกิดอาการแปลกใจกับซองสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน พลิกดูหน้าซองถึงได้บรรลุอย่างถ่องแท้ ว่ามีเหตุที่จำใจ จำยอมที่เงินในกระเป๋าต้องมีอันต้องย้ายที่พำนักไปที่แห่งในซองขาวที่มีชื่อว่า ซองผ้าป่า อีกแล้ว ทั้งที่ใจรู้อยู่ว่าอารมณ์นี้ไม่อยากได้บุญซักเท่าไรแล้ว แต่ก็ไม่อาจเลี่ยงได้กับบุญที่เหมือนถูกมัดมือชกอย่างนี้

    ว่างๆ ยังไม่ได้ถึงเวลาเข้างานดี คว้าหนังสือพิมพ์มาอ่าน ไม่ว่าหัวไหน ข่าวคล้ายๆ กันหมด ไม่ยกขบวนไปกราบไหว้ต้นไม้ออกลูกรูปทรงประหลาด ก็มีข่าวฆ่ากันตาย ผัวฆ่าหั่นศพเมียเก่าเพื่อจะได้มีเมียใหม่ เมียฆ่าผัวเพื่อหวังเงินประกัน ครูมั่วเซ็กส์นักเรียน นักเรียนใจแตกมั่วเซ็กส์กับเพื่อนๆ หญิงสาวอายุน้อยถูกหลอกขายบริการ กรอบเล็กๆ ถัดมาข้างๆ มีอัตราค่าบริการตีตารางแบ่งตามเกรด อายุ ไว้ให้ดูเสร็จสรรพ ตำรวจวิสามัญผู้ค้ายาบ้าแล้วนำยาบ้ามาเรียงโชว์เหมือนกลัวใครเขาไม่รู้ว่ายาที่จับได้เป็นยาบ้าเลยเรียงให้อ่านซะเลย ข้ามไปอ่านเรื่องการเมืองก็มีแต่ข่าวนักการเมือง:-) กัดกันไม่เว้นแต่ละวัน ในที่สุดต้องตัดสินใจยกเลิกการเสพข่าวสารทางหนังสือพิมพ์ เพราะกลัวอาหารที่เพิ่งกินไปจะสำลอกออกมาเสียก่อน

    ฝนเริ่มลงเม็ดพรำเหมือนเพิ่งเริ่มจะเข้างาน สวนทางกับเขาที่จะสิ้นสุดการงานอันแสนเหนื่อยสักที จริงๆ จะดีกว่านี้หากจะเริ่มโปรยปรายสร้างความชุ่มชื้นในเวลาที่ให้เขาถึงบ้านก่อน หรือเตรียมที่จะนอนจะเหมาะสมมากแต่อย่างว่า อยู่ใต้ฟ้าจะไปกลัวฝนทำไม จริงๆ บ่นไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก เพื่อนสาวร่วมที่ทำงานของเขาเริ่มขยับ หายไปในห้องน้ำทีละคนสองคน พร้อมกลับมากับหน้าที่ผ่านการแต่งแต้ม เติมสี ให้ความสดใสมาอยู่บนใบหน้าดังเช่นตอนก้าวเท้าเข้ามาทำงาน เสียงแว่วถึงไลฟสไตล์ของพวกเจ้าหล่อน น้ำหอม กระเป๋าหรู ชุดที่หมายตา นาฬิกาเรือนเก๋ ถ้อยคำสรรเสริญเทิดทูนสินค้าแบรนด์เนมจากประเทศซีกโลกตะวันตกและอีกมากมายถ้อยคำถ้าเขาคิดจะนั่งฟังต่อ แต่เขาเลือกที่รีบจากมามากว่าโดยจุดประสงค์คือกลัวรถติด ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงมันก็หนีไม่พ้น

    ฝนตก รถติด ไม่รู้ว่าใครจับคู่ให้ แต่เมื่อไรที่คู่หูดูโอนี้มาพบกัน เขารู้ว่าเวลาของการกลับถึงบ้านมีอันต้องถูกยืดไปอย่างช่วยไม่ได้ หลายคันแล้วที่พาหนะหมายเลขประจำที่ต้องใช้พึ่งพา ผ่านหน้า ได้แต่มองตามอย่างอาลัย อาวรณ์ ด้วยไม่อยากที่เบียดเสียดกับคลื่นคนในกล่องเหล็กติดล้อใบนั้น เวลาผ่านไป อย่างเชื่องช้า สายฝนไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนข้อให้ ในที่สุดเขาก็ต้องตัดสินใจเลือกที่จะไปเป็นหนึ่งของผู้คนเบียดเสียดพวกนั้น สายตาพยายามที่จะชะโงกมองหมายเลขประจำของรถโดยสาร พลันต้องตกใจ เมื่อมีคลื่นน้ำจากล้อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างดีดตัวจากพื้นที่เปียกแฉะจากสายฝน เป้าหมายตรงดิ่งมาที่เขายืน เขารีบกระโดดหลบแทบไม่ทัน ก่อนโวยวายออกไป เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์สวมเสื้อกั๊กมีหมายเลข ติดอยู่ด้านหลังจอดรถแทบจะทันที ค่อยๆ ถอดหมวกกันน๊อกออก หน้าตาที่เห็นหลังจากไร้ซึ่งสิ่งปิดบัง ทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ ที่จะเอ่ยเอื้อนอะไรออกไปอีก ก่อนยกมือบอกท่าทีแสดงให้รู้ว่าไม่ติดใจอะไรหรอก จะรีบไปทำธุระที่ไหนก็ไปเถอะ นึกว่าจะแน่... ชายเสื้อกั๊กส่งเสียงตามหลังมาอีก ก่อนบิดพาหนะคู่ใจจากไปด้วยสุ่มเสียงแผดกังวาน หมอกควันขาวจากปลายท่อส่งออกมาเป็นทางยาว ตกลงเขาต้องยกมือไหว้ขอโทษพี่เสื้อกั๊กด้วยใช่ไหมนี่

    ในที่สุดเขาก็มาเป็นหนึ่งในสมาชิกบนกล่องเหล็กติดล้อนี่จนได้ แรงเบียดที่มีทั้งสี่ทิศรอบด้านตัว ส่งให้ไม่ต่างอะไรจากแหนมคนดีๆ นี่เอง แถมเป็นแหนมที่ส่งกลิ่นได้ที่พร้อมออกขายแล้วด้วยซิ แวบหนึ่ง บนรถ แอบเหลือบเห็นข้างทาง ตำรวจกำลังตรวจจับรถผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่ สิงห์นักบิดน้อยใหญ่ ทำหน้าเศร้า ยืนต่อรองเจรจาอะไรซักอย่าง หนึ่งในนั้นมีพี่เสื้อกั๊กคนนั้นอยู่ด้วย ภาพจากหน้าต่างรถกำลังจากมาอย่างช้าๆ ก่อนหยุดสะดุดอีกครั้ง พยายามชะโงกมอง เห็นตำรวจสั่งให้รถโดยสารหยุด ตำรวจอีกนายกำลังโบกมืออำนวยความสะดวกให้รถเก๋งส่วนบุคคลขนาดใหญ่ มีเครื่องหมายดาวสามแฉกติดอยู่ ผ่านไปหลังจากเจรจาอะไรกันอยู่ซักครู่นึง ก่อนยกมือตะเบ๊ตามท้ายไป หลังจากรถเก๋งคันใหญ่นั้นแล่นผ่านไป ก็โบกมือทำสัญญาณให้รถโดยสารที่ผมอยู่ไปได้ ก่อนก้าวเท้าเข้าไปหากลุ่มนักบิดเหล่านั้น นัยน์ตาดูเหมือนราช์สีห์ที่เห็นอาหารอันโอชะ วางอยู่ตรงหน้า

    ฝนซาแล้ว แต่ยังไม่ขาดเม็ดซะทีเดียว เมื่อรถโดยสารแล่นเกือบถึงหน้าห้างค้าส่งยักษ์ใหญ่ เขาก็เลยตัดสินใจที่จะลงไปเดินเล่นดูอะไรเพลินๆ ซะหน่อยด้วยเห็นว่าไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ แถมได้ตากแอร์เล่น ฟังเพลงเบาๆ ดูโน่นดูนี่ กำลังเลือกดูสินค้าอยู่อย่างสบายใจ สายตาก็มีอันประสบกับกลุ่มสาวน้อยที่เอ่ยเจื้อยแจ้ว เรียกสายตาให้จับจ้องมองตามได้อย่างไม่ยากเย็น เสียงที่หล่นออกมาพอจับใจความได้ประมาณว่าสิ่งที่ได้ไปประสบมาเมื่อคืน หนึ่งในนั้นอวดถึงชายหนุ่มวัยโก๋ที่ถูกใจที่ได้หมายตาไว้ตกเป็นของเธอเรียบร้อยแล้วเมื่อราตรีที่ผ่านพ้นมา อีกหนึ่งบรรยายถึงบทพิสวาทของตนกับกับไอ้หนุ่มที่เป็นแฟน เล่นเอาคนแอบฟังอย่างเขาถึงกับต้องแอบกลืนน้ำลายตาม อีกนางซึ่งดูจากแต้มสีจากใบหน้าและลักษณะการแต่งตัวแสดงออกถึงความมั่นใจแบบสุดลิ่ม ส่งน้ำเสียงแผ่วเบาดูมีจริตชวนให้จิตใจไขว้เขวตาม บอกถึงความภาคภูมิใจกับเฟอร์นิเจอร์ประดับบารมี ในรูปแบบเครื่องมือสื่อสารรุ่น ท๊อป ที่พึ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ เพียงชั่วข้ามคืนจากชายที่หล่อนเรียกว่า‘ป๋า’

    จากคุณ : "ตานายเดิน" - [ 18 เม.ย. 47 15:16:30 A:210.86.192.138 X: ]