บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2668286/W2668286.html
บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2671988/W2671988.html
บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2676834/W2676834.html
บทที่ 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2685612/W2685612.html
บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2691653/W2691653.html
บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2701513/W2701513.html
บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2710961/W2710961.html
บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2719577/W2719577.html
บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2740247/W2740247.html
บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2749852/W2749852.html
บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2758214/W2758214.html
*********************************
บทที่ 12
ตกลงข้าโดนต้มสินี่
แดริลถามย้ำคำกับคนตรงหน้า ดวงหน้าของเขาก่ำสีขึ้น หากก็เพียงเท่านั้น เขาไม่ได้โวยวายอะไรออกมาเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด แค่ทิ้งตัวกลับลงนั่ง ดวงตาหลุบลงอย่างที่ยากจะเข้าใจ และเซรีนน์ก็ยักไหล่ขึ้นยามที่หล่อนสนองอย่างไม่เกรงใจอีกฝ่าย
เกือบยี่สิบปี เปื่อยสนิทเลยละ
เมื่อไม่เห็นการตอบรับจากอีกฝ่าย หญิงสาวก็ยื่นหน้าไปตรงหน้าเจ้าชายหนุ่มอีกนิด ถามด้วยเสียงเย้าๆ
ช็อกไปเลยหรือไง? ท่านแดริล
เปล่า ข้ากำลังคิด
แดริลเม้มปากเข้าชั่วครู่ เขาเหยียดขาออกในท่าสบาย พรายตาสีฟ้าจัดปรากฏรอยวับขึ้นนิด...นิดเดียว ก่อนที่เจ้าตัวจะถามออกมาเรียบๆ
ที่มาบอกข้านี่ แปลว่าท่านจะกลับมารับตำแหน่งนักบวชสูงสุดใช่ไหม? ท่านเซรีนน์
วิธีการเรียกที่เปลี่ยนไปบ่งบอกถึงการยกย่องยอมรับ ทว่าหญิงสาวก็เพียงตวัดตามองมา ย้อนถาม
แล้วท่านจะยอมไหมล่ะ?
ข้าไม่อยากรับงานแทนใครอยู่แล้ว และบอกตรงๆ นะ ต่อให้ข้าอยาก ข้าก็ไม่มีสิทธิ์ แดริลยักไหล่ขึ้นบ้าง ถ้าเรื่องเป็นอย่างที่ท่านพูดจริง สเลครานช์ก็เป็นเรื่องของท่าน ข้าจะได้เก็บของออกจากวิหารวันนี้เลย
เอางั้นน่ะ?
ข้ามีเรื่องที่อยากไปทำของข้าเหมือนกัน เจ้าชายหนุ่มกระดิกเท้าเบาๆ ดวงตาสีฟ้าที่จ้องตรงไปยังดวงหน้าของอีกฝ่ายมีรอยครุ่นคิดแวบขึ้นอีก ว่าแต่...ท่านคิดมั้ยว่าท่านติดหนี้ข้าอยู่ ที่ให้ข้ามาติดแหง็กอยู่นี่แทนท่านเกือบยี่สิบปี?
ไม่ค่อยเขี้ยวเลยนะ เจ้าชาย
เซรีนน์บ่น และแดริลก็ทำเสียงขึ้นจมูก ย้อนกลับ ข้านี่นะเขี้ยว? ยังไม่ทันฟังข้อเสนอ ท่านก็บ่น ข้ายังไม่ได้บอกให้ท่านมาเป็นทาสในเรือนเบี้ยของข้าหรืออะไรเลย ฟังข้อเสนอของข้าก่อน ท่านเซรีนน์ แล้วท่านจะรู้ว่าท่านเป็นฝ่ายกำไร
แล้วท่านต้องการอะไร?
ข้าต้องการเวลา เสียงตอบนั้นเรียบ แต่หนัก บ่งบอกว่าผ่านการใคร่ครวญมาอย่างที่ไม่ใช่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ ถ้าท่านช่วยให้ข้าได้เวลานั่นมา พอที่ข้าจะจัดการเรื่องบางอย่างให้เสร็จ ข้าก็จะถือว่าเราไม่มีอะไรติดค้างกัน ไม่ถึงยี่สิบปีอย่างเวลาที่ข้าต้องติดอยู่ที่นี่หรอก อาจจะน้อยกว่านั้นสิบเท่า อาจจะน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ
ดวงตาสีฟ้าตวัดตรงมา แลสบกับตาสีเขียวอ่อนจางของคนที่นิ่งคิด และเขาก็เอ่ยต่อ แค่เวลานิดหน่อย แลกกับที่ท่านไม่ต้องติดหนี้ใคร คิดว่าคุ้มกันไหม ท่านนักบวชสูงสุดแห่งสเลครานช์?
**********************
ที่สุดก็ยอมมารับตำแหน่งแล้วหรือ เซรีนน์
เสียงทักถามจากปากของแดร์เรนทำให้หญิงสาวเจ้าของนามนั้นยอบตัวลงนิดด้วยทีท่าสง่างาม ขณะที่แดริลซึ่งเข้ามาในห้องพร้อมกันยังคงทิ้งระยะห่างอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าติดจะบึ้งตึง ไม่พอใจจนกระทั่งแดร์เรนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมานิดๆ เขาขยับปากเหมือนอยากเอ่ยอธิบายอะไรกับลูกชาย ถ้าเซรีนน์จะไม่เปิดริมฝีปากยิ้ม กดเสียงหนักลงก่อน
ข้าจะรับตำแหน่งอย่างมีเงื่อนไข
ก่อนนี้ทำเรื่องมาก มาถึงก็ทำเรื่องมาก
แดริลเอ่ยลอยๆ ขึ้นด้วยเสียงหงุดหงิดอย่างที่ทำให้ผู้เป็นพ่อนิ่วหน้า เขาขยับจะปราม แต่อีกครั้ง...ไม่ทัน เมื่อหญิงสาวเบื้องหน้าหันขวับกลับไปหาฝ่ายนั้นเสียก่อน เสียงเอ่ยท้าทาย...ด้วยถ้อยที่ทำให้แดร์เรนสำลักลมหายใจหนักขึ้นไปอีก และเรเชียซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบๆ ที่ด้านข้างไหวตัวนิด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดเปล่งประกายสนอกสนใจขึ้นมา
เงื่อนไขของข้าคือเจ้าชายรัชทายาทต้องวางมือจากศาสนจักรทั้งหมด ข้าไม่ต้องการเห็นเขาเข้ามาพัวพันกับสเลครานช์หรืออ้างตัวเป็นนักบวชอีก
อะฮะ เหมือนกับข้าอยากยุ่งกับศาสนจักรแสนวิเศษของท่านนักหนา
แดริลที่รับฟังถ้อยนั้นด้วยสีหน้าตึงจัดแทรกคำขึ้น เขาจ้องตาเซรีนน์กลับ เอ่ยเสียงกระด้าง รีบเอาอำนาจเหนือสเลครานช์ของท่านไปให้พ้นๆ ข้าเถอะ แค่นี้ข้าก็กลายเป็นคนโง่พออยู่แล้ว ที่โดนหลอกใช้มาเกือบยี่สิบปี
เซรีนน์ไม่ได้ค้านคำนั้น อันที่จริง...หล่อนเพียงเหยียดริมฝีปากออก ทำหน้าเรียบเฉยเมื่อคำพูดของฝ่ายนั้นทำให้แดร์เรนสะอึกอึ้ง ทว่าเจ้าชายหนุ่มไม่ยอมหยุดแค่นั้น เขาตวัดตามองผู้เป็นบิดา ถามเสียงเย็นเยียบ
แล้วข้าก็ไม่เข้าใจ ตอบข้าได้ไหม ว่าท่านพ่อเห็นดียังไงถึงหลอกข้ามานานขนาดนี้? ไม่คิดว่าข้ามีสมองพอที่จะรับรู้ความจริง?
แดริล มันจำเป็น...
แต่ข้ามองไม่ยักเห็นความจำเป็นของท่าน
แดริล!
อย่าคิดว่าจะสั่งให้ข้าหุบปากได้อีก ท่านพ่อ ท่านชักใยชีวิตข้ามานานเกินพอแล้ว
เจ้าชายหนุ่มกดเสียงกร้าวอย่างที่ทำให้คนฟังต้องชะงักไปตามกัน เว้นแต่เรเชียที่เริ่มขมวดคิ้วเข้า และยกมือขึ้นแตะริมฝีปาก...เหมือนจะซ่อนอารมณ์บางอย่างไว้ยามที่แดริลเอ่ยต่อด้วยเสียงปนประชด ความจริงมาคิดดู ข้าก็ไม่เคยทำหน้าที่ให้ดีพอที่จะเป็นที่พอใจของใครได้อยู่แล้ว ถึงสเลคไม่มีข้า ข้าก็ว่าเซรีนน์คงทำหน้าที่แทนข้าได้เหมือนกันแหละ ดูเหมือนเธอจะเก่งนัก
แดริล เจ้าหมายความว่ายังไง?
ก็หมายความง่ายๆ...ข้าจะออกจากสเลค
ถ้อยนั้นเรียบง่าย แต่ทรงความหมายจนเกือบทำให้แดร์เรนสำลักลมออกมา เขาจ้องตาลูกชายคนเดียวแน่ว เค้นเสียง
แต่เจ้าเป็นเจ้าชายรัชทายาท แล้วเจ้าก็ต้องคิดถึงหน้าที่...
หน้าที่? ข้าใช้ชีวิตแทนยัยนั่นมากี่ปี? ข้าทนเป็นนักบวชทั้งที่ไม่เคยชอบ เรียนรู้โน่นนี่แทบตาย ทำงานทุกอย่าง แล้วตอนนี้ท่านยังมาพูดเหมือนข้าไม่คิดถึงหน้าที่?
แดริลเค้นเสียงสวนขึ้น เขาตวัดตาไปที่เซรีนน์ ดวงตาสีฟ้าจัดพรายประกายวับ มาตอนนี้ที่ข้าเห็นใครบางคนแล้วรู้สึกว่าตัวเองเป็นลาโง่จนไม่อยากจะอยู่ ตอนนี้ที่ข้าอยากมีชีวิตของตัวเองบ้างสักระยะ ท่านพูดเหมือนข้าคิดร้ายต่อสเลคงั้นหรือ? ท่านพ่อ
ผู้ทรงศักดิ์สูงสุดแห่งสเลคนิ่งงัน เขาเงียบ...เงียบไปนาน ในดวงตาสีเข้มจัดมีแววหมองลง ทว่าก่อนที่เขาจะทันพูดอะไร เซรีนน์ก็เสนอขึ้นมา หันมองจ้องหน้าแดริลตรงๆ เสียงเอ่ยเย็นเยียบ
ถ้าท่านอยากจะมีชีวิตของตัวเองมากนัก ข้าก็จะช่วยงานในส่วนเจ้าชายรัชทายาทของท่านให้ ข้าจะช่วยดูแลสเลคแทนระหว่างที่ท่านไม่อยู่ พอใจไหม? แล้วก็หยุดมองข้าด้วยสายตาอย่างนั้นเสียที ข้าไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร
จู่ๆ เรเชียก็ทำเสียงเหมือนสำลัก เขายกมือขึ้นปิดปาก กระแอมกระไออยู่ชั่วครู่ ก่อนจะออกตัวเรียบๆ เมื่อเห็นน้องภรรยามองตรงมา
ขอโทษ พักนี้ข้าไม่ค่อยสบาย
ในดวงตาของแดร์เรนมีเค้าสงสัย ทว่าเขาก็ไม่ได้ซักไซ้อะไร ด้วยความกังวลติดอยู่ที่เรื่องตรงหน้า และที่สุดเจ้าตัวก็ถอนใจยาว ถามออกมา
เจ้าจะไปไหน แดริล
หน้าของแดริลเปลี่ยนสี...เหมือนเจ้าตัวจะห้ามตนเองไม่ทัน เหมือนจะมีคำตอบบางอย่างอยู่ในใจ ทว่าสิ่งที่เขาตอบมีเพียงคำสั้นเรียบ
ข้ายังไม่ได้วางแผน
เจ้าจะไปนานแค่ไหน? สัญญากับพ่อได้ไหมว่าจะกลับมา
ข้าไม่ลืมหรอกว่าตัวเองเกิดมาเป็นใคร
คราวนี้เสียงนั้นอ่อนลง เหมือนเจ้าตัวจะรู้สึกว่าควรทำให้บิดาเบาใจขึ้นบ้าง ข้าคงไปไม่นาน แค่ยังบอกไม่ได้เท่านั้นว่าจะนานเท่าไร แต่อย่างไรข้าก็รู้ว่าตัวเองจะต้องกลับมา ตัวตนของข้าตัดขาดจากสเลคไม่ได้
ในห้องนั้นมีแต่ความเงียบ และเมื่อไม่ได้รับคำค้าน เจ้าตัวก็คำนับลง เขาถอย ก่อนจะหันหลังเดินออกประตู กระตุกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก...นิดเดียวจนเกือบสังเกตไม่เห็น และคิด...
...แค่คิด...ทว่าเขารู้ หล่อนได้ยิน
...ขอบใจ...เซรีนน์...
และที่ในห้อง ด้านหลังของเขา เรเชียกระแอมกระไอออกมาอีกรอบ เขาบอกกับน้องภรรยาด้วยเสียงที่คล้ายจะเจือรอยหัวเราะ ทว่าก็กลั้นไว้อย่างสุดชีวิต
อ่า...ท่านแดร์เรน ขอเวลาข้าพูดกับเซรีนน์เป็นการส่วนตัวสักครู่ได้ไหม ข้ามีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับเธอมากอยู่เหมือนกัน และ อ้อ แดริล
เสียงเรียกนั้นทำให้ชายหนุ่มชะงัก เขาหันกลับไป เพื่อจะพบกับรอยยิ้มรู้เท่า ทว่าเรเชียก็เพียงบอกเรียบ...ด้วยถ้อยที่เกือบทำให้เขาสำลักลม
ขอให้โชคดี เดินทางให้สนุก และได้เจอเธอสมหวังนะ!
จากคุณ :
วัสส์
- [
18 เม.ย. 47 16:31:04
]