แปะดีไหมนะ??

    ใต้ต้นจามจุรีสูงใหญ่ร่มรื่น..กิ่งก้านสาขากระจายครอบพื้นหญ้าด้านล่างจน
    ร่มครึ้ม ความชื้นซึมจากตลิ่งน้ำสร้างความแช่มชื่นให้หมู่บอนและไม้ริมน้ำชู
    ใบและดอกไสวรับสายลมยามเย็นที่โชยพัดเป็นระยะ รากใหญ่โผล่พ้นพื้น
    กลายเป็นที่รองนั่งของชายหนุ่มอ่อนวัยคนหนึ่ง..เขานั่งเหยียดขาข้างซ้ายและ
    ชันเข่าข้างขวา..มือขวาถือหนังสือมือซ้ายจับต้นหญ้าที่นุ่มนิ่มมือนั้นเล่น..นาน
    ครั้งจะเผลอขว้างก้อนหินเล็ก ๆ ที่บังเอิญหยิบได้นั้นลงไปที่สระตรงหน้าส่ง
    เสียงดังจ๋อม..เขาทำท่าไม่รู้ไม่ชี้..แม้ว่าข้าง ๆ โคนไม้ใหญ่นั้นจะมีหญิงสาววัย
    ใกล้เคียงกันนั่งอยู่ถัดไป กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากร่างกายของเธอโชยเข้าจมูก..
    เขาทำจมูกฟุดฟิด แล้วส่งเสียงจาม

    ฮ๊าดดดดดดดเช้ยยยยยยย!!!

    หนังสือตรงหน้าเป็นรอยหยาดน้ำกระเซ็นจนเห็นชัด เขาใช้หลังมือป้ายปาก
    และจมูกพร้อมกับสูดหายใจดังฟืด..หางตาชำเลืองไปยังสาวน้อยคนนั้น
    เหมือนจะให้แน่ใจตัวเองว่าเธอนั่นแหละที่ทำให้เขาจามขึ้นมา..แต่แล้วเมื่อ
    เห็นเธอไม่รู้สึกรู้สาเขาก็ยิ่งขวางในใจ..เมื่อจ้องมองนานยิ่งขึ้นจึงรู้ว่าเธอกำลัง
    ทำอะไรอย่างหนึ่ง..สองมือปิดหน้า..แผ่นหลังสะท้านตามก้อนสะอื้นเป็น
    ระยะ..หนังสือและสมุดกองอยู่ใกล้ตัวถูกลมตีดังผับ ๆ บ้างก็กระจายไปตาม
    ลมแต่เธอก็หาสนใจไม่..ชายหนุ่มสูดน้ำมูกอีกครั้งพร้อมกระแอมออกมา..สิ่งที่
    เกิดขึ้นก็คือจากท่านั่งชันเข่าหันข้างก็กลายเป็นชันเข่าหันหลังให้เสีย

    หนังสือถูกพับเก็บแล้ววางไว้ข้าง ๆ เขาเอนตัวลงนอนหงายราบกับพื้นโดยไม่
    สนใจรากไม้ที่ยื่นออกมาค้ำหลังและก้นกบนั้น..สลับขาซ้ายไขว้ทับขาขวา
    ปลายขาซ้ายกระดิกเล็กน้อยทั้งที่ยังไม่นึกครึ้มขนาดบรรเลงเพลงหรือจังหวะ
    ดนตรีใดขึ้นในใจ ฝ่ามือทั้งสองข้างประสานกันที่ศีรษะด้านหลังแทนหมอน
    หนุน ปากก็ห่อลักษณะผิวปากที่มีแต่เสียฟู่ฟูดออกมา..น้ำลายกระเซ็นออกมา
    สองสามหยดรอบริมฝีปากคราวนี้เขาใช้ฝ่ามือเช็ดแล้วยกขึ้นลูบผม..นั่นเองจึง
    เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของเขาดกดำเป็นเงางามและอยู่ตัวอยู่เสมอ

    "น้ำตาจะช่วยอะไรได้..ร้องเท่าไรก็ไม่พอ..โลกนี้สับสนจริงหนอ..มานั่งหัวร่อ
    กันดีกว่า.."
    เขาพึมพำเบา ๆ ไปกับกิ่งไม้ใบหญ้า..บังเอิญหนอนตัวหนึ่งขนฟูฟ่องลำตัวมีสี
    เขียวลายทางดำ กำลังคลานกระดึ๊บอยู่ตรงยอดหญ้าข้าง ๆ ข้อศอกเขา..ท่า

    ร่างของเขาจึงต้องเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงหันหลังให้หญิงสาว ใช้ศอกขวายัน
    พื้นไว้ ฝ่ามือข้างด้วยกันนั้นรองรับศีรษะ สายตาจ้องมองหนอนตัวนั้นอย่าง
    จริงจัง มือซ้ายที่ว่างหากิ่งไม้เล็ก ๆ มาได้กิ่งหนึ่งก็เอามาเขี่ย ๆ เล่น
    "เจ้าหนอนน้อย..มาทำอะไรแถวนี้..บ้านช่องอยู่ไหน?..แน่ะ..โดนนิดโดนหน่อย
    ทำสำออย..ลุกขึ้น..ม้วนตัวอยู่ได้..น่าน..ต้องอย่างงั้น..ชีวิตต้องสู้ คนสู้
    ชีวิตตตตตตอิ๊ด ๆ ๆ ๆ ฉาหลาม..บุกกกกกก"

    เสียงนั้นไม่ค่อยนัก..แม้จะหันศีรษะมาชำเลืองมองก็ยังคงเห็นอาการร่ำไห้นั้น
    อยู่ ...แผ่นหลังที่ละมุนโค้งเว้าตามตัวราวกับหุ่นร่างงามนั้นทำให้เขารู้สึกจั๊ก
    กะจี้หัวใจ..หันมาทางเจ้าหนอนน้อยเห็นมันยังคลานต้วมเตี้ยม..ไม่รู้มีจุดมุ่ง
    หมายอยู่ที่ใด..จะใช้นิ้วคีบก็ไม่กล้าเกรงจะคันจากพิษร้าย ที่ทำได้ก็คือใช้ไม้
    ดีดกระเด็นหวือตกลงไปในน้ำ

    "อ๋าว..ร้อนก็ไม่บอก..โดดน้ำเล่นซะแระ..บ๊ายบาย..โตเร็ว ๆ น้าาาาาาาา"
    เขาผลุดลุกขึ้นนั่ง มือขวาโบกหยอย ๆ ให้เจ้าหนอนที่ลอยอยู่ผิวน้ำดิ้นกระแด่ว
    อยู่นั้น มือซ้ายที่ว่างเริ่มดึงหญ้า..แรกสุดก็ปลายใบ ต่อ ๆ มาจึงค่อยเป็นการ
    ถอนรากถอนโคนจนติดมือขึ้นมาเป็นกลุ่มใหญ่..ยกขึ้นมอง..เห็นรากของมัน
    ละเอียดยิบจนน่าสนใจ..ใช้นิ้วเขี่ย ๆ จนเกล็ดดินร่วงพรู..สลัดสองสามครั้งดิน
    ที่ติดอยู่ก็ร่วงหมดเหลือแต่รากหญ้าและต้นที่ขาดวิ่นจากน้ำมือตัวเอง จากนั้น
    ก็ลองบิดมันให้ขาดจากกัน แล้วเอามาทบกัน แล้วก็บิดให้ขาดจากกันอีก..จน
    ในที่สุดหญ้ากลุ่มนั้นก็กลายเป็นเศษเล็ก ๆ เขาโยนขึ้นไปบนฟ้า เป่าลมออก
    จากปาก เศษหญ้าร่วงพรูตกสู่ใบหน้า..

    "ฮัดดดดดดเช้ยยยยยยยยย"

    คราวนี้น้ำลายกระเด็นไปไกลกว่าที่เขาคิด..น้ำมูกยืดออกไปเกือบห้านิ้วแล้ว
    ดึงหนืดกลับมาด้วยความเหนียว..แปะติดอยู่ระหว่างริมฝีปากกับปลายคาง
    เป็นเส้นใส ๆ เขาเงยหน้าไม่ให้มันหยด จะใช้มือป้ายก็รังเกียจเกินกว่าจะทำ
    อย่างนั้นได้..ล้วงมือไปที่กระเป๋ากางเกงเพื่อหาผ้าเช็ดหน้า..คว้าขึ้นมาแล้วจับ
    มุมผ้าไว้ด้วยนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง สะบัดคลายพับออกจากกัน แล้วจีบปลายผ้านั้น
    ค่อย ๆ ม้วนเป็นเป็นกรวยกลมและแข็งพอที่จะใช้เขี่ยได้ จากนั้นก็บรรจงเขี่ย
    น้ำมูกตรงที่ใกล้กับจมูกที่สุด มันติดตามปลายผ้าขึ้นมา เขาดึงมันให้ถอยห่าง
    จากใบหน้า..ใยน้ำมูกนั้นก็เหนียวพอที่จะไม่ขาดออกจากกัน มันถูกดึงตามกัน
    ไปเป็นสาย..จนกระทั้งลอยพ้นออกมาทั้งเส้น..เขามองดูมันด้วยสายตาแสน

    ทึ่ง ทั้งฝีมือของตนเอง และความเหนียวหนืดของมัน แล้วค่อย ๆ ม้วนมันขึ้น
    ให้พันไปตามเกลียวผ้าเช็ดหน้านั้น ก่อนจะจับปลายของผ้าคลุมมันไว้ แล้ว
    ขยำใส่เข้าไปในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง

    เธอยังไม่เหลียวมามอง และยังไม่หยุดร้องไห้..

    เขาถอนหายใจ เหม่อมองดูท้องฟ้า แดดเริ่มตก ฟ้าเริ่มหมอง..นกกาบินตาม
    กันเป็นหมู่ ๆ ผ่านก้อนเมฆที่รวมกลุ่มกันเป็นหย่อม ๆ ..ทอดสายตามองไปที่
    ท้องน้ำ..ผิวใสของมันถูกระรานด้วยแรงลม ระริกเป็นริ้วสวย นาน ๆ จะมีร่อง
    รอยปลาโผล่ขึ้นฮุบอากาศ กระจายเป็นวงกว้างซ้อนกันน่ามอง ดอกบัวเพียง
    ดอกเดียวเพิ่งโผล่พ้นน้ำ..เอนโอนตามคลื่นเล็ก ๆ เหล่านั้นท่ามกลางใบบัวที่
    รายล้อมรอบ เขามองหาก้อนหินรอบตัว..ก้อนเล็ก ๆ นั้นถูกเขาขว้างลงน้ำ
    หมดแล้ว..เหลือแต่ก้อนเท่ากำปั้น..เขาหยิบมันขึ้นมา..เหลียวซ้ายและขวา..
    แล้วก็ถอดเสื้อยืดสีดำที่ตัวเองใส่อยู่ออกมา

    วางก้อนหินไว้ตรงปลายเสื้อ ห่อมันแล้วผูกทบเสียสองชั้น..เว้นเนื้อที่ไว้จับ
    ประมาณหนึ่งฟุต ลุกขึ้นยืน เหวี่ยงมันหวือ ๆ เป็นวงรอบแขน..จากนั้นก็ร้อง
    เสียงดัง ตวัดเสื้อที่ถ่วงก้อนหินนั้นเต็มแรง เงื่อนที่มัดไว้หลุดเด้วยแรงเหวี่ยง
    ก้อนหินกระเด็นหวือไปไกล โค้งขึ้นไปในอากาศราวลูกกอล์ฟที่ถูกตีโดยโปรมือ
    อาชีพ ก่อนจะตกปุ๊ลงบนดอกบัวโทนนั้นพอดิบพอดี

    เขาอ้าปากร้องแบบไม่มีเสียง กำมือซ้ายกระชากเข้าหาตัวเองอย่างแรง พร้อม
    กับคำว่า
    "เยส.!!"

    เด็กสาวมีปฏิกริยาขึ้นบ้างแล้ว..เธอคงตกใจเสียงนั้น..หรือไม่ก็หมดน้ำตาที่จะ
    ร้องให้มันไหลออกมา..ลดมือที่ปิดใบหน้านั้นลง..ตาหวานฉ่ำพราวไปด้วย
    หยาดน้ำมองมายังเขา..ด้วยสายตาที่ไร้ความหมาย..หยิบหนังสือข้างกาย..
    รวบรวมกระดาษที่ปลิวนั้นเข้าด้วยกัน..ลุกขึ้น..หันมองเขาอีกครั้ง..

    "ไอ้บ้า.."

    เธอเดินจากไป..ในขณะที่โทรศัพท์มือถือของเขาที่พกไว้ที่เอวดังขึ้น..
    เขาหน้าเสีย..กดรับ..กรอกเสียงลงไป
    "เออน่า..รู้แล้ว.."
    "ยกยอเชียวหรือ?..แพงนะที่นั่น..ก็ได้ ๆ ๆ รออยู่ที่รถก็แล้วกัน.."
    "เออน่า..รับรองไม่เบี้ยวสิน่า.."
    ท้ายเสียงเขาพูดอย่างรำคาญ..ก่อนจะค้อนประหลับประเหลือกไปที่โทรศัพท์
    นั่น

    ....

    อีกมุมหนึ่งของสระนั้น..ชายหนุ่มสองคนกำลังหัวเราะคิกกันอย่างครื้นเครง..
    "เสร็จเรา..คุณแทน..มื้อนี้ได้เมาฟรีอีกแล้วเรา.."
    ชายที่ถูกเรียกว่าแทนยังอ้าปากหัวเราะ สายตาภายใต้กรอบแว่นนั้นระยิบยับ
    ด้วยฤทธิอยากเบียร์
    "อยากจะสมน้ำหน้าคุณสัตยานัก..คุยนักคุยหนาว่าตัวเองเสน่ห์แรง..ถึงกับรับ
    คำท้าของผมกับจาน..เดี๋ยวเราจะแซวให้ขวาขวิดเลย.."
    ชายหนุ่มหน้าเข้มที่ถูกเรียกว่าอาจารย์พยักหน้าหงึก ๆ
    "อุตส่าห์ลงทุนมาถึงมหาลัย..คงคิดว่าตัวเองแน่..ฮ่า ๆ ว่าแต่แม่สาวน้อยนั่น..
    เธอเป็นอะไรถึงต้องร้องไห้?"
    "จารย์จะไปสนใจทำไม..เราไปดื่มกันให้หายอยากดีกว่า.."
    เขานิ่งไปนิด..
    "อย่างงี้ดีกว่า คุณแทนกับคุณสัตยาไปที่ยกยอนั่นก่อน..ผมทำธุระทางนี้เสร็จ
    เมื่อไรค่อยตามไป.."
    แทนมองหน้าอย่างรู้ทัน
    "นี่จารย์ถึงกับจะทิ้งเพื่อนเพื่อไปปลอบสาวเชียวหรือ?"
    "ปล่าว.." เขาลากเสียงยาว.."พอดีคิดถึงเพื่อนขึ้นมาได้..เขาเป็นอาจารย์สอน
    วิทยาศาสตร์ทางเพศอยู่ที่นี่..ว่าจะไปเยี่ยมเขาสักหน่อย..ไหน ๆ ก็มาถึงนี่
    แล้ว.."
    "ตอนทุ่มนึงเนี่ยนะ?"
    "น่า..คุณแทนนี่ก็พูดยากจริง..ตกลงเป็นอันโอเคตามนั้น.."
    "เดี๋ยว ๆ ..เอางี้ดีกว่า..ถ้าอาจารย์ทำให้เธอคุยกับจานได้แม้แต่คำเดียว..ผม
    เลี้ยงจานมื้อหนึ่ง.."
    "เฮ่ย..ผมไม่ใช่คุณสัตยานะ..อย่ามาเล่นกับผมเลย.."
    "กลัวแพ้อย่างเขาน่ะซี่.."
    อาจารย์หนุ่มทำท่าฮึดฮัด..เรื่องอย่างนี้ดูถูกกันได้ซะที่ไหน
    "ตกลง..คำเดียวแน่นะ.."
    "แน่สิครับ.."
    "มื้อหนึ่งนะ..บนเทอเรสยอดตึกใบหยก?"
    "ได้เลยครับ.."
    "งั้นไป.."
    ทั้งสองเดินตามกันไป..สังเกตเห็นสาวน้อยนางนั้นกำลังเดินขึ้นตึกบัญชี..
    ท่ามกลางบรรยากาศครึ้มมัวนั้น..
    ......

    "ไอ้ปิ๊วเอ๋ย..ตกลงฉันได้กินฟรีทั้งสองมื้อเลยว่ะ.." ชายหนุ่มพูดกับสุนัขตัวหนึ่ง
    ตัวเล็ก ๆ ตากลมโตโปนใหญ่ สวมชุดซุปเปอร์แมนน่ารัก ที่คอห้อยไว้ด้วยโบว์
    สีชมพู มันเลียปากแผลบ ๆ ทั้งปากตัวเองและปากเจ้านายของมัน

    "จานยิ่งแย่กว่าคุณสัตยาอีก..เอ็งเชื่อไหม?..ลงทุนปลอมเป็นอาจารย์ เรียกเธอ
    มาถามว่าเป็นอะไรถึงร้องไห้..เธอไม่ตอบสักคำ.." เขามีทีท่าเมาเป็นปกติ ก้ม
    ลงถอดรองเท้า..แล้วนอนแผ่หราอยู่บนพื้นห้อง..

    "เธอจะตอบได้ยังไง ก็ฉันเตี๊ยมกับเธอเอาไว้..จ้างเธอตั้งแปดร้อย.."
    "ป่านนี้สองคนจะรู้ไหมเนี่ย..ว่าเธอคนนี้คือยัยพริ้ว ลูกป้าพร้อยข้างบ้านเรานี่ไงล่ะ.."

    "ฮ่าฮ่าฮ่า.." เขาหัวเราะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหลับผลอยไป ปล่อยให้เจ้า
    หมาน้อยนั่งเอียงคอมองเจ้านาย นาน ๆ จะเห่าบ๊อกขึ้นสักที..

    แล้วมันก็ยกขาหน้าขึ้นเกาหัว...รำพึงในใจตามประสาสุนัขที่ดี..
    "เอ..วันนี้ทำไมเจ้านายไม่อ๊อกออกมาหว่า???"


    .......จบ.......

    จากคุณ : ไอยรา - [ 19 เม.ย. 47 23:48:07 A:202.57.176.203 X: ]