ความคิดเห็นที่ 2
นายไกด์บ๊องพาฉันมาที่ท่าเรือ ยันฮวา ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสวนสาธารณะ ที่นี้มีรถเข็นขายอาหารจอดเรียงรายกันเต็มไปหมด ฉันมองออกไปที่ท่าเรือ เห็นผู้คนมากมายเตรียมที่จะลงเรือกัน ตอนนี้ก็ชักมืดแล้ว แสงไฟที่สอดส่องออกมาจากตึกรามบ้านช่อง มองจากท่าเรือดูแล้วสวยจังเลย นี่ถ้าได้ล่องเรือชมแสงสีตามสองฝั่งแม่น้ำ คงจะยอดน่าดูเลย และดูเหมือนนายไกด์บ๊องจะรู้ใจฉัน เขาบอกว่ามีเรือพาล่องแม่น้ำด้วย ซื้ออาหารแล้วไปกินบนเรือก็ได้ ใช้เวลาไม่นานแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งเอง อยู่แล้วล่ะ ฉันไม่ปฏิเสธแน่นอน
เรือออกจากท่าณ.เวลา 18:00 ผู้โดยสารที่ลงเรือเที่ยวนี้มีค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่มากจนอึดอัด ที่นี้เขาจะจำหน่ายตั๋วตามที่นั่งบนเรือเท่านั้น ถ้าที่นั่งเต็ม ก็จำเป็นจะต้องรอลำต่อไป นายไกด์บ๊องพาฉันขึ้นมาบนดาดฟ้าของเรือ ซึ่งมีม้านั่งหลายตัววางเรียงรายเต็มไปหมด เขาบอกฉันว่าขึ้นมาทานอาหารบนนี้ ทำให้รับรู้ถึงรสชาดและบรรยากาศมากขึ้น ถูกใจอีกแล้ว ^_^
หลังจากเดินจนรอบดาดฟ้า ในที่สุดเราก็หาที่นั่งได้ ฉันจัดแจงเอาอาหารออกมาจากถุง เตรียมพร้อมที่จะดื่มด่ำกับรสชาดและบรรยากาศอย่างเต็มที่ แต่กลับผิดคาด บนดาดฟ้านั้นมีลมแรงมากๆเลย ฉันก็ดันเสร่อซื้อรามมยอนมาอีก ลมอันแสนโหดร้ายมันพัดพาเอาผมของฉันตกลงไปในถ้วยซุปจนเปือกชุ่มไปหมด แถมเวลาที่สูดเส้นรามมยอนเข้าปากที ลมมันก็ดันตีเส้นเข้าหน้าฉันอยู่เรื่อยเลย ซวยจริงๆ ไหงเป็นอย่างนี้ไปได้ นายไกด์บ๊องหันมายิ้มแฮะๆ แล้วทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมใส่ฉัน ฉันเดาได้เลยว่าเขาคงจะรู้ว่าบนดาดฟ้ามันเป็นยังไง แต่คงลืมบอกฉันแน่ๆ แล้วดูเขาสิ ซื้อแฮมเบอร์เกอร์มา ซื้อแต่ของแห้งๆมา กินสบายเลยน่ะ หนอยยยย ' @#*)%#@% ' แต่ด้วยความมุมานะหรือความตะกละก็ไม่ทราบ ฉันก็จัดการกับเจ้ารามมยอนเสียอย่างราบคราบจนได้ นายไกด์บ๊องหันมามองฉันด้วยสายตาอันยกย่อง ให้มันรู้ซ่ะบ้างว่าใครเป็นใคร อะไรที่เกี่ยวกับอาหาร ความพยายามของฉันเกินร้อยอยู่เสมอ ว่าแต่ตอนนี้เหม็นขี้หน้าตัวเองจริงๆ กลิ่นน้ำซุปปลาคลุ้งไปหมด ภาวนาขออย่าให้มีแมวอยู่แถวนี้เลย กลัวว่ามันจะแยกไม่ออกว่าฉันเป็นคนไม่ใช่ปลา
" โยอิโด " นายไกด์บ๊องชี้ไปที่เกาะๆหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำฮัน
ภาพที่ปรากฏบนสายตาฉันนั้นมันช่างสวยเหลือเกิน ตึกรามอาคารที่สูงเสียดฟ้าเรียงกันเป็นแถว แสงไฟที่ส่งออกมาจากแต่ละตึกดูแล้วแถบอยากกลั้นหายใจ มองแล้วเหมือนกับแมนฮัตตันในนิวยอร์คเลย
" โยอิโด is-su-lund , center of politic and na-ton-nel asemby bin-ding stay here. Also fi-nun-ci-al center here, ฮันกึค stuck x-chan-gu and very many company here. It same to Munhatton in New York . "
อ้อ ที่นี้นี่เองที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเมืองของเกาหลี ถ้าเป็นเมืองไทยน่าจะเป็นแถวๆสีลม ถนนวิทยุ หรือว่าสาธร มั้ง
" Wan day i go work in wan bin-ding very sure. "
นายไกด์บ๊องมองไปที่ตึกระฟ้านั้นอย่างมุ่งมั่น หน้าตาของเขาตอนนี้ดูเฮี้ยมเกรียมมากๆ
" One day when i get a job , i want to be in a very nice firm too. "
พอได้ยินว่าฉันไม่มีงานทำ เขาถึงกับหันมามองฉันอย่างสมเพชเชียว ถามหน่อยเถอะ ตกงานมันผิดตรงไหนละเพ่ เดี๋ยวสวยๆ
" You do what in home?!? "
ฉันพยายามทบทวนสิ่งที่ทำในแต่ละวันออกมาให้หมด " I sit , sleep , eat , sleep , sit ....... "
เอ๊ะ ทำไมมันย้อนไปย้อนมาฟ่ะ วันๆเราทำแค่นี้เองหรือนี่ ถึงว่าสิพ่อกับแม่ถึงด่าเช้าด่าเย็น
" Onli dat?!?! In home ,I do stady book-ses , clean my wear cloth-ses , clean my home , give water to tree-ses , ............... "
โห ทำเยอะจริงๆ ฉันนั่งฟังเขาร่ายกิจกรรมประจำวันของเขา ฟังแล้วอึ้งค่ะ ละอายใจจริงๆ
ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่อง เพราะถ้าไม่เปลี่ยนเรื่อง ท่านคงยังไม่หยุดสาธยายสรรพคุณเป็นแน่แท้ " So how long have you work as a guide ?"
" gai-du ? Oh.... no no no , i not work gai-du. "
" You are not a guide?? Then what are you! " อ้าว เขาไม่ได้ทำงานเป็นไกด์หรอกหรือ แล้วที่ทำอยู่ทุกวันนี้ พาฉันไปเที่ยวนู้นเที่ยวนี้เขาคิดว่าเขากำลังทำอาชืพอะไรอยู่ล่ะ สจ๊วด หรือว่าคนขับรถไฟ
" I no gai-du, my bo-t . . . " (' X ')
อุ้ย เกือบพลั้งปากไปแล้วไหมล่ะ ฮุน วุ๊คกำลังเหงื่อตก เขาเกือบจะบอกหล่อนไปแล้วว่าที่จริงเจ้าน้องชายตัวแสบของเขาตังหากที่เป็นไกด์ของหล่อนไม่ใช่เขา นี่ถ้าเขาเผลอพูดไป หล่อนอาจจะโกธรก็ได้ แถมอาจจะพลอยทำให้เจ้าน้องชายของเขาซวยไปด้วยแน่ๆ
"Ohhhh....I gai-du , yes i gai-du...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า "
หล่อนคงคิดว่าเขาจะต้องบ้าแน่ๆเลย ดูสิมีการกระเถิบหนีด้วย (v v) ไม่เอาแล้ว ไม่พูดมากแล้ว
เขาหันกลับไปมองดูวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนต่อ เฮ้อออ สวยจริงๆ นี่ถ้าได้มาออกเดทกับสาวอันเป็นที่รักคงจะมีความสุขแน่แท้ พูดแล้วก็เศร้าใจ ตั้งแต่โตมาจนอะไรๆที่มันเคยสั้นเท่าหมา ตอนนี้มันยาวกว่าหมา เขาก็ไม่เค้ยไม่เคยมีหญิงคนไหนมารักเขาแบบหัวปักหัวปรำเลย มีแต่เขาที่ไปหัวปักหัวปรำทิ่มหล่อน ที่จริงใครๆก็ทักว่าเขาหน้าตาหล่อเหลาประมาณพระเอกหนังเชียวนา แต่ไหงมันยังโสดอยู่ละเนี้ย โอ....นึกแล้วหดหู่จริงๆ วันนี้เป็นวันศุกร์เสียด้วย เพื่อนๆของเขาคงกำลังนั่งจู๋จี๋ๆกับแฟนอยู่แน่ๆ แล้วดูเขาสิ ต้องมานั่งเดียวดายอยู่ข้างๆยัยลูกทัวร์สาวสติแตก แถมผมของหล่อนมีกลิ่นซุปปลาแห้งด้วย ลมพัดมาที ผมเหม็นตุของหล่อนก็ตีใส่หน้าเขาที แหวะ อนาถใจตัวเอง
แล้วดูหล่อนสิ คงกำลังซาบซึ้งกับบรรยากาศจัด นั่งหลับตาเคลิ้มเชียว ว่าแต่ว่า พอหล่อนหลับตาลงแบบนี้แล้ว ดูแล้วไม่เป็นพิษเป็นภัยเหมือนตอนลืมตาเลย แถมยังดูเด็กลงด้วย เอ..หล่อนอายุเท่าไหร่นา ไม่น่าจะเกิน 25 อาจจะเป็นรุ่นน้องของเขาก็ได้ แล้วหล่อนมีแฟนหรือยังน่ะ แต่ทั้งดุทั้งบ้าอย่างนี้ คงไม่มีใครเอาหรอก แต่ว่าไปแล้วหน้าตาของหล่อนออกใช้ได้อยู่เหมือนกันน่ะ อืมมม ..........
" What are you looking at ?!?!?!?!! "
อุ้ย เอาเข้าแล้วไหมเรา ดันไปนั่งจ้องยัยบ๊องเข้า หล่อนเลยรู้เลย
" I look you ?!?!? No no no !! ."
หล่อนมองเขาด้วยหางตา ท่าทางเหมือนกำลังหยั่งเชิงเขาอยู่ แค่จ้องแค่นี้ต้องทำเป็นมองด้วย เมื่อวานเขาจำได้น่ะว่าหล่อนแอบมองเขาอยู่เหมือนกันนินา
" I know , you look me last time too! arhh arhhh "
หล่อนหันมามองเขาอย่างแปลกใจ
" You know ? Yes , i look at you. I just think that you look good ,but just that's all , nothing deeper!!! "
จริงสิ!!! นี่หล่อนก็เห็นว่าเขาหล่อเหมือนกันหรือนี่ เย้ ภูมิใจจริงๆ ฮุฮุฮุ @^_^@ แบบนี้ต้องชมกลับ มิตรใดที่มีน้ำใจชมมา เราก็สมควรที่จะชมกลับ มิตรนั้นจะได้ชมกลับมาอีกเยอะๆ
" You look good too! You hav many man sure.You hav luvur now ? "
" I'm a hopeless pathetic looser , you know. I don't have a boyfriend or even a lover. "
หล่อนตอบเขาด้วยใบหน้ากวนประสาทเอามากๆ เขาก็แค่ถามว่าหล่อนมีแฟนหรือยัง เห็นว่าหน้าตาดี ทำไมต้องตอบกลับกวนด้วยล่ะ ปากแบบนี้ไงถึงไม่มีแฟน
" Why no luvur ? You not like luv ? "
ขอแหยมอีกครั้งเถอะ แบบว่าอยากกวนประสาทคนกลับเหมือนกัน
" I don't have a lover because i'm just afraid that my life will end up with a geek like you. Why you keep asking me ?Wanna be my lover ?!? "
เอาเข้าแล้วไหมเรา ไม่น่าแหยมเลย ว่าแต่ geek ที่หล่อนพูดถึงเมื่อกี้ มันคืออะไร แถมบอกว่า geek เหมือนกับเขาด้วย แต่ถ้าให้เดา คิดว่ามันจะต้องเป็นคำด่าแน่ๆเลย เพราะรู้สึกคันๆไงไม่รู้ เอ้า!! ไหนๆก็แหยมมาแล้ว ลุยต่อเลยแล้วกัน
" I say yes , you be my ?? "
ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นไงล่ะ หล่อนชะงักไปเลย ถ้าเขายอมรับหล่อนเป็นแฟน แล้วหล่อนจะว่าไงล่ะ คิดไม่ถึงละสิว่าเขาจะเล่นงานกลับ คงหน้าแดง ก้นแดงไปเลยสิ
หล่อนหันกลับมามองเขาเหมือนเดิม แต่คราวนี้นัยตาของหล่อนมันดูเหมือนจะอยากลองดี
" Well , perhap i might say yes too. "
ชะอู้ยยย ยัยคนนี้กัดไม่ปล่อยอีกแน่ะ แล้วดูหน้าหล่อนตอนนี้สิ ทำหน้าทำตาท้าทาย อยากจับเขกกระโหลกให้เข็ดเลย แล้วดูหล่อนสิ สงสัยคงจะมีความสุขมาก นั่งผิวปากใหญ่ ฮึ่ยยยยย!!!!
งั้นก็ได้ๆ ในเมื่อหล่อนบอกว่าอาจจะยอมรับถ้าเขาอยากจะเป็นแฟนหล่อน ถ้างั้นเราจะได้เห็นดีกัน ฮ่าฮ่าาฮ่าฮ่าฮ่า (A_A)
------------------------------------------------------------
จากคุณ :
uluvme
- [
20 เม.ย. 47 17:15:30
]
|
|
|