หลังจากอยู่เบอร์มิงแฮมได้นานสองนาน หลงทางก็เป็นแล้ว ไปจ่ายตลาดคนเดียวก็ทำแล้ว เดินห้างฯ คนเดียวก็เคยแล้ว ฆ่าหมีด้วยมือเปล่าก็ทำแล้ว (oppss อันหลังนี้ไม่มีครับ) ก็เริ่มตีปีก ทำเป็นปีกกล้าขาแข็ง อยากจะไปลอนดอน และแล้วโอกาสก็มาถึงเมื่อพี่สาวผมจะไปลอนดอนพอดี โอกาสดีแบบนี้ต้องรีบทำตัวเป็นกาฝาก (กาฝากตัวนี้รู้สึกจะตัวอวบ ๆ นะ)
การเดินทางจากเบอร์มิงแฮมไปลอนดอนทำได้หลายทางครับ แต่ที่ยอดนิยม ก็เห็นจะเป็นรถไฟ และรถ coach (ก็หน้าตาเหมือนรถทัวร์บ้านเรานั่นแหละแต่สองชั้น) ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้พี่ผมเลือกรถ coach ครับ เพราะว่าเพิ่งมีบริษัทขนส่ง ใหม่จัดตั้งขึ้นมาจึงเอาใจลูกค้าด้วยราคาแสนถูก คือ เบอร์มิงแฮม - ลอนดอน หนึ่งปอนด์ เท่านั้น เป็นเงินไทยก็เจ็ดสิบบาทเท่านั้น ฟังดูอาจจะยังไม่ถูกมาก แต่ให้เทียบว่านั่งรถประจำทางที่เบอร์มิงแฮมเนี้ย ก็ปอนด์เข้าไปแล้ว จะรู้สึกถูกเหมือนได้เปล่าเลยครับ แต่บริษัทนี้เค้าไอเดียดีนะครับ คือจะต้องซื้อตั๋วผ่านเน็ตเท่านั้น คงกะจะประหยัด ไม่ต้องทำ office ขายตั๋วล่ะมั่ง
รอสักพักรถ coach ที่ใช้เดินทางก็แล่นมาจอดด้วยสีสันที่บาดตา ประดุจผ่านการใช้งานในจาเมก้ามาแล้วและ logo ลุงแก้มแดง ที่มีความน่ารักสูสี ลุงหนวด KFC หลังจากเราขึ้นรถก็ได้รับรู้ว่า มันไม่มีห้องน้ำ และสภาพเหมือนรถประจำทางดัดแปลง ดูท่าบริษัทนี้คงประหยัดสุดชีวิต
หลังจากนั่งรถมาได้ สามชั่วโมง โดยประมาณ ผมและพี่สาวก็ได้หอบสังขารเข้าเมืองหลวงแห่งเกาะอังกฤษได้ ประมาณบ้านนอกเข้าเมืองเลยครับ (เฉพาะผมนะครับพี่มาบ่อยแล้ว) การเดินทางที่นี้ สายหลักก็ได้แก่ รถไฟใต้ดิน นั่นเอง หรือทีเรียกกันว่า tube ซึ่งไม่รู้ว่าจะหน้าตาเหมือนเมืองไทยไหม แต่ขอบอกว่าที่อังกฤษนี้ รถเก่ามากครับ เหมือนเคยแล่นผ่านดงกับระเบิดมาก่อน
ส่วนเรื่องราคาตั๋วรถก็เป็นราคาแบบ บังคับซื้อ เหมือนเดิม style อังกฤษเลยครับ เช่น ตั๋วหนังใบล่ะสามปอนด์ ถ้าจ่ายเก้าปอนด์ดูได้ทั้งเดือนไม่จำกัด (เป็นใครก็จ่าย 9 ปอนด์) โดนัทชิ้นล่ะ ปอนด์ สิบสองชิ้น หกปอนด์ (ใครก็ซื้อเป็นโหล) ไก่นักเก็ต kfc 4 ชิ้น สามปอนด์ ยี่สิบชิ้นแปดปอนด์ (ใครก็ซื้อยี่สิบ) ไอ้ที่ชัด ๆ เนี้ยก็ตั๋วรถไฟใต้ดินเลย เที่ยวเดียว สองปอนด์ แต่ถ้าจ่ายหกปอนด์ ใช้ได้ไม่จำกัดต่อวัน
ถ้าคุณเคยขึ้นรถไฟฟ้าที่เมืองไทย ที่เปลี่ยนสายแค่ที่สยาม แล้วถ้ายังหลง ขอย้ำว่าอย่ามาลอนดอนเลยครับ รถไฟใต้ดินที่นี้มี ราว ๆ 85 สถานีครับท่าน สถานีที่เปลี่ยนเส้นทางมีประมาณ 20 ถ้าอีตาโจจังมาคนเดียวคงไปไม่กลับแน่ครับ แต่พี่สาวยังอุตสาห์บอกอีกนะว่า ที่ญี่ปุ่นยากกว่านี้อีก โอ้แม่เจ้า
ที่ลอนดอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่ดีมาก นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์ ครับ แค่ในตัวเมืองลอนดอนก็มากกว่าสี่แห่งแล้ว ซึ่งผมไปสัมผัสมาสามครับ ที่แรกคือพิพิธพัณฑ์สัตว์ครับ ที่น่าตื่นตาคือเค้าหากระดูกไดโนเสาร์มาได้เยอะจริงๆ ครับถ้าชอบพวกไดโนฯ ไดโดมอนฯ ที่นี้ไม่ผิดหวัง ที่ที่สองคือพิพิธพัณฑ์ วิคตอเรีย แอนด์ อัลเบริต์ ไม่รู้เหมือนกันว่าใคร แต่ไม่ใช่แฟนเบ็คแฮมแน่ ทีนี้ก็รวบรวมงานศิลป์ไว้เยอะทีเดียว และที่ที่สามก็ได้แก่พิพิธภัณฑ์ อังกฤษ ซึ่งใหญ่ขนาดที่ว่าไม่น่าจะมีใครดูครบได้ภายในวันเดียว ที่แห่งนี้มี concept ที่เข้าใจง่าย ๆ คือ พิพิธภัณฑ์ของมีค่าที่อังกฤษยึดมาได้ โอ้แม่เจ้า มัมมี่ เป็นสิบตัวไม่รู้เอามาได้ไงเทวะวิหารกรีกที่แทบยกมาทั้งอันประติมากรรมเสาหินสูงเท่าบ้านสองชั้น จากอิตาลี่ พระหินยักษ์จากจีนโชคดีเหลือเกินที่ของประเทศไทยนั่นมีไม่มาก
หลังจากทัวร์จนหิว ก็ได้ฤทษ์กินข้าวเย็นและแน่นอน อาหารจีน และขอยืนยันถ้า ถ้าคุณเอาหัวดำ ๆ เข้าร้าน พนักงานจะรี่ มาพูดจีนใส่ทันที ถ้าคุณไปร้านอาหารญี่ปุ่นเค้าก็พูดญี่ปุ่นใส่ คนที่นี้ชอบคิดว่าคนไทย เป็นคนจีน ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่นอยู่เสมอ และถ้าคุณถูกเหยียดผิว ก็อย่าไปโกรธ เพราะเค้าจะบอกว่าคุณเป็น chiness เพื่อนคนไทยคนหนึ่งพูดไว้ดีมาก "ถ้าผมไปลาวเค้านึกว่าเป็นไทย ถ้าผมอยู่ไทยเค้านึกว่าเป็นลาว ถ้าผมมาอังกฤษ......กะเหรี่ยง" เข้าใจคิดจริงๆ
จากคุณ :
Bluejade
- [
22 เม.ย. 47 04:08:47
]