ข้า/ค่า/ฆ่า โทรศัพท์

    รถประจำทางชะลอจอดตรงป้ายรถเมล์ ล้อสีดำขุ่นค่อย ๆ หยุดแรงหมุน มันนิ่งสนิทเมื่อเทียบท่าเลยป้ายรถไปนิดหน่อย ประตูอัตโนมัติค่อย ๆ เคลื่อนตัวเปิด เสียงเอียดอาดถูกส่งออกมาตามแรงเสียดประตู


    น้องนุ๊กหอบถุงพะรุงพะรังไว้สองมือ ค่อย ๆ ขย่อนตัวเองลงจากรถเมล์ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อคนตรงประตูไม่หลีกทางให้ลงได้อย่างสะดวกสบาย สักภาระทั้งหมดถูกวางไว้กับที่นั่งตรงป้ายรถ ดูนาฬิกาข้อมือ ตัวเลขดิจิตอลสีชมพูแสดงเวลา 17.00 น. เธออมยิ้มเล็กน้อย


    ขณะนี้เป็นเวลา 17.00 น. ของวันเสาร์ เป็นเวลาที่น้องนุ๊กต้องกลับบ้าน เพราะโรงเรียนกวดวิชาปล่อยนักเรียนกลับบ้านหมดแล้ว วันนี้น้องนุ๊กมีตารางเรียนพิเศษวิชา คณิตศาสตร์ช่วงเช้า ตั้งแต่ 10.00-12.00 น. พักเที่ยงหนึ่งชั่วโมง ตอนบ่าย เรียนวิชา เคมี ตั้งแต่ 13.00-15.00 น. เรียนวิชา ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เวลา 15.00-17.00 น. ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมที่น้องนุ๊กต้องทำในวันนี้ แต่มันไม่เกิดขึ้น เพราะว่าน้องนุ๊กไม่ได้ไปเรียน เพราะทั้งวันใช้เวลาทั้งหมดไปกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่สยาม


    น้องนุ๊กยัดเสื้อผ้าที่ซื้อมาหมาด ๆ รวมกันเป็นถุงเดียวกัน ว่าจะเดินเรื่อยเปื่อยช้า ๆ ก่อนเข้าบ้าน เพราะวันนี้คงถึงบ้านเร็วกว่าปกตินิดหน่อย


    หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า ออกมากดเบอร์เพื่อนสนิท ดังไม่ถึงสามทีก็มีคนรับสาย


    “ว่าไงจ๊ะยายแนน กลับบ้านหรือยัง” น้องนุ๊กถามทันทีที่แนนรับสาย

    “นุ๊กเหรอ แนนกำลังจะกลับแล้วแหละ วันนี้เรียนพิเศษปวดหัวมากเลย แล้วแกอยู่ไหนแล้วล่ะตอนนี้”

    “ก็อยู่ป้านรถเมล์แถวบ้าน จะถึงแล้วแหละ แล้ววันนี้อาจารย์สอนอะไรบ้างละ จดไว้หรือเปล่า”

    “เยอะแยะ จดจนมือหงิก ไปเรียนนะจ๊ะไม่ได้โดดเรียนไปเที่ยวอย่างแก”

    น้องนุ๊กกลั้วหัวเราะในลำคอ “ก็แค่นิดหน่อย มันก็ต้องมีผ่อนคลายกันบ้าง เรียนพิเศษน่าเบื่อจะตาย”

    “น่าเบื่อก็ต้องโดดเรียนไปซื้อเสื้อผ้าใช่มะ” น้องแนนดันเสียงกลับ

    “แกก็ทำเป็นพูดไปแนน ฉันก็แค่ไปซื้อเสื้อผ้าไม่กี่ตัว เออ ๆ แนนฉันได้เสื้อมาใหม่ตัวนึงล่ะ สวยมากเลย แบบนี้พึ่งมาใหม่เลยด้วยนะ กำลังนิยมในอิตาลีเลย เดี๋ยวฉันจะใส่ไปอวดที่โรงเรียนกวดวิชา”

    “เอาเหอะ ๆ อยากจะอวดอะไรก็อวดไปเถอะ ฉันไปเรียนพิเศษไม่ได้ไปเดินแบบ”

    “แหม แนนก็ มันก็ต้องอินเทรนกันหน่อยสิ จะมามัวนั่งนุ่งผ้าถุงอยู่หลังเขาไม่ได้แล้ว ยิ่งตอนนี้กรุงเทพฯเขายิ่งรณรงค์เป็นเมืองแห่งแฟชั่นด้วย”

    “แฟช่ง แฟชั่น อะไรฉันไม่สนหรอก”

    “แกก็เป็นอย่างนี้แหละน้ายัยแนน เอาแต่เรียน ๆ ๆ ถึงว่าไม่มีหนุ่มที่ไหนมาจีบเลย”

    “นั้นมันก็เรื่องของฉัน ใครจะเหมือนอย่างเธอล่ะจ๊ะ มีกิ๊กเต็มไปหมด”

    “แหม ก็แค่บริหารเสน่ห์นิดหน่อย ฉันเปล่านะเค้ามาเอง เออ ๆ เข้าเรื่องสักที วันนี้เรียนอะไรมั่ง เป็นยังไง มีการบ้านหรือเปล่า จะได้เอาไปบอกคุณแม่ถูก”

    “เฮ้อ แกก็เป็นซะอย่างนี้แหละน้ายัยนุ๊ก ก็เรียนเหมือนเดิมแหละขี้เกียจอธิบาย และอีกอย่างนะ ฉันว่าแม่แกคงไม่สนใจหรอกว่าวันนนี้แกไปเรียนอะไรมาบ้าง ได้เสื้อมากี่ตัว”

    “อ้าว ยังไงฉันก็ต้องรู้ไว้เผื่อเขาถามจะได้ตอบถูก”

    “เหรอจ๊ะ เดี๋ยวฉันหยิบหนังสือดูก่อนแล้วกันว่าวันนี้เรียนอะไรบ้าง เรียนถึงไหน รอแป๊บนึงนะ”

    “เดี๋ยวก่อน ๆ แนนอย่างพึ่ง” นุ๊กทำเสียงต่ำคล้ายกระซิบ

    “อะไรของแกอีกล่ะยายนุ๊ก”

    “ฉันรู้สึกว่ามีคนกำลังเดินตามมา”

    “จริงเหรอ ใคร?”

    “ไม่รู้ ฉันไม่กล้าหันไปมองเต็ม ๆ”

    “เหรอ แล้วน่ากลัวไหม ตอนนี้มีคนอยู่แถวนั้นมะ”

    “ไม่มีเลย แกก็รู้ว่าซอยบ้านฉันเปลี่ยวจะตาย”

    “งั้นแกรีบเดินเลยนะ จะถึงบ้านหรือยัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ร้องเสียงดัง ๆ เลย”

    “ฉันกำลังรีบเดินอยู่นี่ อีกตั้งหลายเสาไฟฟ้ากว่าจะถึงบ้าน”

    “ถ้ามีอะไรร้องเสียงดัง ๆ ให้คนช่วยเลยนะ”

    “แนน ฉันรู้สึกว่ามันเดินมากระชิดหลังแล้ว ทำไงดี ฉะ............”



    ตุ๊ด ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ




    สัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไปแนนใจหายวูบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ นุ๊กจะเป็นอะไรหรือเปล่า จะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นไหม แล้วจะหาทางวิธีไหนช่วยนุ๊กดี แนนคิดอะไรไม่ออกด้วยสัญชาติญาณเธอกดโทรศัพท์ไปยังเบอร์นุ๊กทันที


    ช่วงเวลาที่ขาดการติดต่อไปประมาณหนึ่งนาทีแนนพยายามโทรศัพท์หานุ๊กหลายรอบ แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากโทรศัพท์นุ๊ก แนนกระวนกระวายใจเพิ่มขึ้นทุกที ๆ เพราะความเป็นห่วงเพื่อน แนนคิดว่าถ้าการกดครั้งสุดท้ายนี้ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเครื่องปลายทางเธอจะโทรไปแจ้งความ


    แนนกดโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย กลืนน้ำลายเหนียวลงคอ มันได้ผล มีสัญญาณตอบรับจากเครื่องนุ๊ก สัญญาณดังสามครั้งก็มีเสียงตอบรับจากปลายสาย



    “ว่าไงจ๊ะยัยแนน” นุ๊กส่งเสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับ

    “นุ๊กเป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงแนนยังตกใจไม่หาย

    “เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรหรอก พอดีโทรศัพท์ตังค์หมด ลืมเติมเงิน” นุ๊กพูดคล้ายกำลังหัวเราะ

    “โธ่ ทำเอาฉันตกอกตกใจหมด แล้วเมื่อกี้ละเกิดอะไรขึ้น ใครเดินตามแกมา แล้วตอนนี้แกปลอดภัยหรือเปล่า”

    “อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก คือว่า.... มีคนมาขอเบอร์น่ะ”

    “มีหนุ่มมาขอเบอร์ แล้วแกทำน้ำเสียงซะ”

    “ก็ ก็...ฉันนึกว่าพวกโรคจิตนี่”

    “แล้วแกทำยังไง เขาไปหรือยัง”

    “ไปแล้ว”

    “ให้เบอร์เขาไปหรือเปล่า”

    “ก็ แหม เขาหล่อดีเหมือนกันนะ เออ ๆ แนนแค่นี้ก่อนนะถึงบ้านแล้ว แบตหมดพอดี เดี๋ยวคืนนี้โทรหาแล้วกัน”




    ตุ๊ด ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ




    สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดขาดลงอีกครั้งหนึ่ง

    จากคุณ : เรือ่ยเปื่อยไปวันๆ - [ 22 เม.ย. 47 11:53:16 A:203.147.26.13 X:203.147.26.123 ]