เจ้าบ่าวแห่งความเหงากับเจ้าสาวแห่งความโดดเดี่ยว

    "เจ้าบ่าวแห่งความเหงากับเจ้าสาวแห่งความโดดเดี่ยว"
    ว่าด้วยเรื่องรักๆใคร่ๆในพุทธศตวรรษที่ ๒๗ (ธามาดา)
    เรื่องออกอนาคตๆหน่อยนะครับ  วันนี้อารมณ์แปรปรวน

    ===============================

    “เยี่ยมไปเลย!  เตาหมูกระทะสายฟ้า  เพียงวางเนื้อดิบลงไปก็สามารถสุกได้ในห้าวินาที
    และยังเลือกกลิ่นของเนื้อสุกได้ถึงหกแบบ ใหม่!ขอแนะนำกลิ่นล่าสุด มี๊ทอโรมา! กลิ่นเนื้อสุกที่จะทำให้คุณผ่อนคลาย  
    ให้งานครัวที่แสนยุ่งยากยาวนานของคุณเป็นเวลาแห่งความสะดวกทันใจ
    เพราะเวลาของคุณมีค่า  เจะจงเตาหมูกระทะตราสายฟ้าเท่านั้น”

    ภุมรินทร์ยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าจอโปร่งแสงสีฟ้ากลางห้องรับแขกของตัวเอง   เพียงแค่เขาเอ่ยปากเบาๆว่าไม่รับ   ภาพโฆษณาสินค้าและเพลงประกอบก็หายไปทันที   ชายหนุ่มผูกเนคไทแล้วส่ายหัวพูดกับตัวเอง

    “ไร้สาระ”


    “มีเมล์ขาเข้าเหลือค้างอีกสามฉบับนะคะ”  แม่พลอยเตือนภุมรินทร์

    “อืม   แม่พลอยเปิดอ่านให้ทีสิ”

    แม่พลอยยิ้ม   ดวงตาสุกใสเหมือนกับดาวฤกษ์บนฟ้ากับรอยยิ้มหวานแบบไทยนั้นสะกดใจชายหนุ่มให้ต้องถอนหายใจเสียดายทุกครั้งที่ได้อยู่เคียงข้าง

    แม่พลอยเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด   ฉลาดที่สุด   นิสัยดีที่สุด  และบริการได้รวดเร็วที่สุด   บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ทุ่มเทพัฒนาโปรแกรมนี้มานานหลายสิบปี   เปลี่ยนเวอร์ชั่นไปนับสิบเวอร์ชั่นเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ใช้บริการแม่พลอยที่เก่งขึ้น   ทำงานได้หลากหลายขึ้น   มีอารมณ์ต่างๆเหมือนมนุษย์มากขึ้น   และที่สำคัญคือสวยมากขึ้นด้วย   แม่พลอยเวอร์ชั่นที่สิบสี่ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดนี้สามารถเป็นเลขานุการส่วนตัวของผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ   จะรับส่งอีเมลล์อัตโนมัติ   สร้างรายการนัดหมายแบบสามมิติ   เตรียมอาหาร   เตรียมน้ำอุ่นให้อาบ   เฝ้าบ้านหรือคอยทักทายแขกที่มาเยี่ยมยามที่เขาไม่อยู่   ร้องเพลงเบาๆกล่อมเขาเข้านอนหรือยิ้มทักทายเมื่อเขาลุกตื่น   เป็นได้แม้กระทั่งเพื่อนคุยที่แสนดียามที่เขาเหงาเหว่ว้า   คุณสมบัติข้อสุดท้ายนี้เองที่ถูกเรียกใช้บริการบ่อยที่สุดในประเทศที่เหลือประชากรเพียงสามสิบห้าล้านคนนี้

    ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวในม่านแสงสีฟ้าอ่านจดหมายฉบับที่เหลือให้ฟัง   ฉบับหนึ่งเป็นจดหมายแจ้งยอดชำระค่าไฟฟ้า   อีกฉบับแจ้งยอดชำระค่าเครดิตใช้จ่ายซึ่งเขาให้แม่พลอยเป็นผู้ดูแลจัดการ  หรือพูดง่ายๆคือคอยประมวลผลตัดสินใจในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆในบ้านแทนเขามาตลอด   ส่วนฉบับสุดท้ายมาจากกระทรวงวางแผนประชากร

    “กระทรวงวางแผนประชากร ? ”  ภุมรินทร์ขมวดคิ้ว  “เขาว่าไงเหรอแม่พลอย”  

    แม่พลอยยิ้ม   ใบหน้าของเธอถูกย่อเล็กลงเพื่อให้ภาพจดหมายฉบับนั้นดูเด่นขึ้นมาแทน   ชายหนุ่มมองตัวอักษรไม่กี่บรรทัดนั้นอย่างตื่นเต้น

    “ขอเชิญคุณภุมรินทร์   ผู้ลงทะเบียนหมายเลข นง.๑๒๙๘๒  เข้าร่วมโครงการขยายกำลังประชากรที่มีความสามารถ ในระหว่างวันที่ ๒๒ – ๒๗ ธันวาคม ๒๖oo ณ เกาะสมุย  จังหวัดสุราษฎร์ธานี   โปรดศึกษารายละเอียดการเข้าร่วมโครงการที่แนบมาและยืนยันกลับในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๖oo   ขอแสดงความนับถือ   ปลัดกระทรวงวางแผนประชากร”

    โครงการขยายกำลังประชากรที่มีความสามารถเป็นโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล   วัตถุประสงค์ของโครงการคือการคำนวณปัจจัยด้านต่างๆของประชากรชายหญิงที่เป็นโสดเพื่อหาบุคคลที่น่าจะมีองค์ประกอบต่างๆในชีวิตคล้ายคลึงกันมาแนะนำให้รู้จักและส่งเสริมให้สร้างชีวิตคู่ด้วยกัน  

    ทุกเดือนทางกระทรวงฯจะคัดเลือกชายหญิงหลายร้อยคู่ไปใช้ชีวิตล่องเรือสำราญด้วยกัน   หากทั้งสองลองคบหากันถูกใจและตกลงใจกันแล้วก็สามารถจดทะเบียนแต่งงานกันบนเรือได้เลย   โดยกระทรวงฯจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้    

    แม้จะเป็นโครงการที่ถูกค่อนแคะจากองค์กรพัฒนาเอกชนว่าเป็นนโยบายที่มองมนุษย์เหมือนสิ่งของสำเร็จรูปที่ไม่มีความเป็นธรรมชาติ   แต่รัฐบาลก็ยืนยันว่านี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มจำนวนประชากรหลังจากที่จำนวนพลเมืองลดลงไปมาก   และที่เหลืออยู่ก็ถูกสภาพสังคมบีบบังคับให้สนใจแต่งาน   ความแปลกแยกและวิถีชีวิตที่รีบเร่งของยุคสมัยปัจจุบันเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะการแต่งงานช้าและอัตราส่วนคนโสดต่อประชากรทั้งหมดสูงอย่างน่าตกใจ  

    ภุมรินทร์เห็นด้วยกับโครงการนี้   เขาเชื่อว่าด้วยสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่ คงไม่มีวัน “หาภรรยา” และรักแท้อย่างเป็นธรรมชาติแบบเดียวกับที่บรรพบุรุษทำกันมาได้เลย

    “คนที่กระทรวงแนะนำให้คุณชื่อนางสาวสลิลพร  อายุสามสิบเจ็ดปี   จบการศึกษาด้านศิลปสนเทศ   ปัจจุบันทำงานตำแหน่งศิลปินคอมพิวเตอร์ของบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่ง   รสนิยม ชอบท่องเที่ยวทะเลและดูหนัง   มีไฟล์รูปถ่ายของคุณสลิลพรในอิริยาบถต่างๆ ๑๒ ภาพมาเพื่อพิจารณาด้วยค่ะ   นับถอยหลังการดาวน์โหลดสองวินาที”

    รูปถ่ายของฝ่ายหญิงชุดหนึ่งปรากฎบนจอภาพสีฟ้า   เธอจัดว่าเป็นผู้หญิงที่หน้าตาใช้ได้คนหนึ่ง   แม้จะเริ่มมีเค้าของวัยที่สูงขึ้นให้เห็นพอสมควร   แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดสำหรับชายหญิงในยุคนี้ที่ยังเป็นโสดเสียส่วนใหญ่ในวัยสามสิบถึงสี่สิบปี    เขาเองในวัยสามสิบเก้าก็ไม่ควรจะเรื่องมากเช่นกัน   โดยเฉพาะสำหรับชีวิตแห้งแล้งที่เคยแต่ก้มหน้าก้มตาในห้องแล็ปและหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำแต่งาน  งาน  งาน  และงานสิบสองชั่วโมงต่อวันโดยเฉลี่ยมาตลอดเช่นเดียวกับประชากรส่วนใหญ่ของประเทศในเวลานี้   บางที.....เขาควรเริ่มหยุดและคิดเกี่ยวกับการสร้างครอบครัวบ้างได้แล้ว

    ชายหนุ่มตื่นเต้นเล็กน้อยขณะสั่งให้แม่พลอยตอบรับจดหมายเชิญนั้นกลับไปที่ฐานข้อมูลของกระทรวงวางแผนประชากร   ภาพของแม่พลอยขยายขึ้นมาใหญ่เกือบเต็มจอเท่าเดิม  

    “ไม่มีจดหมายคงเหลือแล้วค่ะ”

     “ขอบใจ   ฉันคงต้องเตรียมเก็บเสื้อผ้ากับลางานแล้วล่ะ   เออ.....แม่พลอยช่วยหาข้อมูลพยากรณ์อากาศให้ทีนะ”

    “ยินดีค่ะ”  แม่พลอยรับคำ   เงียบไปครู่หนึ่ง   ไม่มีรายงานพยากรณ์อากาศ   ภุมรินทร์เริ่มแปลกใจ   แต่ก่อนที่เขาจะทันถาม หญิงสาวที่ไร้ตัวตนก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

    “คุณภุมรินทร์คะ.....”

     “หือม์ ?”

    “คุณสลิลพร.....สวยไหมคะ ? ”

     “ถึงเวลานี้ฉันคงไม่ได้สนใจผู้หญิงสวยไม่สวยแล้วล่ะ”   ชายหนุ่มตอบช้าๆ “ขอแค่มาใช้ชีวิตคู่กับฉัน   พูดจากันรู้เรื่อง   เจ็บไข้ได้ป่วยก็ดูแลกันได้ก็พอแล้ว   ขอแค่นี้แหละ”   ภุมรินทร์ตอบแล้วก็นิ่งเงียบไปนิดหนึ่งเหมือนนึกอะไรบางอย่างอยู่    ไม่นานนักเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองจอภาพสีฟ้านั้นอีก “เธอถามทำไม ?”

    “เปล่าค่ะ   ขอโทษนะคะ........รายงานสภาพอากาศล่วงหน้า ๑oo ชั่วโมง   บริเวณอ่าวไทยตามเส้นทางเดินเรือมีเมฆมาก.......”

    ชายหนุ่มขมวดคิ้วมองหญิงสาวที่ดูอาการแปลกไป   ปกติแม่พลอยทุกเวอร์ชั่นที่ผ่านมาจะไม่ถามเรื่องส่วนตัวของผู้ใช้งานก่อนเว้นแต่จะถูกแก้โปรแกรม   แต่เมื่อสักครู่แม่พลอยของเขาทำไมถึงถามขึ้นมา   แต่สักพักชายหนุ่มก็สรุปเอาเองง่ายๆว่าเวอร์ชั่นล่าสุดนี้อาจยังคงมีบั๊ก (Bug) หลงเหลืออยู่บ้างก็ได้

    อีกสี่วันจะถึงกำหนดเดินทาง   ภุมรินทร์ทำได้เพียงแค่รอ

    ===============================

    เรือสำราญความเร็วสูงพิเศษแล่นออกจากท่าเรือกรุงเทพฯมุ่งออกสู่ปากอ่าวไทย   กัปตันเรือประกาศให้ได้ยินทั่วกันว่าวันพรุ่งนี้บ่ายสามโมงเรือจะเดินทางถึงท่าเรือหน้าทอนที่เกาะสมุย   ใต้สะพานเรือของกัปตันคือห้องจัดเลี้ยงอาหารค่ำ   ชายหญิงคนโสดมากมายกำลังสนุกสนานกับดนตรีและกิจกรรมสัมพันธ์ที่ทีมงานของโครงการได้เตรียมไว้ให้เพื่อปูทางให้คนโสดได้รู้จักกันมากขึ้น

    “คุณเป็นนักวิจัยด้านพันธุกรรมหรือคะ”  สลิลพรโปรยยิ้มหวานให้ภุมรินทร์ที่โต๊ะอาหาร   เธออยู่ในชุดแซ็คสีน้ำทะเลดูสบายตา  “ฉันอ่านในประวัติของคุณที่กระทรวงส่งมาน่ะค่ะ   งานดูน่าจะสนุกนะคะ”

    “ไม่สนุก   แต่ทำเอาเพลินได้ครับ”   ชายหนุ่มตอบหน้าตาเฉย  “ผมกับทีมงานต้องคอยวิเคราะห์ว่าสัตว์เลี้ยงหรือผักผลไม้ของไทยชนิดไหนยังมีจุดด้อยทางพันธุกรรมอะไรบ้าง   แล้วก็ค้นคว้าทดลองหาทางให้มันดีขึ้น  สวยขึ้น  อร่อยขึ้น   แล้วก็กินได้ง่ายขึ้น   ตอนนี้ผมสังกัดอยู่กระทรวงการพัฒนาอาหารและสภาพแวดล้อมครับ”

    “เมื่ออาทิตย์ก่อนฉันได้ชิมแตงโมเปลือกบางเหมือนกล้วยปอกได้ง่ายที่เพิ่งออก วางตลาด   นั่นฝีมือคุณใช่ไหมคะ”

    “ครับ   ของแท้ต้องเป็นรสโคล่าและเนื้อแตงโมสีฟ้านะครับ”  เขาตอบยิ้มๆ

    นักดนตรีบนเวทีเริ่มบรรเลงเพลงเต้นรำตามสมัยนิยม   หนุ่มสาวหลายคู่ที่เริ่มสนิทกันดีแล้วทยอยออกไปที่กลางฟลอร์   ภุมรินทร์นั่งเงียบอยู่นานจนมีเจ้าหน้าที่โครงการมาแนะนำกึ่งบังคับให้ออกไปเต้นรำด้วยกันสักนิดเป็นพิธี   เขาหันไปมองหญิงสาวเป็นเชิงตั้งคำถามว่าจะออกไปเต้นรำตามคำแนะนำหรือไม่   สลิลพรยิ้มและพยักหน้าทันที

    ดนตรีบรรเลงไหลเรื่อยราวกับสายน้ำ   เช่นเดียวกับนักลีลาศมากมายที่ขยับไปมาหน้าเวทีเป็นจังหวะเหมือนฝูงผีเสื้อที่กำลังเกี้ยวพาราสี   ภุมรินทร์มองหญิงสาวที่กำลังเต้นรำด้วยกันตรงหน้าทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง   นึกสงสัยอยู่ครามครันว่าถ้ากระทรวงวางแผนประชากรไม่มีโครงการเร่งรัดอย่างนี้แล้ว   เขาจะมีโอกาสได้รู้จักผู้หญิงสักคนและได้ใกล้ชิดกับเธอแบบนี้บ้างหรือไม่   หรือจะยังเป็นชายหนุ่มตัวคนเดียวที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันต่อไป

    “คุณสลิลพรครับ   แล้วงานของคุณ.....ศิลปินคอมพิวเตอร์ ? ”

    “งงชื่อตำแหน่งเหรอคะ”  หญิงสาวหัวเราะเบาๆ  “ไม่แปลกหรอกค่ะที่คุณงง   จริงๆงานฉันก็แค่ออกแบบอนิเมชั่นต่างๆสำหรับภาพยนตร์   แต่เขาบอกว่าชื่อตำแหน่งก็มีผลทางจิตวิทยาในการทำงานเหมือนกัน   เขาก็เลยเปลี่ยนชื่อบางหน่วยงานหรือบางตำแหน่งให้ดูเป็นศิลปะหน่อยๆเท่านั้นเองค่ะ   มีคนสงสัยชื่อตำแหน่งนี้ของฉันมาหลายคนแล้วค่ะ”

    ชายหนุ่มทำหน้าเออออรับรู้   ยิ่งเวลาในคืนนี้น้อยลง  เขาก็รู้จักเธอดีขึ้นเรื่อยๆ   เมื่อเพลงสุดท้ายบรรเลงจบ   กลุ่มหนุ่มสาวที่เริ่มสนิทสนมชวนกันเดินหัวร่อต่อกระซิกขึ้นไปชมดาวบนดาดฟ้าหาความโรแมนติกกันต่อ   แต่ภุมรินทร์กลับเดินไปส่งสลิลพรที่ห้องพัก   แม้จะสังเกตเห็นร่องรอยความผิดหวังในดวงตาของฝ่ายหญิงอยู่บ้าง   แต่ชายหนุ่มบอกตัวเองขณะเดินกลับห้องว่าเขายังไม่พร้อมสำหรับความสัมพันธ์แบบสำเร็จรูปมากไปกว่านี้ในคืนนี้

    ===============================

    รถตู้ไฟฟ้านับสิบคันที่ลำเลียงผู้โดยสารว่าที่คู่รักหลายร้อยคนจากเรือสำราญกำลังวิ่งตามกันบนถนนเลียบหาดละไม   สลิลพรซึ่งเพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกแหงนหน้ามองอาคารระฟ้าซึ่งเป็นโรงแรมริมชายหาดและผับบาร์สองข้างทางคล้ายกับเมืองพัทยาเมื่อห้าสิบปีก่อน   ส่วนภุมรินทร์มองชายหญิงคู่อื่นๆบนรถกำลังหัวร่อต่อกระซิกกัน   ในใจกำลังนึกทึ่งในความสำเร็จของโครงการจับคู่ของรัฐบาลครั้งนี้   หลายๆคู่ดูมีความสนิทสนมกันดีราวกับรู้จักกันมานานหลายปีทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันครั้งแรกเมื่อวานนี้   เพราะอะไร ?  เพราะพรหมลิขิตหรือ ? เพราะโปรแกรมอัจฉริยะในการเลือกคู่ของกระทรวงวางแผนประชากรหรือ ?  เพราะความต้องการจะยุติชีวิตตัวคนเดียวอันเปลี่ยวเหงาของเจ้าตัวเองหรือ ?  หรือว่าคำตอบเหล่านี้ถูกทุกข้อ ?

    จากคุณ : ธามาดา - [ 25 เม.ย. 47 18:08:05 ]