ตอนนี้รู้สึกว่าอยากระบายเลยมาหาที่เหมาะๆ และเรื่องนี้มันเริ่มต้นที่ว่า..................................................
ฉันกับเขา เราเป็นเพื่อนกัน เราพบกันเมื่อขึ้นชั้นป.6 ช่วงเวลานั้นเราสนิทกันมาก เพราะเรานั่งใกล้กันและทำรายงานด้วยกันบ่อยๆจนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก แล้วเราก็ไม่ได้พบกันอีกเลยจนกระทั่งฉันขึ้นมหาวิทยาลัย ฉันเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเขา เราเจอกันโดยบังเอิญแต่ไม่กล้าที่จะทักทายกัน แต่แล้วเราก็ได้พบกันอีกจนได้ เพราะเขาเป็นเรียนอยู่คณะเดียวกับเพื่อนของฉัน เพื่อนของฉันแนะนำให้เรารู้จักกันโดยไม่รู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันมาก่อน ฉันบอกเพื่อนของฉันว่าเขากับฉันเคยเป็นเพื่อนกัน และเขาก็ยอมรับ หลังจากวันนั้นเราก็คบกันเป็นเพื่อนสนิทเหมือนเดิม ฉันแอบชอบเพื่อนในคณะซึ่งเขาก็รับรู้ เขาคอยถามข่าวคราวจากฉันเสมอ ตอนที่ฉันเล่าให้เขาฟังเขารับฟังด้วยท่าทางเฉยๆ ซึ่งมันเป็นปกติกับนิสัยของเขาอยู่แล้ว เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด และใจดี ส่วนฉันเป็นคนช่างพูด ชอบโวยวาย ซึ่งความต่างของเราทั้งสองนี้ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราจะเป็นกันได้ถ้านับช่วงเวลาที่ขาดหายไปมาต่อกัน เราเป็นเพื่อนกันเกือบ 10 ปีแล้ว แล้ววันนึงฉันก็อกหักเมื่อได้รู้ว่าคนที่ฉันชอบนั้นมีแฟนเสียแล้ว เขาเข้ามาปลอบฉันให้ฉันหายเศร้าใจ เขาบอกว่าถ้ามีอะไรระบายให้มาพูดกับเขา เขายินดีรับฟังเสมอ แต่ฉันรบกวนเขาไม่บ่อยนักเพราะรู้ว่าเขาเรียนหนัก วันวาเลนไทน์ฉันถามเขาเล่นๆว่า เขาอยากได้ช็อคโกแลตจากฉันไหม เขาตอบว่าเขาอยากได้ เขาอยู่มาหลายปีไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเอามาให้เขาบ้างเลย ฉันบอกว่าจะซื้อให้ แต่เขาไม่ยอมรับ เขาบอกให้ฉันทำให้เขาด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้น ฉันก็เริ่มฝึกทำเค้กช็อคโกแลตซึ่งมันทำได้ยากมาก และวันวาเลนไทน์ก็มาถึง ฉันทำช็อคโกแลตได้ยังไม่ดีนัก แป้งมันหนักและไม่ยอมขึ้นฟู ซึ่งเขาก็กินที่ฉันทำให้จนหมด ฉันซึ้งใจมากเพราะฉันไม่คิดว่าเขาจะดีมากถึงเพียงนี้ แล้วเราก็นั่งคุยกันสองคนใต้ต้นไม้ เรานั่งคุยกันถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เขาสารภาพกับฉันว่าเคยชอบฉันตอนป.6 ซึ่งฉันแปลกใจมากเพราะเขาไม่มีท่าทีเลย และฉันคิดว่าตอนนั้นฉันยังเด็กเกินไปและคงไม่สนใจเรื่องแบบนี้ เขาเล่าให้ฉันฟังถึงตอนที่เขาคิดจะสารภาพ แต่ก็ไม่ได้ทำ ฉันบอกให้เขาสารภาพอีกทีในตอนนี้ เขาบอกว่าเขาในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว และเขาก็ถามฉันว่าเขาเปลี่ยนไปไหม ฉันบอกว่าสำหรับแล้วเขาก็คือคนเดิมทุกอย่าง แต่เขาบอกว่าเขารู้ว่าตัวเองเปลี่ยนไป เขาโตขึ้น มีความคิด มีหน้าที่ที่ต้องผิดชอบ แล้วอยากให้ฉันมองเขาในมุมใหม่ๆบ้าง คืนนั้นฉันกลับมานอนคิดถึงสิ่งที่เขาพูดและรู้สึกสับสนมาก ไม่แน่ใจตัวเองแต่สิ่งที่ฉันรู้คือ ตอนที่ฉันเห็นเขาครั้งแรกเมื่อตอนที่มาพบกันที่มหาวิทยาลัยนั้น เขาดูดีและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก และอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉันมากๆ หลังวันวาเลนไทน์ หัวใจของฉันว่างเปล่าผิดกับเขาที่หลังจากวันนั้นแล้วมีข่าวลือว่าเขามีคนที่ชอบแล้ว ลึกๆฉันรู้สึกปวดใจมากซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไม ฉันถามเขาและเขาก็ตอบว่ากับเรื่องนี้เขายังไม่คิดอะไร หลายเดือนต่อมามีคนเริ่มมาจีบฉันบ้างแล้วแต่ฉันก็ไม่รู้สึกว่าสนใจอะไรมากมาย ฉันเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเขาอีกตามเคย เขาบอกว่าอนาคตเรายังไม่แน่นอนถ้าจะคบใครควรจะเลือกหน่อย ฉันบอกเขาว่าเจอผู้ชายคนนึงมาตามตื้อซึ่งฉันไม่ชอบเอามาก เขาจึงเสนอว่าให้เขาเป็นแฟนสมมติให้ ซึ่งฉันก็ลองดู ฉันกับเขาและละครตบตาหนุ่มจอมตื้อจนเขาต้องถอยล่าไปในที่สุด ฉันขอบคุณเขามากที่ช่วยเหลือฉันในวันนี้ ในใจฉันตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าชอบเขามาแค่ไหน ฉันจึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้นว่า
"รู้ไหมตั้งแต่เราคบเพื่อนมาเนี่ยไม่เคยมีใครดีเท่าเธอเลย เธอดีกับเรามากเลยนะ เธอเรียนอีกหลายปีใช่ไหมกว่าจะจบน่ะ เพราะเธอเป็นหมอนี่ เราคงเรียนจบก่อนเธอ ซึ่งเราตั้งใจไว้ว่า เราจะตั้งใจทำงานหาเงิน ทำฐานะให้มั่นคง แล้วเราจะกลับมาขอเธอนะ"
เขาเงียบไปพักนึงซึ่งฉันคิดว่าเขาคิดดูว่าฉันพูดเล่นหรือพูดจริงกันแน่ แล้วเขาก็ตอบฉันกลับมาว่า
"เราไม่ได้คิดแบบนั้นตอนนั้นแล้วนะ เราคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น"
..............................................................................................................................................................................................................................นั่นเป็นคำตอบที่ฉันรู้ดี ซึ่งฉันก็เตรียมใจที่จะรับฟังมานานแล้ว ฉันรู้ดีว่าตลอดระยะที่เราห่างกันนั้น หลายสิ่งหลายอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วในตัวเขา ฉันรู้ดีว่ามันง่ายเกินไปถ้าจะจบแบบสมบูรณ์ ไม่เป็นไร...............ฉันยอมรับได้
"ถึงเธอจะไม่ใช่คนรักของฉัน แต่เธอก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันตลอดไป" ฉันรักเธอเพื่อนของฉัน...
จากคุณ :
หนอนคอม
- [
26 เม.ย. 47 00:34:18
A:202.28.21.6 X:
]