กาลครั้งหนึ่ง . . . เมื่อวานนี้ (๒)

    ตอนนี้ผมถามพ่อว่าชื่อแซ่อะไร ทำงานการอะไร แน่นอนผมรู้ว่าจะทำอย่างไรครับพ่อ ไม่ช้าไม่นานท่านก็สนใจผมมากกว่าชายอีกคนนั่น ความหวั่นกลัวผมมิได้ลดน้อยจางหายไป เหมือนกันไปหรือเปล่านะ ? เสื้อผ้าของผมดูราคาแพงกว่าของท่านเช่นเดียวกับฟันชุดใหม่เป็นประกายวาววับ  ผมตัวหนักและสูงกว่า- ประมาณสามเท่า -ผมออกกำลังเสมอ แต่เส้นผมของผมมีสีเทาแล้ว ผมไม่ย้อมมัน ผมของพ่อยังดูดำเกือบทั้งหัว

    เพราะเป็นนักบัญชีมาชั่วชีวิต พ่อทำงานในสำนักงานเดียวมากว่าสิบห้าปี ท่านเล่าให้ฟังว่ามีลูกสองคน เดนนิสที่อยู่กองทัพอากาศกับผม-บิลลี่ เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ผมเพิ่งจากบ้านไปเข้ามหาวิทยาลัยที่ซึ่งผมเรียนได้ดีอย่างเห็นได้ชัด งานสร้างเรื่อง"คอยโกโด้"ทีใช้นักแสดงหญิงล้วน ที่พ่อวิจารณ์ว่า"หดหู่shipหาย" เป็นเรื่องที่ใคร ๆ พากันชื่นชม ผมไม่อยากขัดว่า"พ่อครับ แต่ผมไม่ได้กำกับมัน ผมแค่อำนวยการสร้าง"

    ผมแนะนำตัวเองกับพ่อ ว่าชื่อ ปีเตอร์ ชื่อที่ผมหยิบมาใช้บ่อย ๆ กับบุคคลอื่นที่ผมพัฒนาขึ้นมา ระหว่างเข้ากลุ่มบำบัดปัญหาเพศนิรนาม หาใช่ว่าผมต้องการปลอมตัว พ่อจะถามผมว่ามาจากไหนทำงานการอะไร แต่พอผมตั้งท่าจะตอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยคำแนะนำและความเห็นอย่างไม่ขาดสาย

    พ่อบอกว่าอยากจะนั่งแล้วเพราะกระดูกกระเดี้ยวเริ่มล้า ผมร่วมโต๊ะกับท่าน พ่อชำเลืองมองสาวบาร์ แล้วว่า "เธอน่ารัก ดีนะ ว่าไม๊"

    "ผมสวย แต่โชคร้ายที่เสื้อผ้าไม่พอดีตัวเลย"

    "ใครจะไปสนเรื่องเสื้อผ้าเธอ"

    นี่คือลักษณะของพ่อที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน  ลางทีเพราะเหตุที่จากท่านไป ผมไม่เคยรู้ว่าท่านไปบาร์หลังเลิกงาน ท่านตรงกลับบ้านเลย และครั้งหนึ่งเมื่อเดนนิสจากไป ผมก็ได้คลุกคลีอยู่กับพ่อด้วยตัวเอง ทุก ๆ วันผมจะคอยพ่อที่ป้ายรถเมล์ พร้อมที่จะคอยรับกระเป๋ามาถือ เมื่อถึงในบ้าน ผมจะชงชาขณะท่านผลัดเสื้อผ้า

    ตอนนี้เมื่อสาวบาร์เข้ามาเก็บแก้วและเอาที่เขี่ยบุหรี่ไปเททิ้ง ขณะที่ก้มข้ามโต๊ะ พ่อสอดมือเข้าไปใต้เข่าเธอและเลื่อนขึ้นไปบนกระโปรงจนถึงก้นกอยของเธอ ไต่ คลึงเคล้าและจับจนเธอต้องเอี้ยวตัวหนีหลบและจ้องเขม็งอย่างไม่เชื่อสายตา ตะโกนร้องว่าเกลียดบาร์และผู้ชายในร้านและถามว่าพ่อจะออกไปเองก่อนที่จะเรียกเจ้าของร้านมาตะเพิดออกไป?

    เจ้าของร้านรุดเข้ามา เขาคว้าแก้วของพ่อ เงื้อกำปั้นขึ้นขณะพ่อรีบโกยอ้าวออกนอกประตูไป ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ ผมไม่เคยเห็นพ่อไปทำงานโดยไม่ถือกระเป๋าไปด้วยมาก่อน และไม่เคยรู้ว่าท่านลืมไว้ที่ไหนเลย อย่างที่ผมกับพี่เคยพูดกัน กระเป๋าเอกสารของพ่อติดหนับกับพ่อ ข้างนอกร้ารกำลังปัดเนื้อปัดตัว ผมยื่นกระเป๋าส่งคืนให้ท่าน

    "ขอบใจ" ท่านกล่าว"เคยทำอย่างนั้นไหม หนเดียวแค่หนเดียว เท่านั้นล่ะที่ฉันต้องลองทำ บางทีอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้แตะต้องใคร! " ท่านถามว่า "เธอจะทำอย่างไหนล่ะ?"

    "ผมเดินไปเป็นเพื่อนสักหน่อยแล้วกัน" ผมบอก "กระเป๋าผมไม่หนักนัก ผมต้องผ่านทางนั้นอยู่แล้ว ต้องไปขึ้นรถไฟไปลอนดอนแต่ไม่ได้รีบร้อน"

    ท่านว่า "ทำไมไม่ไปแวะดื่มที่บ้านฉันล่ะ"

    พ่อแม่ผมใช้ชีวิตใต้กฏระเบียบที่เข้มงวด  ทุกอย่างต้องออกมาเพะ ๆ เหมือนคิดเลข  ทำไมตอนนี้ถึงชวนคนจรหมอนหมิ่นไปบ้านด้วย? ผมเคยเป็นเพื่อนคนเดียวของท่าน สิ่งที่เราข้องเกี่ยวต่างทำเรายุ่งทั้งคู่

    "แน่ใจหรือครับ?"

    "ใช่  มาสิ"ท่านตอบ

    (กรุณาติดตามกระทู้ต่อไป)

    จากคุณ : เดือนกันยา-SeptemberMoon - [ 27 เม.ย. 47 23:45:32 ]