อิสระแห่งใจ - 2

    อิสระแห่งใจ : 1
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2785491/W2785491.html



    -----------------------
    อิสระแห่งใจ - 2
    -----------------------


    สายตาของคนขับรถเหล่มามองคนที่นั่งถอนหายใจอยู่ข้าง ๆ แต่แล้วก็ชักสายตากลับเมื่อตา
    คู่สวยหันมาค้อนเข้าให้ ฟังเสียงร้องเพลง ดูเหมือนจะเป็นคนอารมณ์เย็น แต่รู้สึกเสียงร้อง
    เพลงจะแปลผกผันกับอารมณ์ของคนอย่างสิ้นเชิง! ณิรสากล้ำกลืนกับการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
    ครั้งนี้มากผิดปกติ

    คนขับเจ้าเล่ห์เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน อีกทั้งเจ้าตัวยังลงจากรถไปร้านสะดวกซื้อระหว่างรอเติม
    น้ำมัน โดยไม่ได้เอ่ยชวนหรือบอกเธอ ไม่กี่นาทีวิธวินทร์ก็กลับมาที่รถ ยื่นกาแฟกระป๋องให้
    ณิรสาส่ายหน้าปฏิเสธ

    "อ้าว ไม่เอาเหรอ? เห็นอยู่บ้าน คุณก็กินแต่กาแฟ เช้าก็กิน เย็นก็กิน" ณิรสาแทบไม่เชื่อหูตัว
    เอง วิธวินทร์ฉวยโอกาสมองหน้าเธอ พอเธอหันมาสบตา ก็ยิ้ม ๆ ให้ แน่สิ บ้านเธออยู่ใกล้ ๆ
    นี่เองทำไมเขาจะไม่รู้ แถมเมื่อวานเธอยังฟังเขาร้องเพลงอยู่ตั้งนาน ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม
    วิธวินทร์ถึงรู้ ทุกเช้าณิรสาจะเดินมาที่ระเบียง พร้อมกับถ้วยกาแฟร้อน ๆ หนึ่งถ้วย จึงไม่แปลก
    ถ้าระเบียงบ้านถัดไปจะได้รับกลิ่นหอมของกาแฟที่โชยมาจากบ้านข้าง ๆ

    "ก็ชอบกินที่ชงเอง ยังงี้มันเข้มข้นไป" ณิรสาปฏิเสธกาแฟกระป๋องที่ถูกยื่นมาตรงหน้า

    "อ๊อ ฮะ ๆ ... เรื่องมากดีจัง" คนพูดเสียงเบาลงจนเกือบไม่ได้ยินประโยคท้ายหากสายตาจาก
    คนข้าง ๆ หันมาถลึงใส่ จึงไม่ได้ว่าอะไรต่อไป

    ไม่นานรถก็แล่นออกมาจากปั๊ม มุ่งหน้าไปยัง ห้าง เวิร์ลเทรด-- ห้างที่สมัยเรียนชอบมาเที่ยว
    กันบ่อย ๆ ถามคุณลุงแถวนี้เขาว่าเปลี่ยนชื่อเป็น เซ็นทรัล เวิร์ลแล้ว ถึงจะเที่ยวบ่อยแค่ไหน
    แต่ไม่เคยเล่น ไอซ์ สะก๊ง ไอซ์ สเก็ตอะไรนี่หรอก มีแต่ พิมชนกที่ชอบไปเล่นบ่อย ๆ  --
    พอลงจากรถ ณิรสาเหมือนถูกสั่งให้ยืนอยู่หน้าห้าง รอวิธวินทร์เพื่อจะได้ไปพบยายพิมด้วยกัน
    คนถูกสั่งก็คงทำได้แต่ยืนรอ สักห้านาที ร่างสูงก็เดินเข้ามาหา ขึ้นบันไดเลื่อนไปตั้งแปดชั้น
    ไม่พบใครรออยู่ที่นั่นเลย

    "จะเข้าไปเล่นก่อนหรือเปล่า พิมคงเลทอีกตามเคย" เสียงทุ้มเสนอ ดูนุ่มนวลกว่าปกติ ณิรสา
    ส่ายหน้าปฏิเสธพูดเบา ๆ ว่า 'ฉันเล่นไม่เป็น' เท่านั้นแหละ วิธวินทร์ก็ไปที่เคาน์เตอร์ทำอะไร
    สักอย่างก่อนจะเอ่ยเรียกณิรสาให้เข้าไปพร้อมกัน

    "นี่บัตรของคุณ" เขายื่นกระดาษใบเล็ก ๆ ให้เธอ มือข้างขวาก็ล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์โดย
    อัตโนมัติ ไม่ทันได้ถามว่าเท่าไหร่ วิธวินทร์รีบปฏิเสธ "ผมจ่ายไปแล้ว"

    อันที่จริงเธอก็ไม่น่ามาเลย จะรำคาญเพื่อนเสียเปล่า แต่ก็ตัดสินใจมาทั้ง ๆ ที่เล่นไม่เป็น
    วิธวินทร์กำลังเล่นอย่างเพลิดเพลินอยู่ในลานน้ำแข็ง ขณะที่เธอจ้องมองเขาอย่างอึ้ง และทึ่ง

    ... ทำไมเล่นเก่งจังวะ ...

    วิธวินทร์สเก็ตเข้ามาตรงที่เธอนั่งอยู่

    "ไม่เล่นหรือไง อุตส่าห์ออกตังค์ให้แล้ว" คนชวน นอกจากหน้าตายียวนกวนประสาทแล้ว
    คำพูดก็ยังกวนไม่แพ้กัน

    "ก็บอกว่าเล่นไม่เป็นไง ถ้ารู้ว่าต้องเสียตังค์ ฉันคืนให้ก็ได้ อันที่จริงน่าจะบอกฉันก่อน จะได้
    ไม่ต้องเข้ามา ก็สิ้นเรื่อง" ฉุนแล้วนะ ไม่ได้ง้อให้ออกเงินให้สักหน่อย เชอะ! วิธวินทร์สเก็ต
    ออกมาจากลานน้ำแข็ง เดินมาคว้าข้อมือร่างบางไปวัดเท้า สำหรับรองเท้าสเก็ต สุดท้ายเขาก็ลาก
    เธอเข้าลานไอซ์ สเก็ตจนได้ ด้วยที่ทำอะไรไม่ถูก เธอก็เลยต้องยืนเกาะขอบเล่น

    วิธวินทร์ออกจากลานน้ำแข็งหยิบถุงมือในกระเป๋าตนมาหนึ่งคู่ก่อนจะไปยื่นให้เธอสวมไว้
    อีกอย่างอาจจะทำให้มือคนใส่อบอุ่นด้วย เสียงขอบคุณออกมาจากปากณิรสาแต่ก็เบาเหลือเกิน
    ไม่รู้คนฟังจะได้ยินไหม แต่จะได้ยินหรือไม่ได้ยิน ก็ช่าง...

    เขาปล่อยให้เธอเล่นเกาะขอบอยู่ยังงั้น ขณะที่ตัวเขาเอง สเก็ตอย่างสบายอารมณ์ไปเรื่อย ๆ
    ช่วงเช้ายังไม่ค่อยมีคนสักเท่าไร จนกระทั่งเขาสเก็ตวนไปวนมาเป็นรอบที่สามก็เห็นเธอยัง
    ไม่ไปไหนสักที มือที่สวมถุงมือสีน้ำตาลยื่นมาให้เธอจับ แต่ดวงตาคู่สวยก็มีท่าทีจะปฏิเสธ
    จนเขาต้องจับมือเธอเอง แล้วเขาก็กลายเป็นครูสอนสเก็ตน้ำแข็งจนได้สิน่า!

    วิธวินทร์สเก็ตถอยหลัง เหมือนกับให้ณิรสาเคลื่อนตัวไปตามโดยไม่ต้องสเก็ตเองแต่อย่างใด
    จะมีบ้างที่เธอรู้สึกสนุกกับมัน แล้วออกเท้าสเก็ตไปข้างหน้า จนแล้วจนรอดร่างบางทรงตัว
    ไม่ได้ ร่างสูงคว้าตัวไว้หมับ แต่ไม่ทัน ก็ล้มไปพร้อมกันทั้งคู่ ณิรสาลุกขึ้นมาคว้ามือร่างสูงไว้
    แล้วยิ้มแห้ง ๆ 'ขอโทษที'

    คุณครูไม่ได้ลงโทษอะไร แต่ชวนลูกศิษย์เรียนต่อ ชั่วโมงครึ่งก็แล้ว ไม่มีวี่แววว่า พิมชนกจะ
    มาเลย ลูกศิษย์เริ่มเบื่อ ๆ ที่เพื่อนไม่มาสักที ขอพักก่อน พอออกจากลานน้ำแข็งเธอก็รีบกด
    โทรศัพท์หาพิมชนกทันที

    .ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก.

    ... อะไรกันนักกันหนานะ นี่เพื่อนแต่ละคนก็ยังไม่มา มันนัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ ...

    "พิมยังไม่มาเหรอ?" เสียงทุ้มลอยมาแต่ไกล เธอคงไม่รู้ว่าเขาเฝ้ามองเธออยู่ทุกฝีก้าว ไม่ว่า
    เธอจะทำอะไรก็ตาม เขาสนใจในทุกเรื่องของเธอ

    "ไม่รู้ ติดต่อไม่ได้" ณิรสาส่ายหน้าอย่างหมดอารมณ์

    "เข้ามาเล่นระหว่างรอก็ได้ ไม่เห็นต้องไปนั่งเซ็งอยู่ตรงนั้นสักหน่อย" คนชวนชวนแบบมี
    เหตุผลขึ้น ผีเข้าผีออกหรือไงก็ไม่รู้ แล้วครูก็ต้องทำหน้าที่อีกครั้ง แต่น่าแปลกที่คุณครูไม่เบื่อ
    เลยสักนิด เล่นไปได้อีกชั่วโมงกว่า เริ่มปวดแข้งปวดขา หลังจากที่ล้มมาหลายรอบ สุดท้าย
    ก็เลิกเล่น

    "โอยย... ปวดขาเป็นบ้าเลย" เสียงเล็กโอดโอยในขณะที่ร่างสูงมองอย่างน่าเอ็นดู

    พอเดินออกจากที่ตรงนั้น มาเจอะพิมชนกกับกลุ่มเพื่อน ๆ พอดี ณิรสาเลยออกอาการ

    "เพิ่งมาเนี่ยนะ ยายพิม! โหหห... บอกให้ออกแต่เช้าแล้วแกเพิ่งมา ตรงต่อเวลามาเลยจ้ะ"
    ณิรสาพูดแกมประชด ใส่เพื่อนที่ยังยิ้มหน้าระรื่นไม่รู้สึกรู้สมอะไร

    "เอาน่าา ขอโทษที พอดีติดธุระ เลยต้องพาพวกนี้ไปด้วย ก็มันนั่งรถฉันมาทุกคนเลยนี่นา
    โทษจ้ะ ว่าแต่นี่เลิกเล่นแล้วเหรอ วิธ?" พอขอโทษเสร็จก็หันไปเลิกคิ้วถามพ่อวิธวินทร์ตัวดี

    "อืม เห็นว่า ณิรสา ปวดแข้งปวดขาแทบแย่แล้วน่ะ" คนพูดโบ้ยมาทางร่างบางที่ยืนสำรวจขา
    ตัวอยู่ พิมชนกหัวเราะก๊ากกก ไม่เคยมีใครเรียกยาย ณิ เต็มยศมาก่อนเลยแฮะ

    "หัวเราะอะไรยะ"

    "เปล๊า ๆ ๆ ไปเที่ยวต่อกันเถอะ ไปบ้านอาของฉันมั้ยที่ นครปฐมนี่เอง กว้างด้วย ทิวทัศน์ก็
    ดี ไม่ได้ไปนานแล้ว คุณอาคงไม่ว่าหรอก" ณิรสาทำท่าว่าจะปฏิเสธแต่ถูกไม้ตายถามกลับว่า
    'แล้วเธอจะกลับยังไง? กลับใคร?' เท่านั้นแหละ เลยจำยอมต้องไปต่อมีข้อแม้ว่า

    "ขากลับแกต้องมาส่งฉันนะเว้ย" พิมชนกหันไปสบตาวิธวินทร์แว้บหนึ่งก่อนจะหันมารับคำ
    เพื่อนสาวของตน

    "เออ ๆ งั้นขึ้นรถดิ เฮ้ย ไอ้เอกมาขับรถหน่อยดิ๊" สาวพิมตะโกนบอกเพื่อนมาขับรถให้แล้วตน
    จะไปนั่งคันของวิธวินทร์ เนื่องจากเพื่อนสาวไม่ยอมนั่งรถกับวิธวินทร์อีก

    "โอเช ๆ เดี๋ยวเราขับให้ -- เฮ้ย เอ็งกับแฟงนั่งเบาะหลังนะเว้ย ให้ณินั่งกับข้า" เอกวุฒิ จัดแจง
    ที่นั่งให้กับเพื่อน ๆ จนตาบาสที่นั่งข้างหลังตะโกนมาว่า

    "แหม ไอ้เอก เอ็งนี่นะเดี๋ยวขากลับข้าขับเอง" พงศวัตร เสนอตัวขับรถบ้างแต่ก็ถูกแย้งจาก
    แฟงสาวสวยอีกคนที่นั่งข้างหลังเหมือนกัน

    "ไม่!!! ขากลับ ฉันขับเอง!" เสียงแหลมเล็กยังงี้เหมาะกับร่างเล็ก ๆ ของเธอดีจนณิรสาปรบ
    มือให้ 'ดีจ้ะ แฟง ฉันจะได้คุยกับเธอขากลับด้วย' สองหนุ่มหงอยไปตาม ๆ กัน

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "เฮ้ย! เป็นไงบ้างวะ เพื่อนฉัน" พิมชนกถามอย่างตื่นเต้นเมื่อก้าวขึ้นรถวิธวินทร์

    "ก็ดี" วิธวินทร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก

    "ก็ดี? อะไรวะ ไหนว่าสเป็คไง ไม่เหมือนที่คิดรึไง" พิมขึ้นเสียงสูง ติดใจกับอารมณ์ของ
    วิธวินทร์

    "อืม ไม่เห็นเรียบร้อยเหมือนที่คิด"

    "โธ่โว้ย ถ้าจะหาผู้หญิงเรียบร้อยน่ะ คงไม่ใช่ ณิรสา คนนี้เสียล่ะ" พิมชนกพูดอย่างไม่สบ
    อารมณ์แต่แล้ว รถถูกเบรคกึกเพราะไฟแดงข้างหน้า วิธวินทร์หันมายิ้มให้อย่างมีเลศนัย

    "แล้วใครบอกล่ะ ว่าเราชอบผู้หญิงเรียบร้อย" ร่างสูงเอ่ยขึ้นนุ่ม ๆ

    <กรุณาติดตามตอนต่อไป>

    จากคุณ : invisible_TJ - [ 30 เม.ย. 47 11:09:31 ]