กาลครั้งหนึ่ง . . . เมื่อวานนี้ (๔)

    ท่านพดถูก ไม่ว่าในเมืองหรือบ้านนอกก็ไม่เงียบเชียบเหมือนกับแถวชานเมือง ความเงียบเชียบของผู้คนที่กลั้นลมหายใจอยู่

    พ่อถือแผ่นเสียงที่ยืมมาจากห้องสมุด "นายคงรู้จักแผ่นนี้แต่คงไม่รู้ลึกซึ้ง ฉันพนันให้ก็ได้"

    คีตกวีหมายเลขห้าของบีโธเฟนค่อนข้างปลกกว่าที่จะเป็นดนตรีคลอ จะให้ผมยิ้มเยาะอย่างไรได้? หากปราศจากความกระตือรือล้นของท่าน ชีวิตผมคงจะไม่มีวันมีดนตรีอยู่เลย แม่เคยเป็นนักเปียโนของโบสถ์ และท่านมักพาเราไปชมบัลเลต์เรื่อง"นัตแครกเกอร์"(*เรื่องของตุ๊กตาทหารนิยมแสดงในชวงคริสต์มาส)หรือคณะ"Bolshoi"เมื่อพวกเขามาเยือนลอนดอน  บางครั้งพ่อแม่ก็ไปลีลาศ ผมชอบดูท่านแต่งตัวเต็มยศ หากไร้ซึ่งแรงบันดาลใจเล็ก ๆ น้อย ๆเหล่านั้น ผมคงไม่รู้ค่าความหมายของชีวิต

    พ่อกล่าวว่า"นายคิดว่าฉันจะไปที่ผับอีกหนได้ไหม?"

    "ถ้าไปขอโทษซะ"

    "ปล่อยให้ผ่านไปซักสองสามอาทิตย์ดีกว่า ฉันไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจ แม่คนนั้นไม่ใช่ยิว ใช่เปล่า?"

    "ผมไม่ทราบสิครับ"

    "ปรกติหล่อนก็ดูยินดีฟังฉันบ่นเรื่องปวดเรื่องเมื่อยของฉัน จะมีใครอีกล่ะ อายุอานามขนาดเราแล้ว?"

    "คุณปวดเมื่อยตรงไหน?"

    "ตอนเดินไปกลับสถานี- บางทีฉันก็ไปไม่ไหว ต้องหยุดพิงอะไรก่อน"

    ผมบอกว่า "ผมเรียนนวดมานะ"

    "อ้า" ท่านวางเท้าที่หน้าตักผม  ผมบีบนวดเท้า ข้อพับและหน้าแข้งของท่าน ขณะนี้ท่านไม่ได้มองผมอยู่ ท่านว่า "แขนแมนนายแข็งแรงดีนี่   ไม่ใช่ช่างประปา ใช่ไหมล่ะนายน่ะ?"

    "ผมบอกคุณก็ได้ ผมมีโรงละคอน ตอนนี้กำลังช่วยก่อตั้งมูลนิธิเกี่ยวการสอน สตูดิโอสำหรับคนหนุ่มสาว"

    ท่านกระซิบว่า "นายชอบไม้ป่าเดียวกันใช่ไหม?"

    "ใช่ ผมเป็น แต่ไม่เคยเห็นหามที่ผมไม่ชอบ คุณล่ะ?"

    "กะเทยหรือ? มังฟ้องล่ะสิตอนนี้ ใช่ไม๊ ? แต่ฉันไม่เคยหมกมุ่นกับผู้หญิงนัก"

    "คุณไม่เคยไม่ซื่อล่ะสิ?"

    "ฉันน่ะชอบผู้หญิงเสมอ"

    "ผมถามว่า "พวกเขาชอบคุณไหม?"

    "พวกเลขาฯ ท้องที่ น่ะเป็นมิตรดี แต่ไม่ใช่นายไปทำอะไรได้ ฉันมีเงินไม่พอไปหา"มือโปร" "

    "คุณไปผับบ่อยไหม?"


    "ฉันเริ่มโผล่ไปหลังเลิกงาน (ตอน)บิลลีของฉันจากไป"

    "ไปดีรึเปล่า?"

    "หลังจบมหาลัย เขาจะกลับมา ฉันยืนยันกับนายได้ เรื่องนั้น ราว ๆ เวลานี้ตอนดึก ๆ ฉันเคยคุยกับเขา  มีเรื่องมากมายที่นายจะเสี้ยมสอนเด็ก โดยให้เขารู้ตว เมียฉันไม่ค่อยคุยกับฉัน เธอไม่ชอบทำอะไรให้ฉันเหมือนกัน"

    "เรื่องเพศล่ะ?"

    "เธออาจดูตัวโตสำหรับนาย แต่เนื้อ ๆ แล้วใหญ่โตกว่ามาก เธอขยี้ฉันบนเตียง ยังกะแมลงวัน ฉันสาบานได้เลยว่าเราไม่เคยเหยุดเรื่องนั้นมากว่าสิบแปดปีแล้ว"

    "ตั้งแต่บิลลี่เกิดรึครับ?"


    ท่านก็พูดไป ปล่อยผมแตะท่าน " เธอไม่ยินดียินร้ายซักเท่าไหร่  ตอนนี้ไม่รู้สึกรูสาอะไร . . . เย็นชา . . . เกือบเหมือนศพ"

    ผมว่า "ผู้คนกลัวมากเรื่องอารมณ์ใคร่ของพวกเขามากว่าเรื่องอะไร ๆ  แต่เพราะอารมณ์ดำกฤษณาที่เธอทำให้คุณทนอยู่ได้นี่"

    ท่านส่ายศีรษะ"ตุ๊ดสัปดนอย่างนาย ฉันว่าก็ดีแต่ดูของคนอื่นในห้องน้ำล่ะ แล้ว . . ."

    "ใคร ๆ ก็คิดอย่างงั้น  แต่ผมอยู่คนเดียวมาห้าปีแล้ว"

    ท่านว่า "ฉันหวังว่าเธอจะตายก่อน แล้วฉันจะได้มีโอกาส . . .  เราแบบธรรมดาที่ทนอยู่ในสถานการณ์ที่ชิงชังเพื่อเหตุผลอย่างเดียวก็เรื่องเด็ก แต่นายไม่เคยมีนี่นะไ

    "พูดถูก"

    ท่านชี้ไปที่รูปผมกับพี่ชาย "ถ้าไม่มีเด็กสองคนนั่น ก็ไม่มีเหตุอะไรสำหรับฉัน น่าขันที่พยายามอยู่เพื่อตัวเองตามลำพัง"

    "ผมไม่รู้งั้นหรือ? เว้นแต่จะอยู่เพื่อใครสักคน"

    "ฉันหวังว่านายจะพบ !"ท่านบอก "แต่จะไม่เหมือนกันกับเมื่ออยู่กับตัวเอง"

    ความอับอายขายหน้าในเรื่องความซื่อสัตย์นั้นอันตรายต่อความรัก  นั่นมักมีความสบายอกสบายใจของเด็ก ๆ ผมเคยเป็นลูกสาวของพ่อ คนใช้ของท่าน สาวก ของท่าน ศรัทธาของผมทำให้ท่านมีชีวิตชีวา มันเป็นนิกายแห่งคนมีชื่อเสียงที่ท่านตั้งขึ้น มีผผับพี่ายเป็นกระจกสะท้อนของท่าน


    ตอนนี้แม่เปิดประตูเข้ามา - ไม่กว้างนักดังนั้นท่านเห็นเราได้ หรือเราเห็นท่าน - และประกาศว่าจะไปนอน

    "ราตรีสวสดิ์ครับ" ผมบอก

    พ่อพูดถูกเรื่องเด็ก ๆ แต่ผมจะไปทำเรื่องนั้นได้อย่างไร? ผมซื้อโรงงานเก่าแห่งหนึ่งด้วยเงินของตัวเองแล้วเปลี่ยนให้เป็นสตุดิโอโรงละคอน สถนที่สำหรับหนุ่มสาวที่จะทำงานกับศิลปินมีชื่อแล้ว ผมขลุกอยู่ในตึกนี้ที่ได้ย้ายสำนักงานเข้าไป มันเป็นที่ซึ่งผมจะเป็นหัวหน้าเมื่อออกมาที่นี่  เพื่อนั่งในคาเฟ่ มองดูว่าจะมีใครโผล่มา และดุว่าพกเขาอยากได้อะไรจากผม อะไรก็ตาม  ผมค่อย ถอนตัวเมื่ออายุมากขึ้นจากสิ่งที่ผมสะสมทั้งหมด งานชิ้นหนึ่งของตอลสตอยที่พ่อโปรดปรานคือ "How Much Land Does a Man Need?"

    "มีเด็กหรือไม่มี คุณก็ยังเป็นผู้ชาย มีหลายสิ่งที่เด็ก ๆ ให้คุณไม่ได้" ผมพูด

    ท่านว่า " เราทั้งหลายบนท้องถนน ต่างอุทิศแก่งานอดิเรก"

    "ผุ้หญิงด้วยงั้นหรือ?"

    "พวกเธอเย็บหรือทำอะไรก็ตาม ไม่มีเวลาเกียจคร้าน  ลูกชายโนเขียนเรียงความงดงามเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ของเวลา"

    ท่านจิบชา บีโธเฟนที่เล่นซ้ำ แผ่วไป ท่านดูพอใจที่ผมนวดขาท่าน เพราะท่านไม่อยากให้ผมหยุด ผมบอกท่านให้นอนบนพื้น ด้วยความกระหายใคร่รู้ ท่านถอดเสื้อคลุม และเสื้อนอน ผมนวดทุกส่วนของท่าน กระซิบแผ่วๆ ตามลมหายใจเข้าออกว่า"พ่อ พ่อ" เมื่อท่านลุกขึ้นในที่สุด ผมเตรียมเสือคลุมอุ่น ๆ ที่วางไว้เหนือเตาผิง ไว้พร้อมแล้ว

    (กรุณาติดตามกระทู้ต่อไป)

    แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 47 11:17:25

    แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 47 11:13:35

    จากคุณ : เดือนกันยา-SeptemberMoon - [ วันแรงงาน 11:06:53 ]