ความคิดเห็นที่ 1 นัทตี้ขอยกที่เขียนดอกจันไว้มาเป็นหัวข้อ และจะขอวิจารณ์ตามความคิดของนัทตี้เอง จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ให้วิจารณ์กันมา เราจะเปิดอกคุยกัน ไม่มีการโกรธเคืองใด ๆ ทั้งสิ้น ***เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ*** ขอโทษนะท่านชวน ที่บอกว่ากระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุนั้นมันเกินอย่างไรล่ะ ท่านผู้นำทางศาสนาอิสลามท่านได้ออกมาชี้แจงให้พี่น้องทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมทราบแล้วโดยทั่วกัน ว่าเป็นการกระทำที่สมควร ขอเน้น สมควร ขอให้ท่านชวนไปอ่านดูใหม่อีกทีว่า ท่านผู้นำศาสนานั้นท่านพูดอย่างไร ท่านผู้นำท่านพูดถูกตรงใจมากที่สุด และ จริงใจที่สุดสมกับเป็นผู้นำทางศาสนา ถ้าท่านชวนไม่มีความเข้าใจในเรื่องของการจับ "ใจความ" ภาษาไทยดีพอ ควรจะไปเรียนวิชาภาษาไทย ใหม่อีกหลาย ๆ ปีหน่อยนะท่าน อีกอย่างหนึ่งคือถึงแม้ท่านชวนเป็นคนใต้ หรือท่านชวนอาจจะมีญาติที่มีเอี่ยวอยู่ในนั่นจึงออกมาว่า "ทำเกินเหตุ" ทีหลังถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกทางใต้ ก็ขอให้นายกฯ รีบยกตำแหน่งนายกชั่วคราวให้ท่านชวนด้วย เพราะท่านมีความสามารถเกลี้ยกล่อมและท่านหนังเหนียวไม่กลัวตาย มันจะทำให้เหตุการณ์ "ทำเกินเหตุ" นั่นไม่เกิดขึ้น อย่างที่ยิงพวก "ก็อด อามี่" ก็เช่นกัน รัฐบาลไม่น่าจะยิงให้ตาย น่าจะรอให้พวกมันมาปล้นรถเด็กนักเรียน ปล้นโรงพยาบาล ปล้นทุกอย่างจากท่านไปแม้แต่แผ่นดิน สมควรอย่างยิ่งที่จะเอาข้าวเอาน้ำไปปรนเปรอให้คนพวกนี้ ไม่น่าทำเกินกว่าเหตุ เพราะคนพวกก็อดอามี่นี่สมควรให้มีเยอะ ๆ ในแผ่นดิน ***การที่ฝ่ายค้านมีประเด็นซักถามพล.ท.พิศาลจะมาวิจารณ์ไม่ได้** ทำไมจะวิจารณ์ไม่ได้ล่ะท่าน นัทตี้วิจารณ์นี่ท่านจะออกโรงมาโต้ตอบหรือเปล่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า ถ้าเปล่านัทตี้จะปิดทวารให้หมด ให้ท่านพูดคนเดียว ให้คนเชื่อตามที่ท่านพูด ท่านทำชาติฉิบหายก็ต้องไม่บ่นไม่ว่า แต่มันน่าแปลกนะที่เวลาท่านผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทำชาติฉิบหายแล้ว ท่านก็ไม่ได้อยู่ฉิบหายไปกับพวกเราประชาชนคนไทยด้วย แต่เวลาที่เมืองไทยดีขึ้นพวกท่านก็ยังหน้าด้านกลับมาลอยหน้าลอยตาอย่างไม่สะทกสะท้านมีเกียรติในสังคมได้อีกครั้ง คนไทยใจดีก็เป็นแบบนี้แหละ ให้อภัยได้เสมอ แล้วปลงได้เก่ง อนาถใจไทยแลนด์ และนัทตี้เข้าใจด้วยสมองนิ่ม ๆของตัวเองจริง ๆ นะ ว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน มียุงชุม โรคมาลาเลียจึงเป็นกันเยอะ ถึงท่านจะนอนห้องแอร์ก็เถอะ ***ฝ่ายการเมืองก็จะไปติดตามว่าคำสั่งที่ออกมาถูกต้องหรือไม่** ให้ติดตามเฉย ๆ หรือว่าสั่งให้ทำด้วย ถ้าไม่ทำตามก็ค้านแม่งหัวชนฝา มีเหตุผลหรือไม่ กรูก็จะค้านเพราะกรูเป็นฝ่ายค้าน งั้นจะมีรัฐบาลทำไมล่ะท่าน ท่านนายกทักษิณฯ ออกเถอะอย่าเป็นนายกเลย ปวดหัวเปล่า ๆ เหมือนกับท่านพยายามพายเรือ แล้วอีกคนแทนที่จะช่วยกันพายกลับนั่งเอาตะปูมาเจาะให้รั่วเสียนี่ อยู่ไปก็เซ็ง เขาไม่ได้แค่เอาเท้าราน้ำนะ แต่เล่นเจาะตะปูเลย ยกเรือให้เขาไปเถอะ จากคุณ : นัทตี้ - [ 2 พ.ค. 47 13:00:27 A:62.167.104.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ***เป็นชนวนที่จุดแทบไม่ติดอยู่แล้ว เพิ่งมาจุดติดเมื่อ ๒ ปีกว่าที่ผ่านมา*** โอ้โห เพิ่งรู้นะนี่ว่านายกทักษิณฯ นี่เป็นเบนซิน เราสงสัยในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง แล้วในสมัยที่ท่านเป็นนายกฯ นี่ท่านคิดว่าทางใต้นี่สงบหรือ ?ท่านทำดีแล้วหรือ ?หันมองสิ่งที่ท่านทำผ่านมาหน่อยเป็นไร ? ยอดเยี่ยมมากเลยใช่ไหม? ***ปัญหาใหญ่ที่จะต้องแก้ไขคือยาเสพติด และความยากจนนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทบทวนระหว่างสิ่งที่เป็นจริง กับสิ่งที่ต้องการให้เป็น*** โถ นี่เป็นความคิดที่ท่านเพิ่งคิดได้ใช่ไหม ท่านชวน ? นัทตี้จะบอกให้นะว่าท่านนี่ล้าหลังมาก แม้แต่เด็กเตรียมอนุบาลยังรู้เลย ไอ้ที่ยิงกันปุ ปุ และยึดทรัพย์สินเข้าหลวงนั้น ไม่ใช่เรื่องยาเสพติดเหรอ นั่นเป็นความคิดของทักษิณเขานะท่าน ขอลิขสิทธ์กันหรือยัง ถ้าก็อปปี้เขามานี่กลับไปเป็นหุ่นไล่กาตามเดิมดีกว่า เคยดูไหมที่มีไอ้ห้อย กับไอ้โหนน่ะ แล้วเพลงนี้นัทตี้ยังจำได้เขารัองว่า "ตัวฉันเป็นเพียงหุ่นไล่กา มีหญ้ามีฟางเป็นร่างกาย ไม่มีสมองที่จะคิด ไม่มีชีวิตเช่นใคร ๆ "เพลงเพราะนะน่าจะหามาฟังบ้าง เรื่องความยากจน ก่อนหน้านั้นคนไทยส่วนมากก็จนอยู่แล้ว สมัยใหม่นี้เขาใช้คำว่า "รากหญ้า" นัทตี้ว่าการที่รัฐบาลให้ทุนเด็กยากจนได้เรียนหนังสือนั้น เป็นการแก้ปัญหาความยากจนขั้นหนึ่ง เด็กรุ่นใหม่เขาจะมีการศึกษา การศึกษานี่แหละจะทำให้เขาพ้นความยากจน และเข้าใจชีวิตมากขึ้นว่าคนเราเกิดมาไม่ใช่แต่สมสู่หรือสืบพันธ์และไม่รับผิดชอบเท่านั้น ไอ้ประเภทนั้นเกิดจากดินก็ยิ่งจมดิน ลืมตาอ้าปากไม่ขึ้น แต่คอยดูเด็กรุ่นใหม่สักหน่อยเป็นไร อีกสิบปีข้างหน้ารอหน่อยนะแล้วเรามาดูกัน การหาที่ทำกินให้ หรือแม้แต่นโยบายที่ใคร ๆ ว่าฝันเฟื่องของนายก ฯ นั้น ขอให้ท่านลองตริตรองดูว่ามันไม่ได้ใช้เวลาแค่ปีเดียว มันต้องใช้เวลานานพอสมควร อย่าเพิ่งตัดสินว่าฝันเฟื่อง และคอยขัดขาให้หกล้ม เราต้องให้โอกาสซึ่งกันและกัน นัทตี้คอยดูอยู่เหมือนกัน ใจเย็น ๆ รอก่อน จากคุณ : นัทตี้ - [ 2 พ.ค. 47 13:29:09 A:62.167.104.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เอ้อ ด้วยความเคารพนะครับ จั่วหัวขึ้นต้นว่า สามารถให้วิจารณ์ได้แบบตรงไปตรงมา เปิดอกคุยกันได้ (วิจารณ์คำวิจารณ์ หรือวิจารณ์บทสัมภาษณ์?) พออ่านลงมาเรื่อยๆ ก็เกรงว่าจะไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิครับ แต่เอาเถอะ ขอเวลาสักครู่ ผมจะเขียนงานเชิงวิเคราะห์ เกี่ยวกับเหตุการณ์เรื่องนี้อย่างเป็นระบบ ดีเหมือนกันผูกมัดตัวเองซะหน่อย จะได้หายขี้เกียจมั่ง ^^" จากคุณ : bucky_m - [ 2 พ.ค. 47 13:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 วิจารณ์บทสัมภาษณ์ค่ะว่าคิดกันว่าอย่างไรบ้าง เพราะนัทตี้เจือกอยากรู้ว่านัทตี้คิดผิดหรือเปล่า จะได้ไว้ปรับปรุงความคิด ของตัวเองใหม่ เพราะนัทตี้อยู่ไกลแค่อ่านในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐที่สัมภาษณ์มา นัทตี้เกิดความรู้สึกเลือดมันร้อนขึ้นมาเฉย ๆ เลยในคำสัมภาษณ์ เลยอยากเล่าความคิดของนัทตี้เองออกมาเป็นตัวอักษรเท่านั้นค่ะ บ้าประชาธิปไตย อิสระเสรี และยุติธรรมมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : นัทตี้ - [ 2 พ.ค. 47 14:26:25 A:62.167.104.72 X: ]

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่มีอะไรหรอก น้าชวนแกอมมีดโกนไว้ในปาก บาดคนอื่นด้วย บาดตัวเองด้วย เรื่องปกติ เพราะไม่ได้ใส่สมองไว้ในกระโหลก :-/ จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง - [ 2 พ.ค. 47 15:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ลองอ่านดูนะครับ ^^" http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2794551/W2794551.html จากคุณ : bucky_m - [ 2 พ.ค. 47 15:52:09 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าวิจารณ์บทสัมภาษณ์ก็ ... ไม่ว่า ณ เวลานั้น จะมีความจำเป็น เหมาะสม ยังไงก็ตาม แต่ ผลกระทบจากการยิงถล่มมัสยิดกรือเซะ เป็นสิ่งที่จะต้องตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจเป็นเพราะเข้าใจปัญหานี้ดี ถึงได้มีการสั่งย้ายท่านพัลลภออกนอกพื้นที่ การที่จุฬาราชมนตรีออกมาพูดเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างที่สุดแล้ว แต่ ถ้าลองมองให้ลึกๆ ก็จะเห็นว่า การที่ต้องรีบเชิญจุฬาราชมนตรีออกมาพูดแสดงความคิดเห็น (ในแง่บวก) ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ และซ้ำอีกหลายรอบในภาพข่าวประจำวัน ย่อมแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความรู้สึกของชาวมุสลิมในกรณี ที่ทหารไปยิงถล่มมัสยิดกรือเซะอย่างมาก ถ้าใครรู้จัก ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ บต) ที่ท่านนายกยุบทิ้งไป ด้วยเหตุผลที่ว่า สถานการณ์ในเขตชายแดนภาคใต้ของเราสงบแล้ว จะไม่แปลกใจเลยที่เกิดเหตุรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก  แม้ท่านนายกจะไม่ใช่น้ำมันเบนซินที่ไปจุดชนวน แต่ก็อาจเรียกได้ว่า เป็นคนสั่งย้ายยามที่เฝ้าพื้นที่อยู่ออกไป เปิดโอกาสให้คนถือน้ำมันเบนซินมาราดแล้วจุดไฟเผาได้อย่างสบายๆ อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งโทษกันไป โทษกันมา แต่เป็นเวลาที่ควรจะมาช่วยกันแก้ไขปัญหามากกว่า ปัญหาความขัดแย้งในภาคใต้ ไม่ได้เริ่มนับหนึ่งตอนเกิดเหตุปล้นปืนเมื่อต้นปีอย่างที่สื่อต่างๆ ชอบสรุปกัน แต่ มันเป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้ว การแก้ปัญหา ต้องอาศัยความเข้าใจ และความสามัคคีของทุกคนในชาติ ขณะนี้ มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม จงใจสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ประเทศที่คนในชาติขัดแย้งกันเอง ก็ไม่ต่างจาก กำแพงบ้านที่มีช่องโหว่ เปิดโอกาสให้โจรชั่วสามารถลักลอบเข้ามาทำอันตรายคนในบ้านได้ ความขัดแย้งระหว่างคนในชาติ และระหว่างศาสนา  เป็นสิ่งที่ผู้ไม่หวังดีต้องการ ความเข้าใจ และ ความสามัคคี เท่านั้น ที่จะนำพาพวกเราผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ จากคุณ : แม่มดพันปี - [ 2 พ.ค. 47 18:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เคยฟังคุณชวนให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์นะคะ น้ำเสียงไม่ได้ออกมาดังที่ปรากฏเป็นข่าวกับไทยรัฐนะคะ เท่าที่ bookmark ได้ติดตามดู (เป็นไปได้ว่า ติดตามไม่ต่อเนื่องเช่นกัน) อืมม อันนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ กับหนังสือพิมพ์สีเขียวๆนั่น ตัวเองอ่านแล้วต้องกรองเยอะเลยค่ะ สังเกตมาหลายครั้งแล้ว อย่างครั้งหนึ่งตอนที่อภิปรายในสภา ฝ่ายค้านพูดด้วยโทนเสียงอย่างหนึ่ง หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นล่ะออกมาพิมพ์ด้วยโทนเสียงอีกอย่าง คือถ้าเชื่อทุกอักษรก็จะโดนชี้นำความคิดไปเลย ในกรณีของคุณชวนนั้น ส่วนตัวแล้วก็ยังเชื่อมั่นในตัวท่านอยู่ค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น มีอะไรมากมายซ่อนอยู่ระหว่างคำพูด ระหว่างบันทัด ความรู้สึกของคนสองฝ่าย บรรทัดฐานของสังคม/ประชาคมโลก   ดีใจที่คุณนัตตี้เป็นห่วงเป็นใยเหตุการณ์ในเมืองไทยนะคะ จากคุณ : bookmark - [ 2 พ.ค. 47 20:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านแล้วผมอยากจะบอกว่าผมรักคุณนัทตี้จังเลย รักจากใจ รักที่จากใจบริสุทธิ์ โอ แน่นอน ผมไม่ทรยศต่อความรู้สึกของตนเองหรอกครับ รักในความกล้าแสดงออก กล้าพิมพ์ กล้าคิด ชอบครับ รักที่สุดเลย แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 47 21:35:39 จากคุณ : GTW - [ 2 พ.ค. 47 21:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ใจ ... จากคุณ : นายละเมอ - [ 3 พ.ค. 47 00:16:31 A:203.113.71.108 X:203.150.209.231 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จารย์จีแจกกหนมจีบเหรอคับ หุหุ (ล้อเล่น^^) จากคุณ : ณัฐกร - [ 3 พ.ค. 47 01:33:52 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งั้นผมไม่เกรงใจป้านัทตี้นะครับ ***เป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ*** อันนี้ต้องไปหาอ่านจากเวปผู้จัดการออนไลน์นะครับ ที่คุณสนธิวิพากย์เอาไว้ แสปถึงทรวงทีเดียว แล้วจะเข้าใจครับว่าแค่คำคำนี้นั้นกินลึก มากกกกกกกกกกก.  โดยความหมายที่ปรากฎนั้นมันอาจจะหมายถึงการด่าแบบตื้นๆครับ แต่ถ้ามองถึงนัยยะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยรวมแล้วจะพบว่าเป็นคำพูดที่ส่อความหมายได้เป็นอย่างดีทีเดียว ย้ำนะครับ ต้องดูเหตุการณ์โดยตลอด เท่าที่ผมจับความได้นะ จากที่สนธิวิพากย์เอาไว้ก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นวางแผนเอาไว้ก่อนแล้วอย่างเป็นระบบและแยบคาย คือลงมือในพื้นที่ชุมชนแต่เลือกลงมือในเวลาที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทัน(ตี 5 ไม่ใช่ตี 1 ไม่สามารถอาศัยความมืดหลบหนีไปได้หนึ่งและ และยังลงมือในพื้นที่ชุมชนที่ยากต่อการหลบหนี) นั่นหมายถึงคนวางแผนเจตนาให้พวกฉี่ม่วงเข้าไปหลบในมัสยิดกรือเซะ และเราต้องมองไปถึงนัยยะของมัสยิดกรือเซะต่อชาวมุสลิมที่นั่นด้วย(มันก็เหมือนวัดพระแก้วของเรานั่นแหละ)เราจะเข้าใจทีเดียวว่าทำไมถึงรุนแรงเกินกว่าเหตุและทำไมต้องรีบย้ายด่วนขึ้นมา ตามมาด้วยพรอพพากานดาจากท่านจุฬาราชมนตรี ทั้งนี้และทั้งนั้นเราต้องเข้าใจถึงสภาพจิตใจของเจ้าหน้าที่ที่ถูกกดดันมาตลอด 4 เดือนด้วยจะเข้าใจได้ว่าทำไมเหตุการณ์มันถึงออกมาในรูปแบบนี้ อ่านจากเวปผู้จัดการออนไลน์น่ะครับ ดีที่สุด หัวเขียวนี่ก็น่าจะรู้:-)กันอยู่ อาจารย์ผมยังไม่แนะนำให้อ่านเลย ***การที่ฝ่ายค้านมีประเด็นซักถามพล.ท.พิศาลจะมาวิจารณ์ไม่ได้** มองในอีกแง่นะป้า ถ้าตามหลักการประชาธิปไตยแล้ว อำนาจการเมืองถ้าอยู่เหนืออำนาจทางทหารจะแสดงให้เห็นว่าการเมืองของรัฐมั่นคงนะครับ ลองมองในประเด็นนี้แบบย้อนศรไปดูสิครับ แล้วมองไปถึงประเทศที่การเมืองเข้มแข็งและทหารอยู่ในคำสั่งฝ่ายการเมืองตลอดอย่างสหรัฐ ทหารเค้าจะมานั่งวิจารณ์คำถามของนักการเมืองต่องานที่เค้าปฏิบัติหรือจะตอบคำถามอย่างเดียว? ส่วนป้านั้นเป็นประชาชนธรรมดาไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการนั้นย่อมมีสิทธิ์วิพากย์ได้อย่างเต็มที่ สถานะภาพแตกต่างกันมากนะครับ ***ฝ่ายการเมืองก็จะไปติดตามว่าคำสั่งที่ออกมาถูกต้องหรือไม่** อันนี้ก็หน้าที่ของฝ่ายค้านที่สมควรปฏิบัติอยู่แล้ว ถ้าเค้าไม่ทำสิน่าจะไปด่าเค้านะ  ถ้าป้าจะเอาน้ำแข็งประคบเส้นเลือดลงหน่อยป้าจะพบว่าต่อให้ฝ่ายค้านค้านแมร่งทุกเรื่องก็ไม่มีอะไรมากระทบการทำงานของทักษิณได้เลยซักเรื่องนึง และก็รู้ๆอยู่แล้วว่า ปชป เป็นฝ่ายค้านที่แน่นอนที่สุดของการเมืองไทย(ค้านแมร่งทุกเรื่องจริงๆนั่นแหละ) ถ้าวันไหนที่ ทักษิณเป็นายกแล้วจับมือกับ ปชป วันนั้นเตรียมบอกลาประเทศไทยได้เลยครับ ดีแล้วที่มันเป็นแบบนี้ ***เป็นชนวนที่จุดแทบไม่ติดอยู่แล้ว เพิ่งมาจุดติดเมื่อ ๒ ปีกว่าที่ผ่านมา*** อันนี้ก็อย่างที่คุณแม่มดพันปีบอกไปนั่นแหละครับ มันว่าด้วยเรื่องการยุบ ศอ.บต. เป็นหลักเลย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการท้วงติงกันนานแล้วว่าไม่ควรยุบ เพราะการยุบแบบกระทันหันจะเปิดช่องว่างขึ้นเนื่องจากทหารกะตำรวจเคยคานอำนาจกันในพื้นที่นั้นมาก่อน อยู่ดีๆคุณเอาออกไปอันนึง ฐานอำนาจมันโหว่ มันเปิดช่อง และป้าก็น่าจะรู้ว่าตำรวจไทยเป็นยังไง ยิ่งถ้าเทียบทางด้านการข่าวด้วยแล้วเห็นได้อย่างชัดเจนเลยนะครับ ส่วนสาเหตุที่ทักษิณต้องยุบนั้นก็มีและเป็นเหตุอันสมควร แต่ที่น่าด่าก็คือเห็นกันอยู่แล้วว่าผลตามมาจะเป็นยังไงทำไมถึงไม่หาอะไรไปอุด (ชัดๆก็คือเรื่องการข่าวที่แทบจะสูญไปเลย ทหารลงไปใช้เวลา 4 เดือนเท่านั้นก็จัดสายการข่าวขึ้นใหม่ทันพอการข่าวเข้ารูปเข้าลอยผลก็อย่างที่เห็น) ***ปัญหาใหญ่ที่จะต้องแก้ไขคือยาเสพติด และความยากจนนั้น เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทบทวนระหว่างสิ่งที่เป็นจริง กับสิ่งที่ต้องการให้เป็น*** ปัญหาเรื่องยาเสพย์ติดนั้น ถ้าถือตามคติฝรั่งที่ท่านจักรภพ เพ็ญแข เคยพูดก่อนเป็นโฆษกรัฐบาล Nothing success more than succeed (สะกดถูกป่าวไม่รู้แกก็ดันพูดภาษาปะกิดซะด้วย แต่ถ้าจะให้แปลผมก็ไม่รู้จะแปลยังไงเหมือนกัน) ก็ต้องถือว่าทักษิณทำสำเร็จครับ และถ้าป้าเชื่อว่า "พ่อค้ายาค่าตัดตอนกันเอง" ทั้ง1000 กว่าศพนั้น ผมก็คงไม่มีอะไรจะอธิบายว่าทำไมต้องทบทวนระหว่างสิ่งที่เป็นจริง กับสิ่งที่ต้องการให้เป็น (ป้าอย่าลืมว่านายชวนนั้นอมมีดโกนอยู่นะครับ ปากแผลไม่กว้างครับ แต่ปวดครับ) ส่วนปัญหาความยากจนนั้นผมขอกระแดะหน่อยละกันครับ มัน "Fake" ทั้งคู่แหละครับ ทั้งชวนและทักษิณ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ 3 พ.ค. 47 02:26:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ Bucky  เราตามไปอ่านของคุณแล้วนะ แต่ยังไม่เค่อยเข้าใจเท่าไหร่เรื่องชายขอบกะในขอบเนี่ยแหละ จะให้ภาษาชาวบ้านหน่อยก็ไม่ได้ ป้ามันแก่แล้ว แต่เดี๋ยวจะไปอ่านดูเพื่อทำความเข้าใจอีกรอบ คุณแมวเหมียวพุงป่อง อ๋อสมัยนี้เขาเรียกว่ามีมีดโกนในปาก ไม่ใช่ปากยังกับกรรไกร เหมือนสมัยก่อนแล้ว เฮ้อตามโลกไม่ทัน แต่เข้าใจที่คุณเขียนมา ขอบคุณมาก คุณแม่มดพันปี ขอบคุณค่ะที่เขียนมาเล่าเรื่อง ศอ.บต อะไรนี่ให้ฟัง ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเหมือนกัน และแน่นอนที่สุดคือความเข้าใจและสามัคคี ถูกต้องค่ะ เห็นด้วย คุณbookmark  ขอบคุณเช่นกันค่ะ ที่ช่วยเขียนเล่ามาให้ฟัง ที่บ้านมีจานรับดาวเทียมช่องไทยได้ แต่น่าเสียดายที่มีแต่บ้า ๆ บอ ๆ ไร้สาระ เลยไม่ได้ดู วันเสาร์จะมีทักษิณพบประชาชน แต่ก็ไม่ได้ดู เพราะมันดึกเกินไปต้องพาลูกเข้านอน รายการที่รับได้จากเมืองไทยห่วยมาก ยังเสียดายเงินติดตั้งอุปกรณ์ดาวเทียมอยู่ไม่หายเลย คุณ GTW ขอบคุณที่อาจารย์ชมว่ากล้า มันคงเป็นเพราะเราอยู่ไกลด้วยมั้ง เราก็ออกความเห็นเท่าที่เราอ่านหนังสือพิมพ์ไทยรัฐนั่นแหละ มีความรู้สึกว่ามันร้อนขึ้นมาก็เลยเขียนไปตามความรู้สึกประสาชาวบ้าน โดยที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของเขาเท่าไหร่ แต่ข้อความที่ลงนั้นมันก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ในการให้ข่าวนะ เราว่าคนเรียงข้อความนั้นน่าจะปรับปรุงการใช้คำเสียใหม่ ไม่ใช่คิดแต่ว่าเขียนห้วน ๆ สั้น ๆ ซึ่งอาจทำให้ไขว้เขวกันได้ ที่อ่านไทยรัฐเพราะมันใกล้กับพันทิพย์พอดี และเป็นหนังสือพิมพ์ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศไทยไม่ใช่เหรอ เรารักเมืองไทยนะอาจารย์ ไม่งั้นเราจะเขียนทำไม ที่เขียนขึ้นมาขาข้างหนึ่งก็ตะราง เราไม่ได้คิดตรงนั้น เพียงแต่เป็นอารมณ์อะไรสักอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ เราไม่อยากให้มีเหตุการณ์เข้าใจผิดกัน และ เราก็ไม่ชอบคำว่าแบ่งแยกดินแดน ใครที่มันทุจริตคิดร้ายก็ขอให้ฉิบหาย เราคิดแค่นี้แหละจริง ๆ จากคุณ : นัทตี้ - [ 3 พ.ค. 47 07:28:51 A:62.167.85.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ช่วงนี้มีแต่เรื่องหนักๆแฮะ..... (นู๋ตามข่าวสารทันแล้วนะ..) จากคุณ : ^.^ (ลันลา) - [ 3 พ.ค. 47 07:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ นายละเมอ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ และคำว่า ได้ใจ นี่หมายถึงใครล่ะที่ได้ใจ และจากใคร คุณ ณัฐกร อาจารย์เขาสุภาพจะตาย ไม่กล้าจีบหรอก เราก็แค่เด็กอนุบาล  อาจารย์ก็เป็นเหมือนผู้ปกครองที่ไปส่งที่โรงเรียนน่ะ เข้าใจไหม (ขอดุหน่อยนะ) ฮิ ๆ คุณเดินดินกินข้าวแกง ขอบคุณมากที่เขียนให้รับรู้และละเอียดดีมาก ถือว่าได้รับความรู้เรื่องต่าง ๆ จากคุณไปด้วย ภาษาปะกิตไม่ต้องแปลหรอก ถึงจะสะกดผิด แต่ก็ยังอ่านออก  และมันก็เข้าใจได้ทันที ป้าไม่ได้บอกว่าที่ ปุ ปุกันนั้นเป็นการฆ่าตัดตอน แต่ป้าเชื่อว่าทักษิณเขาทำได้ และยึดทรัพย์เข้าหลวง  และถือว่าทำสำเร็จได้ขั้นหนึ่ง ป้าถึงได้บอกตอนท้ายไงว่าต้องให้โอกาสกับเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าคอยปัดแข้งขาเขา ให้ใจเย็นรอดูเขาต่อไป มันต้องใช้เวลานะเพราะมันเน่ามานานเหลือเกิน ส่วนเรื่องการเมืองเหนือทหาร หรือทหารเหนือกว่าการเมืองนั้น ถ้าในความคิดของป้านะ ว่ามันคงแทบแยกกันไม่ออก ดูกันแทบไม่ออกจริง ๆ บางทีถ้าเราคิดว่าจะเอาอย่างสหรัฐนั้นมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเราเท่าใดนัก เพราะสหรัฐนั้นชอบโชว์อำนาจแสดงแสนยานุภาพให้ชาวโลกดู และเป็นประเภทรักหน้า จะไม่ยอมเสียหน้าให้แม้กระทั่งสิวสักเม็ด แต่ในประเทศตัวเองนั้นก็เน่า ตอนสงครามอิรัคที่ตามจับนายซัดดัม หลังจากนั้นได้มีจดหมายมาทางสวิส ฯ เยอรมัน ประเทศใหญ่ ๆ ในแถบยุโรป โดยจดหมายนั้นเป็นการขอร้องแบบขืนใจว่าต้องช่วยเรื่องเงินค่าสงครามนี้ให้กับสหรัฐ ถามหน่อยว่า ใครเป็นตัวตั้งตัวตี ไม่ใช่ประธานาธิบดีบ้า ๆ ของสหรัฐเหรอ เพราะเก้าอี้ผู้นำประเทศไง หน้าของกรู กรูต้องรักษาให้ถึงที่สุด ใครจะฉิบหายก็ช่างมัน แล้วมันเดือดร้อนกันไปทั่วโลก เพนตากอนก็ยอมไปด้วยเพราะโดนถล่มเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่ชาวโลกเขาร่วมชุมนุมต่อต้านกันจะตาย ไอ้บ้านั่นก็ยังบ้าเลือดอยู่ คำพูดคำเดียวออกจากปากเขา พาคนไปตายกันเท่าไหร่ และปิดข่าวด้วย เอานะเราอยู่วงนอกดีกว่า เรื่องของสหรัฐไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ดีที่สุดคือเรารักแผ่นดินเราให้มาก ๆ จะดีกว่านะ ใช่ไหม จากคุณ : นัทตี้ - [ 3 พ.ค. 47 08:11:42 A:62.167.85.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 16 คุณลันลา อ้าวตามข่าวทันแล้วหรือจ๊ะ คิดว่ามัวแต่นั่งร้องเพลงอยู่ แต่ป้าสิแย่ว่าเขาอิเหนาเป็นเอง เห็นไหม ป้ากลับช้าไปกว่าคนอื่นเขาเสียอีก เพราะไอ้หัวเขียวแท้ ๆ เชียว(วันนี้ขอแหลเป็นป้าหน่อยนะ) จากคุณ : นัทตี้ - [ 3 พ.ค. 47 08:14:39 A:62.167.85.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 17 วันนี้นัทตี้มีข่าวดีจะบอก วันนี้มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ใหญ่จริง ๆ (ท่านบอกเอง) ท่านมานั่งจีบโต้ตอบกับนัทตี้อยู่ตั้งนานสองนาน ท่านจะให้นัทตี้ไปเป็นปากให้กับทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล โดยมีหน้าที่อมไมค์  ออกความเห็นมาสิว่า จะให้นัทตี้ไปอมไมค์ดี หรืออยู่ด่าชาวบ้านต่อไปในพันทิพย์ดี จากคุณ : นัทตี้ - [ 3 พ.ค. 47 08:28:05 A:62.167.85.12 X: ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในทางหนึ่งก็ดีนะคะที่พี่ออกมาแสดงความเห็นแบบนี้ ทำให้มีคนเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มขึ้น อยากให้หาข้อมูลเยอะๆ ก่อนค่ะ เอาเฉพาะสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความจริงก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่า เอาล่ะ ฉันจะเชื่ออย่างนี้ ดีใจที่เห็นพี่รับข้อมูลใหม่ไปพิจารณาค่ะ ไม่ได้ฟังพวกนักวิเคราะห์ข่าววิเคราะห์เหตุการณ์นี้ทุกคนนะคะ แต่ว่าได้ฟังของคุณสนธิ ทางช่อง 9ก่อน (หลังจากนั้นเจอข้อมูลเดียวกันจากรายการสารคดี ช่องไอทีวี เป็นการยืนยันทางหนึ่งได้ว่าเป็นข้อมูลจริง) ตอนที่ฟังรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่คุณสนธิพูดนั้น บอกตรงๆ ว่าได้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มขึ้นเยอะเลย ไม่ได้เชื่อตามความคิดเห็นของคุณสนธิค่ะ แต่รับข้อมูลไปพิจารณา (จริงๆ ไม่ชอบคุณคนนี้บางส่วนตรงที่เธอโปรนายกฯคนปัจจุบันมาก แต่ข้อดีอย่างนึงก็คือเขายอมรับว่าเขาก็ชอบนายกคนนี้) ถ้าพี่นัทตี้อยากฟัง ลองเข้าไปหาดูที่ www.mcot.net นะคะ ดูเหมือนเขาให้ฟังรายการย้อนหลังได้ด้วย ย้ำอีกที ให้ไปฟังเอาข้อมูลเพิ่มขึ้นค่ะ แล้วพี่ค่อยตัดสินใจเองอีกที จากคุณ : scottie - [ 3 พ.ค. 47 10:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอากระทู้นี้มาฝากนะคะคุณนัทตี้ เพิ่งรู้ว่ามีเรื่องอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน แหะๆ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I2794902/I2794902.html ( ในกระทู้เขาจะมีลิงก์ให้ตามไปดูภาพตัดต่อค่ะ ) จากคุณ : โคอาร่า - [ 3 พ.ค. 47 10:47:05 A:203.156.29.138 X: ]

ความคิดเห็นที่ 20                                           จากคุณ : [:-Ancharee-:] - [ 3 พ.ค. 47 13:54:39 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ สก็อตตี้ ก็ที่พี่เขียนออกมาเพราะไม่รู้เรื่องจริง ๆ และเพราะไม่แน่ใจและเชื่อใคร เพราะเห็นตัวอย่างจากการออกข่าวที่แพร่ภาพทางทีวีและหนังสือพิมพ์ทางนี้ มันเป็นลักษณะออกมาเหมือนกับ ผู้ใหญ่รังแกเด็ก มากกว่า ซึ่งถ้าอ่านในเน็ตบ้านเรา มันไปกันไม่ได้เลยนะ พี่เขียนออกตัวไว้ในตอนท้ายย่อหน้าสามย่อหลังในกระทู้ว่า"เอาลงมาให้คิดกันเล่น ในฐานะคนไทย ที่ไม่รู้ว่านายชวนพูดแบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า หรือว่านักข่าวสัมภาษณ์แล้วฟังเพี้ยนไป" ย่อหน้าสอง"ถึงแม้ว่าคนพูดจะอยู่ฝ่ายค้าน แต่ขอให้คิดสักนิดว่าที่พูดออกมานั้น ไม่ใช่แค่อุดมการณ์ คือเป็นฝ่ายค้านต้องค้านตลอด ควรมองรอบ ๆ ตัวบ้างว่าอยู่ในสถานการณ์เช่นไร" ย่อหน้าสาม"นัทตี้เป็นคนไทย ถึงไม่ได้อยู่ในไทย แต่ไม่อยากให้ชาติล่มจมเพี่ยงแค่คำพูดพล่อย ๆ ของท่าน  ถ้าในบทที่ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นั้นเป็นเรื่องจริง นัทตี้ถึงอยากเป็นกระจกเงาให้ท่านที่พูดนี้เห็นว่า "ควรหรือไม่ควร" ในแผ่นความคิดเห็นที่ 1 ตอนเริ่มเลยเขียนว่า "และจะขอวิจารณ์ตามความคิดของนัทตี้เอง" เรื่องทีพี่เขียนขึ้นเรื่องนี้เขียนออกมาจากใจ ไม่มีการเขียนลงกระดาษ แต่พี่ก็อปปี้ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐลงไว้มาลงไว้ทั้งดุ้นและพิมพ์สด ๆ ในนี้เช่นกัน มันเป็นอะไรที่พี่ไม่เคยทำได้ แต่พี่ก็ได้ทำไปแล้วเมื่อวานนี้มันเป็นแรงผลักดันที่เกิดขึ้นอย่างที่พี่ไม่รู้ตัวเหมือนกัน มันมีความโมโหที่จี๊ดขึ้นมาที่สมองและใจ ในข้อความที่ลงหนังสือพิมพ์นั้นมันน่าจะเชื่อถือได้ เพราะอย่างน้อยหนังสือพิมพ์เป็นสื่ออย่างหนึ่งที่คนอ่านและของยี่ห้อนี้เขาคุยว่ามีคนอ่านมากที่สุดในประเทศ และอีกอย่างคือ ถ้านายชวนออกมาให้สัมภาษณ์แบบนั้นเรียกว่าใช้ไม่ได้ ยามที่กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานกัน มันจะทำให้ยิ่งแย่ลงไปอีก พี่คิดของพี่นะ แต่อย่างไรพี่ชอบมากที่ทุกคนบอกความเห็นกันมา เพราะตัวเองนั้นเหมือนคนหูหนวกตาบอด ข่าวทางนี้ลงวันเดียวและไม่มีการเดินเรื่องต่อให้เราได้ดูได้ตาม คุณสนธิอะไรที่แนะนำมานั้นพี่จะเข้าไปดู ถ้าเข้าได้ เพราะเรื่องคอมฯนั้นพี่ไม่ได้ช่ำชองเลย แต่พี่ก็ขอบคุณอีกครั้งที่เอาเรื่องราวมาวิจารณ์ ชี้แจงให้เห็นให้ฟังให้รู้บ้าง ถ้าประท้วงได้ก็อยาก่จะบอกให้ทางเมืองไทยที่ส่งดาวเทียมออกต่างประเทศให้หาเรื่องราวที่น่าสนใจมาให้คนทางนี้ได้ชมบ้าง ไม่ใช่มีแต่ซีอุย เกมส์โชว์ ตลกบ้า ๆ บอ ๆ   มวยไทยก็โอเค ลิเกก็ไม่ต้อง รายการบ้านเด็กก็โอเคให้มีได้ เปิดไปทีไรเจอพระทุกทีมานั่งปุชฉา วิสัชนากัน พี่เป็นคนพุทธ โอเคพี่เข้าใจ แต่จะได้อะไรขึ้นมาถ้ามีพระมาออกโทรทัศน์แล้วคนไม่ฟัง คนเราจะชั่วดีนั้นอยู่ที่ตัวของตัวเองว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร มีสติแค่ไหน พี่ไม่ได้เข้าวัดประจำ สวดมนต์ก็ไม่สวด พี่ก็ทำตัวเหมือนคนทั่วไป มีสติบ้างไม่มีสติบ้าง มีรัก มีชัง มีให้มีรับ มีคิด ปลงได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่ได้อยากไปนิพพาน พอใจชีวิตที่ตัวเองมีอยู่ พี่ว่าอาจไร้สาระไปบ้างนะแต่นี่คือเรื่องจริงเลย มันน่าเบื่อหน่ายไม่ได้ประเทืองปัญญาและน่าสนใจแม้แต่น้อย มีรายการเพลงไทยที่เชิญคนดังในสังคมมาร้องกัน อย่างนี้ไม่ต้อง คนไทยทางนี้จะเป็นควายกันหมดแล้วถ้ามัวแต่ดูช่องไทยนี้อยู่ ทักษิณพบประชาชนมีก็ในเวลาที่เขาเอาลูกเข้านอนกัน ปัญหากฏหมายนี้ก็ไม่ต้อง ดูดวงก็ไม่เอา พี่ตั้งดาวเทียมไว้หมดเงินไปประมาณสามหมืนบาทไทย หลายปีมาแล้ว จนป่านนี้พี่ไม่ได้เปิดดูเป็นปีแล้ว เพราะเซ็ง ซีอุย จากคุณ : นัทตี้ - [ 3 พ.ค. 47 14:41:35 A:62.167.63.139 X: ]

ความคิดเห็นที่ 22 คุณโคอาร่า ขอบคุณค่ะ ลองกดไปที่ลิงค์ที่ทำขึ้นมา ทำไมเข้าไปไม่ได้เลย แต่เดี๋ยวพี่จะลองเข้าไปดูเอง แล้วจะบอกผลมาให้ทราบว่าเข้าได้หรือไม่ได้นะ คุณAncharee ขอบคุณค่ะสำหรับไอติมแท่ง กำลังคอแห้งพอดี ให้หมดเลยใช่ไหม จากคุณ : นัทตี้ - [ 3 พ.ค. 47 14:48:58 A:62.167.63.139 X: ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอตามลิงก์คุณโคอาร่าไปอ่านก่อนค่ะ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I2794902/I2794902.html พี่นัตตี้ ลองอ่านข้อมูลจากหลาย ๆ ที่ด้วยนะคะ จากหนังสือพิมพ์หัวเขียวฉบับเดียวไม่พอหรอกค่ะ มันก็เหมือนกับอ่าน Bildzeitung ของที่นี่ค่ะ ยิ่งซีเอ๋งเอ๋งหรือข่าวด้อยช์ก็ไม่แน่ว่าข้อมูลถูกต้องค่ะ หาอ่านหลาย ๆ ที่แล้วมารวบรวมวิเคราะห์ดูค่ะ ยังไงพี่ลองหาอ่านเล่มอื่น ๆ ที่มีคุณภาพอย่างของที่นี่พวก Frankfurter ตัวอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ http://www.manager.co.th/ จะเห็นว่าดีในแง่ที่เราสามารถแสดงความคิดเห็นเราลงไปด้วยได้ค่ะ หรือมติชน http://www.matichon.co.th/ หรือดูรายการทีวีได้ที่ http://www.mcot.net/mcot/ เห็นพี่เป็นคนหนึ่งที่เปิดใจ สามารถร่วมถกได้ มีแง่มุมมองต่าง ๆ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จักพี่ค่ะ แต่ถ้าพี่รับข้อมูลนั้น ๆ มาด้วยใจที่เป็นกลาง พยายามอย่าใช้อารมณ์ในการเขียน จะยิ่งดียิ่งขึ้นค่ะ จากคุณ : รสา รสา - [ 3 พ.ค. 47 16:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 พออ่านกระทู้แล้วก็ความเห็นทั้งหมดนะคะ... คิดว่า...การที่คุณชวนออกมาค้าน.. คือสิ่งที่ควรทำค่ะ.. หากคิดให้ดี..เหตุการณ์นี้ีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย.. และคิมคิดว่าชาวไทยมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและคัดค้าน หากไม่มีใครมาโต้หรือเบรคบ้าง.. ก็จะไม่มีใครพูดแทนชาวไทยอีกส่วนเลย.. ถามว่า..นั่นคือคำพูดที่เหมาะสมหรือไม่.. งานนี้ต้องมีการชี้แจง.. เพราะบางครั้ง..คำพูดเพียงสั้นๆ ก็เป็นชนวนของความขัดแย้งได้ เพื่อนชาวต่างชาติที่นี่..ได้อ่านข่าว..แล้วก็รีบมาบอกค่ะ.. คิมก็อึ้ง รีบหาข่าวมาอ่าน..พยายามอธิบายว่านั่นเป็นผู้ก่อการร้าย.. เขาถามประโยคหนึ่งว่า.. 'ประเทศเธอมีการตัดสินโทษแบบนี้หรือ?' ก็เลยได้แต่สั่นหัว..ไม่รู้จะพูดยังไง.. ต่อจากนี้..ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร.. รัฐบาล ฝ่ายค้าน ชาวไทยทุกคนก็ต้องช่วยกันต่อไป.. :) จากคุณ : คิมมี่ (*CriMy*) - [ 3 พ.ค. 47 21:53:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณรสา รสา พี่ขอขอบคุณอีกครั้งที่ทำลิงค์ให้สามารถเข้าไปอ่านได้ ก็อีกละนะ มันปนเปไปหมด แต่ก็ได้ความรู้เบี้องหน้าเบื้องหลังที่เขาวิจารณ์กัน ก็เรียกว่าช่วยให้หายโง่ได้ขึ้นเยอะทีเดียว คุณคิมมี่ นี่แหละที่ทำให้พี่สับสน เพราะทางนี้มีข่าวลงหนังสือพิมพ์แค่วันเดียว มีภาพในทีวีกลางคืนแค่สั้น ๆ วันต่อไปก็ไม่มีแล้ว และรูปกับการให้ข่าวในหนังสือพิมพ์ทางนี้นั้น เหมือนกับผู้ใหญ่รังแกเด็ก อย่างที่พี่พูดไปแล้ว ประชาชนทางนี้ก็ไม่ได้วิจารณ์อะไรมากดูเหมือนไม่สนใจด้วยซ้ำ นอกจากฝรั่งที่รู้จักดีกับพี่บางคนเขาก็ถามว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้พี่ก็ไปเมืองไทยไม่ได้แล้วสิ  ทำไมทำกันอย่างนั้น เหมือนกับว่าทางเราป่าเถื่อนแบบนี้แหละ พี่ไม่รู้จะตอบยังไงได้เหมือนกัน ได้แต่บอกเขาว่าไม่มีอะไรหรอก แค่นิดหน่อย ฉันไปได้ แต่บอกกันตรง ๆ ว่าคนที่นี่มีปัญหาการเกลียดชังชาวต่างชาติที่อพยพเข้ามาในสวิสฯ ตอนเกิดสงครามมียูโกฯ  ตุรกี อัลบาเนียน อิรัคอิหร่านและตอนนี้ยิ่งมีคนอัฟริกาเข้ามากันเต็ม เมื่อก่อนบ้านเมืองเขาอยู่กันสงบดี ไม่มียาเสพติด ไม่มีโจร แต่เดี๋ยวนี้มันร้อนไปทุกหย่อมหญ้า คนพวกนี้พี่ไม่อยากบอกว่าเขานับถือศาสนามุสลิมเช่นกัน (ขอโทษท่านที่นับถือศาสนามุสลิมในไทยมา ณ ที่นี้ เพราะว่าถึงเป็นมุสลิมเหมือนกัน แต่ความ่คิดอ่านไม่เหมือนกัน แล้วแต่ประเทศ ว่ามาจากไหน อย่างชาวอัฟริกาหรือชาวตุรกีก็มีความคิดไม่เหมือนกัน ชาวยูโกฯ หรือชาวอัลบาเนียก็แตกต่างจากบ้านเราสิ้นเชิงในเรื่องของความคิดและวัฒนธรรม)อาชญากรรมส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่า 95 เปอร์เซ็นต์มาจากคนอพยพเหล่านี้แหละ พวกอัฟริกาที่หนีเข้ามาจะฉีกกระดาษประวัติตัวเองทิ้งหมด เข้ามาเพื่อขายยาเสพติดโดยเฉพาะ คนที่นี่เขาถึงกับลงชื่อเรียกร้องรัฐบาลท้องถิ่นให้จัดการให้เด็ดขาด ที่นี่มีรายการหนึ่งคือ XY เป็นรายการที่ทำขึ้นมาโดยทางการตำรวจสืบสวนของเยอรมัน สวิสฯ ออสเตรีย ทำขึ้นมาร่วมกันในการช่วยกันคลี่คลายและตามหาอาชญากรที่ยังตามตัวไม่พบ มีทั้งฆาตกรรม ปล้น ข่มขืน ยาเสพติด ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต่างด้าวแทบทั้งสิ้น ยังดีนะที่พี่เป็นเอเซียและได้รับการพิสูจน์จากพวกเขาแล้วว่าเรา สะอาด ทุกเรื่อง อีกอย่างคือพ่อสามีเป็นนายด่านตรวจอยู่ทางเมืองนี้ด้วย เพื่อนบ้านที่ใกล้ ๆ กันเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจของเมืองนี้ เราสนิทกันและรู้จักกันมานานจั้งแต่สมัยที่พ่อสามียังทำงานอยู่ ยังดีใจที่แถวบ้านพี่นั้นพวกเราต่างช่วยกันคนละไม้ละมือ ช่วยกันดู ฝากบ้านกันได้ แถวนี้ไม่มีต่างชาติมีแต่สวิสฯล้วน ๆ มีพี่คนเดียวที่เป็นคนไทย แต่เขาเหล่านั้นได้รับพี่เข้าเป็นสมาชิกด้วยความอบอุ่น ไปมาหาสู่กัน ทักทายกันถึงแม้ไม่รู้จักชื่อ พี่มีความสุขนะตรงนี้ที่ไม่มีใครทำได้เหมือนเรา แต่จริง ๆ แล้วคนไทยที่มาอยู่ทางนี้ก็ไม่เป็นที่ต่อต้านของคนที่นี่นะ เพราะพวกเขาก็อยู่ในกลุ่มของเขา ไม่ได้ทำอะไรให้วุ่นวายเหมือนกับคนชาติอื่น เรียกได้ว่าคนไทยนี้รักสงบ ได้ถูกต้องที่เดียว จากคุณ : นัทตี้ - [ 4 พ.ค. 47 00:32:25 A:62.167.63.139 X: ]

ความคิดเห็นที่ 26 ผมตอบคุณนัทตี้ในกระทู้แล้ว ขอนำมาไว้ในที่นี้อีกทีนะครับ นัทตี้ : ขอบคุณป้า (ขอเรียกป้านะครับ แฮ่ม) ที่เข้ามาอ่านครับ จริงๆเรื่องนี้ผมอยากเขียนไว้นานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเผอิญป้ามาตั้งกระทู้ผมเลยได้โอกาสเขียนซะที ^^” เรื่องรายได้นั้นผมอาจตกหล่นไปครับ ผมพยายามเปรียบเทียบโดยรวมน่ะครับ เพราะนักเศรษฐศาสตร์เขาจะเปรียบเทียบปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศ ที่เป็นค่าเฉลี่ยนะครับ อีกประการคนจนในประเทศยากจน ผมว่าน่าจะย่ำแย่กว่าคนจนในประเทศร่ำรวยนะครับ (ยกเว้นปัญหาเชิงจิตใจ ซึ่งรู้สึกว่าคนจนในประเทศยากจน เขามีปัญหาน้อยกว่า ซึ่งอาจเป็นเพราะความเอื้ออาทรกันในสังคม) แต่ปัญหาที่ผมจะพยายามชี้ในความเรียงนี้คือ ความไม่เข้าใจกันของคนสองกลุ่ม (ซึ่งเป็นส่วนน้อยทั้งคู่) แต่ที่ต่างกันคือคนส่วนน้อยในกลุ่มแรกมีอำนาจต่อสังคม แต่คนกลุ่มหลังตกอยู่ในฐานะถูกกระทำจากสังคม ปัญหาที่เกิดขึ้นตามแนววิเคราะห์นี้ประการหนึ่งน่าจะเกิดจากการที่ คนวงในพยายาม “จัดระเบียบ” คนวงนอกด้วยตรรกะที่ผิดพลาด เพราะไม่เข้าใจข้อมูลบางอย่าง คนวงนอกเมื่อทนไม่ได้ ก็พยายาม “ตอบโต้” อย่างที่เราเห็นๆกันน่ะครับ ผมนำแนวคิดนี้มาพล็อตเข้ากับสถานการณ์หลายๆเรื่อง ก็พบว่ามันเข้ากันได้ และอธิบายได้ดี ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่ความเรียงนี้สื่อ อยากให้เป็นประเด็นที่เราลองมาแลกเปลี่ยนทัศนะกันดูครับ แต่ที่ป้านัทตี้มาแลกเปลี่ยนความคิดในนี้ผมก็ดีใจแล้วครับ ว่าบทความปวดหัวๆของผมนั้นมีแนวคิดอะไรบ้างเหมือนกัน ^^” จากคุณ : bucky_m - [ 4 พ.ค. 47 12:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ   bucky  เรียกป้าก็ได้ แต่เป็นป้าของลูกคนเล็กที่สุดของคุณนะ เพราะชอบสอนให้เด็ก ๆ เรียกตัวเองว่า คุณป้าคนสวย แบบเนี้ย เพราะรู้สึกกระชุ่มกระชวยดี โอเค ไหน ๆ เราก็มาคุยกันในเรื่องนี้แล้ว ถ้าจะให้ป้ามองในสายตาป้าเองและเปรียบเทียบกับความเป็นอยู่ของทางนี้และทางบ้านเรา ป้าจะเปรียบให้ดูเป็นข้อ ๆ แล้วกันนะ โดยจะแยกทั้งการปกครอง สังคม ศาสนา  วัฒนธรรม และจิตใจ มาให้ดู ป้าอยู่สวิสฯ คุณรู้ใช่ไหม ว่าสวิสฯไม่ได้รวมกลุ่มกับยูโรด้วย ถ้าจะเปรียบไปสวิสฯ เหมือนกับประเทศไทย คือเป็นประเทศตรงกลางที่มีเพื่อนบ้านล้อมรอบ มีเยอรมัน ออสเตรีย อิตาลี ฝรั่งเศส และลิกเทนสไตน์ซึ่งเปรียบเหมือนเมืองน้อง และคนละศาสนาด้วย คือว่าสวิสฯฝั่งที่พี่อยู่นับถือโปแตสแตนท์ และลิกเทนสไตน์ถือคาทอลิค ถึงลิคเทนสไตน์จะมีเอกราชเป็นของตน มีเจ้าปกครอง แต่ในทางเดียวกันคือต้องอาศัยทุกอย่างจากสวิสฯ และสวิสฯให้การสนับสนุนมาโดยตลอด เมื่อก่อนนั้นลิกเทนสไตน์เป็นประเทศที่ยากจนมากทีเดียว แต่เดี๋ยวนี้เขาร่ำรวยขึ้นเท่ากับสวิสฯทีเดียว เมืองไทย เป็นประเทศที่ล้อมรอบด้วยเพี่อนบ้านเช่นพม่า ลาว มาเลย์ เขมร ทั้งหมดคือความเหมือนกันในตรงที่คนเหล่านั้นสามารถเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร(เขียนถูกหรือเปล่าหว่า เพราะคำนี้ไม่ได้ใช้มานาน) โดยตั้งบ้านเรื่อนมาแต่บรรพบุรุษและอยู่กันมาจนปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใด หรือศาสนาเดียวกันคนละสาย แผ่นดินไทยไม่ได้รังเกียจแต่ให้การต้อนรับให้ที่อยู่ที่กิน และความเป็นอิสระ ตามฐานะที่เมืองไทยพึงให้ได้ เพราะไทยเองก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนสวิสฯ ต้องเข้าใจเจตนาตรงนี้ด้วย ว่าถ้าเรารวยเราก็ต้อนรับแบบคนรวย ถ้าเราไม่ใช่รวยแล้วจะให้ต้อนรับกันเกินกำลังของเรานั้นเป็นไปไม่ได้ เรียกกันง่าย ๆ ว่าให้อยู่กินนอนตามสภาพของเจ้าของบ้าน และยึดถือกฏการปกครองเหมือนลูกหลานของเจ้าของบ้าน เท่ากับว่าเขายินดีต้อนรับเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน นี่คือเรื่องของการปกครองที่ป้าต้องการจะบอกและเปรียบเทียบใกล้ตัวคือลักษณะของครอบครัว ที่สวิสฯนั้นถ้าคุณเป็นคนศาสนาอื่น เขาก็ไม่ได้มีปัญหา ยินดีต้อนรับเช่นเดียวกันไม่ว่าจะศาสนาอะไร และพวกเขาเองนั้นอยู่กันอย่างมีความสุขมามากกว่า 700 ปี(รวมตัวกันได้ 700 กว่าปี) แม้แต่สมัยสงครามฮิตเล่อร์ ที่ฆ่าคนยิวตายไปเป็นเบือ ประชาชนทางนี้ให้ความปกป้องและพาคนยิวเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเด็ก หลบหนีให้ที่ซ่อนและให้อาหาร และเลี้ยงดูมาจนโต ทางนี้จะมีหนังอยู่เรื่องหนึ่งถ้าแปลเป็นไทยจะชื่อว่า "รายชื่อของชิลเล่อร์"  เรื่องย่อคือ ชิลเลอร์เป็นนักธุรกิจที่ทำธุรกิจกับพวกเยอรมัน ตอนนาซีเข้าชิลเลอร์ได้ให้ทุกอย่างเพื่อจะปกป้องคนยิวโดยการให้คนเหล่านั้นมาทำงานกับตนในโรงงาน โดยมีทหารของนาซียืนคุมอยู่ เขาสงสารพวกนี้มาก และพยายามช่วยทุกวิถีทาง ชิลเลอร์ช่วยคนเหล่านั้นไว้ได้แต่ไม่หมด  จนสุดท้ายตัวของชิลเลอร์เองถูกแขวนคอ  หนังเรื่องนี้ป้าคิดว่ามีแต่ในสวิสฯ นะ เพราะมันกระทบกระเทือนเพื่อนบ้าน กว่าป้าจะหาซื้อได้ต้องใช้ความพยายามมาก เพราะเก่ามาก(ขาวดำ) ป้าอยากจะบอกว่า คนยิวที่นี่ถือศาสนา ออโธดอกซ์ ซึ่งจะเห็นได้ง่ายเป็นลักษณะกึ่งคริสต์ และกึ่งมุสลิม คนพวกนี้ถ้าเป็นผู้ชายมักจะไว้เครา และสวมหมวกเล็ก ๆ ปิดอยู่บนหัวเหมือนชาวมุสลิม พวกเขาอยู่กันมานานในสวิสฯ ด้วยความสุข และเขาสามารถนับถือศาสนาเของเขาได้เหมือนเดิมและอิสระ เขาทำตัวให้เหมือนกับคนทางนี้ได้และรับกฏเกณฑ์ได้ ไม่ทำตัววุ่นวาย มันจึงไม่มีปัญหา ต่อมาที่ศรีลังกา  เวียตนาม มีสงคราม สวิสฯได้อ้าแขนรับคนเหล่านี้ไว้ มีบ้านมีอาหารมีเสือ้ผ้ามีการสอนภาษาให้ ทุกอย่างได้รับการดูแลอย่างดี และแถมมีเงินติดกระเป๋าให้เป็นรายวันอีก จนคนพวกนี้สามารถหางานทำและพึ่งพาตัวเองได้ คนเหล่านี้มีทั้งมุสลิม พุทธ ฮินดู เขาไม่มีปัญหาเช่นกันเรื่องการปกครอง ถึงเม้จะหลายศาสนาปนกันก็ตามที คนมุสลิมที่เป็นคนศรีลังการ เวียตนามนั้นเขามีสันติสุขในหมู่ ไม่ทำนอกกฏเกณฑ์ ไม่ทำให้วุ่นวาย พวกเขามีความกตัญญูต่อแผ่นดินที่อยู่ในยามนี้ ต่อมายูโกฯมีสงครามเนื่องจากศาสนาคือ ออโธดอกซ์ พวกคาทอลิก พวกมุสลิมที่อยู่ปนกันไปเป็นแถบ ๆ เหมือนเมืองไทย ทางสวิสฯ รับพวกนี้มาอยู่ แต่คนเหล่านี้ถึงมาอยู่ในแผ่นดินอื่นแต่ยังมีความเคียดแค้นกันเอง ซึ่งตอนหลังมาทำความเดือดร้อนให้สวิสฯมาก เพราะความไม่กตัญญูต่อแผ่นดิน ไม่มีความเกรงใจคนอื่น คติของคนพวกนี้คือตาต่อตาฟันต่อฟัน ฉันอยากทำอะไรฉันก็จะทำ ถ้าไม่พอใจกันก็ฆ่าให้ตายกันไปข้าง ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ตัวกรูคือตัวกรู มันทำความเดือดร้อนให้มากและเรื่องอาชญากรรมและปล้นมาจากคนเหล่านี้แทบทั้งนั้น เพราะไม่มีคำว่าพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ ไม่มีคำว่ายืนอยู่ด้วยเท้าทั้งสองของตัวเอง มีความอิจฉาริษยาที่เห็นใครดีกว่า ปากก็ไม่ดี มารยาทก็ทราม ตั้งตัวเป็นพวกมาเฟียไม่ว่าจะอยู่ทีไหน มาดูเองเถอะแล้วจะรู้ว่าเหมือนชาวนากับงูเห่าไม่ผิด ถ้าไม่เชื่อลองถามคุณรสา รสา ดูเพราะเธอมาเรียนที่เยอรมันเธอคงมีความเห็นที่ไม่แตกต่างจากพี่นัก ที่ดีก็มีแต่มีน้อย นี่คือส่วนหนึ่งที่พี่เปรียบให้ฟังว่ามุสลิมทางนี้ไม่เหมือนมุสลิมทางบ้านเรา วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา(แม้เหมือนกัน) จิตใจ ความคิด ต่างกันกับชาวไทยที่นับถือศาสนานี้โดยสิ้นเชิงเหมือนฟ้ากับดิน เมือ่เป็นเช่นนี้ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการปกครองตามมา มีต่อข้างล่าง จากคุณ : นัทตี้ - [ 4 พ.ค. 47 15:32:46 A:62.167.82.136 X: ]

ความคิดเห็นที่ 28 ส่วนที่คุณพูดว่าปัญหาความยากจนนั้นในประเทศยากจน และคนยากจนในประเทศร่ำรวยนั้น จะยกตัวอย่างให้ดู สวิสฯ นั้นถึงเป็นประเทศที่รวยจริง แต่ก็มีคนที่ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ซุกหัวนอน อาจเพราะคนเหล่านั้นทำตัวของเอง ขี้เกียจ ติดเหล้า(ทางการให้โอกาสโดยให้การรักษาแล้วจนหายและกลับไปกินใหม่ซ้ำซากอยู่เป็นสิบ ๆ หน)  ติดยาก็เช่นกัน ไม่มีใครจะช่วยคุณได้แม้แต่ญาติ เขาก็ตัดเลย จะไปปลูกกระท่อมอยู่เองก็เป็นสลัมก็ไม่ได้ เพราะทางนี้หนาว ผักหญ้า ปลา ฯลฯ คุณไม่มีหนทางที่จะไปเอามันมาทำอาหารกินได้ เพราะถูกจับแน่ เรียกว่าจนก็จนจริง ๆจนไปทั้งตัว ทั้งใจ ทั้งไม่มีทางไป นอกจากว่าบางทีก็อาศัยตามศูนย์หลับนอนสำหรับคนไร้ที่อยู่ซึ่งสามารถมาเข้าชื่อขอหลับนอนได้แค่หนึ่งหรือสองคืน แล้วก็เร่ร่อนต่อไป มีซุปเหลว ๆ เป็นน้ำกับขนมปังเป็นอาหาร การกินอยู่แย่ยิ่งกว่าอยู่คุก แต่ถึงจะจนขนาดนั้นยังมีความหยิ่งในสายเลือด(คนสวิสฯเป็นคนหยิ่งในตัว นี่คือความดีของเขา) ไม่ปล้น ไม่ทำอาชญากรรม ไม่ทั้งนั้น เขาจะพอใจหรือไม่พอใจในชีวิตเขานั้น ป้าก็ไม่รู้ แต่เมื่อสัมภาษณ์เขาจะบอกว่า ใช่มันยากจนเหลือเกิน แต่เพราะเขาทำตัวเอง เขาไม่โทษใคร นี่คือข้อดีที่เขารู้ตัวของตัวเอง ไม่มีการโยนโทษไปให้คนอื่นซึ่งคนบ้านเรานั้นถ้าทำและคิดได้อย่างเขาก็จะดี คุณคิดดูใหม่นะว่า อยู่ในไทย คุณไม่มีที่อยู่ คุณอาศัยญาติได้เป็นอันดับแรก สองคือ ถ้าไม่มีจริง ๆ วัดนั้นก็มีให้กินกันตาย ชาวบ้านคนอื่นก็ช่วยเหลือตามมีตามเกิด ถ้าไม่มีญาติ สามคือ คุณสามารถจะหาแผ่นดินว่างเปล่าที่มีเจ้าของเป็นเอกชนและของรัฐ หาเศษไม้ พลาสติกอะไรแล้วแต่มาปลูกซุกหัวนอนชั่วคราว ซึ่งทางนี้ทำไม่ได้ สี่ คุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น ถ้าคุณรู้จักหากิน ทรัพยากรของเราไม่หวง ไหนจะผักบุ้ง สายบัว บัวบก ตำลึง ปลา กุ้ง หอย ปู หน่อไม้ ฯลฯ ถ้าป้าเป็นคนจนนะ ป้าก็มีความพอใจในตัวป้าเอง(ถ้าอยู่เมืองไทย เพราะป้าได้จากธรรมชาตินี่แหละ แทบไม่ต้องใช้เงินเลย ถ้าคุณไม่ขี้เกียจ มีหัวปีปัญญาสักหน่อย ) ซึ่งคนที่นี่ทำไม่ได้ ไม่มีทั้งที่อยู่ ไม่มีทั้งที่กิน ไม่มีใครช่วย ตรองดูกันให้ดี รับจ้างทำงานได้เงินมา แค่ลงทุนไม่กี่บาทเม็ดฟัก แฟง ผักฯลฯ รู้จักเอามันมาปลูกไป แต่การที่คนเราไม่รู้จักพลิกแพลงและรักความสบายโดยการใช้ซื้อเอา เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจะโทษใคร เราต้องพึ่งพาตัวเราเองก่อนไม่ใช่นั่งอยู่เฉย ๆ รอให้คนมาป้อน ถ้าเป็นอย่างนั้นชาตินี้ก็จมอยู่กับดินนั่นแหละ หัวมีไว้คิดในเรื่องดี ๆ เช่นว่าทำอย่างไรกรูจะทำให้ดีขึ้น ค้นหาวิธีเอา ไม่ใช่ว่าคิดแต่เรื่องร้าย ๆ ในหัว เช่น กลุ้มใจเหลือเกิน จนเหลือเกิน ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเลย มีเงินนิดหน่อยก็ซื้อเหล้ามากินดับความกลุ้มดีกว่า ขายยาดีกว่า ถามหน่อยว่า พอเหล้ามันหมดฤทธิ์แล้วหายกลุ้มไหม เงินก็หมด กลุ้มกลับมาอีกแล้ว ถ้าคนเราคิดในเรื่องที่ดีจะไม่มีปัญหา เราดูตัวเรา ทำกินเพียงพอตัวเรา คิดเพื่อตัวเรา อะไรมันก็จะดีขึ้น ถ้าเราอยู่ในที่ต่ำเราจงมองที่สูงเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ว่าสักวันหนึ่งเราจะทำให้ได้ เราจงมองคนที่ต่ำกว่าเราเพราะมีแน่อย่างที่ป้าบอก เราดูเขาเป็นตัวอย่างเพื่อให้กำลังใจตัวเองว่า เราดีกว่าเขา คนเราอยู่ที่การมองและการคิด ถ้าคิดถูกมองถูก มองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา รู้จักหัวเราะในสิ่งที่เห็นที่เป็นอยู่ หัวเราะกับชีวิต ไม่ใช่หัวเราะเยาะนะ เราก็จะสุขใจได้แล้ว นี่แหละที่ป้าอยากบอก จากคุณ : นัทตี้ - [ 4 พ.ค. 47 16:42:48 A:62.167.89.39 X: ]

ความคิดเห็นที่ 29 เอ้อ ที่เปรียบเทียบมานี่ คุณ นัทตี้กำลังพยายามบอกว่า สวิสมีวิธีการแก้ปัญหาเรื่องทัศนะคติของคนที่ดีกว่าซึ่ง คนไทยควรเอาอย่างหรือครับ? จากคุณ : เชษฐา - [ 4 พ.ค. 47 17:03:39 ]

ความคิดเห็นที่ 30 วันนี้มานั่งอ่านแล้วยิ้มอย่างเดียวได้ไหมคะ.. แฮ่ๆๆๆๆๆ .... เพราะเริ่มเบื่อพิซซ่าแล้วค่ะ ... :P คุณชวนนี่ แกค้านดะไปหมดแหละคะ สงสัยคงจะไม่อยากให้เสียชื่อที่ตนอยู่ฝ่ายค้านมั้ง บางทีอ่านที่แกให้สัมภาษณ์แล้วต้องมานั่งอ่านแล้วค่อยๆตีความเพราะกลัวว่าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่แกพยายามจะบอก แล้วก็บางทีเช่นกันที่เจอสาระที่แกซ่อนไว้ แต่ส่วนมากจะเจอแต่คำกระแนะกระแหนหาสาระบ่เจอ ก็เลยให้สงสัยตัวเองว่าตัวเราคงโง่เองที่ไม่เข้าใจ ..... แต่ก็อีกนั่นแหละเหมือนที่คุณข้างบนพูดมา คงต้องมีคนมาทำหน้าที่บ้างไม่งั้นรัฐบาลจะได้ใจอยากจะทำอะไรก็จะทำ (นี่ขนาดมีมีดโกนอาบน้ำผึ้งคอยบาดอยู่บ่อยๆ แต่ดูท่าว่า รัฐบาลของเรายังไม่ค่อยอีนังขังขอบเล้ย) ...... แล้วทางเลือกที่สามของเราอยู่ที่ไหนเอ๋ย อ่านเกี่ยวกับคนสวิสนี่พูดอีกก็ถูกอีกแหละค่ะ การอบรมบ่มนิสัยของเค้านั้นไม่รู้ว่าทำได้ยังไง คนส่วนใหญ่ของเค้าถึงสามารถคิดเช่นนั้นได้ จะว่าไปบ้านเมืองของเรานั้นมีทรัพยากรธรรมชาติมากและหลากหลายกว่าเค้าตั้งเยอะ ก็เลยคิดเล่นๆว่า ถ้าเรามีแนวคิดที่ถูกปลูกฝังมาอย่างนี้บ้าง บ้านเราคงเจริญกว่านี้อีกเยอะ ก็ได้แต่คิดและหวัง จากคุณ : Mae ja - [ 4 พ.ค. 47 18:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 31 คุณเชษฐา นัทตี้ไม่ได้เขียนเลยว่าสวิสฯมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องของทัศนคติของคนที่ดีกว่า และคนไทยควรเอาอย่าง คุณไปอ่านตรงไหนล่ะ ถึงได้เห็นไปแบบนั้น ขอให้คุณขึ้นไปอ่านใหม่อีกครั้ง แล้วคุณจะเข้าใจ นัทตี้เปรียบเทียบเรื่องความยากจนที่ bucky ถามมาในเรื่องที่ว่าคนจนในประเทศเรานั้นแย่กว่าคนจนในประเทศร่ำรวย นัทตี้ยกตัวอย่างให้ดูว่าที่นี่ไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิด คนจนในบ้านเราดีกว่าเพราะไม่อดตาย คนจนที่นี่เขาทำตัวเขาเอง และเขาไม่โทษใครไปเรื่อยเปื่อยเพราะเขารู้ตัวดี นัทตี้ยกตัวอย่างในเรื่องของการใช้ชีวิต ให้คิดในแง่บวก ใช้หัวใช้ปัญญาที่มีอยู่เพื่อช่วยเหลือตัวเองก่อน อย่าไปคิดในด้านลบ ส่วนเรื่องศาสนานั้น นัทตี้ยกตัวอย่างเรื่องความคิดของคนแต่ละชาติ ถึงแม้จะศาสนาเดียวกัน ก็ยังคิดไม่เหมือนกัน นัทตี้ว่าคนไทยถึงจนยังไงก็ยังดีกว่า ไม่ว่าศาสนาอะไรก็ยังดีกว่า ไม่ว่าทรัพยากรอะไรเมืองไทยก็ดีกว่า ความเป็นอิสระเสรีของไทยก็ดีกว่า ความคิดความอ่านคนไทยก็ดีกว่า คุณลองไปอ่านดูดี ๆ อีกรอบนะแล้วเขียนมาคุยกัน คุณแม่จ๋า เข้ามาแล้วเหรอกว่าจะเข้ามาวิจารณ์เขาก็จะเลิกกันแล้วหนู คนที่สวิสฯ เขาไม่ได้สอน แต่ธรรมชาติและการใช้ชีวิตของเขานั้นมีเหตุผล เพราะว่าคนทางนี้ส่วนใหญ่มีการศึกษาขึ้นต่ำก็ ปวช. ในเมื่อคนมีการศึกษา ถึงแม้จะไม่มาก แต่มันมีส่วนช่วยพัฒนาในด้านความคิด และการมอง ธรรมชาติของทางนี้คือจะมีช่วงร้อนสั้นกว่าหนาวเย็น เพราะเหตุนี้คนเขาต้องมีการเตรียมตัวเพื่อจะมีชีวิตเพื่ออยู่รอดให้พ้นหน้าหนาว ทำให้ติดเป็นนิสัยไปโดยปริยาย จะทำอะไรต้องวางแผน มีขี้นตอน คิดการณ์ไกลไว้ล่วงหน้า คิดปัญหาเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า เนื่องจากค่าครองชีพของทางนี้สูงจะดูเหมือนว่าคนทางนี้ขี้เหนียว แต่ที่จริงไม่ใช่เขาจะคิดว่าสมควรหรือไม่ที่จะซื้อ มีความจำเป็นกับชีวิตขนาดไหน อันไหนที่ทำเองได้ก็จะทำเอง เขาจะพอใจในชีวิตของเขาพอใจเท่าที่เขามี ไม่ว่าคนอื่นจะมีแค่ไหนเขาถือว่าไม่ใช่ของเขา ไม่เสาะแสวงหาเรื่องามาใส่ตัว คนทางนี้เขามักจะใช้คำพูดกันนมากกว่าที่จะลงมือทำร้ายกัน ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องคือไม่ต้องพูดหรือพูดเท่าที่จำเป็น มันมีอีกหลายเรื่องนะ แต่พี่ขี้เกียจเขียนบรรยายหมด เพราะต้องใช้เวลาพิมพ์นานและค่อนข้างยาว ถ้าแม่จ๋ามาใช้ชีวิตอยู่ทางนี้เหมือนพี่จะเข้าใจ ว่าคนทางนี้ไม่เย็นเหมือนอากาศนะ แต่เพราะเขามีเหตุผล แม้แต่เด็กเล็กเขาก็คุยกันได้ด้วยเหตุผลนี่นะคือคนสวิสฯ จากคุณ : นัทตี้ - [ 4 พ.ค. 47 22:07:39 A:62.167.83.7 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นด้วยกับพี่นัทตี้ในส่วนหัวข้อกระทู้ค่ะ ใจจริงโดยส่วนตัวก็นิยมชมชอบท่านผู้นำฝ่ายค้านท่านนี้มาก  และก็เลือกพรรคของท่านมาโดยตลอด แต่ข้อเสียของท่านที่เห็นได้ชัด  ก็ตรงจุดที่บอกนี้ ค้าน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ   คิดเอาเองแบบคนไม่ค่อยศึกษาเรื่องการเมืองนะคะ  ว่า  ท่านคิดถึงแต่เกมส์การเมืองมากไป   จนบางครั้งทำให้เสียภาพพจน์ หมายเหตุ ครั้งที่แล้ว  เรื่องสายการบินระดับชาติ  เราก็ร่วมวงไพบูลย์ด้วย  แบบเสียวสันหลัง งวดนี้  เรื่องการเมืองเลยหรือคะพี่  เสียว ๆ ๆ ๆ ๆ ค่ะ จากคุณ : วังวน - [ วันฉัตรมงคล 00:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 33 จริงๆไม่ได้ไม่ตั้งใจอ่านหรอกครับ อ่านหลายรอบแล้ว แต่ที่ตีความ ผิดคงเป็นเพราะผมพยายามเชื่อมโยงความคิดเห็นนั้นกับประเด็น หลักของกระทู้คือปัญหาภาคใต้มากเกินไป และไม่ได้คิดเชื่อมโยง ระหว่างสองกระทู้นัก จากคุณ : เชษฐา - [ วันฉัตรมงคล 00:18:15 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ไหนๆก็มาแล้วขอพูดบ้าง เท่าที่อ่านมาคิดว่าสาเหตุของปัญหาภาคใต้นั้นมาจากทั้งเรื่อง คนชายขอบที่คุณ buck_m กล่าวถึง และเรื่องอุดมการณ์ ศาสนา และความเกี่ยวพันกับสถานการณ์การเมืองของโลก ที่คุณคนเดินดินกินข้าวแกงกล่าวถึงด้วย กรณีภาคใต้ของเรานั้นเป็นกรณีพิเศษเหมือนกันคือ คนปัตตานีส่วนหนึ่งไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นคนกลุ่มน้อยที่มาพึ่ง พระบรมโพธิสมภารของประเทศไทย แต่คิดว่าเขาเป็นคน อีกประเทศหนึ่งคือ ประเทศปัตตาเวียซึ่งอยู่ในฐานะเมืองขึ้น เพราะประเทศไทยมายึดเอาไว้ด้วยการทำสงครามในสมัย รัชกาลที่หนึ่ง (ซึ่งตามประวัติศาสตร์มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ) อย่างไรก็ตามความจริงคือมีคนปัตตานีเท่านั้นหรือที่เคยเป็น ประเทศอื่น? คำตอบคือไม่ใช่ ภาคเหนือของประเทศไทย ก็เคยเป็นประเทศอื่นมาก่อน ภาคอีสานก็เหมือนกัน แต่ประชาชนในดินแดนเหล่านั้นก็ไม่มีความคิดจมปรักอยู่กับ อดีตยังตั้งหน้าตั้งตาประกอบสัมมาชีพพัฒนาตนเองและประเทศ ให้เจริญขึ้น คำถามคือทำไมมีแต่ภาคใต้ที่ยังคิดเรื่องแบ่งแยกดินแดนอยู่ ประการหนึ่งอาจเป็นได้ว่าเป็นเพราะคนกลุ่มนี้นับถือ ศาสนาอิสลามซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นตัวของตัวเองสูง และมีค่านิยมที่อนุญาตให้ทำการรุนแรงเพื่อปกป้องเอกลักษณ์ ของตนเอง อย่างไรก็ตามขอให้สังเกตว่าคนอิสลามส่วนมากเป็นคนดีๆที่ อยู่อย่างสงบและถ้าไม่มีปัญหาอะไรมากระทบเขาก็พร้อมจะ อยู่อย่างสงบต่อไป แต่ที่มีปัญหาเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องสะสมตั้งแต่สมัยก่อน ที่ข้าราชการที่มีปกครองภาคใต้มักจะขาดความเข้าใจต่อชาวบ้าน และเอารัดเอาเปรียบชาวบ้านให้ได้รับความเดือดร้อน นานเข้าชาวบ้านก็ทนไม่ไหวต่อต้าน ถึงตรงนี้ประเด็น ความแตกต่างต่างๆทั้งเรื่องศาสนาและประวัติศาสตร์ ก็สามารถปะทุขึ้นมาเป็นข้ออ้างได้โดยง่าย ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่การนำกำลังที่เหนือกว่า มาปราบปรามผู้ก่อการร้ายให้หมด หากแต่เป็น การทำความเข้าใจกับชาวบ้าน หลีกเลี่ยงเรื่องละเอียดอ่อนทั้งปวง และการแก้ไขระบบการปกครองอย่างชาญฉลาด ไม่เช่นนั้นปัญหาที่ลดลงแล้วก็อาจเพิ่มขึ้นได้อีก สำหรับเรื่องที่คุณชวนมาพูดนั้นผมเห็นด้วยกับคุณคนเดินดิน กินข้าวแกงทุกประการ คือแกเป็นฝ่ายค้านก็ต้องค้าน และที่ แกค้านไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ถ้าไม่มีคนค้านจะแย่กว่านี้ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 47 00:31:02 จากคุณ : เชษฐา - [ วันฉัตรมงคล 00:28:18 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถึงวันนี้สถานการณ์ก็ยังคงสับสนอลหม่านอยู่เลยครับ จริงๆแล้วมันก็ควรจะสับสนอยู่เหมือนกัน เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีความซับซ้อนมาก....     .... ทั้งในเรื่องโครงสร้างของสังคมที่คุณ บัคกี้เสนอ.....    ... ทั้งสถานการณ์โดยรวมของกลุ่มอิสลามทั่วโลก.....   ... ทั้งการเมืองในระดับระหว่างประเทศ(มาเลเซีย โดดเข้ามาแจมแบบน่าเจ็บใจ).....   ... การเมืองในระดับประเทศ และการเมืองในระดับท้องถิ่น.....   ... รวมทั้งความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม และศาสนา.....   ... ตลอดจนความขัดแย้งในประวัติศาสตร์ของรัฐปัตตานี.....   ... รวมถึงกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นด้วย(เห็นไหมครับป้าว่ามันชวนให้ปวดหัวแค่ไหน แต่ทักษิณก็ยังอุตส่าพลิกเกมส์มาดึงเอาฐานเสียงคืนเพื่อกลับไปเป็นรัฐบาลในครั้งหน้าได้จนได้ แม้ว่าจะมาจากการเหยียบ 112 ศพของทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายตรงกันข้าม) เริ่มจากผู้เสียสละ 2 คน คนนึงยอมโดนคนอิสลามเกลียด อีกคนยอมให้คนทั้งประเทศเกลียด(ตอนนี้ผมเริ่มคิดแล้วว่าตกลงแล้วขงเบ้งคนนี้เก่งจริงๆหรือว่าไม่เก่ง) เรื่องน่าจะจบโดยผู้เสียสละ 2 คนนี้ก็แทบจะเป็นนิยายชีวิตจริงทีเดียว แต่ท่านาย ก ของเราดันปากไวเก็บคะแนนเสียง โดยการออกโรงสนับสนุนท่านพัลลภ ซึ่งทำให้เรื่องทุกอย่างยาวยืดออกไปอีกแทนที่จะมีเพียงผู้เสียสละ 2 คน ผมคิดว่าท่านนายกเราเดินหมากเพื่อหวังผลระยะสั้น เก็บคะแนนเสียงจากเหตุการณ์นี้ไปเป็นหลักประกันของการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เรียบร้อยแล้ว แต่ผลในระยะยาวที่มาจากการใช้กำลังล้อมปราบในมัสยิดนั้น คนที่จ่ายค่าตอบแทนคือคนไทยทั้งประเทศครับ อ่านๆไปทั่วก็เจอบทความอันนึงจากเวปไทยเอนจีโอที่มีเนื้อหาสาระค่อนข้างโอเค(ในสายตาของผมนะ) มาแนะนำให้ป่าเข้าไปอ่านดูครับ ส่วนความเห็นล่างๆที่เค้าทะเลาะกันนั้นป้าก็จับประเด็นเอาหน่อยละกันครับ http://www.thaingo.org/webboard/view.php?id=3544 ผมไม่เห็นด้วยกับเค้าทั้งหมด แต่เนื่องจากเป็นความเห็นของบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและผ่านประสบการณ์ชีวิตมายาวนานอย่างโชกโชนกว่าผมมากนัก ก็เป็นหนึ่งความเห็นที่น่าศึกษาครับ(ในสายตาของผมเช่นกัน) คคห 34 คุณชาย ผมเห็นด้วยกับคุณชายเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องการปกป้องเอกลักษณ์ของตนเอง  เอกลักษณ์ของมุสลิมส่วนมากนั้นแทบจะเป็นด้านตรงข้ามกับทุนนิยมโดยตัวเองอยู่แล้ว เพราะโดยความโหดร้าย และดิบเถื่อนของทุนนิยมเสรีที่ไม่มีที่ว่างให้กับผู้แพ้(ดูตัวอย่างจากที่ป้าเล่าเรื่องคนจนในสวิสดูก็ได้) แต่มุสลิมทางภาคใต้นั้นค่อนไปทางรักสงบและไม่ชอบการแข่งขัน(ต่างจากคนนคร หรือตรังบ้านนายชวน) แสนล้านของนายกที่จะเอาลงพื้นที่ไปมีแต่จะสร้างความแตกแยกให้มากขึ้นกว่าเดิม คุณแม่จ๋าครับ ตราบใดที่เรายังคงอิงกับศาสนาพุทธนั้นเราจะไม่โทษตัวเองที่ทำแบบนั้นครับ แต่เราจะโทษกรรมเก่าแต่ชาติที่แล้วแทน ซึ่งถ้าเราจะยอมรับข้อนี้แล้วทำตามหลักศาสนาพุทธต่อไปนั้น ก็คงไม่มีปัญหาอะไรแต่ส่วนมากเราจะแค่โทษกรรมแล้วเรียกร้องเอาจากคนอื่นแทนตัวเอง จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ วันฉัตรมงคล 05:08:53 A:203.118.120.28 X: ]

ความคิดเห็นที่ 36 คุณวังวน ยังมีชีวิตอยู่หรือคะ ? พี่คิดว่าถูกใครอุ้มไปแล้ว พี่ยังดีใจที่มีชีวิตอยู่ คราวนี้เลยได้ใจไง และอึกอย่างคือพี่ค่อนข้างสับสน และวืดขึ้นมาเมื่อได้อ่านข่าวของหัวเขียว พี่ก็เจือกอยากรู้อยากเห็นความเป็นจริง ก็ดีนะมันทำให้หูตาเรากว้างขึ้น เรามีสิทธิ์วิจารณ์เพราะเราไม่ใช่ทหาร ไม่รู้ว่าเขาจะเอาเราไปทำไม เลี้ยงก็ง่าย ตายก็ยาก แบบเรานี้เขาคงไม่เอาแน่นอน เออแล้วพี่จะลงตอนใหม่ ไปช่วยพี่คิดหน่อยว่าจะทำอาชีพอะไรดี วิจารณ์กันได้เต็มที่ ไม่มีการจับจ๊ะ คุณเชษฐา และคุณเดินดินกินข้าวแกง ป้าจะตอบไปพร้อม ๆ กันเลยนะว่าขอขอบคุณมากที่ให้ความคิดเห็น ข้อมูลมามากมาย ป้าเริ่มปวดหัวแล้วเพราะไม่รู้ว่าอะไรกันแน่คือความจริง มันแย้งกันไปมา ไม่สามารถเชื่อถือได้จริง ๆ สักข่าว ป้าว่าเรายุติเรื่องนี้กันดีกว่า แล้วคอยดูกันต่อไป ขอเป็นไทยมุงด้วยคนนะงานนี้  คุณอาจสงสัยว่าป้านั้นเป็นสายลับหรือเปล่า ? ป้าไม่ได้เป็นแต่ป้ามีอะไรในใจที่ค่อนข้างเกี่ยวพันกัน อ่านกันดูนะเรื่องที่ป้าจะเล่าให้ฟังมีอยู่ว่า โครตของพ่อป้าอยู่ที่ยะลา อำเภอรามัญ  มีฐานะดีและเป็นที่นับหน้าถือตาพอสมควร ที่บ้านป้ามีกริชที่เป็นมรดกตกทอดมาจากเจ้าเมืองในสมัยร้อย ๆ ปีมาแล้ว นามสกุลเดิมที่ยังไม่แต่งงานนั้น คนทางนั้นย่อมรู้จัก ถึงป้าไม่ได้เกิดที่นั่น แต่ป้ามีญาติทางพ่ออยู่ทางนั้น ป้ามีเลือดครึ่งหนึ่งในตัว ป้ารักคนทางนั้น และไม่เคยลืมความอบอุ่นที่ป้าเคยได้รับ   ป้ามีผ้าพันมาเลย์อยู่ผืนหนึ่งที่เก็บรักษามานานถึง 25 ปีป้าได้รับมาจากผู้ใหญ่ชาวมุสลิมท่านหนึ่ง ถึงท่านจะสิ้นไปแล้ว   ป้าเคยหัดพูดยาวีได้พอสมควร ขอให้พ่อสอน คำที่ป้ายังจำได้มีคำว่า กรูจิง(ที่จริงมีก.ไก่ตัวเดียว) อีแก ยีมานอ นาแกนาซิโดะกาเดาะ  โด๊ะวะอะปอ(โด๊ะวะกะปอ)และอีกหลายคำ ป้ารักประเทศไทย กว่าเราจะรวมให้เป็นขวานทองกันขึ้นมาได้จนทุกวันนี้เราต้องใช้เวลากันเป็นชั่วอายุคน เรื่องที่มันผ่านมาในอดีตก็ขอให้ลืมให้ผ่านไป เราอย่าขุดมันขึ้นมาพูดอีกแลย นะ เราคือคนในแผ่นดินเดียวกัน ที่เราวิจารณ์กันมาทั้งหมดนี้เพราะเจตนาดี และเป็นแค่ความคิดเห็นของแต่ละคนที่มี่ความหมาย ต่าง ๆ กันไป ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูกและไม่มีการตัดสินค่ะ เราไปหาอะไรอ่านและวิจารณ์เรื่องบ้า ๆ บอ ๆ แก็เซ็งกันดีกว่า ขึ้นไปลุยกันต่อข้างบน ป้าจะเปิดให้วิจารณ์เรื่องของป้ากันได้อย่างเต็มที่ ทะลึ่งวันละนิดจิตแจ่มใสจ้ะ จากคุณ : นัทตี้ - [ วันฉัตรมงคล 06:48:35 A:62.167.67.53 X: ]