เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนพักเที่ยงของวันหนึ่ง ...
พี่มี่ครับ ผมเองนะครับ..
จ้ะ ว่าไง...
คือผมอยากจะเจอเพียวสักครั้ง พี่ติดต่อเขาหน่อยได้ไหมฮะ..
อืม... พี่ไม่รู้นะ...ว่าจะติดต่อเขาได้ไหม เพราะตอนนี้เขาวุ่นวายมาก..
ถือว่าผมขอร้องละกันนะครับพี่...
พี่จะลองดูละกันนะ... ยังไงเดี๋ยวจะบอกอีกที..
ฮะพี่..ขอบคุณมากฮะ
......................................................
พี่มี่ถอนหายใจหลังวางหูโทรศัพท์จากกัลย์ นักร้องที่กำลังจะมีชื่อภายใต้ค่ายเพลงค่ายหนึ่ง
พี่มี่รู้มานานแล้วว่า กัลย์กับเพียว ผู้หญิงคนที่เขาอยากจะเจอ เคยคบกันพักหนึ่งจนเกือบจะกลายเป็นแฟนกัน
แต่ต้องมาสิ้นสุดเมื่อ ความดังของเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก และแน่นอนต้องมีคนชอบเขามากมาย ทำให้ทั้ง 2 คนต้อง
ห่างเหินกันไปจนกลายเป็นความห่างไกล...
...................................................
วันนี้ดาวสวยสดใสเนอะ...เต็มฟ้าเลย... เพียวเอ่ยขึ้นเมื่อกัลย์มานั่งข้างๆพร้อมกับกีตาร์ตัวโปรด
อืม.. แต่เพียวดูสดใสกว่าดาวบนท้องฟ้าอีกนะ... คำตอบของเขาทำให้เธอรู้สึกเขิน...
อ่ะ หน้าแดงใหญ่เลย... เพียว ผมกำลังจะเป็นนักร้องนะ เพียวดีใจไหม ความฝันของผมเป็นจริง... เขามองกีตาร์ตัวโปรดพลางเล่นคีย์ ปรับเสียง เธอมองหน้าผู้ชายที่กำลังง่วนอยู่กับการปรับสายกีตาร์ และยิ้มออกมา แต่ในใจเธอกลับรู้สึกว่า ความฝันของเขากำลังทำลายความฝันของเพียว...
เพียว ดึกแล้ว...นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปเดินเล่นชายหาดตอนเช้า...นะ กัลย์ลุกขึ้นยืนพลางดึงมือเพียวเข้าไปในห้อง ทั้งคู่นอนข้างเคียงกัน ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
..........และวันนี้เอง ก็เป็นวันสุดท้ายที่ทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกัน
....................................................
อัลโหล ค่ะ พี่มี่...
จ้ะ เพียว.. ทำอะไรอยู่หรือเปล่า...
อ่อ กำลังรอวีซ่าอยู่นะค่ะ...
อืม... ช่วงนี้มีเวลาว่างสักวันหนึ่งไหมจ้ะ...
ไม่แน่ใจนะค่ะ...มีอะไรหรือเปล่าคะ...
คืองี้นะเพียว กัลย์นะ เขาอยากจะเจอเพียว ก่อนที่เพียวจะไปนอก... เพียวนิ่งไปพักหนึ่ง นานแล้ว ที่เธอไม่ได้ยินชื่อนี้... ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูด
อาชีพที่กัลย์เป็นอยู่ มันทำให้เขาไม่เจอเพียวอีกเลย เขาคิดถึงเพียวนะ...
........เดี๋ยวเพียวจะโทรกลับไปอีกทีนะคะ....
ยังไม่ทันรออีกฝ่ายตอบรับคำ เธอก็วางหูไปก่อน
...................................................
หญิงสาวกับความรู้สึกแปลกๆ นานมากที่ไม่ได้คุยกัน ตั้งแต่วันที่เขาเซ็นสัญญาภายใต้ค่ายเพลง
จากนั้น เขาก็ทุ่มเทกับงาน จนลืมหัวใจที่เคยอยู่ข้างกัน และไม่เคยรู้เลยว่า หัวใจคนนั้นจะเป็นอย่างไรและต้องใช้เวลานานแค่ไหนที่กว่าจะกลับมาเป็นเธอคนเดิมได้ เธอกับเขารู้จักกันในค่ายเพื่อสังคมซึ่งจัดขึ้นที่กาญจนบุรีมาก่อน แต่ในช่วงนั้น ไม่ได้สนิทสนมกันอย่างจริงจัง
..................................................
...พี่กัลย์ ตื่นได้แล้ว ไหนว่าจะไปเดินเล่นไง นี่มัน 7 โมงแล้วนะ...
.....อือ......
.....เร็วๆ..... เพียวในชุดสบายๆเร่งเขาให้ตื่น
อ่ะ....อือ.....หยิบแว่นให้หน่อย.....
อิอิ...กี่นิ้วเอ่ย..... เพียวหัวเราะพลางชูนิ้วไปมา แล้วหยิบแว่นใส่ให้
...รอเดี๋ยวนะ.....เข้าห้องน้ำก่อน เขาลุกขึ้นพลางตบหัวเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู
..
เพียว วีซ่าได้แล้วลูก....เพียวจ้ะ..... เสียงแม่เรียก
อ่ะ .....คะ แม่.....
คิดอะไรอยู่เหรอลูก ...
เปล่าค่ะ....
ไปกันเถอะ เดี๋ยวต้องไปเตรียมของอีก..
เพียวเดินออกมา พลางคิดถึงเรื่องวันวาน ที่ครั้งนั้น ความสุข รอยยิ้ม ที่แต่งแต้มความฝัน...บัดนี้ ไม่เหลืออะไรแล้ว แม้ความทรงจำที่เธออยากจะจดจำ พยายามจะนึกถึง ก็พบแต่ความว่างเปล่า
......................................................
ภาพหนุ่มสาวเดินจูงมือเดินเลียบชายหาดยามเช้า ถ้าใครผ่านมาจะเห็นความสุขที่น่าอิจฉาที่สุด
เฮ้ย.....เพียว...... เสียงกัลย์ร้องขึ้น เมื่อเพียวผลักเขาให้ลงทะเล
เล่นยังงี้เลยเหรอ...ได้ๆๆ...มาให้อุ้มซะดีๆ... เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นเพียววิ่งหนี แต่ก็ไม่ทัน เขาวิ่งตามไปและช้อนตัวขึ้นมา ทำท่าจะโยนลงทะเล
อย่า...นะ....เดี๋ยวเปียก...... เสียงอ้อนของเธอ ทำให้เขายิ้มออกมา และค่อยๆก้มลงหอมแก้มเบาๆ... เขาก็ยังคงอุ้มเธอเดินไปเรื่อยๆจนถึงที่พัก
คนอะไร...ตัวหนักชะมัด... เสียงเขาบ่น
อ้าว แล้วอุ้มทำไมล่ะ..สมน้ำหน้า...
กัลย์อมยิ้ม และหยิกแก้มเพียวเบาๆ พลางนั่งลงข้างๆ
เพียวรู้ไหม วันนี้ผมมีความสุขมากเลย....
เขานิ่งไปชั่วครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นมา... เพียวสัญญากับผมได้ไหม ว่าจะอยู่กับผมตลอดไป..
เพียวไม่สัญญาว่าจะอยู่กับพี่กัลย์ตลอดไป....แต่เพียวสัญญาว่าจะรัก...และรักตลอดไป...
เขาโอบแขนขึ้นมากอดหญิงสาวผู้เป็นที่รักยิ่ง และกอดไว้เนิ่นนานราวกับว่าจะไม่มีวันพรากจากลากัน
แต่นั่นคือ ภาพสุดท้ายก่อนที่เขาและเธอจะห่างกัน..อย่างไกลห่าง
...............................................................
อัลโหล พี่มี่คะ...เพียวเองค่ะ...
อ่ะจ้ะ...ว่าไง
ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ
อ่อ ไม่หรอกจ้ะ...
ตกลงว่า เพียวจะเจอเขาค่ะ...
โอเคจ้ะเพียว พี่เขาคงดีใจนะ...
.... อืม คะ แล้วจะเจอกันที่ไหนคะ....
พี่มี่นัดวันเวลาและสถานที่
....คะ...พี่มี่....แล้วเจอกันค่ะ..
........
คืนนั้น...เพียวนั่งมองดาวที่ระเบียงห้องนอน คืนนี้ ไม่มีดาวเลย เพียวรู้สึกเหงา ว้าเหว่ อย่างบอกไม่ถูก อันที่จริงเธอก็รู้สึกอย่างนั้นทุกวัน แต่คืนนี้ เธอรู้สึกเป็นมากกว่าเดิม ... อีกนานไหม ที่เธอจะหายไปจากความรู้สึกอย่างนี้ เกือบ 3 ปีแล้ว...ที่เธอตกอยู่ในภวังค์ของความเหงาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความเจ็บปวดที่เธอได้รับมาแม้จะไม่ได้ถูกทำอะไร แต่เขาทำลายความฝันของชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งที่รักเขามาก และพร้อมจะยอมอยู่เพื่อเขา แต่ความฝันของเขากลับพาเขาให้เดินไปอีกทางทางที่ไม่มีวันเจอเธออีกเลย...สักพักฝนก็เริ่มลงเม็ด เธอลุกขึ้นยืนกลับเข้าห้องนอน เธอหยิบและเปิดอัลบั้มรูปที่เคยถ่ายไว้ที่ค่าย ทะเล ภูเขา ร้านอาหาร และรูปล่าสุดที่เขาได้เป็นนักร้องชื่อดัง เธอค่อยๆยิ้มออกมา
.............................................................
รถของพี่มี่เทียบจอดที่ป้ายรถเมล์หน้าสยาม เพียวเปิดประตูรถและขึ้นไปนั่ง
สวัสดีค่ะ พี่มี่...
สวัสดีจ้ะ เพียว... ไม่เจอตั้งนาน ผลุบผลับก็จะไปนอกซะแล้ว...
เพียวยิ้มให้พี่มี่ พี่ที่เธอเคารพรักยิ่ง และเป็นคนที่แนะนำเธอให้รู้จักกับกัลย์
ค่ะ....
แล้วเพียวจะไปสักกี่ปีจ้ะ...
ยังไม่รู้เลยค่ะ พี่มี่... เรียนไปเรื่อยๆ เธอตอบอย่างไม่มั่นใจ เพราะสิ่งที่เธอตอบมันไม่เป็นจริง
พี่มี่ขับรถไปเรื่อยๆพร้อมกับเสียงเพลงที่คลอเบาๆจนกระทั่งถึงที่หมาย เพียวลงจากรถและเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับพี่มี่
ขอโทษค่ะ มาพบกัลย์ค่ะ... พี่มี่พูดกับลูกจ้างคนหนึ่ง
สวัสดีครับ พี่มี่.. เสียงกัลย์ดังขึ้นมา เพียวหันไปมองตามเสียงนั้น
เขามองเพียวนิ่งนาน...และเชิญไปนั่งในที่มุมๆหนึ่ง
อืม..เดี๋ยวพี่ขอตัวดีกว่านะ เพียวจ้ะ คุยตามสบายนะ พี่รอ... เพียวพยักหน้าและยิ้มให้
เมื่อพี่มี่เดินออกไป ทั้งคู่ก็ยังคงนิ่งเงียบท่ามกลางเสียงเพลง เสียงพูดคุยของคนรอบข้าง ทั้งคู่รู้สึกอย่างเดียวกันคือ ยังรัก..กันอยู่ จนกระทั่ง เขาเอ่ยปากขึ้นมา
เพียว...เพียวเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ..
เธอตัดผมซอย บุคลิกดูห้าวๆ ซึ่งต่างจากเธอคนเดิมที่เขาเคยเห็น
พี่ได้ข่าวมาว่า เพียวจะไปเรียนต่อ พี่เลยอยากจะเจอเพียว...เพียวเป็นไงบ้าง
สบายดี...ค่ะ... เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ขาดๆหายๆ
เขามองหน้าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างเนิ่นนาน และหากมองในแววตาเธอ ก็จะเห็นว่า มีน้ำตาแอบซ่อนอยู่ในความเศร้า
เพียวคงโกรธพี่มากใช่ไหม...
เธอมองหน้าเขาและนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง
ไม่ค่ะ... เพียวดีใจต่างหาก ที่ความฝันกลายมาอยู่บนเส้นทางของความจริง...
...เพียว... เขาทำได้แค่เรียกชื่อเท่านั้น....
เขามองผู้หญิงคนนี้ที่เคยรักมาก และผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังรักอยู่และค่อยๆเอื้อมมือกุมมือเธอไว้
..พี่ขอโทษ..ขอโทษที่ทำลายความสุข...พี่อยากพูดมานาน แต่ไม่กล้าพอ... ขณะที่เขาพูด เธอเริ่มมีน้ำตาคลอที่ขอบตาและเอ่อล้นจนไหลลงมา
..ไม่เป็นไรคะ...เพียวเข้าใจ...
พี่รู้ตัวนะ ว่าพี่ทำลายเพียวแค่ไหน พี่มันเห็นแก่ตัว พี่ไม่ได้นึกถึงใครเลย จนกระทั่งถึงตอนนี้ พี่สูญเสียใครต่อใครมาเยอะแยะ แต่สิ่งที่พี่เสียใจมากที่สุด คือ พี่เสียเพียวไปแล้ว..
เขาหยุดพูด เพราะรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาจุกที่คอ ถึงตอนนี้ พี่ยอมรับนะ...ว่าพี่ยังรักเพียวอยู่...
จำคำพูดของเพียวตอนนั้นได้ไหมคะ ที่เพียวเคยบอกไว้ว่า เพียวไม่สัญญาว่าจะอยู่กับพี่กัลย์....แต่เพียวสัญญาว่าจะรัก...และรักตลอดไป...
อืม...
เพียวก็ยังรักอยู่ จำไว้นะคะ... วันใดที่พี่กัลย์ไม่มีใคร ก็ยังมีเพียวอยู่...
...เพียว...ขอบคุณมากนะ...
เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยน และทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เสียงเพลงเหงาๆดังขึ้นยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของทั้ง 2 คน
เพียวขอตัวก่อนนะคะ... เกรงใจพี่มี่เขา...
เธอลุกขึ้นยืน เขาลุกขึ้นตามและดึงแขนไว้ราวกับจะรั้งความรักไว้ให้คงอยู่ เขาโน้มตัวกอดเธอ
วันที่เพียวไป พี่จะโทรไปหาอีกครั้งนะ...
เพียวยิ้มให้ และเอ่ยปากขอตัวไปจัดการเรื่องของตนเอง
...........................................................
ณ สนามบินดอนเมือง ผู้คนขวักไขว่ไปมาดูวุ่นวาย
เฮ้ย ! เพียว... เสียงเพื่อนสาวตะโกนมา
อือ... มาทำไมเนี่ย...
อ้าว...มาส่งสิยะหล่อน ถามได้...
เพียวหัวเราะกับท่าทีของเพื่อน
ขอบใจนะ แหม..ลำบากแกป่ะเนี่ย
ไม่เป็นไรหรอกน่า.... แล้วไง เจอเขาหรือยังล่ะ
เพียวพยักหน้าและยิ้มให้เป็นคำตอบ และโผเข้ากอดเพื่อนสาวที่รับรู้เรื่องราวระหว่างเธอกับเขามาโดยตลอด
เออ แก ยังไงก็ติดต่อกันมาบ้างนะ อย่าหายไปจนลืมคนที่อยู่ทางนี้บ้างล่ะ....
จ้ะ ถ้าไปถึงที่โน่นแล้วจะเมลบอกนะ...
เสียงพนักงานประกาศให้ผู้โดยสารเตรียมขึ้นเครื่องบินในเวลา 18.30 น. ซึ่งเป็นเครื่องที่เพียวจะต้องขึ้น
แม่คะ...
อืม...อะไรลูก
เธอร้องไห้และเข้ากอดแม่ แม่ดูแลตัวเองด้วยนะคะ ถ้ามีอะไร แม่ติดต่อหาเพียวนะคะ...
จ้ะ ลูก ไม่ต้องห่วงแม่นะ...และแม่ก็หวังว่า การตัดสินใจของลูกจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
แม่มองหน้าลูกสาวที่เป็นที่รักยิ่ง ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ ป่านนี้ เราสามคนคงจะอยู่ด้วยกัน
ใกล้ถึงเวลาที่จะขึ้นเครื่อง เพียวมองโทรศัพท์เหมือนจะรอใคร
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
อัลโหล เพียว ขึ้นเครื่องยัง... กัลย์นั่นเอง
กำลังจะขึ้น...
โชคดีนะเพียว ดูแลตัวเองด้วยนะ...
... ขอบคุณค่ะ...
ถ้าจะกลับมาเมื่อไร ก็บอกด้วยนะ...
เธอรู้สึกใจหายวูบ เพราะเธอกับเขาจะไม่มีวันเจอกันอีกตลอดกาล เธอทำได้เพียงแต่ตอบรับคำเท่านั้น
เพียวยิ้มให้ตัวเองและสัญญากับตัวเองว่า...จากนี้ไปจะเข้มแข็ง และลืมให้ได้ว่า คนที่เพียวรัก...เป็นเพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่ง และเคยรักมากที่สุดก็แค่นั้น เธอจะต้องเป็นคนใหม่ให้ได้ ที่ไม่มีวันจะร้องไห้ให้กับใคร.... ประสบการณ์ที่เธอได้รับมานั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอรู้จักความรักมากขึ้น และทำให้รู้ว่า การรักใครสักคนมันไม่ยาก แต่การที่จะอยู่กับเขาตลอดไปมันเป็นสิ่งที่ยาก แม้เธอจะรักเขามากสักแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อยากจะใจอ่อนอีกครั้ง ถ้าเขาจะกลับมารักเธอใหม่...
เครื่องบินค่อยๆทะยานขึ้นสู่ฟ้า เพื่อจะข้ามน้ำ ข้ามแผ่นดิน ไปสู่อีกประเทศหนึ่ง พร้อมกับหัวใจที่ค่อยๆหลุดลอยหายไปอย่างช้าๆ และเป็นสิ่งที่เธอตัดสินใจแล้วว่า...เธอจะอยู่ที่นั่นตลอดชีวิตของเธอ.
จากคุณ :
ขิม
- [
3 พ.ค. 47 20:33:01
A:158.108.8.46 X:158.108.2.2
]