บทที่ 3
เรื่องลึกลับข้างบ่อน้ำ
ยิ่งมืดลง ความหิวก็ดูจะหนักข้อขึ้นจนทุกคนทนไม่ไหว แอนหิวจนตาลาย แต่เธอก็ไม่ได้ปริปากบอกเพื่อนๆ แล้วในที่สุดโจก็พูดขึ้นอย่างหมดความอดทน
ไปหาอะไรกินกันเถอะ
อะไรนะ ทุกคนโพล่งขึ้นแทบจะพร้อมกัน
จะไปได้ยังไง เดี๋ยวโดนจับได้ก็เสร็จกันพอดี แล้วแอนก็เพิ่งหายดีด้วย แซมคัดค้าน
แต่เราก็หิวเหมือนกันนะ ตอนนี้มันตั้งตีหนึ่งแล้ว คงไม่มีใครตื่นมาเห็นหรอก แอนพูดก่อนจะยื่นนาฬิกาข้อมือให้ทุกคนดู
แล้วพวกแกล่ะว่ายังไง แซมหันไปถามนิค เจมส์ แล้วก็แจ๊กกี้
เจมส์กับ นิคพยักหน้ารับปากทันที
เอาไงเอากันสิ พวกแกไป เราก็ไปแจ๊กกี้ตอบตกลง
ดังนั้นทุกคนจึงค่อยๆย่องออกมาจากห้องใต้บันได สู่ตัวบ้านที่มืด และเงียบสนิท โจค่อยๆปิดประตูอย่างเบามือที่สุด
เนื่องจากพื้นบ้านเป็นไม้กระดาน คณะเดินทางเสี่ยงภัยทั้งหก จึงต้องพยายามเดินกันอย่างตัวเบาที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดจนปลุกใครให้ตื่นขึ้นมาเห็นเข้า
แซมที่เป็นผู้นำในครั้งนี้ เดินนำหน้าลงไปตามบันไดอย่างช้าๆ ดวงตากลมโตทั้งสองกวาดมองไปรอบๆอย่างระแวดระวัง
แซม เร็วๆหน่อยได้มั้ย หิวจะแย่อยู่แล้วนะ ขืนค่อยๆย่องอย่างนี้ถึงเช้าก็ยังไม่ต้องกิน แจ๊กกี้กระซิบข้างๆหูกับแซม
อย่ารีบร้อนนักสิ เดี๋ยวเกิดใครตื่นมาเห็นมันไม่คุ้มกันนะ แซมหันไปพูดกับแจ๊กกี้ที่ยืนหน้างออยู่ข้างหลัง โจรีบดันหลังแซมให้เดินต่อไป
ระวังสุดชีวิตเลยนะ แซมกระซิบบอกเพื่อนๆ พร้อมกับยกนิ้วเตือน ขณะที่ทุกคนกำลังลงมายังชั้นสามของตัวบ้าน หรือที่ทุกคนเรียกว่า เขตอันตราย เพราะการจะผ่านลงไปยังชั้นล่างต่อไปนั้น จำเป็นต้องผ่านห้องของมาดามแอกเนสอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนพยักหน้า พลางทอดสายตาไปยังบานประตูไม้มะฮอกกานีสีดำที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทางเดิน เบื้องหลังประตูบานนั้น มาดามแอกเนสกำลังหลับใหลอยู่ แต่เธอพร้อมจะตื่นขึ้นมาอาละวาดใส่พวกเขาได้ทุกเมื่อ แค่คิดก็สั่นไปถึงกระดูกแล้ว
ทุกคนค่อยๆย่องกันสุดชีวิต ในขณะที่กำลังเฉียดใกล้ห้องนั้นเข้าไปเรื่อยๆ ทุกคนรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นระรัวอยู่ในอก แผ่นหลังของทุกคนชุ่มเหงื่อ ทั้งๆที่อากาศในบ้านก็อุ่นสบาย
แซมรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อเท้าซ้ายของเธอสัมผัสกระไดขั้นแรก แจ๊กกี้ถึงกับชูมือขึ้นอย่างสบายใจ
นิคเป็นคนสุดท้ายที่กำลังเดินพ้นประตูห้องของมาดามแอกเนสออกมา แต่แล้วเท้าของเขาก็เหยียบไปที่พรมหน้าห้อง แรงเหยียบเบาๆทำให้พรมนั้นลื่นไถลไปตามพื้น จนนิคเสียหลักล้มลงด้วยความตกใจทำให้นิคเผลอร้องอุทานออกมา ตามมาด้วยเสียงกระแทกพื้นที่แม้จะไม่ดังจนลั่นบ้าน แต่ก็พอที่จะปลุกคนทั้งชั้นให้ตื่นขึ้นมาดู
ทุกคนรีบประคองนิคให้ลุกขึ้น ก่อนจะรีบเผ่นลงจากชั้นสามอย่างรวดเร็ว เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังเดินออกมาตามทางเดิน
ทุกคนรีบก้มลงกับพื้นตรงซอกหนึ่งของทางเดิน เดชะที่คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด ทำให้การมองเห็นเป็นไปได้ยากขึ้น นิคหอบหายใจแฮกๆด้วยความตกใจ พลางยกมือขอโทษเพื่อนๆ โจยกนิ้วขึ้นแตะปากให้ทุกคนเงียบ
นั่นใครน่ะ เสียงป้ามาร์ธาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
ทุกคนคลายความกังวลไปได้มากเมื่อนั่นไม่ใช่เสียงแหบห้าวของมาดามแอกเนส แสงสว่างสีเหลืองนวลจากไฟฉายในมือป้ามาร์ธา ส่องเป็นลำออกไปในความมืด เผยให้เห็นโถงทางเดินชั้นสามที่ว่างเปล่า เธอวาดไฟฉายไปตามซอกมุมต่างๆ
นั่นใครน่ะ ป้ามาร์ธาถามซ้ำ แต่มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา ป้าเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย
หรือฉันจะหูฝาดไปนะ ท่าจะจริง ไม่เห็นมีใครได้ยินเลย ขนาดเสียงมันดังมาจากหน้าห้องตัวเองแท้ๆ ป้ามาร์ธาพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่แสงไฟจับไปที่ประตูห้องของมาดามแอกเนส
แสงสีเหลืองจากกระบอกไฟฉายดับวูบลง บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง ป้ามาร์ธาเดินกลับห้องไป เสียงประตูปิดเบาๆดังตามมา
ทั้งหมดทรุดตัวลงอย่างหมดแรง หลังจากที่ลุ้นกันจนตัวโก่ง
หัวใจแทบจะหลุดออกมาเต้นอยู่ตรงหน้าแล้ว นิคกระซิบกระซาบ ด้วยใบหน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษ
เออ เหมือนกัน ดีนะที่เป็นป้ามาร์ธา ไม่ใช่มาดามแอกเนส แซมหอบหายใจแฮกๆ
รีบไปเถอะ หิวจะแย่อยู่แล้ว เจมส์เร่งรัดก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน ทุกคนเดินตามลงมาจนถึงห้องครัวที่อยู่ด้านหลังบ้าน
ไหนดูซิ มีอะไรให้กินบ้าง แจ๊กกี้พูดด้วยสีหน้าหน้าระรื่นใจ
ทุกคนรีบตรงไปที่ตู้กับข้าวทันที แซมเอื้อมมือไปเปิดฝาตู้ออก ขนมปังเนยส่งกลิ่นหอมฟุ้งออกมาจากตู้ แซมค่อยๆดึงถาดขนมปังออกมาอย่างบรรจง และระมัดระวังสุดชีวิต
เอาขึ้นไปกินข้างบนดีกว่า เจมส์เสนอก่อนจะหยิบถาดขึ้นมา แจ๊กกี้แย่งถาดในมือเจมส์ไป
เราถือเองดีกว่า เดี๋ยวจะหมดก่อนถึงห้อง
นี่ เราไม่ใช่คนเห็นแก่กินจนลืมเพื่อนหรอกนะ
การสนทนาของทั้งสองดังขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ จนแซมต้องรีบแยกทั้งสองออกจากกัน เงียบๆหน่อย แอนปราม ทั้งสองหันมาค้อนกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเมินหน้าหนีกันไปคนละทาง
พรุ่งนี้ป้ามาร์ธาต้องรู้แน่เลยว่าขนมปังหายไปจากตู้ นิคเอ่ยขึ้นอย่างสังหรณ์ใจ
มันก็ใช่ แต่จะให้ทำยังไงล่ะ อุตส่าห์ลงมาถึงนี่แล้ว จะให้กลับไปมือเปล่าหรอ โจพูดพลางจ้องไปที่ขนมปังบนโต๊ะอย่างหิวโหย นิคพยักหน้า
เราว่า ป้าน่าจะเข้าใจพวกเรานะ เราก็บอกสิว่าแอนหิวมาก เรากลัวว่าแอนจะไม่สบายอีกก็เลยไม่มีทางเลือก ต้องแอบลงมาเอาขนมปังไปให้แอน เจมส์แนะนำ ก่อนจะยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์ ด้วยความหิวที่เร่งเร้า ทุกคนจึงเห็นด้วยกับเจมส์โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มาก
รีบกลับไปที่ห้องเถอะ แซมเร่งก่อนจะถือถาดขนมไว้แนบอกอย่างมั่นคง ทุกคนค่อยๆย่องกลับออกไป แต่แล้วนิคก็ต้องสะดุดกึกเข้ากับอะไรบางอย่างที่ผ่านตาเขาพอดี เขาเหลียวหลังกลับไปมอง
เฮ้ย! นั่นใครนะ นิคพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คนอื่นๆหันมามองนิคที่ยืนตัวสั่น สายตาของเขาจับจ้องไปที่หน้าต่าง
แซมเขย่าตัวนิคเบาๆ แต่เขากลับสะดุ้งโหยง ท่าทางตกใจสุดขีด ดีที่โจเอามือมาปิดปากเขาไว้ได้ทัน ก่อนที่เขาจะตะโกนจนลั่นบ้าน บ่อน้ำ ที่บ่อน้ำ นิคพูดเสียงสั่นจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง เขาซุกหน้าลงกับแขนตัวเองอย่างหวาดกลัว ทุกคนมองผ่านความมืดไปที่บ่อน้ำใกล้กับชายป่าด้านหลังบ้าน
จนสายตาเริ่มชินกับความมืด แสงวูบวาบจากตะเกียงส่องให้เห็นเงารางๆของอะไรบางอย่าง
พวกแกเห็นเหมือนเรารึเปล่า แซมพูดกับทุกคนอย่างประหลาดใจ
ที่ข้างบ่อน้ำนั้น มีเงาตะคุ่มๆของมนุษย์สองคน กำลังทำอะไรบางอย่าง แต่ด้วยความมืด บวกกับพุ่มไม้ใหญ่น้อยที่บดบังเอาไว้จึงทำให้มองเห็นไม่ถนัดนัก
นิค เป็นอะไร แซมเขย่าตัวนิคที่ยังก้มหน้าอยู่
ผี ผี! นิคพูดตะกุกตะกัก ข้างบ่อน้ำ เขาพูดต่อแต่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา จนโจต้องดึงหัวเขาขึ้นมา
ไม่ใช่ผีหรอก นั่นนะคน ดูดีๆสิ โจกระซิบข้างๆหูนิค ที่หลับตาปี๋
จริงหรอ นิคพยักเพยิด ก่อนจะค่อยเปิดตาขึ้นอย่างกลัวๆกล้าๆ
ภาพที่เขาเห็นคือคนสองคน กำลังทำอะไรบางอย่างข้างบ่อน้ำ แล้วทำไมเมื่อกี้เขาถึงได้มองเห็นว่ามันเป็นผีได้นะ คงเพราะกิ่งไม้พวกนั้น
นิคยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนจะตบอกเบาๆเป็นการเรียกขวัญกำลังใจ ทุกคนยังคงจ้องมองเหตุการณ์ประหลาดของสองคนนั้นอย่างสงสัย
แล้วเขาทำอะไรกันดึกๆดื่นๆอย่างนี้นะ แจ๊กกี้ถามขึ้น คนอื่นๆส่ายหน้า
ไม่รู้สิ เหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างที่บ่อน้ำนั่น โจสันนิษฐาน
แล้วสองคนนั้นเป็นใครนะ เจมส์ตั้งข้อสงสัย แต่ก็ไม่มีใครไขข้อข้องใจนี้ได้ เงาดำข้างบ่อน้ำนั้นยังคงทำอะไรบางอย่างที่เป็นปริศนาต่อไปในความมืด อย่างตั้งใจ ส่วนผู้สังเกตการณ์ก็กำลังจ้องมองดูอย่างตั้งใจเช่นกัน
ถ้าไม่ลองออกไปดูใกล้ๆก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าพวกเขาทำอะไรกัน เจมส์เอ่ยขึ้น ก่อนจะมองหน้าเพื่อนๆเป็นเชิงปรึกษา
นิคส่ายหน้า อย่าดีกว่า เสี่ยงเกินไป เกิดมีใครรู้เข้าละก็ยุ่งแน่ นิคพูด
แหม กลัวก็บอกมาเถอะ แซมล้อเลียนพลางยิ้มอย่างชอบใจ
นิคหันมาค้อนใส่ เออ เรากลัวจริงๆแหละ พอใจรึยัง นิคยอมรับอย่างตรงไปตรงมา เพราะถึงแม้จะรู้ว่านั่นไม่ใช่ผี แต่เขาก็ยังขนลุกซู่เมื่อมองไปยังบ่อน้ำนั่น
หิวแล้ว ใครจะนั่งดูอยู่ก็เชิญ เรากลับล่ะ เจมส์ว่าก่อนจะชันตัวลุกขึ้นแล้วทุกคนก็ค่อยๆย่องกลับขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคาอันอับชื้น ในขณะที่สมองยังวนเวียนอยู่กับปริศนาข้างบ่อน้ำนั่น
แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ทุกคนจึงรีบหม่ำขนมปังที่โจแบ่งออกเป็นหกชิ้นเท่าๆกันอย่างเอร็ดอร่อย แม้ว่าจะมันจะเย็นชืด แล้วก็นิ่มเกินไป แต่อะไรๆก็อร่อยทั้งนั้น เมื่อเราหิว
ขนมปังก้อนใหญ่หายวับไปในชั่วพริบตา ทุกคนนั่งพิงผนังที่เย็นเฉียบ ปล่อยให้กระเพาะอาหารทำงานต่อไป
นี่ แล้วเรื่องเมื่อกี้ล่ะ จะเอายังไง ไม่อยากรู้หรอ ว่าสิ่งที่พวกเราเห็นคืออะไรกันแน่ แซมเปิดการสนทนาขึ้นหลังอาหารมื้อดึก
อยากรู้สิ ทำไมจะไม่อยากรู้ โจตอบ
ดี ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราลองไปดูที่บ่อน้ำนั่นกัน อาจจะมีอะไรน่าสนใจ เจมส์เสนอขึ้น ทุกคนเห็นด้วย
เหมือนนักสืบเลยเนอะ นิคพูดด้วยท่าทีตื่นเต้น
เราว่าเหมือนคนสอดรู้สอดเห็นมากกว่า แจ๊กกี้หัวเราะชอบใจ
พูดอย่างนี้นี่ หมายความว่าจะไม่ไปด้วยใช่มั้ย โจพูดลองเชิง
ไปสิ เรื่องสนุกๆอย่างนี้เราไม่พลาดหรอก
จากคุณ :
ไวยวินน
- [
3 พ.ค. 47 20:35:02
A:202.57.185.152 X:
]