CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 44 แผนของเกี่ยมฮุ้น

    "รายงานผู้คุ้มกฏ ผู้น้อยได้เบาะแสบุคคลที่ท่านให้ตามหาแล้ว!" บุรุษในชุดดำรัดกุมทั้งชุด บนผ้าคลุมวาดเป็นรูปดอกบัวดอกหนึ่งกล่าวรายงานต่อชายในชุดสีขาวปนเทาเหลื่อมฟ้า

    ชายผู้นี้ย่อมเป็น…เกี่ยมฮุ้น!

    เบาะแสที่มันตามหาคือผู้ใดกัน!!! ไม่มีผู้ใดทราบ ผู้ที่ทราบมีเพียงตัวของมันเท่านั้น เกี่ยมฮุ้นเงยหน้ามองก้อนเมฆสีขาวที่ลอยเคว้งบนฟ้า ประกายตาของมันดุดันจนน่าหวาดหวั่น

    "เราจักให้เจ้าสำนึกเสียใจไปตลอดชีวิต!" กล่าวพลางติดตามเงาร่างของคนชุดดำไปอย่างรวดเร็ว

    ………..
    …………………………

    ฟาหลินซีปราดไปถึงปากทางเข้า ขณะจะฝ่าออกไป พลันพบว่า ลูกเกาฑัณท์จำนวนหลายสิบหลายร้อยดอกพุ่งเข้าหาด้วยพลังแรงกล้า ได้แต่พริ้วกายถอยหลัง มือสองข้างปัดป่าย คว้าจับเกาฑัณท์หลายดอกซัดขว้างย้อนกลับไป

    มันยื่นมือออกก็สามารถคว้าจับลูกเกาฑัณท์ที่แฝงพลังแรงกล้าเอาไว้ ง่ายดายดุจเดียวกับยื่นมือออกคว้าส้มในลัง การจะทำเช่นนี้ มิเพียงต้องมีพลังข้อที่แข็งแร่ง พลังฝีมือสูงส่ง ยังต้องอาศัยจังหวะที่พอดิบพอดีอีกด้วย ทว่าฟาหลินซีกลับสามารถทำทั้งหมดในชั่วพริบตา นับว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดาสามัญ

    "อ้อก โอ้ย" ผู้คนหลายคนร่ำร้องออกมา แสดงว่าการซัดขว้างของมันได้สังหารผู้คนและสร้างความเสียหายแก่ศัตรูหลายคนในคราเดียว

    ขณะนั้นเหวินเหม่ยชิงและเสี่ยวโกยก็ติดตามมาถึง

    "พี่หลินซี! ศัตรูเฝ้าปากทาง ยึดครองชัยภูมิที่เหนือกว่า พวกเราทำเช่นไรดี?"

    ฟาหลินซีอาศัยชั่วพริบตา กวาดตามองดูผู้พบว่าบุกรุกมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสามสิบคน ล้วนแต่งกายด้วยชุดดำคลุมหน้าทั้งสิ้น พวกตนมีเพียงสามคน เท่ากับว่าบุคคลหนึ่งรับมือผู้คนสิบกว่าคน ลำบากตึงมือยิ่ง!!!

    "พวกเราฝ่าออกไป!!!" ฟาหลินซีตวาดเสียงดัง

    อาศัยช่วงจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามคาดคิดมิถึง ชิงจู่โจมลงมือ ร่างในชุดสีเทาหม่นของมันพลันเบ่งพองราวลูกหนัง เสื้อผ้าอาภรณ์ของมันเวลานี้บรรจุไปด้วยพลังปราณบริสุทธิ์ ต่อให้ลูกเกาฑัณท์กล้าแข็งกว่านี้ก็มิแน่ว่าจะสามารถทำอันตรายมัน!

    "ย้าก พลั่กๆๆ ใครมๆๆ"

    ฟาหลินซีโลดแล่นไปพลาง ซัดฟาดไปพลาง คนราวกับหมาป่าพลัดเข้าไปท่ามกลางฝูงแกะ ผู้คนเจ็ดแปดคนถูกมันซัดฟาดจนล้มลงสิ้น คนที่เหลือต่างทิ้งหน้าไม้คันธนู ชักดาบกระบี่กรูกันเข้ามาสกัดขัดขวาง เวลานี้ผู้คนสามสิบกว่าคนหลงเหลือเพียงยี่สิบเศษ

    "เฟี้ยววว ตูมมม!" เสียงระเบิดดังขึ้นกลางกลุ่ม เศษหินและฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ผู้คนยี่สิบกว่าคนที่กรูกันเข้ามาพลันกระเด็นกระดอนล้มลงไปกว่าสิบคน มองเห็นเสี่ยวโกยมือหนึ่งควงปังตอ อีกมือซัดขว้างวัตถุคล้ายดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ในมือ เหล่าศัตรูพากันแตกฮือหลบหนี

    "ฮาฮา ดอกไม้ไฟของข้าพเจ้าสวยงามหรือไม่?" มันกล่าวพลางโลดแล่นตามหลังฟาหลินซีออกไป

    ทั้งหมดเมื่อหลุดพ้นจากปากทางเข้าที่เป็นจุดอับมาได้ก็ต้องตกตะลึง

    เบื้องนอกปรากฏคนชุดดำดุจเดียวกับเมื่อครู่จำนวนหลายสิบคน บ้างกุมกระชับขวาน บ้างร่ายรำทวน มีไม่น้อยที่ใช้ดาบกระบี่ ทั้งหมดต่างจัดเป็นหมวดหมู่ พวกที่ใช้ขวานอยู่ตรงกลาง กระหนาบด้วยพวกที่ใช้ทวน ส่วนพวกที่ใช้ดาบกระบี่กระจัดกระจายรายล้อมพวกมันไว้โดยรอบ ดูไปคล้ายค่ายกลหลังหนึ่ง!!!

    เบื้องหลังพวกมันยังยืนอยู่ด้วยคนชุดเหลืองรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าของมันก็คลุมด้วยผ้าดำเฉกเช่นเดียวกัน!!!

    "พวกเราระวัง! ดูเหมือนเป็นค่ายกลหลังหนึ่ง ในบรรดาศาสตราวุธ กระบี่รวดเร็วพลิกแพลงที่สุด ดาบเปิดเผยดุดัน ขวานรุนแรงมั่นคง ส่วนทวนพลิกแพลงสามารถจู่โจมในจุดที่คาดไม่ถึง เนื่องเพราะมันมีความยาวที่มากกว่าอาวุธอื่นใด จะเป็นรองเพียงแค่อาวุธไกลเช่นเกาฑัณท์เท่านั้น ค่ายกลนี้เมื่อประกอบจากอาวุธทั้งสี่ล้วนมีส่วนในการเสริมสร้างอานุภาพของกันและกัน!!!" เหวินเหม่ยชิงรีบกล่าวเตือนบุรุษทั้งสอง

    "เจ้าโกย! เจ้ารับมือค่ายกล คุ้มครองน้องสาวแซ่เหวิน ข้าพเจ้ารับมือมัน!!!" ฟาหลินซีกล่าวพลางพุ่งกายเข้าหาชายชุดเหลืองที่คลุมหน้า

    เสี่ยวโกยกระซิบที่ข้างหูเหวินเหม่ยชิง จากนั้นตนเองถอยกายไปด้านหลัง

    เหวินเหม่ยชิงพลันชักกระบี่ออก ทุ่มเทท่าร่างเข้าหาค่ายกลศาสตราวุธ!!!

    "เพ้ย! เจ้าโกย! เราเรียกเจ้าคุ้มครองน้องสาวแซ่เหวิน มิใช่ให้นางคุ้มครองเจ้า!!!" ฟาหลินซีร่ำร้องออกมาเมื่อเห็นเหวินเหม่ยชิงพุ่งเข้าหาค่ายกล

    "ฮา ฮา พี่หลินซี น้องสาวแซ่เหวินของท่าน พลังฝีมือสูงส่งกว่าข้าพเจ้านับสิบเท่า ข้าพเจ้าอาศัยอะไรไปคุ้มครองน…พี่หลินซี!!!" เสี่ยวโกยขณะตอบโต้อีกฝ่ายพลันเห็นคนชุดเหลืองประกบดรรชนีราวกับกระบี่เล่มหนึ่งทิ่มแทงจู่โจมเข้าใส่ฟาหลินซี ต้องร่ำร้องออกมาด้วยความตกตะลึง

    ฟาหลินซีรู้สึกพลังลมแรงกล้าและแหลมคมเสียงแทงผิวกายแทบปริแตก ก็ทราบว่าคนชุดเหลืองลงมือแล้ว ดังนั้นเคลื่อนกายขวางโดยมิเหลียวหน้ากลับไป คนชุดเหลืองรีบสะกิดปลายเท้าติดตามดรรชนีในมือยังคงทิ่มแทงเข้าใส่ซอกคอของอีกฝ่ายโดยมิเปลี่ยนแปลง


    "ฟึ่บ!"

    ขณะดรรชนีแทบสัมผัสกับก้านคอด้านหลังของฟาหลินซี คนชุดเหลืองพลันชะงักกระบวนท่าพุ่งกายถอยกลับ ทว่ายังเชื่องช้าไปบ้าง เสื้อชุดเหลืองของมันถูกกรงเล็บข้างหนึ่งที่ซัดฟาดย้อนหลังมากรีดขาดเป็นทางยาวห้าสาย!!!

    "กรงเล็บมังกรร้ายกาจสมคำร่ำลือ!" มันตวาดพลางโยกกายไปมามือสองข้างประกบเป็นดรรชนี ดูไปคล้ายกระบี่แหลมคมสองเล่ม ระดมทิ่มแทงเข้าใส่อีกฝ่าย

    ฟาหลินซีลอบตื่นตระหนก พลังฝีมือของคนผู้นี้เข้าขั้นใช้ออกดั่งใจปราถนา คนเช่นนี้สมควรเป็นผู้มีชื่อเสียงในยุทธจักร เหตุใดจึงปลอมแปลงตน นำพากำลังคนซุ่มจู่โจมพวกตนเช่นนี้? ผู้ใดเป็นผู้ใช้สอยมันมา!!?


    "เคร้งๆๆ"

    เหวินเหม่ยชิงร่ายรำกระบี่วิถีโค้งแห่งหันซานรุกไล่เข้าใส่ค่ายกลเบื้องหน้าอย่างว่องไว ทว่ามิเพียงไม่สามารถผลักดันพวกมันให้ถอยไปได้ กระทั่งตนเองยังได้รับแรงต้านจนต้องถอยกายไปสามก้าว

    "ฮึ่มม" หญิงสาวกัดฟัน รู้สึกเหมือนกับซัดพลังใส่ศิลาแข็งแกร่งก้อนหนึ่ง พลังที่จู่โจมไปล้วนดีดสะท้อนกลับมาทั้งสิ้น

    เมื่อครู่นางชิงจู่โจมเข้าใส่จุดอ่อนของค่ายกลคือขบวนขวาน ขบวนขวานในสายตาของเหวินเหม่ยชิงอ่อนแอที่สุด!!? อ่อนแอในที่นี้มิใช่ว่าพวกมันไร้ซึ่งพลัง แต่เนื่องเพราะพวกมันแม้ดุดันแข็งแกร่ง แต่เชื่องช้ายิ่ง ดังนั้นหญิงสาวอาศัยเพลงกระบี่วิถีโค้งกระบวนท่าที่เด็ดขาดรวดเร็วที่สุด หวังจู่โจมทำลายขบวนขวานลง ทว่ายังมิทันที่จะจู่โจมสำเร็จ พลันพบว่า กระบี่สามเล่มของบุคคลที่รายล้อมกลุ่มขวานอยู่ชิงจู่โจมเข้ามาจากซ้ายขวา และเบื้องหลัง จากนั้นทวนอีกสี่เล่มกระแทกพื้นลื่นไถล จู่โจมเข้าใส่ขาทั้งสองข้างของนาง!!!

    เหวินเหม่ยชิงได้แต่ลอยตัวตามสภาวะ กระบี่ในมือวกกลับมาปัดป่ายกระบี่ทั้งสามเล่ม พลังพึ่งสิ้นสุด ร่างเริ่มร่วงหล่น พลันพบว่ามีบุคคลห้าคนกุมกระชับดาบลอยตัวอยู่เบื้องบนศีรษะ ดาบทั้งห้าเล่มฟาดจู่โจมเข้าใส่อย่างดุดัน ขณะจะทิ้งร่างลงสู่พื้น พลันพบว่ามีบุคคลอีกกลุ่มกลิ้งตัวมาบนพื้น พุ่งหอกจู่โจมเข้าใส่ ในที่สุด เหวินเหม่ยชิงได้แต่สูดลมหายใจคำหนึ่ง ม้วนตีลังกาถอยกลับมา เมื่อลงพื้นต้องถอยกายออกมาอีกสามก้าว จึงรอดพ้นจากอันตราย!

    ทันใดนั้นเอง "แม่นางเหวินรีบถอย!!!"

    "ฟิ้วววว ตูมมม"

    เหวินเหม่ยชิงพึ่งถอยกายมา ก็พบว่าเบื้องหน้าปรากฏเศษหินเศษดินและควันฟุ้งกระจาย ผู้คนเบื้องหน้าหลายสิบคนที่ประกอบเป็นค่ายกล พากันล้มลงกว่าครึ่ง ที่เหลือก็บาดเจ็บจนโลหิตโซมกาย ค่ายกลอันแข็งแกร่งก็ได้แตกพ่ายลงในลักษณะนี้!

    "ฮา ฮา พี่หลินซี ข้าพเจ้าสามารถคุ้มครองน้องสาวท่านไว้ได้แล้ว" เสี่ยวโกยกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง

    ที่แท้ มันนัดแนะกับหญิงสาวให้ออกไปต้านทานประวิงเวลาแก่มัน ตัวมันลอบจุดดินระเบิด และซัดขว้างออก เพียงคราเดียวค่ายกลที่ประกอบด้วยผู้คนหลายสิบคนก็พินาศลงในพริบตา

    เหวินเหม่ยชิงมองผู้คนที่เหลืออยู่เข้าฉุดลากคนบนพื้นถอยหนี พบว่าผู้ที่ล้มลงมิมีแม้เพียงคนเดียวที่อันตรายถึงชีวิต ต้องลอบมองเสี่ยวโกยด้วยความนับถือ

    "พี่โกย ดอกไม้ไฟของท่านร้ายกาจยิ่งนัก เพียงคราเดียวสามารถล้มผู้คนหลายสิบคน ที่สำคัญที่สุดมิมีผู้ใดถึงแก่ชีวิตแม้เพียงคนเดียว!!!"

    เสี่ยวโกยยิ้มด้วยความภาคภูมิ กล่าวว่า

    "น้องสาวแซ่เหวิน เรื่องนี้ท่านยกให้เป็นความดีของพี่ฮั่นเถอะ"

    "เหตุใดเป็นความดีของเขา?!!" เหวินเหม่ยชิงกล่าวด้วยความสงสัย

    "เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากคราก่อนที่ข้าพเจ้าได้รับการสั่งสอนจากเขาว่า มิควรฆ่าคนโดยพละการ ดังนั้นดินระเบิดที่ใช้จึงกำหนดให้มีประสิทธิภาพเพียงแค่ทำให้บาดเจ็บล้มลง มิให้ถึงชีวิต"

    เหวินเหม่ยชิงฟังพลันรู้สึกว่าคนผู้นี้มิเพียงภักดีต่อฮั่นตง ยังเชื่อฟังคำพูดของเขายิ่ง คิดดังนั้นนางหน้าแดงขึ้นมาวูบหนึ่ง

    หากเมื่อเห็นว่าฟาหลินซีถูกคนชุดเหลืองผู้นั้นรุกไล่โดยมิอาจตอบโต้
    ก็ต้องตะโกนว่า "พี่หลินซี ระวัง!"

    หญิงสาวรู้สึกว่าพลังฝีมือของคนชุดเหลืองมิเพียงรวดเร็ว ว่องไว ยังคุ้นตายิ่ง ขณะคิดว่าสมควรที่จะเข้าช่วยเหลือฟาหลินซีดีหรือไม่ พลันพบว่าฟาหลินซีลงมือตอบโต้แล้ว!!!

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 6 พ.ค. 47 21:36:28 ]