CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    *~*หนุ่มจ๋าได้โปรด…ฉันโสดจนเบื่อ (ตอนที่ 4/1)*~*

    ขอโทษค่าคิกคิก copy มาไม่ครบ สงสัยตอนคอมแฮ็งค์แล้วมันไม่ติดเลยเป็นงี้ ขอโทษนะคะ
    จะอ่านไหม่อีกรอบหรือไม่ก็ได้ค่ะ เพราะมันก็เพิ่มไปวรรคเดียวเองค่ะ
    **-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
    ยุทธการที่ 3 ปฏิบัติการอ่อยเหยื่อ Round one

    ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นฉุดให้นางสาววรรณวิภาเงยหน้าขึ้นมามอง “นั่นใคร”

    “นี่ชั้นเอง บอส มีเรื่องจะคุยด้วย” เสียงคนละฝั่งประตูเอ่ยตอบ

    “เชิญ!” เสียงใสเอ่ยอนุญาตทำให้คนเคาะค่อยๆแง้มประตูมาเอ่ยธุระที่ตั้งใจ

    “เอ่อ  คือ…คือบี…คือว่ามุกไม่ว่างเพราะต้องไปเยี่ยมญาติน่ะ แล้ว…แล้ว” บอสปั่นของเราเริ่มพูดติดขัดเมื่อพบว่าสายตามัจจุราชของบีจ้องเขาเขม็ง เขาก็รู้ว่าบีเกลียดการออกงานสังคม มุกก็ดันไม่อยู่ ต้นข้าวก็ต้องไปทำข่าว คนอื่นจะชวนไปก็ไม่ได้เดี๋ยวก็เป็นข่าวน่ารำคาญอีก ให้ตายสิเขาตัดสินใจใหม่ดีมั้ยเนี่ย ระหว่างที่ปั่นกำลังตัดสินใจบีก็ถามขึ้นว่า

    “แล้วไง ชั้นไม่มีเวลาว่างมากนักหรอกนะ”

    “คือชั้นจะให้แกไปงานเลี้ยงกะชั้นหน่อย งานของบริษัทร่วมทุนโภคากรน่ะ คืนนี้” เชษฐพงศ์ถินหายใจเฮือก พูดไปแล้ว…เดี๋ยวรู้ผล…

    “โภคากร” บีทวนคำ ทำไมน้านามสกุลนี้มันคุ้นเหลือเกิน วรรณวิภารีบพลิกแฟ้มหนุ่มหล่อของเธอแล้วก็พบ…พิเชษฐชัย โภากร หนุ่มโสดเจ้าของธุรกิจส่งออกหมูของเธอนะเอง เธอไม่คิดเลยว่าโอกาสจะมาถึงเร็วขนาดนี้ บียิ้มอย่างสมใจ อืม…สเป็คที่ชอบ…สาวผมยาว ชอบให้ผู้หญิงใส่ชุดสีชมพู เรียบร้อยนิดๆ…หญิงสาวดีดนิ้วเปาะทำเอาเชษฐพงศ์สะดุ้งเฮือก “ตกลง ไอ้ปั่น เดี๋ยวเองไปรับชั้นที่บ้าน 6 โมง อย่าช้า…ชั้นไม่อยากเสียเวลา” ROUND ONE START!!!!

    “ครับ” เชษฐพงศ์หรือไอ้ปั่นรับคำกึ่งงงกึ่งทึ่ง หันกลับไปที่ประตู อะไรมันจะง่ายขนาดนี้วะ เขาอุตส่าห์สวดอ้อนวอนพระเจ้าแทบเป็นแทบตาย ซ้อมคำพูดเป็นนานสองนานกว่าจะตัดสินใจมาพูดกะมัน แล้วอะไร! ตกลงง่ายๆแค่นี้ อะไรดลใจให้ไอ้บีของเขาตกปากรับคำเขาอย่างงี้ก็ช่างเถอะ เขาขอบคุณจริงๆ เชษฐพงศ์ยิ้มแป้น แต่แล้วรอยยิ้มก็ค่อยๆเหือดหาย สันหลังเสียววาบ ชายหนุ่มค่อยๆหันกลับมาที่หญิงสาวอีกครั้ง รอยยิ้มของบีที่ตอบมาทำให้หัวใจของเขาหล่นไปที่ตาตุ่ม วรรณวิภาหาเรื่องอีกแล้ว… สาธุ ลูกช้างถวายหัวหมู 3 หัวเลยนะขอแค่ให้คืนนี้ลูกช้างปลอดภัยก็พอ

    ปี๊นๆ เสียงแตรรถจากรถยุโรปหรูราคาแพงดังขึ้นที่หน้าบ้านของวรรณวิภาบ่งบอกการมาของบอสหนุ่มของเธอ หญิงสาวอยู่ในชุดราตรีสีชมพูอ่อนยาวกรอมเท้า ผมยาวสยายถูกบรรจงจัดอย่างปรานีต รูปหน้าเรียวไข่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์เสริมความงามที่มีอยู่แล้วให้โดดเด่นยิ่งขึ้น หญิงสาวลงบันไดมาช้าๆ เชษฐพงศ์ถึงกับตะลึงค้าง …ใครจะคิด…อยู่ๆมัจจุราชจะแปลงร่างเป็นนางฟ้าได้… ปากไวเท่าความคิด

    “ไอ้บี เฮ้ย!สวยว่ะ ผีอะไรเข้าสิงวะแต่งซะ รอดพ้นหูผีจมูกมดของวรรณวิภาไปได้  

    “ว่าไงนะ!!!”

    “คือ ชั้นบอกว่าขอโทษ” ปั่นพูดแล้วรีบลากบีขึ้นรถไปงานทันที

    …สาธุ!!!…ลูกช้างเพิ่มเป็น 4 หัวเลยก็ได้ อย่าให้เกิดเรื่องเลยนะ เพี้ยง!!!…

    “ไอ้ปั่น คืนนี้ชั้นเป็นแค่เพื่อนแกไม่ใช่ลูกน้องไม่ใช่นักข่าวใช่มั้ยวะ” บีหันมาถาม

    “ใช่จ๊ะ เอ่อ…ถ้าแกว่างั้นนะ” ปั่นยิ้มแห้งๆ ให้ตายสิไม่เคยกลัวใครเท่านี้เล้ย

    “ดี อะถึงแล้ว”

    ปั่นลงจากรถทำหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดียื่นแขนให้หญิงสาวควงเข้างาน เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นรอบๆคนทั้งคู่ เชษฐพงศ์จัดว่าเป็นหนุ่มเนื้อหอมของแวดวงไฮโซเลยทีเดียว ด้วยความเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ใหญ่ร่ำรวยมากและยังโสดที่รอดพ้นแฟ้มหนุ่มหล่อของต้นข้าวมาได้ก็เพราะรู้จักบี วรรณวิภาเป็นอย่างดีนี่แหละ การที่เขาควงหญิงสาวที่ไม่ใช่เลขาที่เคยเห็นทุกทีออกงานสังคมย่อมไม่ธรรมดาแน่ หญิงสาวเดินไปข้างหน้านิ่งเหมือนไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง โรงละครที่มีหล่อนเป็นตัวแสดงนำเปิดฉากแล้ว…

    “นั่นบอสมากับใครน่ะ คล้ายเจ๊บีเลยนะ แต่ไม่น่าใช่” นักข่าวรุ่นน้องสะกิดต้นข้าวที่มาทำข่าว

    “อยากรู้ก็เข้าไปถามบอสเอาสิ” ต้มข้าวยิ้มมุมปาก เริ่มแล้วสินะไอ้บี…

    “ใครจะกล้าล่ะ บอสแกดุจะตาย” นักข่าวรุ่นน้องส่ายหน้าแหยงๆอย่างคนที่รู้ฤทธิ์ของเจ้านายตนดี ก็คงจะมีอยู่คนเดียวที่ควงแขนเขาอยู่นั่นแหละที่ไม่รู้…

    เชษฐพงศ์พาวรรณวิภาทักทายเจ้าของงานในฐานะเพื่อนสนิท ในขณะที่หญิงสาวสอดส่ายสายตาหาชายหนุ่มนามว่าพิเชษฐชัย โภคากร และแล้วหญิงสาวก็พบชายหนุ่มยืนอยู่ที่มุมห้องกำลังเสวนากับคนที่หล่อนคาดว่าเป็นเพื่อนอยู่และกำลังจะเดินออกไป หญิงสาวกระตุกแขนบอสของเธอเบาๆเพื่อเรียกให้รู้ตัว เชษฐพงศ์จึงหันมาทันทีก่อนที่ยักษ์ขมูขีนามว่าบี วรรณวิภาจะโกรธ

    “เดี๋ยวมา” วรรณวิภาบอกยักคิ้วแผล็บก่อนจะหายตัวไปในงานที่มีฝูงชนคับคั่ง…

    หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มออกไปทิ้งระยะห่างให้ชายหนุ่มไม่รู้ตัว เมื่อพบว่าพิเชษฐชัยออกไปยืนรับลมข้างนอกของโรงแรม ตรงกับข้อมูลที่ต้นข้าวหามา พิเชษฐชัยไม่ชอบงานสังคม… บียืนคอยจังหวะให้ชายหนุ่มเดินห่างออกไปพอสมควรแล้วจึงเดินออกไปแสร้งว่าไม่เห็นชายหนุ่ม ละครฉากที่ 1 ของเธอ เปิดฉากแล้ว….

    หญิงสาวค่อยๆเดินไปที่ที่นั่งริมระเบียงรอคอยให้ชายหนุ่มมาทักแบบหนังละครที่เธอดูเป็นประจำ แต่จนแล้วจนเล่าพ่อเจ้าประคุณก็ไม่มาซักที หญิงสาวจังตัดสินใจขั้นสุดท้าย

    “โอ้ย!!!!” หญิงสาวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เสียงร้องทำให้พิเชษฐชัยซึ่งอยู่แถวนั้นและกำลังจ้องมองหญิงสาวอยู่ตั้งแต่เธอเดินออกมาแต่ไม่กล้าออกไปทักรี่เข้ามาหาอย่างเป็นห่วง

    “คุณเป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวที่ล้มลงพังพาบกับพื้น มือกำข้อเท้าป้อยๆ

    “สงสัยขาจะแพลงค่ะ คงลุกเร็วไปหน่อย” บีก้มหน้าลอบยิ้มที่มุมปาก สำเร็จตามแผน…

    “คือ ขอผมดูหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มออกจะขัดเขิน เขาไม่ค่อยชินกับผู้หญิงจริงๆ พิเชษฐชัยก้มลงดูเท้าของวรรณวิภาและจับเบาๆ

    “โอ้ย!!!” วรรณวิภานิ่วหน้าทำเหมือนว่าหล่อนเจ็บเสียเต็มประดา

    “ขอโทษครับ สงสัยขาจะแพลงจริงๆด้วย รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวผมไปตามคุณเชษฐพงศ์มาพาคุณกลับบ้านดีกว่า” ชายหนุ่มพูดแล้วทำท่าจะหันหลังกลับเข้าไปตามเชษฐพงศ์ตามที่พูด หากแต่ว่าบีจับแขนของเขาไว้ก่อน

    “อย่าไปนะคะ ชั้นไม่อยากอยู่คนเดียวทั้งๆที่เดินไม่ได้แบบนี้ เอ่อ…ทำไมต้องไปตามเชษฐล่ะคะ” หญิงสาวทำหน้างุนงงสงสัย ก็เธอไม่เข้าใจจริงๆนี่นาว่าจะไปตามไอ้ปั่นมาทำไม

    “ก็คุณเชษฐพงศ์เป็นแฟนคุณนี่ครับ เค้าจะได้พาคุณกลับบ้านไง” ชายหนุ่มตอบทำหน้าลำบากใจ

    น่ารัก…เขิน…เรียบร้อยเชียว บีเผลอยิ้มออกมาจนทำเอาชายหนุ่มผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนและไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของบีหัวใจพองโต “เชษฐเค้าไม่ใช่แฟนบีหรอกค่ะ เค้าขอให้บีมาแทนเลขาที่ไม่สบายน่ะค่ะ เราเป็นเพื่อนกัน”

    “เหรอครับ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างยินดี ตั้งแต่เกิดมาเค้าไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนตรงกับสเป็คเขาเท่านี้มาก่อน ทั้งบุคลิก ท่าทาง การแต่งกาย นิสัย ก็แน่ล่ะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่บีบรรจงสร้างแต่งแต้มเพื่อเขาโดยเฉพาะนี่นา

    “คุณ…เอ่อ…คุณบีออกมาข้างนอกทำไมครับ งานออกจะสนุก”

    “น่าเบื่อออกค่ะ คือบีไม่ชอบที่ที่เสียงดังๆ คนเยอะๆน่ะค่ะ”

    “เหรอครับ เหมือนผมเลย ผมก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน” ชายหนุ่มยิ้ม เธอไม่ชอบงานสังคมนี่ก็ตรงสเป็ค!

    บียิ้มหวานให้พิเชษฐชัยแล้วถามตามแผนที่เธอกะเอาไว้ “คุณรู้ชื่อบีแล้ว แต่บียังไม่รู้ชื่อคุณเลยค่ะ” หญิงสาวเลือกเฟ้นคำและกิริยาที่อุตส่าห์เฝ้าฝึกฝนการเป็นกุลสตรีมาใช้ จากการถามชื่อด้วยประโยคที่เคยชินคือ “แกชื่อ’ไร”

    “ผมชื่อพิเชษฐชัย โภคากรครับคุณบี เรียกผมว่านัทก็ได้”

    “อุ้ย!…ขอโทษค่ะเมื่อกี้บีว่าว่างานไม่สนุก งานของบ้านคุณแท้ๆ” บิแสร้งยิ้มเขินๆในความเปิ่นของตัวเอง ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไร นี่งานของใคร

    “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ว่าหรอก” พิเชษฐชัยตอบยิ้มๆ

    “ขอบคุณค่ะ…คุณนัท ค่อยยังชั่วแล้วบีไปก่อนนะคะ” พูดจบบีก็ลุกทันที และแกล้งเสียหลักลงไปให้ชายหนุ่มรับ ตาประสานตา แต่แล้วเสียงหนึ่งที่หล่อนคุ้นเคยก็ขัดจังหวะขึ้น

    “แกทำอะไรบี!” บอสปั่นของเรานะเอง เขาตามหาวรรณวิภาจนรอบงานเพราะพ่อเจ้าประคุณนายริชชี่ต้องการพบ เขาไม่เห็นจะเข้าใจเลยซักนิดว่ามันเกี่ยวอะไรกับเขา แล้วเขาก็มาเจอเธออยู่กับชายหนุ่มที่ทำท่าเหมือนจะลวนลามบี เพราะจากที่เขาดูแล้วพิเชษฐชัยน่ะกำลังกอดบีอยู่ เขาจึงปราดเข้าไปทันทีแต่ทว่าบีห้ามไว้ทัน

    “เชษฐคะ เดี๋ยวค่ะ” บีห้ามเสียงหวาน แต่นัยตาที่มองมานั้นทำเอาปั่นขนลุกซู่ สายตาฆ่าคนได้ของเธอนั่นเอง “พอดีคุณนัทเขาพยุงบีไว้น่ะค่ะ บีกำลังจะล้ม”

    “บีกำลังจะล้ม?” เขาทวนเสียงสูง ไม่ได้แปลกใจที่นัทพยุงบี แต่แปลกใจในสรรพนามที่ไอ้บีเรียกเขา และสำนวนที่คุณเธอใช้ ประโยคที่หวานหยดย้อยราวกุลสตรีว่า “บีกำลังจะล้ม” ที่ไม่เคยผ่านปากไอ้บีมาก่อน

    “ครับ คุณบีเธอขาแพลง” พิเชษฐชัยส่งบีให้เชษฐพงศ์ที่ยังงงๆอยู่ช่วยพยุง

    “ขอบคุณครับ ที่ช่วยดูแลบีให้ เราขอตัวก่อนนะครับ” เชษฐพงศ์หันหลังกลับโดยไม่ได้สังเกตว่าบีแกล้งทำผ้าเช็ดหน้าหล่นไว้ …แผนหนึ่งไม่ได้แผนสองก็ยังมี… บีไม่รู้เลยว่าในมุมหนึ่งมีชายหนุ่มอีกคนที่ตามหาตัวเธออยู่กำลังจ้องมองพฤติกรรมของเธอ…

    พิเชษฐชัยมองตามบีจนลับสายตา และก็สังเกตเห็นผ้าเช็ดหน้าของบีตกอยู่ เขาเก็บขึ้นมาผ้าเช็ดหน้ามีอักษรปักอยู่มุมหนึ่ง B ชายหนุ่มกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น ปลาตัวนี้ติดเบ็ดแล้ว…

    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

    “แกเป็นไงมั้งวะบี” เชษฐพงศ์ถามทันทีที่เข้ามาในงาน

    “ชั้นไม่เป็น แต่แกกำลังจะเป็น” บีตามวาววับแบบเสือสาวที่กำลังจะขยุ้มเหยื่อ พร้อมกับสะบัดมือของเชษฐพงศ์ออกยืนเท้าสะเอวพร้อมมีเรื่อง

    “ชั้นไปทำอะไร อ้าวแล้วนั่นขาไม่แพลงแล้วเรอะ” เชษฐพงศ์เลิกคิ้วถามแปลกใจ

    “หายแล้ว ชั้นจะกลับบ้าน!” บีจ้องหน้าปั่นนิ่งคราบสาวหวานเมื่อกี้หายไปจนหมด โหมดสาวจอมโหดเข้ามาแทนที่

    เชษฐพงศ์กลืนน้ำลายเอื้อกรีบนำบีไปขึ้นรถพากลับบ้าน….

    ทันทีที่บีกลับถึงบ้าน นกรู้อย่างต้นข้าวก็รีบโทรมาสอบถามเรื่องราวทันที

    “ฮัลโหล นี่บีพูด มีไรวะ” บีกรอกเสียงใส่โทรศัพท์

    “เป็นไงมั่งวะ ปลาตัวนี้ปลาซิวหรือปลาแซลมอน” ต้นข้าวถามล้อๆ

    “แหม ตัวนี้เหรอก็พอใช้ได้อะนะ  เกือบจะเสร็จอยู่แล้วเชียว อีตาไอ้ปั่นดันเข้ามาขัดจังหวะซะได้” บีพูดแล้วหมั่นใส้ตงิดๆ

    “ต๊าย พูดจาน่าเกลียด ทำไมเหรอ บอสไปทำอะไร” ต้นข้าวรีบสอบถามประสาคนสนใจใคร่รู้ ไม่ใช่สอดรู้สอดเห็นน้า

    บีเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบให้ต้นข้าวฟัง ต้นข้าวหัวเราะถูกใจ

    “โหแกมุขโบราณเชียว ผ้าเช็ดหน้า ฮ่าๆๆ แต่สุดยอดว่ะ ดาราเจ้าบทบาทจริงเชียว”

    “เออ ทำไมวะ”

    “เปล่าๆ แกคิดว่าจะติดมั้ยวะ” ต้นข้าวถามเพื่อนรักจอมเจ้าเล่ห์

    “มือชั้นนี้แล้ว” บีตอบยิ้มๆ ตัวเลือกที่ 1 พิเชษฐชัย โภคากร …

    จากคุณ : ต้นสนใหม่สด - [ 9 พ.ค. 47 00:02:27 ]