28 มีนาคม 2000
Annecy,France
มุก ที่รัก(กว่าเดิม...)
แพนเพิ่งกลับจากไปรษณีย์ ได้การ์ดโทรศัพท์มาแล้ว คงต้องรอให้ค่ำที่เมืองไทยก่อน แล้วค่อยโทรศัพท์กลับบ้าน ตอนนี้ยังว่างๆอยู่ ยังไม่ง่วงเท่าไหร่ ทั้งที่ควรจะพับไปแล้ว แพนเลยมาเล่าต่อจากฉบับที่แล้วที่ค้างเอาไว้...ถึงความเป๋อจนน่าฉงนของเพื่อนรักของมุกคนนี้ หวังว่า มุกคงไม่ตัดเราออกจากสารบบเพื่อนของมุกหรอกนะ...เพราะมุกไม่เคยเป๋อ ไม่เคยพลาด และมุกยังเก่งรอบด้านอีกด้วย
เพราะอย่างนี้ มุกเลยเป็นเหมือนแม่ย่านางสำหรับแพนเสมอมา
เมื่อเรือขาดแม่ย่านาง แล้วประสบเหตุฉันใด
เรือน้อยอย่างแพนก็ประสบเหตุฉันนั้นแล... (T_T)
...
.....
แพนเดินตัวปลิวออกมาจากด่านตรวจคนเข้าเมืองด้วยความสบายใจ ที่ไม่ต้องถูกซักถามจากตาเจ้าหน้าที่หน้าโหดนั่นต่อไป...
แต่แล้ว ฉากที่ปรากฎตรงหน้าแพนก็คือ....
เคาร์เตอร์ของบริษัทรถเช่า และที่ขายตั๋วของสายการบินภายในประเทศ !!!
แพนเดินวนไปเวียนมาเหมือนชะมดติดจั่น ดูยังไง...ก็ไม่มีทางจะมีสายพานกระเป๋าอยู่ในบริเวณนี้ได้เป็นอันขาด แล้วแพนยังเดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมาแล้ว ก็หมายถึงว่า แพนอยู่บริเวณพื้นที่ภายนอก บนเส้นทางสู่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว
โดยปราศจากกระเป๋า..!!!
ทั้งเนื้อทั้งตัวของแพนมี เสื้อหนาวหนึ่งตัว กระเป๋าเป้หลังแบบ Backpacker หนึ่งใบ และกระเป๋าสะพายอีกหนึ่งใบ แต่สัมภาระส่วนใหญ่นั้นอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ยังคงสาบสูญ แพนทอดสายตาออกไปภายนอก เห็นลานจอดรถเป็นลานกว้าง มีรถจอดอยู่ประปราย แต่ไร้ซึ่งสัญญาณของสิ่งมีชีวิตใดๆ นั่นก็หมายความได้สองทางว่า คนที่ทางโรงเรียนส่งมารับยังมาไม่ถึง หรือว่า รออยู่อีกด้านหนึ่งของทางออก ก็คือ ทางออกทางด้านประเทศสวิสเซอร์แลนด์นั่นเอง....
นาทีนั้น แพนมั่นใจมากว่า เป็นข้อที่สอง...
ถึงจะอยากให้เป็นข้อที่หนึ่งเพียงใดก็ตาม.....
มุกจ๋า... ไม่มีครั้งใดเลย ที่แพนรู้สึกว่า ตัวเองจะจับต้นชนปลายไม่ถูกเท่าครั้งนี้ แพนนึกว่า จะเหมือนที่ท่าอากาศยานดอนเมือง คือผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกไปแล้ว ถึงได้เจอสายพานกระเป๋า แล้วถึงออกไปด้านนอกของสนามบิน นี่แสดงว่า แพนผ่านด่านออกมาแล้วสองด่านคือด่านตรวจคนเข้าเมืองสวิสเซอร์แลนด์และด่านของฝรั่งเศสหรือ
แพนมั่นใจว่า ไม่ใช่...แพนผ่านมาแค่ด่านนี้ด่านเดียว....
ฉับพลัน คำตอบก็สว่างวาบเข้ามาในสมองของแพน
"ก็กระเป๋ามันไปอยู่ตรงทางออกด้านสวิสเซอร์แลนด์น่ะสิจ๊ะ...."
โฮ.....!!!!
...
......
ระหว่างกำลังมึนงงอยู่นั้น ก็มีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาโปรดเจ้าหญิงกระเป๋าหายอย่างแพน เสียงผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้นด้านหลัง...
" Bonjour,sdkfjlsf;askjf;ksjafja;sjdflsa;kdjf ???"
เจ้าของเสียงคือ ยามที่อยู่บริเวณด้านหน้าประตูนั่นเอง
แพนฟังไม่ออก แต่พอรู้ว่าเป็นคำถาม และเป็นภาษาฝรั่งเศส....
สีหน้าของแพนคงฉายแววว่า ฉันไม่รู้เรื่องจ้ะ แต่ช่วยฉันด้วย... คุณยามผู้ใจดีจึงจับข้อมือแพน ลากไปยังเคาร์เตอร์ขายตั๋วสายการบินภายในประเทศ แล้วก็ส่งภาษาหงองแหงง ที่สักวันหนึ่ง แพนจะฟังออก!!
"ldkf'askfaskdfks'aldkfasdkf" คุณยามส่งภาษา พลางชี้นิ้วมาที่แพน
"sldkf'aslkdflask'ldfkaslkf'askd'fka'sldfk'asldkfsafd..." พนักงานขายตั๋วสาวใหญ่ที่เคาร์เตอร์ตอบคุณยาม แล้วจึงหันมาส่งภาษากับแพน...
ขอบคุณพระเจ้า มันคือ ภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษ !!!!
นี่คงเป็นเพราะแพนไม่ได้คาดหวังอะไรจากคุณยามและคุณพนักงานขายตั๋วกระมัง ฟ้าเลยส่งเทพธิดาอย่างคุณพนักงานขายตั๋วมาให้ แพนฟังออกตามที่ระดับความสามารถภาษาอังกฤษของแพนจะพึงอำนวย ถึงภาษาอังกฤษของแพนจะไม่ดีเท่ามุก แต่ก็มั่นใจว่า พอจะขอข้าวเขากินได้ ไม่ถึงกับอด
นับเป็นหนแรก ตั้งแต่เหยียบแผ่นดินสวิสเซอร์แลนด์มา แล้วมั่นใจว่า
สื่อสารกับคนอื่นรู้เรื่องโดยไม่ต้องเดา !!
" คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า พนักงานรักษาความปลอดภัยของเรา บอกว่า คุณเดินวนไปวนมาเกือบยี่สิบนาทีแล้ว "
เธอพูดพร้อมกับสำรวจสีหน้าท่าทางของแพนไปด้วย แล้วยังส่งรอยยิ้มอันเต็มไปด้วยไมตรีจิตมาให้ แพนยิ้มแห้งๆตอบ พลางอธิบายเหตุผลให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และเหตุผลว่าทำไมแพนถึงได้ไม่ออกทางออกด้านสวิสเซอร์แลนด์ พร้อมส่งเอกสารยืนยันว่า แพนเป็นนักเรียนจริง มีหลักฐานเรียบร้อยว่าจะมีคนมารับที่สนามบิน รวมถึงข้อสันนิษฐานเรื่องกระเป๋าและคนขับรถของโรงเรียน
" อืมมม กรณีแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้น เอาเป็นว่า คุณรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปติดต่อสอบถามข้างใน แล้วจะแจ้งผลให้ทราบอีกที"
คุณพนักงานขายตั๋วพูดแล้วก็หายเข้าไปในส่วนสนามบินภายใน แพนยืนเกาะขอบเคาร์เตอร์อย่างมีความหวัง ปนอายเล็กน้อย...
ท่าทางแพนคงเป็นกรณีศึกษาให้สนามบินของเขาเลยกระมัง...(-__-")?
คุณยามยังคงยืนอยู่ในละแวกนั้น ส่งยิ้มให้กำลังใจมาให้แพน แพนยิ้มตอบทำนองว่า ขอบคุณค่ะ คุณใจดีจริงๆ ถ้าฉันไม่ได้คุณ ป่านนี้ฉันคงยังงงอยู่....มุกรู้ไหม...แพนพบว่า ยิ้มนี่ ใช้แทนคำพูดได้ไม่เลว คุณยามกับแพนเลยยืนแลกยิ้มกันเป็นเรื่องเป็นราว ระหว่างรอคุณพนักงานขายตั๋วกลับมา
....ใครว่าฝรั่งใจดำ นี่อย่างไร ฝรั่งน่ารัก มีน้ำใจ....
แพนคิดในใจ พร้อมกับตั้งใจว่า จะเขียนจดหมายมาขอบคุณในภายหลัง
ยี่สิบนาทีให้หลัง คุณพนักขายตั๋วผู้อารีก็เดินออกมาพร้อมกับ กระเป๋าเดินทางคู่ชีพของแพน พร้อมกับบอกว่า คนขับรถของทางโรงเรียนรออยู่ทางออกฝั่งสวิสเซอร์แลนด์อย่างที่แพนคาดเดาไว้จริง ขณะนี้ คนขับรถได้วนรถกลับมาทางด้านนี้แล้ว ให้แพนไปรอที่หน้าประตูทางออกได้เลย....
มุกจ๋า...แพนอยากกระโดดกอดคุณพนักงานขายตั๋วกับคุณยามจริงๆ
แต่ก็ทำได้เพียงจับมือและ"ยิ้ม"ขอบคุณอย่างสุดซึ้งเท่านั้น...
(มีต่อค่ะ)
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 07:10:51
แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 47 06:18:17
จากคุณ :
กุ๊กๆ
- [
10 พ.ค. 47 06:14:19
]