โทรทัศน์ขนาด 20 นิ้วถูกเปิดใช้งานเพื่อความบันเทิงตามหน้าที่ รายการที่ออกอากาศอยู่คือซีรี่ย์ตลกเรื่องยาวซึ่งติดอันดับสูงจากความนิยมของคนอเมริกัน เสียงหัวเราะและปรบมือกราวเกรียวจากลำโพงดังเป็นระยะปะปนกับเสียงจากการปรุงอาหารในครัว กลิ่นหอมกรุ่นยั่วน้ำลายโชยชายไปทั่วอพาร์ตเม้นต์
แกอยากกินอะไรก็บอกมา เดี๋ยวฉันจะทำให้ ตมิษาตะโกนถามจากครัวที่เป็นส่วนตัวด้วยการกั้นของตู้และเคาน์เตอร์ไม้สีอ่อน
เมื่อไม่ได้รับคำตอบจึงยื่นหน้าออกมาหาสาเหตุ พบว่าโทรทัศน์ที่เปิดทิ้งไว้นั้นไม่สามารถให้ความบันเทิงแก่ใครได้ เพราะเก้าอี้นวมบุผ้าเดนิมสีน้ำเงินเก๋แบบ Bed sofa หน้าโทรทัศน์มีเพียงความว่างเปล่า ถอนใจให้ความเงียบงันแล้วเดินไปเคาะประตูไม้สีเข้มอีกด้านหนึ่งของห้อง
ซอ ซอ แกเป็นอะไรรึเปล่า ไร้เสียงขานรับ หญิงสาวร่างระหงจึงเคาะประตูแรงกว่าเดิมพร้อมตะโกนเสียงดังกว่าเก่าอย่างเป็นห่วง ซอ แกหลับอยู่รึเปล่า ฉันถามว่าแกจะกินอะไรดี ถ้าตื่นอยู่ก็ออกมาสิ จะกินข้าวเย็นแล้วนะ
คนในห้องคงจะนึกรู้ว่าถ้าหากไม่มาเปิดประตูให้อีกฝ่ายเห็นหน้าคืนนี้ห้องของตนคงไม่มีประตูให้ปิด จึงลุกไปเปิดให้เพื่อนก้าวเข้ามาแล้วถอยกลับไปนอนบนเตียงเหมือนเดิม
ทำไมแกถึงไม่เปิดไฟ ม่านก็ปิดหมด มืดจะตายชัก อยู่ได้ไงวะเนี่ย พูดไปก็เดินไปรูดม่านเนื้อหนาหนักสีครีมเพื่อให้แสงสว่างลำแสงสุดท้ายแทรกตัวผ่านเข้ามาในห้องได้
ร่างที่นอนอยู่บนเตียงคู่พลิกตัวหันหลังให้หน้าต่างที่เพื่อนสาวรูดม่านเปิด เธอได้เห็นร่องรอยของคราบน้ำต้องแสงแดดบนใบหน้าของพินธิตราก่อนเจ้าตัวจะกดใบหน้าลงกับหมอน เตียงเดี่ยวขนาด 5 ฟุตข่มร่างหญิงสาวที่นอนตะแคงหันหลังให้ดูเล็กลง ยิ่งเมื่อเทียบกับห้องที่ตกแต่งอย่างสดใสด้วยสีสันต่างๆแล้วก็ยิ่งดูบอบบางจนน่าใจหาย
ภาพที่เห็นทำให้ตมิษาพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งแล้วทำเป็นไม่สนใจ
เดี๋ยวกับข้าวเสร็จแล้วแกค่อยออกไปกินก็แล้วกัน
เจ้าของห้องผงกศีรษะเบาๆ กับหมอนพลางตอบรับในลำคอเหมือนคนหมดแรง คนมาเรียกจึงถอยออกจากห้องอย่างแผ่วเบาที่สุด ปิดประตูเข้าที่ก็ยืนพิงพลางถอนใจอีกครั้งอย่างกังวล ก่อนจะเดินไปทำอาหารมื้อเย็นต่อตามลำพัง
ตมิษายืนใจลอยทำอาหารได้สบายโดยไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเกิดการผิดพลาด ความชำนาญของเธอถูกฝึกมาหลายปีเกินกว่าจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นได้ ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้ความรู้สึกกังวลกลายเป็นม่านหมอกอันอึดอัดปกคลุมจิตใจของตน
นึกถึงบ่ายวันที่เพื่อนกลับมาก็ยิ่งกลุ้มใจ พินธิตรากลับมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ดีทุกอย่าง แต่สภาพจิตใจนั้นเธอไม่แน่ใจเลย ใบหน้าประดับมุมปากหยักยกราวกับยิ้มตลอดเวลาเรียบเฉยเอ่ยทักทายด้วยคำพูดไม่กี่คำด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆตามปกตินิสัย สิ่งที่สะดุดใจเธอก็คือดวงตาที่มองสบมากับท่าทางสงบนิ่งจนผิดแปลกไปจากที่ควรจะเป็น
ดวงสีน้ำตาลเข้มคู่โตที่เป็นประกายวาววับตลอดเวลาอย่างคนโปรดปรานการเชื้อเชิญความรื่นรมย์ให้เข้ามาเยือนในชีวิตและสนุกสนานไปกับมันหลุบต่ำลงเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง อาจเป็นเพราะต้องการปิดบังความแดงช้ำจากเพื่อนผู้ที่บางคราก็มีนิสัยช่างสังเกตเกิดขึ้นมากะทันหัน ด้วยเหตุผลที่มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร
น้อยยิ่งกว่าน้อยที่พินธิตราจะร้องไห้ เรื่องที่จะให้ใครเห็นยามเจ้าตัวเสียใจนั้นไม่มีทาง
พอถามถึงการไปเที่ยวอิตาลีคนเดียวก็ได้คำตอบเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มักจะเก็บความประทับใจในสิ่งที่ตนเองตื่นตาตื่นใจมาเล่าเป็นฉากๆจนกระทั่งเธอยอมแพ้เอง ไม่ว่าจะลองเลียบเคียงถามถึงสักกี่หนถึงความล่าช้าในการเดินทางกลับหรือการหายเงียบไปเป็นเดือน คำตอบก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอาการอันน่าประหลาดใจแม้แต่น้อย
คนที่ทำให้เพื่อนเป็นห่วงลุกขึ้นนั่งหลังจากประตูถูกปิดลงอีกครั้ง มองไปยังสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างภายนอกและภายในห้องพลางถอนใจ นึกขอบคุณในความอดทนอันน้อยนิดของตมิษาที่ยอมรับและคอยสังเกตอยู่อย่างเงียบๆ มีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยอมรอจนกว่าอีกฝ่ายจะพร้อมแบบนี้
ภาพถ่ายภูมิทัศน์ฝีมือตนเองที่ปักหมุดติดอยู่บนบอร์ดข้างโต๊ะเขียนหนังสือกระทบสายตาเมื่อกวาดผ่าน จิตกระหวัดไปหาผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่แสนงดงาม โอบอ้อมอารี และเพียบพร้อมไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยนที่มีต่อผู้ที่อยู่รอบกายทันที
ภายหลังจากเสร็จสิ้นพิธีศพของผู้เป็นน้า อเล็กไซน์ก็สั่งให้คนมาส่งเธอถึงหน้าที่พักตามที่เคยสัญญาไว้ แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 2 อาทิตย์หากภาพที่ประทับลงในสมองและหัวใจของพินธิตราไม่เคยเลือนหาย ร่างผอมบางในชุดกระโปรงลูกไม้สีขาวงดงามนอนในโลงไม้สีน้ำตาลเข้มบุผ้าสีขาวเช่นเดียวกับชุด เครื่องประดับงดงามมากมายที่มีถูกเลือกใช้เพียงไข่มุก แม้ดวงหน้าหวานอ่อนโยนที่เคยสดชื่นด้วยรอยยิ้มที่ติดริมฝีปากได้รับการดูแลอย่างดีราวกับจะเตรียมตัวไปออกงานราตรีสโมสรทว่าความมีชีวิตชีวากลับหมดสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงดวงตาปิดสนิทและสีหน้าสงบนิ่งที่จะไม่มีวันแย้มยิ้มอีกต่อไป
กุหลาบไม่ว่าจะงามปานใด...ก็ย่อมมีวันโรยรา
จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินมาจากไหน หากมันก็ทำให้ความรู้สึกตื้นตันและก้อนแข็งๆในลำคอหวนกลับมาอีก การจากไปของจัสมินเป็นเรื่องเศร้าเสียใจเกินกว่าเธอจะทนเพิกเฉยได้ หญิงวัยกลางคนแสนดีผู้นั้นสมควรยิ่งที่จะมีชีวิตอยู่เมื่อเทียบกับใครอีกหลายร้อยพันคนบนโลกใบนี้ กระทั่งตัวเธอซึ่งไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขยังได้รับการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจเป็นอย่างดี เป็นโอกาสที่คนบางคนไม่เคยได้รับจากผู้ร่วมสายโลหิตเดียวกันแม้สักครั้งในชีวิต
คนเป็นญาติสนิทคงรู้สึกโศกเศร้ามากกว่าหลายเท่า การสูญเสียผู้หญิงอันเป็นที่รักของครอบครัวไปจะเจ็บปวดสักเพียงใดเธอไม่อยากคิดต่อ เวลาเกือบ 2 เดือนที่ได้ใช้เวลาร่วมกับคนเหล่านั้นเธอได้พบว่าผู้หญิงที่เป็นน้องเมียที่น่ารักและน้าสาวที่ทั้งรักทั้งห่วงหลานยิ่งกว่าตัวเองเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งจิตใจของชายที่ยืนเหนือผู้อื่นทั้งสามคน
จัสมินคือความอ่อนหวาน ความรัก ความห่วงใยเพียงหนึ่งเดียวของครอบครัวนั้น ขาดศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างหล่อนไปพวกเขาจะเป็นอย่างไรกัน
อาการของชายหนุ่มสองคนที่เฝ้ารอเวลาแห่งการจากไปของจัสมินในห้องเดียวกับเธอคืนนั้นไม่ต่างอะไรกับนักโทษรอการประหาร ยกเว้นแต่ความสงบนิ่งของการยอมรับและกดเก็บความรู้สึกไว้กับตัวเอง นิโคไลจับจองหน้าต่างในห้องนั่งเล่นด้วยการยืนมองออกไปยังทุ่งดอกไม้ภายนอกอย่างมั่นคง ท่ายืนตัวตรงกับแขนที่ไขว้หลังไว้อาจหลอกตาได้หากไม่เห็นกำปั้นที่กำแน่นและเงาสะท้อนจากกระจกที่ผู้เป็นเจ้าของหลุบตาซ่อนความร้าวรานไว้ภายใน เช่นเดียวกับอเล็กไซน์ผู้นั่งปล่อยตัวตามสบายเคียงข้างกายเธอ ดวงตาสีเข้มจ้องแจกันดอกไม้ราวกับตกอยู่ในภวังค์ที่ไม่อาจแตะต้อง ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบไร้ซึ่งสรรพสำเนียงใดๆจนกระทั่งเธอกดอารมณ์ไว้ไม่ไหว ต้องยอมปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาต่อหน้าคนอื่นอย่างไม่มีทางห้ามและไม่อายสายตาใคร
สะบัดศีรษะไล่ความคิดออกจากสมอง เตือนตัวเองหนักแน่นไม่ให้คิดถึงผู้ที่ไม่มีทางจะได้พบเจอหรือเกี่ยวข้องกันอีก หาไม่จะเป็นการหาเหาใส่หัว เพิ่มความทุกข์ที่ไร้ประโยชน์ใส่ตัวให้กลุ้มใจ
ลุกขึ้นเดินออกจากห้องเข้าห้องน้ำล้างหน้าราวกับคนไม่เจอน้ำมานานปี หญิงสาวพยายามกำจัดความเศร้าหมองออกไปจากจิตใจโดยไม่สนใจว่าเสื้อผ้าจะเปียกแค่ไหน สูดลมหายใจเอาอากาศที่ชื้นละอองน้ำเข้าไปเต็มปอด คว้าผ้าขนหนูมาซับน้ำที่เกาะพราวบนใบหน้า สบตากับเงาสะท้อนที่มองตอบจากในกระจกเงา ให้สัญญากับตัวเองว่าทุกสิ่งที่จัสมินมอบให้ด้วยความอ่อนโยน จริงใจ และหวังดีจะไม่มีวันลบเลือนจากใจไปตลอดชีวิต
ก้าวออกจากห้องน้ำด้วยใบหน้าสดใส ความมีชีวิตชีวากลับสู่ดวงตาอีกครั้ง
ไหนดูซิ...มีอะไรกินบ้าง
น้ำเสียงสดใสที่ได้ยินบันดาลให้ความรู้สึกของตมิษาดีขึ้นหลายเท่า หญิงสาวร่างสูงจึงตอบคำถามตามนิสัยกวนประสาทของตนพร้อมยักคิ้วข้างเดียว
มีหลายอย่าง
พินธิตรายิ้มให้กับคำพูดติดปากของเพื่อนสาวพลางทิ้งตัวลงนั่ง ลงมือจัดการอาหารมื้อเย็นอย่างสบายใจเป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับมา
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
มีงานเลี้ยงของตระกูลอัลคอนต์ตอนสองทุ่มตรงค่ะ บอส เลขานุการิณีสาวตอบคำถามเมื่อชายหนุ่มถามเกี่ยวกับตารางเวลาในช่วงบ่ายขณะวางแฟ้มงานไว้ตรงหน้าของนาย
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่บนเก้าอี้หนังบุนวมหนาตอบรับในลำคอ อเล็กไซน์ก้มหน้าอ่านเอกสารต่อไม่สนใจเสียงประตูที่ปิดเบาๆตามหลังเลขาสาว เพียงครู่เดียวประตูบานเดิมก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้บุคคลผู้มาใหม่เดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม เปิดปากรายงานทันทีโดยไม่สนใจว่าผู้เป็นนายจะให้ความสนใจหรือไม่
คัตตาออนถึงเชคแล้วครับ คิ้วของคนที่ถูกเรียกว่า บอส เลิกขึ้นจึงได้รายละเอียดเพิ่มขึ้น มีอินเตอร์โพลติดไปด้วย มันสารภาพครับ บอส
คำตอบสงบนอบน้อมช่วยขจัดเมฆหมอกแห่งความสงสัยให้เจ้าของห้องเป็นอย่างดี ดวงตาสีม่วงเข้มราวอัญมณีน้ำงามนั้นทอประกายวาวด้วยความพอใจ ริมฝีปากได้รูปเหยียดยิ้มที่หาได้ยากให้กับสิ่งที่คนสนิทเรียกว่า ความบันเทิง ของผู้เป็นนาย
พูดความจริงเป็นสิ่งที่ดี อเล็กไซน์ชวนคุยพร้อมวางมือจากงานที่กำลังทำอยู่ชั่วคราว
แต่บอสครับ ผมว่า.. ชายร่างใหญ่เจ้าของใบหน้าดุกระด้างมีกระแสกระวนกระวายอยู่ภายในเอ่ยปาก แต่ถูกเสียงเรียบเย็นของนายขัดขึ้นก่อนจะพูดจบ
เราควรให้ความสะดวกสบายแก่พวกเขา รอล์ฟ คุณคัตตาออนต้องดีใจมากถ้าพบกับความบันเทิงที่เราจัดไว้ให้ ชายหนุ่มพูดนุ่มๆด้วยน้ำเสียงราวกับผ้าลินินเนื้อดีเยี่ยม ก่อนเอ่ยถึงรสนิยมของบุคคลที่สามด้วยท่าทีเกียจคร้าน เขาเป็นคนชอบสิ่งสวยงาม
รูดอลฟ์เลิกคิ้วขึ้นอย่างงงงันเล็กน้อย หากก็คอยเงียบฟังทุกคำที่ออกมาจากปากอเล็กไซน์ รู้แน่แก่ใจว่าไม่ว่าชายหนุ่มอายุน้อยกว่าตรงหน้าพูดอะไรออกมามันย่อมมีความหมายเสมอ
ยิ่งถ้าเป็นคนหน้าตาดีเขาก็ยิ่งชอบ ฉันได้แต่หวังว่าเขาจะชอบเซอร์ไพรซ์ ถึงจะหน้าตาดีแต่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกรสนิยมเขารึเปล่า
ชายหนุ่มผู้ยืนตรงหน้าโต๊ะยิ่งขมวดคิ้วจนแทบเป็นปมให้กับสิ่งผู้เป็นนายกล่าว ด้วยรู้ว่าเจ้าของนามคัตตาออนเป็นคนทรยศผู้พร้อมจะแทงข้างหลังเพื่อประโยชน์ของตนได้ทุกเมื่อ และรสนิยมของเขานั้นพิสมัยผู้ชายเป็นที่สุด โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กผู้ชายจะได้รับความสนใจเพิ่มมากเป็นพิเศษ
คิดแล้วคิ้วพาดตรงก็ยิ่งขมวดให้กับการพักร้อนมือขวาของนายหรือเพื่อนสนิทของตน โดยไม่อาจรู้ได้เลยว่าฝ่ายนั้นจะทำอย่างไรในเมืองมรดกโลกอย่างคุมลอฟที่อยู่ห่างไกลออกไปอีกซีกโลกหนึ่ง
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จากคุณ :
Cipher & Pray
- [
12 พ.ค. 47 14:08:02
A:unknown X:202.44.136.50
]