CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    วันนี้ผมเหนื่อยจัง...

    วันนี้ผมเหนื่อยจัง
    ท่ามกลางอากาศที่ร้อนรุ่ม..ฟันฝ่าการจราจรที่ติดขัดไม่แพ้กรุงเทพฯ(เพราะโรงเรียนเปิด) ในเวลาทำงานที่มีแค่วันละ 8 ชั่วโมง
    ทำให้ผมเหนื่อยและเพลียเหลือเกิน
    เหตุที่บ่นทั้งที่เป็นเรื่องของผมก็เพราะผมไม่รู้จะบ่นกับใคร
    แม้จะเป็นการหาเรื่องให้กับตัวเองก็ตาม
    ขอได้โปรดอย่ารำคาญ..ถือเสียว่ากำลังเรียนวิชา "อ่านเอาเรื่อง" ก็แล้วกัน
    .......

    เกือบสองอาทิตย์ที่มาอยู่ที่เชียงใหม่
    ผมซึมซาบบางสิ่งบางอย่างมาได้บ้าง
    โดยเฉพาะน้ำใจของคนเชียงใหม่ งดงามและน่าชื่นใจเสมอ
    อีกบางอย่างที่อยากเล่าให้ฟัง
    นั่นคือวัฒนธรรมของวัยรุ่นชาวเจียงไม้
    จ๊าบเหลือเกิน
    .....

    ข้างบ้านผมมีวัยรุ่นสาวอยู่สองคน
    อายุคงประมาณสิบสี่ก๊ะสิบหก
    วันนี้เป็นวันแรกที่เรียนหนังสือ
    เธอใส่ชุดนักเรียน..เดินเล่นตั้งแต่หัวบ้านยันท้ายบ้าน
    ชุดนักเรียนของเธอน่าสงสาร
    พ่อแม่มัวแต่เอาเงินไปเล่นกอล์ฟ และซื้อรถ(มีตั้งสองสามคัน)
    เลยไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าตัวใหญ่ ๆ ให้ลูก
    คับติ่วโชว์โฉมถึงไหนต่อไหน
    นั่นเป็นวัฒนธรรมการแต่งตัวของที่นี่อย่างหนึ่ง
    .....

    ยังมีมากกว่านั้น
    วัยรุ่นที่นี่มักติดอินเตอร์เน็ตพอ ๆ กับติดเพื่อน
    หลานสาวของพี่เพื่อนผม..วันนั้นบังเอิญมานั่งเล่นที่ออฟฟิศของผม
    มาถึงก็เปิดคอมพ์แล้วแชตกับเพื่อน ๆ ของหล่อนพร้อมกันไม่ต่ำกว่าห้าหน้าต่าง
    เธอเพิ่งอายุสิบสี่ย่างสิบห้า
    ถ้อยคำที่พูดคุย(เธอคุยกันต่อหน้าผมนี่แหละ)ล้วนแต่เป็นเรื่องที่คนยุคผมอ่านแล้วขนลุก
    เช่น
    "ไอ้ฟ้าบ้าซับหาย"
    "ไม"
    "วันนั้นมันไปนอนบ้านไอ้เวทย์เว้ย..โกหกแม่มันว่ามานอนกะกรู"
    "เหรอ"
    "เออ..กูว่ามันถูกหลอกฟันฟรีแหงม ๆ"
    "ไมอ้ะ.."
    "ก็ไอ้เวทย์มันมีแฟนเป็นร้อย..หน้าอย่างไอ้ฟ้าหรือจะเอาอยู่"
    "ช่างมันเหอะ..มาคุยเรื่องของมรึงดีกว่า.."
    ฯลฯ ประมาณนี้
    ......

    หรือนี่คือวัฒนธรรมของคนรุ่นใหม่?
    หรือนี้คือเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับคนยุคนี้?
    อะกิ๊ว...
    งั้นแก่ ๆ อย่างผม..ก็คงยังพอมีความหวังมั่งสิเนี่ย
    แฮ่ม..
    .......

    เปลี่ยนเรื่องดีกว่า
    (ยังอยากจะเล่าถึงเด็กมัธยมต้นกอดกันกลมดิกบนรถมอเตอร์ไซค์อีกนะนี่..แต่ไม่เอาดีกว่า..มันแสลงใจ..กุกุ)
    มีหลายท่านที่สงสัยว่าผมมาทำอะไรที่เชียงใหม่
    มาอยู่เลยอย่างถาวรเลยหรือเปล่า
    คงเป็นการสงสัยใคร่รู้ธรรมดาที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าถามไถ่ความเป็นไปของเพื่อนฝูง
    ผมไม่ได้มาอยู่เลยหรอกครับ
    แค่มาเริ่มต้นงานที่นี่สองสามเดือน ให้ระบบทุกอย่างอยู่ตัวและรันไปด้วยตัวของมันเองได้..ผมก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปทำงานเหมือนเดิมแล้ว
    ทุกวันนี้ก็รอว่าเมื่อไรวันนั้นจะมาถึง
    เมื่อไรหนอ???
    ......

    เหงาครับ..
    เหงามาก..
    มองเครื่องบินบินผ่านหัวไปด้วยหัวใจที่กลัดหนอง
    เมื่อไรจะได้กลับบ้าน
    บ้านที่แม้จะไม่มีคนอยู่ แต่ก็คือบ้านของผม
    มีโทรทัศน์ที่คุ้นเคย เครื่องคอมพ์ที่คุ้นเคย
    มีเรื่องราวต่าง ๆ ที่คุ้นเคย
    แต่ตอนนี้..
    งือ...
    ......

    ยังยืนยันว่ายังคิดถึงเพื่อน ๆ ทุกคน
    งานหนังสือที่ค้างไว้..ก็รอให้ผมกลับไปเคลียร์เพื่อจะดำเนินการต่อไป
    นักเขียนทุกคนที่ผมติดต่อไว้..ขอได้โปรดรอผมสักนิด
    สิ่งใดที่ผมตั้งใจทำ...ผมมักจะทำได้และได้ทำ ส่วนผลจะออกมาสำเร็จหรือไม่..ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ว่าแต่ว่า.."แฟนเธอไม่ใช่แฟนฉัน" เล่มนั้น..เพื่อน ๆ ซื้อกันหรือยัง??
    ถ้ายัง..โป้งจิง ๆ ด้วย
    ฮือ...
    ......

    จากคุณ : แทน - [ 12 พ.ค. 47 19:11:44 A:202.5.87.28 X: ]