CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    #######บันทึกรักของจอร์จ########

    บันทึกรักของจอร์จ

    สวัสดีครับสาว ๆ (หนุ่ม ๆ) ทุกคน กระผมสุดหล่อมีนามว่า  จอร์จ   บัดนี้ผมถือเป็นโอกาสอันดีที่กระผมจะประกาศข่าวดีให้ชาวโลกทุกท่านได้รู้ (ทุก ๆ ท่านอย่าเข้าใจผิดนะครับ  กระผมมิได้หมายถึง กระบือ ตามในโฆษณาแต่อย่างใด) กระผมกำลังจะเป็น  พ่อ  แล้วครับ  ภรรยาสุดสวยของผมเพิ่งจะให้กำเนิดลูกที่สุดแสนจะน่ารักเมื่อวานนี้เองครับ  สาว ๆ ทุกคนไม่ต้องน้ำตาคลออย่างนั้นสิครับ  กระผมทราบดีว่าถึงพวกคุณจะรักกระผมมากแค่ไหน  แต่กระผมก็ขอเสนอแนะว่า  ให้ตัดใจ  เสียดีกว่าครับ  เพราะความรักและหัวใจของกระผม  มันมอบให้ภรรยาสุดที่รักของผมแต่เพียงผู้เดียว  เอาล่ะครับ  ผมเริ่มน้ำเน่านอกเรื่องอีกแล้ว  (มีคนบ่นมาว่ากลิ่นมันโชยออกไปหน้าบ้านครับ) กลับมาเข้าเรื่องกันใหม่ดีกว่า  วันนี้กระผมจึงถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะบอกกล่าวเล่าเรื่องถึงประวัติความเป็นมาของครอบครัวกระผมแก่ทุกท่าน  เชิญติดตามได้เลยคร้าบบ......................

    #####################################################################

    เรื่องวุ่น ๆ ทั้งหลายมันเกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ท้องฟ้าแจ่มใสไร้ก้อนเมฆมาบดบัง  แสงอาทิตย์ทอประกายสดใส  นกน้อยบินร่อนไปตามแรงลม  แต่จะมีข้อเสียก็ตรงที่  วันนี้กรมอุตุฯ ประกาศข่าวว่าจะเป็นวันที่ร้อนที่สุดในรอบปี!

    “จอร์จ  ออกไปเดินเล่นนอกบ้านกันเถอะ  อากาศแบบนี้มัวแต่อุดอู้อยู่ในบ้าน  ร้อนจะแย่”

    เสียงใส ๆ ของเพื่อนสาวของผมดังมาเข้าหูขณะที่ผมกำลังมองผีเสื้อกลางคืนที่เกาะอยู่ริมหน้าต่าง  ผมหันไปมองหน้าเธอแล้วพยักหน้า  ซาร่ายิ้มให้ผมอย่างสดใสก่อนจะขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

    สิบห้านาทีต่อมา  เราทั้งสองก็จูงกันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ ๆ บ้าน  สนามหญ้าเขียวขจีเกือบทุกตารางนิ้วถูกจับจองไปหมด  แม้แต่บริเวณริมทะเลสาบที่ปกติจะไม่มีใครไปนั่งเพราะไม่มีแม้แต่เงาใบไม้  ก็แทบจะไม่มีที่เดิน  แต่ในที่สุดสวรรค์ก็เป็นใจให้ผมและซาร่าเหลือบไปเห็นที่นั่งเย็น ๆ ภายใต้ร่มเงาของต้นราชพฤกษ์เข้าจนได้  เรานั่งชมวิวดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสวยงามอยู่สักพัก  ก่อนที่ซาร่าจะพูดออกมาเบา ๆ อย่างเกรงใจ

    “จอร์จ...คือว่า  ซาร่าติดขนมปังมาจากบ้านเลยอยากให้อาหารปลาสักหน่อย  จอร์จช่วยนั่งจองที่ให้ซาร่าซักพักได้มั้ย?”

    ดวงตาสีน้ำตาลของเธอมองผมอย่างอ้อนวอน  ผมไม่รู้จะตอบเธออย่างไรจึงทำได้แค่เพียงพยักหน้าให้  (เท่านี้คุณคงจะรู้แล้วนะครับ  ว่าผมเป็นคนพูดน้อยและขี้อายขนาดไหน)

    หลังจากเธอเดินจากไปสักครู่  ผมก็มองไปรอบ ๆ ตัว  กลีบดอกราชพฤกษ์สีเหลืองสดตกเกลื่อนอยู่เต็มพื้น  และทันใดนั้น!

    โอ้ มาย ก๊าด!!

    สายตาของผมไปปะทะเข้ากับสาวน้อยร่างบางที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นถัดไป  ดวงตาของเธอช่างน่าดึงดูดเสียนี่กระไร  ตาสีน้ำเงินอมเงิน  ดวงตาที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น  และก่อนที่ผมจะรู้สึกตัว  ร่างกายของผมก็ค่อย ๆ เดินไปหาเธอช้า ๆ เสียงใบไม้แห้งที่ดังกรอบแกรบขณะที่ผมเดินเหยียบมัน  ทำให้เธอรู้สึกตัว และหันมามองผมอย่างสงสัย

    “เอ่อ...”  ผมเริ่มต้นประโยคอย่างติด ๆ ขัด ๆ ด้วยความประหม่า  “วันนี้อากาศดีนะครับ”

    โอ้พระเจ้า..ทำไมผมถึงเริ่มคุยกับเธอด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้นะ!  

    “ค่ะ  ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

    เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่จารึกลงในส่วนที่ลึกที่สุดในใจของผมทันที  ผมรวบรวมความกล้า (ที่ไม่ค่อยจะมี) แล้วโพล่งถามเธอออกไป

    “คุณชื่ออะไรครับ”

    เธอมองผมอย่างระแวง  ผมอึกอักอยู่ชั่วครู่ที่ถามคำถามที่ไม่ได้เรื่องอย่างนั้นออกไป  ทั้งที่ชีวิตที่ผ่านมาของผมไม่เคยเจอสถานการณ์ที่ไม่อาจสรรหาคำพูดใด ๆ มาพูดคุยได้เช่นนี้มาก่อน

    “คือ...ผมอยากจะเป็นเพื่อนกับคุณน่ะครับ”  ในที่สุดผมก็เริ่มพูดออกเป็นปกติ  “ผมชื่อ จอร์จ  อาศัยอยู่ใกล้ ๆ นี้เองครับ  ผมยังไม่เคยมีแฟนมาก่อน  (ผมไม่ได้โกหกนะครับ  ซาร่า  เป็นเพียง เพื่อนสาว ของผมเท่านั้น)  แต่ก็อยากจะมีในเร็ว ๆ นี้  (ตอนที่พูดถึงตอนนี้ผมสังเกตเห็นแก้มเธอแดงระเรื่อขึ้นมาเลยครับ  อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองจังว่า เธอแก้มแดงเพราะผม)  ผมชอบทานซี่โครงหมูคู่กับข้าวผัดเนย  (หรูมั้ยครับ)  ชอบสีฟ้าที่ดึงดูดใจเหมือนกับสีตาของคุณ  (คิดเหมือนผมมั้ยครับว่ามันน้ำเน่า  แต่มุขนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่  ผู้หญิงก็ยังชอบนะครับ  คุณผู้ชายจะยืมไปจีบสาวก็ได้  ผมไม่ขัด)  แล้วผมก็ยังชอบ...”

    ผมคงจะพรรณนาชีวประวัติอันลึกลับที่ไม่ค่อยจะมีคน(อยาก)รู้ของผมต่อไปเรื่อย ๆ หากเสียงใส ๆ ที่สั่นเพราะอารมณ์ (ที่ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะเสียใจ หรือโกรธ) ไม่ดังขึ้นข้างหลังผมซะก่อน

    “จอร์จ!!”

    ผมหันหลังกลับไปทันที่จะเห็นซาร่ามองผมด้วยสายตาปวดร้าว  ก่อนที่เธอจะวิ่งกลับไปที่บ้านอย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น  (ที่ผมรู้เพราะผมเห็นเธอเดินสะดุดก้อนหินสามครั้ง  ชนคนแปลกหน้าห้าครั้ง  หกล้มสองครั้ง  ก่อนที่ขาเธอจะพลัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างทาง  เหม็นน่าดูเลยล่ะครับ)  เมื่อผมเห็นดังนั้นผมเลยรีบวิ่งตามเธอไปโดยลืมสาวน้อยน่ารักคนนั้นไปโดยสิ้นเชิง  เพิ่งมานึกได้อีกทีก็เกือบจะถึงบ้านของซาร่าแล้ว  ผมจึงได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่า  สาวน้อยคนนั้นคงจะเข้าใจเหตุผลที่ผมรีบวิ่งจากเธอมา  โดยที่ไม่ได้ล่ำลาเธอแม้สักคำเดียว

    แฮ่ก แฮ่ก

    ผมยืนหอบอยู่หน้าบ้านซาร่า  ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี  จะเข้าไปในบ้านทันทีก็กลัวเธอจะว่า  จึงได้แต่เดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าบ้าน  แล้วก็เหมือนกับฟ้าเห็นใจ  เพราะประตูบ้านเธอเปิดออกทันที  คุณแม่ของซาร่านั่นเองที่เดินออกมา

    จากคุณ : peary - [ 12 พ.ค. 47 20:26:25 ]