เมื่อMunakทราบข่าวก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น เสนาผู้ซื่อสัตย์ผู้นี้จึงกล่าวว่า นักเวทย์ผู้นั้นจะมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ในวันรุ่งขึ้น ได้ทราบข่าวมาว่านักเวทย์ผู้นี้ได้เดินทางมาถึงนครPayonแล้วและได้พักอยู่ที่ไหนซักแห่ง ดังนั้น Munakจึงแอบหนีออกจากวังไปตามหานักเวทย์ผู้นั้นกับเสนาผู้ซื้อสัตย์
Munakออกตามหานักเวทย์ผู้นั้นตลอดทั้งคือจนกระทั่งเช้า แต่ก็หาไม่พบ หารู้ไม่ว่านักเวทย์ผู้นั้นได้มาเข้าเฝ้ากษัตริย์Payonตั้งแต่หลังเที่ยงคือมาได้3เพียงชั่วโมง และBon Gunถูกนำตัวออกมาจากคุกตั้งแต่ตอนนั้น พิธีได้เริ่มขึ้น เนื่องจากพิธีทำให้คนเป็นผีดิบจะไม่สามารถทำได้
ในเวลาเช้า Bon Gunขอร้องเป็นครั้งสุดท้ายเพียงแค่ขอเก็บไดอารีสีน้ำเงินเล่นนี้ติดตัวตลอดไป
กษัตริย์Payonก็มิได้ทรงห้าม หากแต่อยากให้เริ่มพิธีโดยเร็วที่สุด Bon Gunถูกตรึงไว้กับพื้นที่ร่ายด้วยเวทย์มนต์ Bon Gunค่อยๆถูกกรีดเลือดและรีดเลือดออกมาใส่ในเหยือกเวทย์มนต์จนเต็ม กระทั่งใบหน้าขาวซีดไร้ซึ่งความรู้สึก เขาถูกกรอกน้ำเวทย์มนต์ใส่ปากและร่ายเวทย์
มนต์ บัดนี้ Bon Gunกลายมาเป็นผีดิบที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆทั้งสิ้นแล้ว เขานอนนิ่ง ร่างกายเย็เฉียบ Bon Gunถูกนำตัวไปไว้ในถ้ำ
ส่วนMunakนั้นเมื่อกลับมาถึงวัง ได้ทราบว่าBon Gunถูกทำพิธีกลายเป็นผีดิบ และถูกนำไปจองจำในถ้า เพียงเท่านั้น Munakก็หมดสติล้มลง
Munakตื่นจากฝันร้ายพร้อมหยาดน้ำตา พบว่าตนเองนอนอยู่ในห้อง ที่นี่คือวังหลวง เสียงเคาะประตูดังขึ้นนักเวทย์ผู้นั้นเดินเข้ามาในห้องเพื่อดูอาการของMunak เขาให้Munakดื่มน้ำเวทย์มนตร์ที่จะทำให้ร่างกายดีขึ้นและแล้ว Munakก็ร้องให้โฮ แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นัก
เวทย์ผู้นั้นฟัง
นักเวทย์ได้ฟังก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ได้กระทำลงไป แต่เขาก็ได้รับเชิญมาเพื่อลงโทษ นักโทษตามคำสั่งของกษัตริย์เท่านั้น
Munakอยากจะช่วยBon Gunขอร้องให้นักเวทย์ทำตามคำขอร้องของนาง นักเวทย์กล่าวว่า การจะช่วยชีวิตBon Gunมีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นในตอนนี้ คือMunakจะต้องสละพลังชีวิตเพื่อคืนชีวิตให้แก่Bon Gun แต่Munakจะกลายเป็นผีดิบแทน
นักเวทย์พาMunakเดินทางไปที่ถ้ำที่จองจำBon Gunเอาไว้ เมื่อทั้ง2เดินเข้าไปลึกจนกระทั้งสุดทางอันคดเคี้ยวของถ้ำ Munakก็ร้องให้อย่างปวดร้าวเมื่อเห็นBon Gunกลายเป็นผีดิบถูกมัดไว้ Bon Gunยืนอยู่ ยืนนิ่งๆไร้ชีวิตจิตใจ ใบหน้าซีด ริมฝีปากสีม่วงจัด และดวงตาสีน้ำเงินนั้น ไม่มีแววตาแห่งความทรงจำอีกต่อไป ไม่ว่าMunakจะโผเข้ากอดกี่ครั้งกี่หน ร้องเรียกชื่อเขากี่ครั้งก็ตาม ก็สัมผัสได้เพียงความเย็นชื่อดุจซากศพไร้ชีวิต นักเวทย์จึงถามMunakอีกครั้งว่าเห็นเช่นนี้แล้วจะยังยอมสละพลังชีวิตเป็นผีดิบแทนอยู่อีกมั้ย เพราะการสละพลังชีวิตในครั้งนี้ จะไม่สามารถเรียกชีวิตกลับคืนสู่Munakอีกแล้ว เธอจะกลายเป็นผีดิบไปชั่วนิรันดร์
Munakตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่า เธอจะยอมเป็นผีดินแทนBon Gunอยู่ที่นี่ตลอดไป และขอร้องอย่าบอกเรื่องนี้กับBon Gunให้เก็บเป็นความลับ จากนี้ไปให้พาBon Gunออกไปจากนครแห่งนี้ ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย นักเวทย์ให้Munakนอนลงบนพื้นที่ร่ายด้วยคาถาข้างๆBon Gunและเริ่มทำพิธีร่ายเวทย์ เธอหันไปมองBon Gunแล้วกระซิบแผ่วเบาเป็นครั้งสุดท้ายว่า ลาก่อน Bon Gun..
เมื่อMunakกลายเป็นผีดิบ ร่างกายของBon Gunนั้นได้รับพลังชีวิตจากเธอ เขาดูเหมือนค่อยๆฟื้นพลังชีวิตขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าขาวซีดดุจศพนั้นมีสีของเลือด เลือดของMunakผสมอยู่ในกายนั้น เขาดูราวกับหลับไปเท่านั้นเอง ตอนนี้ ผม ในร่างPoringก็ได้แต่ร่ำไห้อยู่ข้างๆ Munak ในตอนนั้นผมตัดสินใจจะอยู่ที่นี่กับเธอตลอดไปจริงๆ โดยไม่กลัวอีกแล้วความตาย
นักเวทย์ได้พาBon Gunที่หลับไหลออกไปจากถ้ำ และปิดปากถ้ำไว้ด้วยหินก้อนใหญ่ ตามที่Munakขอร้อง นักเวทย์ได้เดินทางกลับไปเมืองGeffenแล้ว 1อาทิตย์หลังจากนั้น Bon Gunลืมตาตื่น สัมผัสได้ถึงพลังงานอันอบอุ่นที่แผ่ซ่านในกายตนเองอีกครั้ง เขารู้สึกเหมือนหลับใหลอยู่ในความหนาวเหน็บมานาน เขาไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลยตอนที่เป็นผีดิบ ดังนั้นBon Gunจึงไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนเองและMunak
นักเวทย์กล่าวว่าตนได้แอบพาBon Gunหนีมาโดยที่กษัตริย์ไม่รู้ ส่วนMunakนั้นสบายดีและสั่งว่าไม่ให้Bon GunกลับไปPayonอีกและMunakไม่ต้องการพบBon Gunอีกแล้ว คำกล่าวนั้นทำร้ายจิตใจเขามาก Bon Gunคิดว่า Munakโกรธที่เขาฆ่าHye Gun เขาหยิบไดอารีสีน้ำเงินมาดูแล้วเปิดดูรูปของMunak เขาต้องการจะอยู่ข้างๆMunakไม่ว่าการกลับไปจะหมายถึงอันตรายถึงชีวิตแต่เขาก็ตัดสินใจจะไปหาMunakอีกครั้ง ไม่ว่าMunakจะอยากพบ
เขาหรือไม่ก็ตาม เขาจำตัดสินใจออกเดินทางเพื่อไปยังนครPayon
นักเวทย์หมดปัญญาจะห้ามจำเล่าความจริงBon Gunฟัง ซึ่งนั่น ทำให้เขาช็อคมาก เขาแทบไม่อยากเชื่อในเรื่องที่นักเวทย์ได้เล่า และโกรธมากที่ทำเช่นนั้นกับMunak นักเวทย์
กล่าวว่าเขาเพียงทำตามคำขอร้องของนาง ถ้าเขาปล่อยให้Bon Gunเป็นผีดิบตลอดไป
Munakก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น
Bon Gun รีบเดินทางไปยังเมืองPayonด้วยความเศร้าโศกเสียใจในทันทีโดยมีนักเวทย์เดินทางไปด้วย และทราบข่าวว่ากษัตริย์แห่งPayonนั้น บัดนี้ได้สิ้นพระชนแล้ว Bon Gunกลับไปยังวังหลวงและได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์Payonองค์ต่อไป Bon Gunได้เดินทางไปถึงถ้ำที่ถูกปิดตาย เขาสั่งให้คนจำนวนมาช่วยกันดันหินออก เพื่อนที่เขาจะได้เขาไปข้างใน เมื่อทางเข้าเปิดออก Bon Gunสั่งให้นักเวทย์และเสนาผู้ซื่อสัตย์เพียง2คนเท่านั้นตามเข้ามาถ้ำ และที่นั่น....
ชั้น4ของถ้ำ เขาได้พบMunakที่เป็นผีดิบไร้ชีวิต
Bon Gun ประคองกอดร่างเย็นชื่นนั้นไว้ แล้วเรียกชื่อMunakซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างซีดเซียวไร้ชีวิตนั้น มีหยดน้ำตารินออกมา แม้แต่นักเวทย์เองก็ยังตกใจ ตั้งแต่เกิดมาแม้แต่เขานักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่เคยพบผีดิบตนไหนมีน้ำตามาก่อน Bon Gunฝากไดอารี่สีน้ำเงินให้แก่นักเวทย์ แล้ว
ขอให้เก็บตำนานเล่มนี้ไว้ ให้ผู้อื่นได้รับรู้ถึงความรักและความเจ็บปวดของพวกเขา Bon Gunสั่งให้คนสร้างปราสาทที่งดงามที่สุด ภายในถ้ำชั้น4แห่งนี้ และ ให้ทุกคนออกไปจากถ้ำ ปิดปากถ้ำไว้ด้วยหินเวทย์มนตร์ แล้วBon Gunก็ล้มตัวลงนอนในห้องที่งดงามที่สุดของปราสาทแห่ง
นี้ข้างๆMunak โดยโอบกอดMunakเอาไว้ ณ วังที่งดงามแห่งนี้ของเขากับMunakเท่านั้น
Bon Gun กระซิบแผ่วเบา ก่อนหมดลมหายใจว่า
Munak ข้ารักเจ้า
ตำนานรักแสนเศร้าระหว่างBon GunกับMunakก็ได้จบลง รอบๆตัวผมมีแสงวูบวาบอีกครั้งเป็นวงแหวนขนาดใหญ่อยู่โดยรอบ ผมตื่นขึ้นอีกครั้งแล้วพบว่าร่างกายของผมกลับมาเป็นคนเหมือนเก่า เบื้องหน้าของผม คือปราสาทที่งดงามซึ่งผ่านกาลเวลาล่วงเลยมาแล้วหลายร้อยหลายพันปีจนผุกร่อนทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
แต่ว่าความรักของพวกเขาจะยังคงสถิตอยู่ที่นี่ตลอดไป เป็นนิรันดร์ และได้กลายมาเป็นตำนานรัก ซึ่งเล่าขานผ่านบทเพลงแห่งกวีพเนจร
ตำนานรัก Munak...Bon Gun
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
จบจ้า
จากคุณ :
Mizo O_o Loki
- [
14 พ.ค. 47 08:05:51
A:203.146.137.112 X:
]