CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    พันธสัญญา ( วาเล-โซฟิเลีย)#3

    ตอนที่ 3 [ ด่านสองหัวหน้าองครักษ์ ]
    ใบหน้าอันราบเรียบของชายหนุ่มปริศนาจ้องมองผู้เป็นองค์หญิง

    นึกไม่ถึงว่าองค์หญิงโซฟิเลียจะแก่นแก้วขนาดนี้
    (ถ้าไม่แก่นแก้วขนาดนี้ก็วีนปราสาทเลอาร์ไม่ล่มนะสิ)

    หวืด…!

    เสียงตวัดดาบแหวกผ่านอากาศ กษัตริย์หนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดทันที เมื่อโซฟิเลียวาดปลายดาบมาทางเขา เกือบหลบไม่ทัน…

    การแข่งขันยังไม่จบผู้ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ
    พลังเวทย์ออกมาจากปลายดาบของวาเล เมื่อเห็นผู้เป็นองค์หญิงรุกอย่างต่อเนื่องยังผลให้โซฟิเลีย ต้องโดดถอยไปตั้งหลัก แต่อีกฝ่ายกลับรุกประชิดตัวเธออีกครั้ง

    งะ..การต่อสู้แบบประชิดตัวแบบนี้เธอไม่ถนัดเสียด้วย
    ขณะการต่อสู้ของคนทั้งสองดำเนินไปนั้น ฟากูฟหัวหน้าองครักษ์ที่นั่งดูอยู่ข้างสนามอยู่นั้นดวงตาที่รี่ลงได้จดจ้องผู้แข่งขันที่สามารถผ่านเวทย์อัคคีขององค์หญิงโซฟิเลียมาได้

    ไม่ธรรมดา…ชายหนุ่มผู้ที่สามารถกางเกราะเวทย์ได้นี้ต้องไม่ธรรมดาก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าเกราะเวทย์เป็นเวย์ชั้นสูง ดูแล้วก็ไม่น่าใช่นักเวทย์เพราะมีดาบเป็นอาวุธคู่กาย แต่เพลงดาบที่ใช้ก็มีเวทย์ร่วมอยู่ด้วถึงจะไม่เน้นมากนักเหมือนองค์หญิงก็ตาม

    การต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ ดูแล้วโซฟิเลียจะเป็นฝ่ายตั้งรับเสียมากกว่าก็อีกฝ่ายเล่นไม่เปิดช่องให้เธอรุกกลับเลยนี่
    ‘ ผู้ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ ’ คำสอนของผู้เป็นอาจารย์กึกก้องในหัว

    ง่า….ไม่เห็นจะจริงเลยท่านอาจารย์ ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายรุกก่อนแท้ๆ แต่ตอนนี้ไหงกลับตั้งรับแทบไม่ทัน

    เคร้ง..!

    ปลายดาบของวาเลตวัดดาบในมือของโซฟิเลีย ลอยหวืดไปในอากาศก่อนที่จะตกลงกระแทกลงสู่พื้น

    เงียบสนิท..เมื่อภาพที่เห็นคือปลายดาบของชายหนุ่มตวัดชี้ขึ้นมาอยู่ที่หน้าโซฟิเลีย

    องค์หญิงของพวกเขาแพ้รึเนี่ย สักพักก็ได้ยินเสียงโห่ร้องจากอัฒจันทร์ บ้างก็ตะโกนสบถคำอะไรก็ไม่รู้แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า “ฮ่า! ฮ่า!ใครที่พนันว่าองค์หญิงชนะจ่ายเงินมาให้ข้าเสียดีๆ”

    ดาบที่จ่ออยู่ที่ใบหน้าของโซฟิเลียถูกลดลง องค์หญิงโซฟิเลียยืนแข็งทื่ออึ้งกับความพ่ายแพ้ที่ได้รับเมื่อครู่
    “เจ้านะคงถนัดแต่โจมตีระยะไกล พอถูกประชิดตัวเข้าหน่อยเลยตั้งรับไม่ค่อยดี”

    ตาบ้า..! ใครใช้ให้เขามาวิจารณ์ความสารถเธอนะ ยังไม่ทันจะเถียงเสียงของโฆษกก็ประกาศขัดจังหวะขึ้น
    “ผลการแข่งขันรอบแรก มีผู้แข่งขันที่จะเข้าไปประลองกับผู้ทดสอบคนที่สองมีเพียงผู้เดียว” เสียงประกาศของโฆษกดังสั่น

    โซฟิเลียเดินฉับๆไปหาฟากูฟที่ยังคงนั่งอยู่ข้างสนาม
    “ท่านอาจารย์…! คำสอนท่านไม่เห็นจริงเลย” ผู้แพ้เริ่มพาลอาจารย์ คิ้วบางเริ่มขมวดเข้าหากันอีกแล้ว

    “คำสอน?”

    “ก็ที่ว่าผู้ชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ” โซฟิเลียเสริม

    “อ้อ….” ฟากูฟอุทานก่อนที่จะเอ่ยต่อ “ย่อมได้เปรียบแต่ไม่รับประกันผลไงล่ะ องค์หญิง”

    ว่าไงนะ…

    “อืมม์ ได้เวลาแล้วข้าต้องขอบใจท่านมากที่ปีนี้ไม่ต้องให้ข้านั่งเก้าอี้จนเมื่อย” ว่าแล้วฟากูฟก็ลุกจากเก้าอี้เอี้ยวตัวบิดไปมา

    “ท่านอาจารย์อย่าแพ้เขาล่ะ!” โซฟิเลียบอกแกวสั่ง
    ไม่มีเสียงตอบจากผู้เป็นอาจารย์ มีแต่รอยยิ้มที่เยียดยิ้มอย่างมีเลศนัยเหมือนกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่ รู้สึกไม่ค่อยน่าพอใจสักเท่าไรที่เห็นรอยยิ้มจากใบหน้าผู้เป็นอาจารย์

    “ท่านอาจารย์คิดจะทำอะไร!!!!” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มกำลังจ้องผู้เป็นอาจารย์ราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างงั้นแหละ

    “อืม…ข้าคิดว่าปีนี้ท่านคงจะได้องครักษ์แล้วล่ะน้าาา” ฟากูฟบอกด้วยน้ำเสียงสดใสทำให้โซฟิเลียนิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจ

    “อย่าบอกนะว่าท่านจะให้หมอนั่นชนะ” โซฟิเลียเน้นเสียง ขออย่าให้คำตอบเป็นใช่เล้ย การมีองครักษ์เนี่ยก็เหมือนกับมีผู้สอดแนมของท่านพี่เคลื่อนที่เพิ่มนะซิ จะไปไหนมาไหนก็ลำบาก แค่คนที่ท่านพี่สั่งให้คอยดูติดตามก็มากพออยู่แล้วกว่าจะสะบัดให้หลุดก็แทบแย่ แบบนี้ความส่วนตัวเป็นศูนย์กันพอดี

    “เป็นอย่างที่ท่านคิดนะแหละ องค์หญิง” ว่าแล้วฟากูฟก็หัวเราะเบาๆพร้อมเดินเข้าไปในลานประลองปล่อยให้ผู้เป็นองค์หญิงตะโกนแหวว่าเขาอยู่ด้านหลัง
    แววตาที่ดูล้อเล่นของหัวหน้าองครักษ์เมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนดูจริงจังเมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข่งขันทีเหลือเพียงคนเดียว

    “ข้ายินดีด้วยที่ท่านผ่านองค์หญิงโซฟิเลียมาได้ ขอทราบชื่อหน่อยจะได้ไหม?”

    “ข้าชื่อ วาเล” ชายหนุ่มตอบ

    “งั้นก่อนที่เราจะเริ่มประลองกันข้าขอถามอะไรบางอย่างจากท่านสักสองสามข้อ”

    “ได้..ถามมาได้เลย”
    “ข้าอยากรู้ว่าท่านมาเป็นองครักษ์เพราะเหตุใด? ดูจากฝีมือขนาดท่านที่สามารถกางเกราะเวทย์หาใช่คนธรรมดาไม่ นักเวทย์ก็ไม่ใช่เพราะท่านใช้ดาบเป็นอาวุธคู่กาย ท่านเป็นใครกันแน่?” ฟากูฟถามเชิงวิเคราะห์ควบไปด้วย

    “สาเหตุที่ข้าต้องการเป็นองครักษ์ขององค์หญิงแห่งซีเรียนั้นเพราะนางมีความสำคัญ สำคัญต่อชาวซีเรีย หรือ..แม้กระทั้งชาวเลอาร์ ส่วนที่ข้าเป็นใครนั้นไม่สำคัญเพียงแต่บอกได้ว่าข้าถูกสั่งให้มาคุ้มครององค์หญิงแห่งซีเรีย” น้ำเสียงที่จริงจังบ่งบอกว่าสิ่งที่เขาพูดมาเป็นจริงทุกประการ
    “อืม...” ฟากูฟพิเคราะห์ชายหนุ่มผู้นี้มีความสามารถมากมายอาจเหนือกว่าเขาเสียอีก มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกว่าชายผู้นี้จะไม่ทำอันตรายองค์หญิงของเขาเป็นแน่ เขารู้สึกอย่างนั้นจากประสบการณ์สี่สิบกว่าปีของเขา ดูแล้วเมื่อตอนประลองกับองค์หญิงที่เขาเป็นฝ่ายรุกนั้นก็ไม่ได้รุกเต็มแรงแต่รู้สึกผ่อนแรงซะมากกว่าอย่างนี้เขาเรียกว่าอ่อยให้ป่าวเนี่ย…

    การต่อทั้งคู่เริ่มตั้งเมื่อฟากูฟชักดาบออกจาฝักพุ่งมุ่งไปหมายฟาดฟันอีกฝ่าย ซึ่งอีกฝ่ายก็หลบได้อย่างคล่องแคล่วก่อนที่หันกลับมาเป็นฝ่ายตวัดดาบใส่ฟากูฟ

    หวุดหวิด! ฟากูฟที่ผงะหลบไปทางด้านหลังเกือบตัวสะบั่นขาดเป็นสองท่อนแล้ว!!!!!!

    การประเมินฝีมือถือว่าวาเลเหนือกว่าเขาพอควร อย่างนี้ซีค่อยเหมาะสมกับเป็นองครักษ์ขององค์หญิงหน่อย
    การต่อสู้รอบสุดท้าย ณ สนามประลองใจกลางเมืองได้รับความสนใจมากทุกคนจดจ่อกับการประลองที่อยู่ตรงหน้า
    “ท่าทางปีนี้คงจะได้องครักษ์เสียทีนะเพค่ะ” ซิลเวียบอกผู้เป็นกษัตริย์

    “ทีจริงมันน่าจะได้ตั้งนานแล้วแหละ ถ้าไม่ติดที่โซฟิเลีย ดูดีๆวันนี้ฟากูฟนี่ไม่ค่อยตั้งใจสู้เลยเหมือนกับตั้งใจจะแพ้เลยว่าไหมซิลเวีย”
    “นั่นสิเพค่ะ” พระนางซิลเวียตอบ คราวนี้สงสัยได้องครักษ์แหงๆ

    “ท่านอาาาาาจานนนนนน…..!!!ตั้งใจสู้หน่อยซี่…….!!!!!” โซฟิเลียตะโกนบอกอยู่ข้างสนามประลอง
    เมื่อเห็นผู้เป็นอาจารย์มัวแต่ตั้งรับอย่างเดียว แล้วนั่น
    อะไรนะ..นั่น

    ฟากูฟแกล้งปล่อยดาบออกจากมือ อีกฝ่ายซึ่งรุกอยู่นั้นก็ได้ทีตวับปลายดาบจ่อที่ต้นคอ
    เฮ้ย!!!…อย่างนี้เขาเรียกว่าแกล้งแพ้ใช่ไหมเนี่ย
    หลังการประลองข้าจะจะจับท่านเจี๋ยมเจี้ยมให้ซี้แหงเลยคอยดู คอยดูเถอะ
    ท่านอาจารย์บ้าที่สุด……
    “ทำไม?” วาเลถามฟากูฟ เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายแกล้งปล่อยดาบหลุดจากมือ

    หากฟากูฟไม่ตอบได้แต่ยิ้ม ก่อนจะพูดว่า
    “ต่อไปนี้ท่านคงต้องเหนื่อยใจกับองค์หญิงจอมแก่นแห่งซีเรียเป็นแน่”
    .........................................
    (โปรดติดตามตอนต่อไป)

    จากคุณ : ทาริกา - [ 19 พ.ค. 47 19:23:19 A:203.113.36.14 X: ]