CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown



    หากว่าเป็นคิมหันต์วันสุดท้าย

    สุวินทร์มีผู้หญิงสองคนในชีวิต คนหนึ่งคือคนที่เขารัก และอีกคนหนึ่งคือคนที่รักเขา

    คนที่เขารัก – เบญจมาศ เป็นคนร่าเริง ใจดี แต่บางครั้งก็เอาแต่ใจตัวเองตามประสาหญิงสาวทั่วไป เธอเป็นนักศึกษาปริญญาโทอายุน้อยในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

    คนที่รักเขา – จามจุรี เป็นคนร่าเริง ใจดี แต่บางครั้งก็เอาแต่ใจตัวเองตามประสาหญิงสาวทั่วไป เธอเป็นบรรณารักษ์อายุน้อยในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง – มหาวิทยาลัยเดียวกับที่เบญจมาศเรียนหนังสืออยู่

    เบญจมาศกับจามจุรีไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่สุวินทร์รู้จักหญิงสาวทั้งคู่ มีอยู่อย่างหนึ่งที่สุวินทร์ไม่รู้ คือไม่รู้ว่าทำไมคนที่รักเขาและคนที่เขารักถึงไม่ใช่คนเดียวกัน


    คนที่รักเขา – จามจุรี

    หนังสือเล่มหนึ่งหล่นมาจากชั้นหนังสือ ความหนาและใหญ่โตของมันได้กวาดเอาหนังสือเล่มอื่นๆใกล้เคียงบนชั้นวางที่จามจุรีตั้งใจจะจัดให้เป็นแถวร่วงลงมาด้วยอีกหลายเล่ม เสียงร้องว้ายตกใจและเสียงสันแข็งของหนังสือกระทบกับพื้นเรียกความสนใจของคนในห้องสมุดได้มากทีเดียว

    จามจุรีนั่งแหมะบนพื้นไม่เป็นท่า จังหวะที่เบี่ยงตัวหลบหนังสือที่หล่นลงมาทำให้เธอพลาดตกบันไดไม้เตี้ยๆ บรรณารักษ์สาวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมห้องสมุดถึงไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับคนตัวเล็กๆอย่างเธอมากไปกว่าบันไดไม้สูงเท่าหัวเข่าไม่กี่ตัว
    กำลังคลำข้อเท้าที่พลิกและเตรียมจะเก็บหนังสือกระจายเกลื่อนพื้นขึ้นไปคืนก็มีชายคนหนึ่งนั่งยองๆช่วยเก็บหนังสือให้อีกแรง จามจุรีไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน

    “ประมวลภาพข่าวนิตยสารไลฟ์” สุวินทร์พลิกหน้าปกหนังสือเล่มนั้น “ห้องสมุดน่าจะมีบันไดสูงกว่านี้นะครับ มา.....ผมช่วยเก็บนะ”

    หญิงสาวพยุงตัวขึ้นพยายามจะยืนและพูดขอบคุณแต่รู้สึกปวดแปลบที่ข้อเท้า สุวินทร์เงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอยืนเขยกและจับตู้หนังสือช่วยทรงตัวอยู่

    “เจ็บเท้าหรือครับ”

    “ค่ะ ตะกี๊ตกลงมาคงเท้าพลิก”

    “งั้นผมช่วยเก็บหนังสือบนพื้นทั้งหมดให้ดีกว่า คุณนั่งพักที่เก้าอี้ก่อนเถอะ บอกลำดับให้ผมก็ได้ว่าหนังสือเล่มไหนใส่ตรงไหน”
    หญิงสาวเอ้ออ้าลังเล แต่เมื่อประเมินแล้วว่าเวลาเย็นย่ำแบบนี้คงไม่มีบรรณารักษ์คนอื่นใกล้เคียงมาช่วยแล้วจึงพูดขอบคุณอีกครั้งขณะมองชายหนุ่มรวบรวมหนังสือที่หล่นมาเรียงกองบนโต๊ะอีกที

    “เล่มไหนก่อนครับ”

    “หนังสือครบรอบหนึ่งร้อยปีเนชันแนล จีโอกราฟฟิกค่ะ แล้วก็รวมบทสัมภาษณ์ของนิตยสารฟอร์จูน ใช่ค่ะ จากนั้นก็ประมวลภาพข่าวนิตยสารไทมส์”

    สุวินทร์ใช้ประโยชน์จากร่างกายสูงใหญ่ของตัวเองเรียงหนังสือกลับคืนชั้นวางด้านบนอย่างรวดเร็ว เมื่อหันกลับมาก็พบรอยยิ้มเกรงใจของจามจุรี

    “ขอบคุณมากนะคะ เรียนที่คณะนี้เหรอคะ” หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองพูดขอบคุณเขาเป็นรอบที่สิบแล้ว จนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีกจึงถามลอยๆออกไป

    “เปล่าครับ ผมไม่ได้เป็นนักศึกษาที่นี่หรอก แต่ที่ทำงานผมอยู่ใกล้ๆ ผมเลยชอบมาอ่านหนังสือเล่นแก้เหงาก่อนกลับบ้านบ้างเท่านั้นเองครับ”

    จามจุรีแปลกใจในกิจกรรมแก้เหงาของเขาแต่ก็นึกนิยมในนิสัยที่รักการอ่านเหมือนเธอ อาชีพบรรณารักษ์ดูจะถูกชะตากับหญิงสาวผมสั้นตัวเล็กแต่คล่องแคล่วเช่นเธอเสียจริงๆ

    “อ้อ....ลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อสุวินทร์ครับ”

    เช่นเดียวกับที่เธอนิยมชมชอบในความมีน้ำใจของเขา

    “จามจุรีค่ะ”


    จามจุรีไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร จำได้แต่ว่าหลังจากวันนั้นเธอจะต้องสังเกตอยู่เสมอเวลาที่เขาเดินมาในห้องสมุดยามเย็นหลังเลิกงานและพบกับรอยยิ้มของเธอรออยู่ก่อนแล้วที่โต๊ะบรรณารักษ์ ทั้งที่แต่ก่อนเธอไม่เคยสังเกตเลยว่าเขาเคยมาที่นี่กี่ครั้งแล้ว แทบทุกครั้งเวลาที่หญิงสาวเข็นตู้ไม้เล็กๆมีล้อเพื่อเดินเก็บหนังสือกลับไปไว้บนหิ้งสูงๆและชายหนุ่มหันมาเห็น เขาจะต้องเดินมาช่วยเธอเสมอ บางวันที่สุวินทร์เดินมาบอกล่วงหน้าก่อนกลับบ้านว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มา วันรุ่งขึ้นจามจุรีก็ทำงานเงียบๆ บางครั้งมองออกไปที่ทางเดินนอกหน้าต่างบ่อยๆเผื่อว่าจะเห็นใครคนนั้นเดินเข้ามา เมื่อไม่เห็นว่าคนที่เดินเข้ามาจะใช่เขาก็แอบถอนหายใจและนั่งทำงานต่อ รู้สึกเหมือนชีวิตขาดหายอะไรบางอย่างไป แต่ถ้าวันไหนที่เห็นสุวินทร์เดินเข้ามาก็ดูจะมีชีวิตชีวามากขึ้นชัดเจน จามจุรีเดินออกไปเก็บหนังสือบ่อยกว่าเดิม และสุวินทร์ก็มาช่วยแทบทุกครั้ง

    ในที่สุดการรู้จักก็กลายเป็นความสนิทสนม ยามเย็นที่เงียบสงบในห้องสมุดกลับกลายเป็นเวลาที่จามจุรีรู้สึกเหงาน้อยที่สุด เมื่อว่างจากการอ่านหนังสือ สุวินทร์ก็ชวนเธอคุยที่โต๊ะบรรณารักษ์อย่างสนุกสนาน และรวมมาถึงวันหยุดที่เคยเงียบเหงาก็กลายเป็นวันที่จามจุรีรอคอย ตอนเช้าจะมีโทรศัพท์มาปลุกให้เธออาบน้ำแต่งตัว ไม่นานนักก็จะมีเสียงแตรรถหน้าบ้านพร้อมรอยยิ้มของชายหนุ่ม ชั่วโมงถัดมาเขากับเธอก็หัวเราะด้วยกันในโรงหนังหรือร้านอาหาร เป็นอย่างนี้หลายครั้ง

    จามจุรีรู้สึกหวิวในใจ ตื่นเต้นจนต้องก้มหน้าเม้มปากจิกแขนตัวเองแก้เขินเมื่อการสนทนาเงียบไปและถูกแทนที่ด้วยสายตาอบอุ่นของสุวินทร์ตรงหน้า นี้ใช่ไหมอาการของคนที่ชอบพอกัน หญิงสาวไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต

    “หนิงครับ” เขาเรียกชื่อเล่นของจามจุรี “ผมมีเรื่องจะปรึกษา”

    “ค...ค.....คะ?” ผู้ถูกเรียกชื่อตื่นเต้นจนแทบจะเป็นลม นี่ถ้าเกิดเขาขอเป็นคนรักของเรากระทันหันแบบนี้จะตอบยังไงดี

    “ผมรักผู้หญิงคนหนึ่งอยู่”

    จามจุรีหลับตาปี๋แต่มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำหมัดแน่นเข้าหาตัวเหมือนยินดี ในใจนึกว่า เอาแล้วไงๆ

    “คนที่กำลังจะข้ามถนนตรงนั้นน่ะครับ เสื้อสีฟ้า”

    ถ้าหากถนนเส้นที่ผ่านหน้าร้านเต็มไปด้วยดอกจามจุรีที่กำลังบานสะพรั่ง มันคงหุบลงทันทีพร้อมกัน หญิงสาวอ้าปากค้างครู่หนึ่งและมองตามสายตาของสุวินทร์ไปยังทางม้าลายฝั่งตรงข้ามร้าน หญิงสาวผมยาวในชุดสุภาพคนหนึ่งกำลังเดินหอบหนังสือข้ามถนน จามจุรีจำได้ภายหลังว่าเธอเป็นผู้ที่ใช้บริการห้องสมุดบ่อยพอๆกับสุวินทร์ ต่างแต่เธอเข้ามาตอนสายๆและกลับออกไปตอนบ่ายเกือบทุกวัน ส่วนสุวินทร์มาตอนเย็นและค่ำ

    “เขาชื่อเบญจมาศครับ ที่จริงผมรักเขาข้างเดียวน่ะครับ เรารู้จักกันเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยเดิม แย่ตรงที่เบญจมาศเขาไม่ได้รักผม พอดีผมรู้ว่าเขามักจะมาที่ห้องสมุดเป็นประจำเลยมีเรื่องอยากจะปรึกษาหนิงนี่ล่ะครับ”

    “จะให้หนิงช่วยอะไรคุณหรือคะ” หญิงสาวแทบจะจับช้อนไม่อยู่ คราวนี้นอกจากดอกจามจุรีข้างถนนทั้งสายจะหุบแล้วยังกลายเป็นดอกเบญจมาศบานสะพรั่งขึ้นมาแทนอีกด้วย

    “ผมอยากจะเซอร์ไพรส์เขาในห้องสมุด แต่ถ้าคุณบรรณารักษ์ไม่ยอมละก็ผมคงทำไม่ได้แน่ๆ”

    จามจุรีหันไปมองเบญจมาศที่กำลังเดินลับไปอีกด้านอย่างขัดใจ นี่หรือคนที่สุวินทร์รัก


    คนที่เขารัก – เบญจมาศ

    เป็นเรื่องจริงที่เบญจมาศรู้จักกับสุวินทร์ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเก่า แม้จะเพิ่งสนิทสนมกันจริงๆได้ไม่นานนัก แต่หญิงสาวก็รู้ว่าที่ทำงานสุวินทร์อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่ และรู้ว่าสุวินทร์รักเธอ
    น่าเสียดายที่เบญจมาศไม่ได้รักเขา

    เบญจมาศปาดเหงื่อบนหน้าผากขณะก้าวเข้าไปในหอพัก อากาศเดือนพฤษภาคมในเมืองกรุงช่างร้อนระอุ แต่เมื่อเทียบกับทะเลเกาะเสม็ดที่สุวินทร์พาเธอไปเที่ยวเมื่อเดือนที่แล้วเธอกลับรู้สึกว่าอากาศริมทะเลเย็นกว่า หรือว่าเป็นฝีมือของชายหนุ่มที่จับเธอนั่งบนห่วงยางสีสันสดใสแล้วลากออกมาไกลฝั่งหวังจะพยายามทำให้เธอรู้สึกเย็นลง เธอเองก็มัวแต่หัวเราะไม่หยุด

    “บีครับ” สุวินทร์ลอยคอในน้ำ มองมาที่เธออย่างจริงจัง เบญจมาศหยุดหัวเราะ ทะเลบริเวณนั้นพลันเงียบเหมือนอยากฟังว่าเขาจะพูดว่ากระไร

    “คะ?” หญิงสาวผมยาวเสยผมที่เปียกไปด้านหลัง เท้ากระทุ่มน้ำจ๋อมเบาๆแก้ขวยเมื่อพบกับสายตาจริงจังของเขา พอจะเดาออกว่าเขาจะพูดอะไร

    “ผมรักบีครับ แต่งงานกับผมนะครับ”

    หน้าของเบญจมาศที่กำลังแดงเพราะแรงแดดยิ่งแดงมากขึ้น ต่อให้เป็นคนที่ไม่ได้รักกันแต่ถ้าในบรรยากาศเช่นนี้สองคนก็ทำให้เธอสับสนได้พอสมควร แต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้นเพราะวินาทีต่อมาสิ่งที่เธอเห็นคือสายตาขบขันของสุวินทร์และห่วงยางที่เอียงวูบจนเธอตกลงไปในน้ำทะเลที่ลึกมิดหัว สุวินทร์เป็นคนพลิกห่วงยางนั้นเอง

    หญิงสาวสำลักน้ำและตะกายมาเกาะสิ่งที่อยู่ใกล้ที่สุด นั่นก็คือสุวินทร์นั่นเอง ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจและว่ายน้ำพาเธอกับห่วงยางเข้าฝั่ง หญิงสาวที่เขารักแต่ไม่ได้รักเขาทำหน้างอน รู้สึกโมโหที่เขาแกล้งเธอแล้วหัวเราะ แต่ก็รู้ว่าคำพูดที่เขาบอกเธอก่อนคว่ำห่วงยางนั้นเขาพูดจริง

    รถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดหน้าหอพักของเบญจมาศหลังกลับจากทะเล หญิงสาวทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป ติดแต่มือของชายหนุ่มฉุดเอาไว้

    “บี คุณมีความสุขไหม”

    หญิงสาวพยักหน้ายิ้ม

    “คุณรักผมบ้างไหม”

    สุวินทร์ได้ยินเสียงเธอถอนหายใจ เงียบไปนานทีเดียว “บีมีความรู้สึกดีๆกับพี่สุนะคะ แต่ยังไงบีก็.... ก็ไม่ได้รักพี่ บีรู้สึกว่าพี่เหมือนเป็นญาติคนหนึ่งของบีมากกว่า”

    คนที่รักเบญจมาศแต่ไม่ได้รักจามจุรี - สุวินทร์

    สุวินทร์ไม่รู้รายละเอียดเหตุการณ์ปลีกย่อยต่อจากนั้นเท่าไรนัก ในหัวมีแต่คำว่า ‘ไม่ได้รักพี่ๆ’ ก้องกลับไปกลับมาตลอดเวลา เบญจมาศก้มหน้าง้างที่เปิดประตูรถ แต่มืออีกข้างของเธอถูกเขาดึงไว้ หญิงสาวหันกลับไปจะขอร้องให้ปล่อยแต่ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ถาโถมเข้ามาประกบริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็วอ่อนโยน ภาพต่อมาที่เขาจำได้คือเบญจมาศปิดประตูรถเดินกลับเข้าหอพักไปเงียบๆ

    บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ ชายหนุ่มขับรถกลับบ้านพัก ในใจคิดเรื่องราวร้อยแปด แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเบญจมาศ นึกน้อยใจอยู่บ่อยครั้งว่าทำไมเธอไม่เคยหันมามองเขาที่เพียรเฝ้ารักเธออยู่คนเดียวตั้งแต่แรกสนิทกันบ้าง ทำไมโลกส่วนตัวของผู้หญิงบางคนถึงลึกลับเกินหยั่งถึงเหลือเกิน

    เขาเหลือบมองดูวันที่ในหน้าปัดโทรศัพท์มือถือ สัปดาห์หน้าคือวันเกิดเบญจมาศ
    เขาคงไม่มีอะไรมากกว่าต้องการจะบอกรักอย่างไรให้เธอยอมรับเสียที
    เขาคงต้องทำให้เธอเซอร์ไพรส์

    คนที่รักเขาข้างเดียว – จามจุรี

    จามจุรีหลงรักสุวินทร์เพราะความมีน้ำใจและความโรแมนติกของเขา น่าเสียดายที่ความโรแมนติกนี้สุวินทร์มีให้กับผู้หญิงอื่น มิใช่
    เธอ จามจุรีรู้สึกเจ็บปวด

    บรรณารักษ์สาวมองวันที่ชายหนุ่มต้องการให้เธอช่วยจัดงานเซอร์ไพรส์ให้กับเบญจมาศบนปฏิทิน เธอพอรู้มาเลาๆว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่สุวินทร์จะพยายามกับคนที่เขารักคนนั้นได้

    เวลานี้เธอได้แต่ช่วยเขาเตรียมสิ่งของบางอย่าง และรอ.....

    จากคุณ : ธามาดา - [ 20 พ.ค. 47 23:55:58 ]