ทำลิ้งค์ก่อน
ตอน 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2732063/W2732063.html#2
ตอน 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2744691/W2744691.html
ตอน 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2762405/W2762405.html
ตอน 4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2780226/W2780226.html
ตอน 5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2794746/W2794746.html
ตอน 6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2814828/W2814828.html
ตอน 7
ภาพในฝันที่มีหมอกควันจางๆลอยประปรายเต็มไปหมด เธอรู้สึกไม่คุ้นเลยแล้วคนอื่นล่ะไปอยู่ที่ไหนกัน ทำไมถึงทิ้งให้เราอยู่คนเดียว
ที่ไหนกันนะ ทำไมมันถึงเงียบอย่างนี้หญิงสาวมองภาพรอบกายและเอ่ยออกมาด้วยความกลัวจับใจ พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย
พี่เวช อยู่ไหนคะ อรกลัวพิชอรวิ่งไปมารอบๆเพื่อหาคนคุ้นเคยที่เธอรู้จัก แต่ก็หามีเสียงตอบรับกลับมาไม่
คุณพ่อ คุณแม่ขา อยู่ที่ไหนคะ พี่เวช ร่างบางร้องเรียกและวิ่งๆไปโดยไม่รู้ทิศทางและหกล้มลงไปนั่ง
อร พี่กับคุณพ่อคุณแม่อยู่ทางนี้เสียงเรียกชื่อของเธอทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ในกลุ่มหมอกควัน เงยหน้าขึ้นมาพบกับบุคคลในครอบครัวที่คอยโอบอุ้มตัวเธอมาเสมอ พิชอรรู้สึกดีใจที่ได้เจอหน้าของทุกคนพร้อมหน้า
หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่เดิม วิ่งตรงเข้าไปกอดพี่ชายและบุพการีทั้งสอง แต่เธอกอดได้แต่พี่ชายคนเดียว และพิชอรก็เห็นภาพของท่านทั้งสองค่อยๆจางลงไปแผ่วๆและลอยออกไปไกลจากเธอไกลขึ้นๆ ไม่สามารถคว้าร่างของบุคคลทั้งคู่ได้
คุณพ่อ คุณแม่พิชอรร้องเรียกและวิ่งตามเงาทั้งสอง ใช้มือไขว่คว้าออกไปข้างหน้า ก็ดูเหมือนว่าร่างของบิดาและมารดาของเธอจะไกลห่างและลอยหายไปจนหญิงสาวเอื้อมไปไม่ถึง
คุณพ่อ คุณแม่ขา พิชอรลืมตาตกใจตื่นขึ้นมา สภาพรอบกายไม่เหมือนกับเมื่อครู่ที่เธอฝันเห็น หญิงสาวกลับมาสู่สภาพความเป็นจริงที่ต้องรับรู้ว่าบุพการีทั้งสองของตนได้จากเธอไปแล้ว เหลือเพียงรูปถ่ายและวีซีดีที่มีความหมายกับตัวเองเท่านั้นร่างบางล้มตัวลงนอนกอดหมอนข้าง ที่ชุ่มชื้นไปด้วยหยดน้ำที่ไหลรินจากดวงตาคู่สวยที่ดูเศร้าหมอง
วันนั้นเธอกลับจากไปซื้อของข้างนอกมาด้วยความสดชื่นเมื่อรู้ว่าบิดาและมารดาของหญิงสาวกำลังจะกลับจากต่างประเทศภายในวันนี้แล้ว เมื่อสองคืนก่อนคุณแม่เป็นคนโทรกลับมาหาเธอ
อรเหรอลูก พ่อกับแม่คิดถึงลูกๆมากเลย รู้มั้ยจ๊ะ
อรกับพี่เวชก็คิดถึงคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันค่ะ เมื่อไหร่คุณแม่กับคุณพ่อจะกลับล่ะคะ อรอยากกอดคุณแม่ค่ะ
อีกไม่นานหรอกลูก เร็วๆนี้เราก็จะได้เจอกันแล้วมารดาของหญิงสาวบอกกับเธอ
จริงเหรอคะ เมื่อไหร่คะ อรกับพี่เวชจะได้เตรียมตัวไปรับที่สนามบินค่ะ
ได้เลยจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวไปรับพ่อกับแม่ได้เลยนะ ไม่เกินมะรืนนี้ก็จะกลับแล้วจ๊ะ
ดีใจจังเลยค่ะ พวกเราจะได้กลับมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
พ่อกับแม่ก็ดีใจนะที่จะได้กลับไปเจอลูกๆทั้งสองคน
ค่ะ หนูรักคุณพ่อคุณแม่ที่สุดเลยค่ะหญิงสาวบอกความรู้สึกของตนเองให้ท่านรับรู้
จ๊ะ พ่อกับแม่ก็รักลูกเหมือนกัน แล้วจะซื้อของชอบไปฝากเยอะๆนะลูก แล้วเจอกันจ๊ะมารดาของเธอพูดกับหญิงสาวเพียงไม่นานก็วางสายไป
พิชอรเตรียมทำกับข้าวต้อนรับการกลับมาของท่านทั้งสองพร้อมกับป้านุ่ม เหมือนจัดงานเลี้ยงฉลองใหญ่โต เพราะเธอลงมือทำกับข้าวมากมายเพื่อต้อนรับการกลับมาของบุคคลที่รักยิ่งด้วยใจจดจ่อ และรอให้พี่ชายแต่งตัวเสร็จเพื่อจะไปรับท่านด้วยกัน หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พิชอรก็ขึ้นไปตามพี่ชายทันที
พี่เวชแต่งตัวเสร็จรึยัง อรอยากไปรับคุณพ่อคุณแม่เร็วๆน่ะ
จะเสร็จแล้ว รอแป๊บนึงพัชเวชตะโกนออกมาจากในห้อง หญิงสาวเลยเดินลงมาข้างล่าง เปิดโทรทัศน์นั่งดูไปพลางๆก่อน
แล้วอยู่ๆโฆษณาทางหน้าจอก็หายไปตัดกลับมาที่ภาพข่าวเครื่องบินตก
มีข่าวด่วนแจ้งเข้ามาว่า ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกในขณะที่เครื่องกำลังร่อนลงสู่พื้น แรงกระแทกทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตในทันทีเกือบทั้งลำ ขณะนี้ยังไม่รู้ชื่อผู้เสียชีวิต คาดว่าไม่เกินวันนี้ทางเราคงได้รายชื่อทั้งหมด
เหตุเกิดจาก เครื่องบินลำที่บินตรงมาจากอเมริกากำลังจะลงสู่พื้น ได้เกิดเหตุขัดข้องจนกัปตันไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทำให้เครื่องบินลำดังกล่าว พุ่งดิ่งลงสู่ข้างล่างด้วยความรุนแรง ผลความคืบหน้าจะเป็นอย่างไร เราจะกลับมารายงานให้ทราบอีกครั้งค่ะ
พิชอรนั่งตะลึงตาค้างอยู่กับที่ น้ำตารินไหลออกมาด้วยความตกใจ รีโมทที่ถืออยู่ในมือล่วงลงสู่พื้น พร้อมกับที่มือของพัชเวชก็ปัดโดนรูปของครอบครัวล่วงลงมาแตกที่พื้น
เพล้ง ชายหนุ่มรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เผลอทำรูปของพ่อแม่และน้องหล่นลงมา เขาเก็บขึ้นมาวางที่เดิม คิดว่าหลังจากไปรับบิดาและมารดาแล้วจะนำรูปนี้ไปเปลี่ยนกระจกที่ร้าน แล้วพัชเวชก็เดินลงมาข้างล่าง พบว่าน้องสาวนั่งนิ่งร้องไห้ไม่ยอมพูดยอมจากับใคร เขาเดินเข้าไปหาเธอทันที
อร เป็นอะไรร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น พิชอรหันหน้ากลับมาตอบคำถามของชายหนุ่มด้วยใบหน้านองน้ำตา วิ่งเข้ามากอดร่างของชายหนุ่มซุกซบไปที่บ่าของเขาร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พี่เวช
เครื่องบินตกค่ะ
ที่ไหนอรชายหนุ่มซักน้องสาวต่อ หญิงสาวชี้ไปที่จอโทรทัศน์โดยที่ใบหน้ายังไม่เงยขึ้นมาจากบ่าของชายหนุ่ม
ข่าวเขาบอกว่าเครื่องบินที่มาจากอเมริกาตกค่ะ อรไม่รู้ว่าจะใช่ลำเดียวกับที่คุณพ่อคุณแม่ของเรามาด้วยรึเปล่า
"อาจไม่ใช่ลำเดียวกันก็ได้ อย่าเพิ่งคิดในแง่ร้ายสิ
"อรก็หวังให้เป็นอย่างนั้นค่ะพี่เวช
ทั้งคู่พากันไปรอรับบิดามารดาที่สนามบิน รออยู่นานก็ไม่มีวี่แววที่จะเห็นท่านทั้งสอง เดินออกมาจนพัชเวชเอะใจ เดินเข้าไปด้านในให้ทางสายการบินเช็คชื่อบุพการีทั้งสองของเขา
"เครื่องบินมาจากประเทศไหนคะ" พนักงานถามชายหนุ่ม
"อเมริกาครับ"
"ไม่แน่ใจนะคะว่าจะใช่ลำเดียวกับที่เป็นข่าวรึเปล่า"
พัชเวชบอกชื่อของบิดาและมารดาออกไปเพื่อให้พนักงานคีย์คอมพิวเตอร์หาให้ว่าท่านทั้งสองมาเครื่องบินไฟล์ทไหน และเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อพนักงานสาวคนเดิมบอกออกมา
"รายชื่อที่คุณบอก ได้มากับเครื่องบินลำที่เิกิดอุบัติเหตุ ดิชั้นเสียใจด้วยนะคะ"
เหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุน ทุกอย่างดูมืดมิดไปหมดสำหรับเขา ชายหนุ่มและน้องสาวได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของเขาไปแล้ว
พัชเวชนิ่งไปทันทีเมื่อนึกถึงภาพครอบครัวที่เขาทำตกเมื่อครู่ น้ำตาของลูกผู้ชายก็รินไหลออกมา นี่โชคชะตาจะสร้างความเสียใจให้เขาไม่หยุดหย่อนเลยเหรอ พรากคนที่ตนรักจากไปทั้งสามคนในเวลาที่ไม่ห่างกัน เมื่อ 2 ปีก่อนก็ฉุดชีวิตของคนรักชายหนุ่มไป มาปีนี้ก็มาพรากบุพการีคนสำคัญของเขาไปอีก แล้วต่อไปจะมาพรากใครไปอีกล่ะ
++++++++++
ภายในงานศพของบิดาและมารดาของเขาทั้งคู่ แขกเหรื่อที่รู้จักต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับชายหนุ่มและหญิงสาวทั้งสอง มีเพียงพัชเวชและอัคนินทร์เท่านั้นที่เป็นฝ่ายรับแขกหน้างาน เพราะพิชอรไม่ยอมออกมาห่างจากร่างของบุคคลอันเป็นที่รักที่อยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวเลย
หญิงสาวเอาแต่นั่งร้องไห้และเสียใจไม่หยุดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ทันตั้งตัว ดวงตาทั้งสองของเธอบวมช้ำเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาไม่หยุด
คุณพ่อ คุณแม่ขา ทำไมต้องทิ้งอรไปพิชอรร้องไห้ต่อหน้าแท่นดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงาม
อัคนินทร์เห็นสภาพร่างบางที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนก็รู้สึกสงสาร เป็นใครก็คงทำใจไม่ทัน ที่บุคคลซึ่งหวังจะได้มาพบกันพร้อมหน้าต้องมาจากไปอย่างกะทันหัน ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวส่งให้กับเธออีกครั้งตรงหน้าพิชอร
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองอัคนินทร์ ใบหน้าของเธอตอนนี้เริ่มแดงและเปื้อนน้ำตาดวงตาของพิชอรเหมือนคนหมดสิ้นความหวัง เขาเห็นแววตาที่โศกเศร้า เลื่อนลอยของเธอก็อดปลอบใจไม่ได้
ท่านไปสบายแล้วนะอร แต่พี่ว่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องอรก็คงไม่ไปไหนไกลหรอก ยังคงวงเวียนอยู่ใกล้ๆน้องอรนั่นล่ะ พี่เสียใจด้วยนะที่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆกับครอบครัวหลายครั้ง พิชอรพยักหน้าทำท่าเข้าใจ อัคนินทร์ดึงร่างบางเข้ามากอดไว้เพราะรู้สึกสงสารหญิงสาวตรงหน้าที่มาเจอเหตุการณ์เศร้า
อรไม่คิดว่าท่านทั้งสองจะมาด่วนจากไปเร็วอย่างนี้ค่ะ อรยังทำใจไม่ได้ คิดว่าท่านยังอยู่กับเราตลอดเวลา
อัคนินทร์หยิบผ้าเช็ดหน้าในมือมาปลอบเช็ดน้ำตาให้เธอด้วยความอ่อนโยน เหมือนพี่ชายปลอบน้องสาวตามปกติ แต่เขาไม่รู้เลยว่าการดูแลอย่างเอาใจใส่และอ่อนโยนของเขาจะทำให้ดวงใจที่กำลังต้องการที่พึ่งคิดกับชายหนุ่มไปไกลมากกว่านั้น
+++++++++++
ใช่ว่าพิชอรจะเป็นฝ่ายคิดถึงบิดาและมารดาฝ่ายเดียว พัชเวชซึ่งอยู่ในห้องทำงานก็กำลังนึกถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ชายหนุ่มวางเอกสารเกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ ที่จะวางตลาดภายในเดือนหน้าไว้ข้างกาย เขานั่งนึกถึงวันที่ต้องขาดท่านทั้งสองที่เป็นที่รักแบบชั่วกัปชั่วกัลป์ จนทำให้ชายหนุ่มต้องเข้าไปจัดการและบริหารกิจการต่อจากท่านทั้งสองพัชเวชจำภาพวันนั้นได้ดีที่มีน้องสาวสะอื้นตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ภาพควันที่พวยพุ่งขึ้นไปด้านบน พิชอรและพัชเวชได้แต่ยืนมองกลุ่มควันที่ลอยขึ้นไปบนฟ้าด้วยหัวใจที่หมองหม่น ต่อไปนี้เขาทั้งสองไม่มีแล้ว พ่อและแม่ที่จะคอยปลอบขวัญยามเมื่อตนมีทุกข์ หรือมีปัญหาก็ไม่มีบุคคลที่รักมาคอยพูดแนะนำและปรึกษาอย่างเมื่อวันวานอีก
พัชเวชกอดร่างของพิชอรไว้ ในอนาคตเขาต้องเป็นผู้นำเป็นตัวแทนของบิดาและมารดาให้น้องสาวอันเป็นที่รัก จะปกป้องคุ้มครองเธอทุกอย่างแทนท่านทั้งสอง ชายหนุ่มจะเป็นคนที่เข้มแข็งและไม่อ่อนแอ อีกต่อไป
พัชเวชต้องก้าวเข้าไปบริหารและดูแลกิจการของครอบครัว ถึงแม้ว่าจะถูกคนรุ่นก่อนที่เป็นหุ้นส่วนในบริษัทของบิดาดูถูกฝีมือว่า เด็กหนุ่มด้อยประสบการณ์อย่างเขาจะไม่สามารถพาบริษัทให้เจริญก้าวหน้าได้เท่าพ่อของเขา พัชเวชก็ไม่ท้อ เพราะในวันนี้สิ่งที่มีค่าที่สุดกับเขามากก็คือน้องสาวคนเล็กที่ขาดบุพการีคอยคุ้มครอง เขาจะชดเชยสิ่งนั้นให้พิชอรด้วยตัวเองให้ได้
ชายหนุ่มค่อยๆเรียนรู้และศึกษาการทำงานในบริษัทไปเรื่อยๆ และส่งน้องสาวคนเดียวเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย โดยมีอัคนินทร์เข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทที่ใหญ่โต เป็นทั้งผู้ให้กำลังใจ และคอยดูแลเขาทุกอย่างรวมทั้งปลอบใจพัชเวชไม่ให้ท้อแท้กับอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา คำๆนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแกร่งมากกว่าเดิม และยินดีฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นเพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไขให้ตนเองลบคำสบประมาทของผู้อื่นได้
จนเขาสามารถผ่านพ้นคำพูดดูถูกและสามารถพาบริษัทให้ก้าวหน้าและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คนอื่นที่เคยดุถูกเขาไว้ ต่างพากันยอมรับในฝีมือของชายหนุ่มทั้งสองว่าเป็นนักธุรกิจที่ไฟแรงและฉลาด
พัชเวชปิดแฟ้มที่อยู่ข้างกายลง ปิดไฟเดินออกมาจากห้องเตรียมตัวขึ้นข้างบนไปนอน มันดึกมากแล้วจวนจะได้เวลาตี 3 ชายหนุ่มเดินขึ้นชั้นบนและเข้าห้องของตนเองไป
ฮือ ๆๆๆ เศร้าอีกแล้ว ทำไมบ้านนี้รันทัดเหลือเกิน
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 47 09:03:27
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 47 08:59:16
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 47 17:52:14
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 47 17:38:36
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 47 15:55:39
จากคุณ :
tonkho-w
- [
21 พ.ค. 47 15:40:11
]