ถ้าเป็นเรื่องแนวที่ไม่ได้รับอนุญาตให้โพสต์ลงที่นี่ก็ลบทิ้งเลยนะคะ....ไม่เคยเข้ามาในส่วยของถนนนักเขียนเลย หนักไปทางแถวห้องเฉลิมไทยกับศุภชลาสัยเสียมากกว่าน่ะค่ะ เลยไม่รู้ว่าแนวที่นิยมและยินยอมให้โพสต์ในที่นี้ได้นั้นเป็นแนวไหน ได้แต่อ่านกระทู้เกี่ยวกับเรื่องของลิขสิทธิ์ค่ะ ซึ่งในกรณีนี้ไม่มีปัญหาแน่ค่ะ....ก็ไม่ได้ก็อบนี่คะ
เป็นเรื่องสั้นมากขนาดประมาณ 1 หน้ากระดาษ A4 เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องก็ยาวราว ๆ 2 หน้า A4 ทั้งสองเรื่องเคยเขียนโพสในเว็บบอร์ดหนึ่งเมื่อนานมาแล้วค่ะ แต่ก็อยากได้รับคำติชมเพิ่มบ้างค่ะ เผื่อจะพัฒนามากขึ้นกว่านี้...จากที่ได้รับแต่คำปลอบใจประมาณว่าพยายามต่อไปนะ ขอเอาใจช่วย
ก็แหม.....ตอนเขียนเสร็จอ่านเองก็ว่าอ่านรู้เรื่องอยู่อ่ะค่ะ แต่ว่าคนอ่านอื่น ๆ ที่มาบอกความคิดเห็นเขาไม่ค่อยเห็นด้วย(ไม่ค่อยรู้เรื่อง)กับคนเขียน ก็เลยขอเอามาโพสต์ดูว่า จริง ๆ แล้วมันเขียนอ่านรู้เรื่องอยู่คนเดียวจริง ๆ หรือ.....แหะ ๆ ๆ....
**************************
เรื่อง : Thanks
(เป็นเรื่องที่เหมือนกับแฟนฟิกชั่น เพราะดูละครซิทคอมช่อง 9 วันอาทิตย์แล้วก็มาพิมพ์ ๆ ๆ ๆ เลยน่ะค่ะ)
*******************************
"อืม.....ขอบคุณครับ...."
ผมเงยหน้าขึ้นมาจากบทภาพยนต์ที่ตัวแทนเพิ่งจะส่งมาให้อ่านเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง เพื่อที่จะกล่าวคำขอบคุณผู้ที่เพิ่งจะนำกาแฟหอมกรุ่มมาเสิร์ฟให้ผมดื่ม
กลิ่นหอมของกาแฟที่ชงมาใหม่ ๆ ยวนใจจนผมต้องวางบทภาพยนต์ที่กำลังอ่านอยู่ลง แล้วยกกาแฟถ้วยนั้นขึ้นดื่มอย่างมีความสุข
"อืม.....ขอบคุณครับ....."
ผมขอบคุณเขาอีกครั้งที่ดูเหมือนว่าจะรู้ว่าร่างกายและสายตาของผมอ่อนล้าและควรจะได้รับการพักผ่อนเต็มที เนื่องจากขะมักเขม้นเพ่งสมาธิกับการอ่านบทภาพยนต์เป็นเวลานาน.....ผมเพิ่งรู้ตัวว่าผมเหนื่อยและเมื่อยตาเอามาก ๆ ก็ตอนที่ละสายตาออกจากตัวหนังสือนี่แหละ เมื่อตามาก ๆ จนต้องยกนิ้วขึ้นนวดสันคิ้วเบา ๆ เลยทีเดียว
ดูเหมือนว่าเขาตั้งใจส่งกาแฟถ้วยนี้มาเพื่อเบรกและเป็นการเตือนอ้อม ๆ มั้ง....ว่าเขาควรได้รับการพักผ่อนบ้างได้แล้ว
.....กาแฟ.....ก็คงเหมือนเสียงสัญญาณนกหวีดที่ดังขึ้นบอกนักกีฬาในสนามแข่งให้รู้ว่าถึงเวลากครึ่งเวลาได้แล้วกระมัง.....
เขานั่งลงข้าง ๆ ผมแล้วก็จิบกาแฟถ้วยของตัวเองเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร ก่อนจะวางถ้วยกาแฟของเขาลงข้าง ๆ ถ้วยกาแฟของผม....เมื่อผมหลับตาแล้วเอนศรีษะวางลงบนไหลาของเขา เขายกมือประคองผมไว้ก่อนจะเปลี่ยนท่านั่งของตนเองใหม่เป็นหัหน้ามาหาผมทั้งตัวแล้วประคองผมเอนกลับลงไปนอนเอน ๆ พิงอกเขาไว้ในท่าที่ทำให้ผมรู้สึกสบายและอบอุ่น
"อืม.....ขอบคุณครับ......."
ผมคงซึ้งใจจนนึกหาคำพูดใด ๆ ไม่ออกไปแล้ว ทำได้แค่เพียงบอกเขาไปว่าขอบคุณเท่านั้น เขาตอบคำขอบคุณของผมด้วยการรั้งผมเข้าไปจนชิดโอบแขนรัดผมจนแน่นติดชิดกับแผ่นอกกว้างแรง ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะคลายแขนออกเขาก็จูบผมเบา ๆ ที่ขมับ
".....ยังไง.....นายก็ควรจะได้พักบ้างสักนิดนะ....."
-จบ-
************************************************************
เรื่อง - เหนื่อยเกินไปที่จะทำใจเป็นแค่เพียงเพื่อน
ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ และเป็นเช่นนี้มานานเท่าไรแล้ว....ที่ผมจะต้องเป็นฝ่ายเฝ้ารอ- - -รอคอยว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะนึกได้และแวะเวียนมาหาเพื่อเยี่ยมเยียนกันบ้าง
แล้วผมก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าว่าผมยอมรับมันตั้งแต่เมื่อไหร่- - -กับการที่ต้องรอ ต้องอยู่ - - - ตรงนั้นเสนอ - - - ทุกครั้งในเวลาที่เขาต้องการใครสักคนมาคอยรับรู้ปัญหาหรือต้องการเพื่อนสักคนช่วยเยียวยาปลอบโยนจิตใจในเวลาที่เขาถูกทำร้ายความรู้สึกมา- - -ก่อนที่ผมจะต้องส่งสายตามองตามหลังของเขาไป ภายหลังที่หัวใจของเขาแข็งแรงพร้อมที่จะออกโบยบินอีกได้อีกครั้งหนึ่ง
.....ผมอยากจะเรียกรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างกันนี้ว่า วัฏจักรของการเป็นเพื่อนรัก
ช่วงเวลาที่ผมจะเป็นเพื่อนรัก เป็นคนที่เขาจะนึกถึงนั้น จะมีช่วงระยะที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องราวของเขาและใครอีกคนนั้นลึกซึ้งมากมายเท่าใด ถ้าเกิดว่าเขาทุ่มใจให้กับคน ๆ นั้นมากจนสุดหัวใจแล้วผิดหวัง - - -เวลาที่ผมจะมีความหมายก็จะเนิ่นนานเท่านั้น
น่าเศร้าใจ....เวลาที่ผมนั้นมีค่า เวลาที่ผมรู้สึกว่าผมมีความสุขเพราะรู้สึกเหมือนได้โอบกอดความรู้สึกของเขา- - -คนที่ผมแคร์ไว้ มักจะเป็นช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอและไร้ความสุข.....เสมอ.....
และเรื่องราวระหว่างผมและเขาก็จะวนเวียนอยู่แบบนี้มานานเสียจนผมชักเหนื่อยและเบื่อหน่ายกับการเหยียบกดความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
"นี่...ดังค์...."
ผมเรียกชื่อของเขาเสียงเรียบ ยื่นมือไปดึงโทรศัพท์มือถือจากมือของเขามาแล้วพับฝาปิดลง- - -เป็นโทรศัพท์มือถือที่เขาเพิ่งเอามาเปิดภาพแฟนสาวคนใหม่ที่เซฟเก็บไว้ออกมาโชว์ให้ผมดู
ความจริงเรื่องรูปที่ว่านี้ มันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยเหลือเกินสำหรับผม แต่บังเอิญว่าคราวนี้ผมดันเกิดทนไม่ไหวขึ้นมา.....มันเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ลอยมาตกลงบนหลังลาป่วยใกล้ตายอย่างผม....ทำให้ผมซึ่งเพิ่งจะรู้สึกดีใจที่วันนี้เขาแวะมาหาทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลาปกติที่เขาจะมาหา แม้จะด้วยเหตุผลที่ว่า......"แฟนเราเขาไม่ชอบกีฬา....แล้วเรารู้สึกว่า ถ้ามาดูที่บ้านนายมันท่าจะเชียร์กีฬาได้มันส์กว่า"......ก็ตามที
เขามองผมงง ๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรที่ผมดึงเอาโทรศัพท์ของเขามาถือไว้เอง
"ดังค์....เรารักนาย"
ผมพูดเสียงเรียบอย่างตรงไปตรงมาอย่างจริงใจและพร้อมที่จะยอมรับความจริงเป็นครั้งแรก
ผมมองหน้าเขาแล้วเดินเข้าไปหา ยกมือขึ้นประคองหน้าเขาไว้ก่อนจะโน้มไปเพื่อจูบเขาเบา ๆ แล้วถอยกลับออกมายืนอยู่ที่เดิม
ผมสอดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อของเขา แล้วก็ขอยอมแพ้- - -ไม่พร้อมที่จะยอมรับหรือฟังอะไรที่เขาอาจจะพูดออกมา- - -ทันทีที่ผมเห็นสีหน้าที่แสนจะตื่นตะลึงของเขา
"นายกลับไปเสียเถอะนะ....เราขอร้อง...."
ผมหันหลังกลับทันทีที่พูดจบ สาวเท้าเดินหนีไปอยู่ที่อื่น.....ครู่หนึ่งผมก็ได้ยินเสียงเขาเดินจากไป และเสียงสุดท้ายที่อาจจะตัดเราออกจากกันอย่างสิ้นเชิงก็เสียงประตูที่ปิดลง
ผมพูดไม่ได้ว่าไม่รู้สึกเสียใจ แต่อย่างน้อยผมก็ตอบตัวเองได้ว่าผมโล่งใจมากแค่ไหนที่ได้บอกเขาให้รู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริง....ผมได้เป็นอิสระ หลังจากที่เก็บกดซ่อนเร้นหัวใจตัวเองมานาน.....
แล้ววัฎจักรการเป็นเพื่อนรักของผมก็คงต้องจบลงพร้อม ๆ กับที่มิตรภาพระหว่างผมและเขาได้สิ้นสุดไปชนิดที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการสิ้นสุดไปตลอดกาล
ต่อไปนี้ ผมก็ไม่ต้องรอคอย ไม่ต้องทรมานกับการปั้นหน้าหลอกลวง เพราะผมจะไม่ใช่ "เพื่อนตาย" ของใครอีกต่อไปแล้ว
ถึงนี่จะเป็นสิ่งที่ผมเลือกและยอมรับมันด้วยตัวผมเอง แต่ผมก็คงจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ล่ะ กว่าที่ผมจะสามารถถมความรู้สึกกลวงโหวงข้างในให้กลับมาเต็มตื้นหนักแน่นได้ดังเดิม
และผมคิดว่า เขาเองก็ต้องการเวลาที่จะซึมซับรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน
-จบ-
************************************************************
ก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ.....ถ้าแนวเกย์(ที่ไม่โป๊)โพสต์ไม่ได้ก็ลบกระทู้ออกเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ปล. เวลาจะทำตัวหนาหรือขีดเส้นใต้ข้อความใช้โค้ดแบบนี้หรือเปล่า [ b ] [ / b ] [ u ] [ / u ]
จากคุณ :
สวย...จริง ๆ นะ
- [
21 พ.ค. 47 18:31:44
A:203.156.45.194 X:
]